[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: phonsak ที่ 06 ธันวาคม 2553 13:44:24



หัวข้อ: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 06 ธันวาคม 2553 13:44:24
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กล่าวถึง "สมเด็จองค์ปฐม" มีชื่อว่า พระพุทธสิกขี    แต่ในคัมภีร์ปฐมมูล ที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทรงตรัสแสดงแก่ " พระอัญญาโกณฑัญญะ"  พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า  พระพุทธเจ้าองค์แรก ใน พระพุทธศาสนา ที่ตรัสรู้ก่อนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ทรงพระนามว่า "พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า"

ส่วนในศาสนาพุทธมหายานระบุว่า อาทิพุทธะ เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐมบ้าง  พระไวโรจนพุทธเจ้า  เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐมบ้าง

แล้วตกลงใครล่ะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐมกันแน่?.... เรื่องนี้ถ้าผมเงียบไว้  ไม่เปิดเผยก็คงไม่ได้แน่ 

"สมเด็จองค์ปฐม" ที่เป็นมนุษย์ แต่ไม่ได้อยู่ในโลกธาตุใบนี้  อยู่ในโลกธาตุใบอื่น(โลกมนุษย์ใบอื่น)มีชื่อว่า พระพุทธสิกขี  

"สมเด็จองค์ปฐม" ที่เป็นมนุษย์ และอยู่ในโลกธาตุ หรือโลกมนุษย์ ใบที่พวกเราอยู่นี้  มีชื่อว่า โคตมะพุทธเจ้า  

"สมเด็จองค์ปฐม" ที่เป็นสัมโภคกาย กายทิพย์ที่เกิดจากพระธรรม(ธรรมกาย) พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ในคัมภีร์มหายาน คือ พระไวโรจนพุทธเจ้า

"สมเด็จองค์ปฐม" ที่เป็นสัมโภคกาย  กายทิพย์ที่เกิดจากพระธรรม(ธรรมกาย)  พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ในพระไตรปิฎกเถรวาท  คือ พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า  แต่เพราะคณะสงฆถรวาทผู้เรืองอำนาจในอดีต โดนมารครอบงำ  พวกมารจึงได้ตัดเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าที่ไม่ใช่มนุษย์ออกหมด

"สมเด็จองค์ปฐม" ที่เป็นธรรมกายต้นกำเนิด หรือเป็นพุทธภาวะ คือ อาทิพุทธ องค์นี้ไม่ได้เป็นมนุษย์ และก็ไม่ได้เป็นสัมโภคกาย

แล้วพระวิสุทธิพุทธรังษี พระบรมบิดาล่ะเป็นใคร  ตอบ...  ท่านก็คือ อาทิพุทธ น่ะซิ


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 06 ธันวาคม 2553 18:04:34
 ;D ;D ;D อย่าแย่งซีนกันครับ

โลกนี้ ใบน้อยใบเดียว อย่า แห่กันมาหลายองค์ 
ในยุคไหน ในกาลใหน ควรเป็นของพระพุทธเจ้า พระองค์ใด
ถ้าทรงสัพญูรู้พระธรรมเนียม ของพระพุทธเจ้าจริงจริง 

ก็ควรรู้กาละเทศะบ้าง

 
พระนาคเสนกล่าวว่า

ถ้ามีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นพร้อมกันถึง ๒ พระองค์

คำว่า อัคโต พุทโธ พระพุทธเจ้าเป็นอัครบุคคลนั้น คำนี้มิผิดไปหรือ

เชฏโฐ พุทโธ พระพุทธเจ้าเป็นผู้เจริญที่สุดก็จะผิด

วิสิฏโฐ พุทโธ พระพุทธเจ้าเป็นผู้เจริญกว่าเทพยดามนุษย์นั้นก็ผิด

อุตตโม พุทโธ พระพุทธเจ้าเป็นผู้อุดม ก็ผิดไปสิ้น ดังนี้ เป็นต้น

อีกประการหนึ่ง ธรรมดามีอยู่ว่า ในแผ่นดินใหญ่หนึ่ง ๆ ก็มีสาครใหญ่เพียงหนึ่งเขาสิเนรุราชเพียงหนึ่ง อากาศเพียงหนึ่งท้าวสักกะเพียงหนึ่ง ท้าวสักกะเพียงหนึ่ง มารเพียงหนึ่ง มหาพรหมเพียงหนึ่งเท่านั้น

ด้วยเหตุเหล่านี้แหละ จึงไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดพร้อมกันถึง ๒ พระองค์ ขอถวายพระพร”

“ข้าแต่พระนาคเสน ปัญหาข้อนี้ พระผู้เป็นเจ้าแก้ไขดีด้วยเหตุการณ์หลายอย่าง โยมขอรับว่าถูกต้องดีทั้งนั้น”  


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 06 ธันวาคม 2553 19:27:31
พุทธปกิรณกกัณฑ์
ว่าด้วยเรื่องเบ็ดเตล็ดเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า
             [๒๗]    ในกัปอันประมาณมิได้แก่ภัทรกัปนี้ มีพระพุทธเจ้าผู้เป็นนายกชั้น
                          พิเศษ ๔ พระองค์ คือ พระตัณหังกรสัมพุทธเจ้า ๑
                          พระเมธังกรสัมพุทธเจ้า ๑ พระสรณังกรสัมพุทธเจ้า ๑ และพระ
                          ทีปังกรสัมพุทธเจ้า ๑ ท่านเหล่านั้นเสด็จอุบัติในกัปเดียวกัน ต่อจาก
                          ที่พระทีปังกรสัมพุทธเจ้า พระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าโกณฑัญญะ
                          พระองค์เดียวเสด็จอุบัติกัปหนึ่ง ทรงช่วยให้หมู่ชนข้ามพ้นวัฏสงสาร
                          ได้มากมาย ระหว่างพระผู้มีพระภาคทีปังกร และพระโกณฑัญญะ
                          บรมศาสดา เป็นอันตรกัป โดยจะคำนวณนับมิได้ ต่อจากพระโกณ
                          ฑัญญะบรมศาสดา มีพระพุทธเจ้าพระนามว่ามังคละ แม้ระหว่าง
                          พระโกณฑัญญะและพระมังคละพุทธเจ้านั้น ก็เป็นอันตรกัป โดยจะ
                          คำนวณนับมิได้ พระพุทธเจ้าพระนามว่ามังคละ สุมนะ เรวตะ และ
                          โสภิตะ ผู้เป็นมุนี มีจักษุ มีพระรัศมีสว่างไสว แม้พระพุทธเจ้า ๔
                          พระองค์นั้นก็เสด็จอุบัติขึ้นในกัปเดียว กันต่อจากพระโสภิตพุทธเจ้า
                          มีพระมหามุนีพระนามว่าอโนมทัสสี แม้ระหว่างพระพุทธเจ้าพระนาม
                          ว่าโสภิตะ และอโนมทัสสีนั้นก็เป็นอันตรกัป โดยจะคำนวณนับมิ
                          ได้ พระพุทธเจ้าพระนามว่าอโนมทัสสี ปทุมะ และนารทะ ผู้เป็น
                          มุนีกระทำที่สุดความมืด ก็เสด็จอุบัติขึ้นในกัปเดียว ต่อจากพระ
                          นารทสัมพุทธเจ้า มีพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ เสด็จอุบัติใน
                          กัปหนึ่ง ทรงช่วยให้หมู่ชนข้ามพ้นวัฏสงสารได้มากมาย แม้ระหว่าง
                          พระผู้มีพระภาคนารทะและพระปทุมุตรศาสดานั้น ก็เป็นอันตรกัป
                          โดยจะคำนวณนับมิได้ในแสนกัป มีพระมหามุนีพระองค์เดียว คือ
                          พระปทุมุตระผู้รู้แจ้งโลก ผู้สมควรรับเครื่องบูชา ในสามหมื่นกัป
                          ต่อจากพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ มีพระพุทธเจ้า ๒ พระองค์
                          คือ พระสุเมธะและพระสุชาตะ ในพันแปดร้อยกัป (แต่กัปนี้) มี
                          พระพุทธเจ้า ๓ พระองค์ คือ พระปิยทัสสี พระอัตถทัสสี และ
                          พระธรรมทัสสี ต่อจากพระสุชาตพุทธเจ้า พระสัมพุทธเจ้าผู้อุดม
                          กว่าสัตว์ ผู้ไม่มีบุคคลเปรียบในโลก ๓ พระองค์นั้น เสด็จอุบัติใน
                          กัปเดียวกัน ในกัปที่ ๙๔ แต่ภัทรกัปนี้ มีพระมหามุนีพระองค์เดียว
                          คือ พระสิทธัตถะ ผู้ทรงรู้แจ้งโลก ยอดเยี่ยมโดยมีบุญสิริ ในกัป
                          ที่ ๙๒ แต่ภัทรกัปนี้ มีพระสัมพุทธเจ้า ๒ พระองค์ คือพระติสสะ
                          และพระปุสสะ ผู้ไม่มีบุคคลเปรียบเสมอ ในกัปที่ ๙๑ แต่ภัทรกัปนี้
                          มีพระพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก ผู้มีพระกรุณาพระนามว่าวิปัสสี
                          ทรงเปลื้องสัตว์ทั้งหลายจากเครื่องผูก ในกัปที่ ๓๑ แต่ภัทรกัปนี้ มี
                          พระพุทธเจ้า ๒ พระองค์ คือพระสิขีและพระเวสสภู ผู้ไม่มีบุคคล
                          เปรียบเสมอ ในภัทรกัปนี้ มีพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์ คือ พระ-
                          กุกกุสันธะ พระโกนาคมนะ และพระกัสสปะ บัดนี้เราเป็นพระ
                          สัมพุทธเจ้าและจักมีพระเมตไตรย์สัมพุทธเจ้า แม้พระพุทธเจ้า ๕
                          พระองค์นี้ ก็เป็นนักปราชญ์ อนุเคราะห์โลก บรรดาพระพุทธเจ้า
                          ผู้เป็นธรรมราชาเหล่านี้ พระเมตไตรย์สัมพุทธเจ้าจักตรัสบอกมรรคา
                          นั้นแก่ผู้อื่นหลายโกฏิ แล้วจักเสด็จนิพพานพร้อมด้วยพระสาวก
                          ฉะนี้แล.
จบพุทธปกิรณกกัณฑ์


บอกแล้ว ว่าอย่ามาแย่งซีน

ปรุงแต่งพระพุทธเจ้า หลากหลายมาปรากฎในโลก
ไม่รู้หรือว่า กัปปนี้ ปัจจุบันนี้ เป็นสมัยพระพุทธเจ้าพระองค์ใด

ทะเล่อทะล่า มาปรากฎในโลก ในปัจจุบัน

มั่วจริงๆ   ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 06 ธันวาคม 2553 19:52:35
ใช่จากมิลินทปัญหาหรือเปล่าครับ คุณ amargeddon ???


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 06 ธันวาคม 2553 21:27:05
ใช่จากมิลินทปัญหาหรือเปล่าครับ คุณ amargeddon ???
คห.บน จากพระนาคเสน มิลินทปัญหา
คห.ต่อมา พุทธปกิรณกกัณฑ์
ว่าด้วยเรื่องเบ็ดเตล็ดเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า
จากพระไตรปิฎกครับผม


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 06 ธันวาคม 2553 22:04:26
ขอบคุณครับ ๆ

ก็ว่าคุ้น ๆ น่ะครับ เหมือนเคยอ่านเจอ

ข้อมูลแน่นดีครับ ไม่ใช่การกล่าวลอย


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: WangJai ที่ 07 ธันวาคม 2553 00:23:32

.... เรื่องนี้ถ้าผมเงียบไว้  ไม่เปิดเผยก็คงไม่ได้แน่ 


หาข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือมายืนยันไม่ได้ก็หุบปากเงียบไว้เถอะ

อยากบอกจนหลุมถ่านเพลิง เผาตัวเอง  ;D


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 07 ธันวาคม 2553 01:05:34
 ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 07 ธันวาคม 2553 01:17:11
มารจะพูดอะไรก็พูดไป  ถ้าถามคำถามธรรม  เราจะตอบ

ผู้ก่อตั้งเวบฯที่นี่ก็ติดไวรัสมารอีกคนหรือนี่


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 07 ธันวาคม 2553 01:53:45
คือ... ชักรำคาญไอ้ห่านี่ที่แขวะเค้าไปทั่วอ่ะครับ

นานเข้า ๆ ก็เริ่มหมดความอดทน

ไอ้รุ่นคดี ก็อุตส่าห์ไม่ให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต

แต่แทนที่จะรู้จักสงบปากสงบคำ สุดท้ายก็เหมือนเดิม

เอาไงดี

คือเอ็งอยากโพสท์ห่าเหวไรก็จงโพสท์ไปเถอะนะพลศักดิ์

แต่อย่าไปกัดคนโน้น แขวะคนนี้

อย่าอวดภูมิ อวดตนได้ไหมวะ

เก่งมาก เก่งที่สุด เก่งคนเดียว ตรัสรู้หมดแล้วว่างั้น ?


ปล. ถึงสมาชิกท่านอื่น ๆ ขออภัยหากไม่สุภาพ แต่รำคาญแม่มเต็มทนละ


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 07 ธันวาคม 2553 09:38:23
มารจะพูดอะไรก็พูดไป  ถ้าถามคำถามธรรม  เราจะตอบ

ผู้ก่อตั้งเวบฯที่นี่ก็ติดไวรัสมารอีกคนหรือนี่

 ;D ;D ;D



พระไตรปิฎก น่ะ เป็นเครื่องจับเท็จ ได้สะเด็ด

โลกนี้ กัปป์นี้ มีพระพุทธเจ้า เพียงพระองค์เดียว
ไม่มีปรากฎ หลายพระองค์

พระพุทธเจ้า ที่ปรากฎมาในโลก ซ้อนกันหลายองค์
เป้นเท็จทั้งสิ้น




หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: WangJai ที่ 07 ธันวาคม 2553 13:44:03
มารจะพูดอะไรก็พูดไป  ถ้าถามคำถามธรรม  เราจะตอบ

ผู้ก่อตั้งเวบฯที่นี่ก็ติดไวรัสมารอีกคนหรือนี่

ผู้ก่อตั้งเวบฯที่นี่ก็ติดไวรัสมารอีกคนหรือนี่ นี่คือคำถามธรรมของพลศักดิ์ เพื่อแสดงภูมิธรรมระดับปัญญาอ่อนและวิธีขุดหลุมถ่านเพลิงเผาตัวเอง


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 07 ธันวาคม 2553 16:13:53
ผมเคยอ่านเจอภาษิต phonsak ตายเพราะปาก

เห็นจะจริง


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 10 ธันวาคม 2553 12:04:50


หาข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือมายืนยันไม่ได้ก็หุบปากเงียบไว้เถอะ

อยากบอกจนหลุมถ่านเพลิง เผาตัวเอง  ;D

ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือมายืนยัน มาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  พระองค์ทรงสอนไปทางเถรวาท พยายามไม่กล่าวถึงเรื่องที่อยู่นอกเหนือจากการรับรู้โดยขันธ์ 5 ของมนุษย์  หรือกล่าวถึงให้น้อยที่สุด  แม้ว่าน้อยที่สุดแล้ว  ยังโดนพวกมารขัดขวางไม่ให้รู้อีก  โดยพยามตัดข้อความเหล่านั้นทิ้งไปจากพระไตรปิฎก  แต่ผู้บรรลุธรรมในเถรวาท ท่านรับรู้แล้วก็เอามาเปิดเผย เช่น หลวงปู่ตื้อ เปิดเผยเรื่องพระโมคคัลลานะหลงจักรวาล

ผมก็เหมือนกัน เปิดเผยให้หมด เหมือนหลายร้อยเรื่องที่ผมเคยนำเสนอ

โชคดีที่เรามีศาสนาพุทธมหายานอยู่  ไม่ขึ้นอยู่กับการบงการของฝ่ายเถรวาท  ไม่งั้นมารที่สิงใจคณะสงฆ์ฝ่ายเถรวาทก็จะทำการลบข้อความเหล่านั้นออกหมดอีก

พระพุทธเจ้าเปิดเผยไปทางศาสนาพุทธมหายานว่า:

กายของพระพุทธเจ้าต่างๆมี 3 กาย

1. กายมนุษย์
2. กายทิพย์ สัมโภคกาย ที่เป็นอมตะนิรันดร
3. กายธรรม หรือธรรมกาย เป็นอมตะนิรันดรด้วย และเป็นผู้สร้างกายมนุษย์และกายทิพย์สัมโภคกาย

สมเด็จพระพุทธเจ้าองค์ปฐม

พระพุทธองค์ตรัสไว้ในคัมภีร์ปฐมมูลของเถรวาทว่า องค์ปฐมที่เป็นมนุษย์ คือ พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า  อย่างไรก็ตาม พระพุทธองค์ก็บอกชื่อบรรดาพระพุทธเจ้าที่เกิดมาเป็นมนุษย์ด้วย ซึ่งไม่มีรายชือของพระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า  จึงสามารถพูดได้เต็มปากว่า พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่มนุษย์แน่นอน

เมื่อพระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ใช่มนุษย์  ท่านก็ต้องเป็นกายทิพย์ สัมโภคกาย  

คราวนี้ในคัมภีร์มหายานบอกว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมที่เป็นสัมโภคกาย คือ พระไวโรจนพุทธเจ้า  แล้วพระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า จะมาจากไหนล่ะ  ถ้าไม่ใช่องค์เดียวกัน

"สมเด็จองค์ปฐม" ที่มีชื่อว่า พระพุทธสิกขี หลวงพ่อฤาษีลิงดำกล่าวว่า  ได้ทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ซึ่งขณะนั้นคนมีอายุไข ประมาณ 8 หมื่นปี พระพุทธองค์ทรงผนวช ออกมหาภิเนษกรมณ์ เมื่อพระชนมายุได้ 4 หมื่นปี หลังจากผนวชได้ 2 หมื่นปี จึงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์แรกของโลก พระพุทธองค์ทรงโปรดเวไนยสัตว์ ประมาณ 2 หมื่นปี จึงได้เสด็จดับขันธปรินิพาน

พระพุทธสิกขี จึงเป็นมนุษย์

ส่วน"สมเด็จองค์ปฐม" ที่เป็นธรรมกายต้นกำเนิด หรือเป็นพุทธภาวะ คือ อาทิพุทธ องค์นี้ไม่ได้เป็นมนุษย์ และก็ไม่ได้เป็นสัมโภคกาย

อาทิพุทธที่เป็นธรรมกายองค์นี้แหละ คือ พระวิสุทธิพุทธรังษี พระบรมบิดา  ชาวโลกเรียกว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า หรือพระบิดา  ใครจะเรียกว่าอะไรก็เรียกเอาเถอะ จะเรียกว่า เต๋า อัลเลาะห์ ปรมาตมัน ยะโฮวา ฯลฯ ท่านก็เรียกไป  

ผมมีหน้าที่เปิดเผยความจริงทางศาสนา  ให้ทุกคน ทุกชาติ ทุกศาสนารู้เท่านั้น  ส่วนใครจะเบ่งว่า สิ่งสูงสุดของท่านเหนือกว่าของศาสนาอื่น ก็เบ่งกันเข้าไป จากมิจฉาทิฏฐิในใจของท่าน

สรุป

"สมเด็จองค์ปฐม" ที่เป็นมนุษย์ = พระพุทธสิกขี พระพุทธสิกขีเป็นมนุษย์  ยืนยันจากปากของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

"สมเด็จองค์ปฐม" ที่เป็นสัมโภคกาย = พระไวโรจนพุทธเจ้า(คัมภีร์มหายาน) หรือ พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า(คัมภีร์เถรวาท) ท่านเป็นสัมโภคกาย ยืนยันจากปากขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

"สมเด็จองค์ปฐม" ที่เป็นเป็นธรรมกาย คือ อาทิพุทธ หรือ พระวิสุทธิพุทธรังษี พระบรมบิดา  หรือ เต๋า อัลเลาะห์ ปรมาตมัน ยะโฮวา ฯลฯ  อ่านหลักฐานเพิ่มเติมจาก พระพุทธโอวาทองค์พระบรมธรรมบิดา พระวิสุทธิพุทธรังษี ผู้เป็นใหญ่ในแดนนิพพาน  ผมยกมาให้เลยแล้วกัน

จิต เป็นต้นกำเนิดของสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก อริยธรรมคือ จิตโลกียธรรมคือ ร่างกาย จำเอาไว้ แยกจิตออก
จากร่างกายได้ก็ไปนิพพาน ร่างกาย ทุกอย่างที่ตามองเห็น คือรูป แตกสลายกลายเป็นความว่าง จิตเป็น
รัตนะดวงแก้วแววสดใส องค์พระบรมธรรมบิดาโปรดประทานให้ลูกเก็บรักษาเป็นจิตพุทธะ รู้ชัดแจ้งแห่ง
ปัญญา องค์พระบรมธรรมบิดาโปรดประทานพลังแสงทิพย์นำจิตทิพย์ลูกรักกลับนิพพาน

ในความว่าง ไม่ว่างเปล่า มีจิตองค์พระบรมธรรมบิดาเจ้า พระผู้สร้างสุริยะจักรวาลทั้ง 3 โลก คือ
ศูนย์พลังธรรมชาติ  ทุกศาสนาได้กำหนดหมายถวายพระนาม ต่างๆ นาๆ คือ
องค์พระผู้เป็นเจ้า (GOD) , พระอนุตตรธรรมมารดาองค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา , องค์สมเด็จพระปฐมพุทธะองค์สมเด็จ พระธรรมบิดา , องค์สมเด็จพระทรงปราบมารหรือท่านพ่อเกิดแม่เกิด ทั้ง 3 ภพ ทั่วทิศ


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 10 ธันวาคม 2553 16:38:47


หาข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือมายืนยันไม่ได้ก็หุบปากเงียบไว้เถอะ

อยากบอกจนหลุมถ่านเพลิง เผาตัวเอง  ;D

ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือมายืนยัน มาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  พระองค์ทรงสอนไปทางเถรวาท พยายามไม่กล่าวถึงเรื่องที่อยู่นอกเหนือจากการรับรู้โดยขันธ์ 5 ของมนุษย์  หรือกล่าวถึงให้น้อยที่สุด  แม้ว่าน้อยที่สุดแล้ว  ยังโดนพวกมารขัดขวางไม่ให้รู้อีก  โดยพยามตัดข้อความเหล่านั้นทิ้งไปจากพระไตรปิฎก  แต่ผู้บรรลุธรรมในเถรวาท ท่านรับรู้แล้วก็เอามาเปิดเผย เช่น หลวงปู่ตื้อ เปิดเผยเรื่องพระโมคคัลลานะหลงจักรวาล

ผมก็เหมือนกัน เปิดเผยให้หมด เหมือนหลายร้อยเรื่องที่ผมเคยนำเสนอ

โชคดีที่เรามีศาสนาพุทธมหายานอยู่  ไม่ขึ้นอยู่กับการบงการของฝ่ายเถรวาท  ไม่งั้นมารที่สิงใจคณะสงฆ์ฝ่ายเถรวาทก็จะทำการลบข้อความเหล่านั้นออกหมดอีก

พระพุทธเจ้าเปิดเผยไปทางศาสนาพุทธมหายานว่า:

กายของพระพุทธเจ้าต่างๆมี 3 กาย

1. กายมนุษย์
2. กายทิพย์ สัมโภคกาย ที่เป็นอมตะนิรันดร
3. กายธรรม หรือธรรมกาย เป็นอมตะนิรันดรด้วย และเป็นผู้สร้างกายมนุษย์และกายทิพย์สัมโภคกาย

สมเด็จพระพุทธเจ้าองค์ปฐม

พระพุทธองค์ตรัสไว้ในคัมภีร์ปฐมมูลของเถรวาทว่า องค์ปฐมที่เป็นมนุษย์ คือ พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า  อย่างไรก็ตาม พระพุทธองค์ก็บอกชื่อบรรดาพระพุทธเจ้าที่เกิดมาเป็นมนุษย์ด้วย ซึ่งไม่มีรายชือของพระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า  จึงสามารถพูดได้เต็มปากว่า พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่มนุษย์แน่นอน

เมื่อพระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ใช่มนุษย์  ท่านก็ต้องเป็นกายทิพย์ สัมโภคกาย 

คราวนี้ในคัมภีร์มหายานบอกว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมที่เป็นสัมโภคกาย คือ พระไวโรจนพุทธเจ้า  แล้วพระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า จะมาจากไหนล่ะ  ถ้าไม่ใช่องค์เดียวกัน

"สมเด็จองค์ปฐม" ที่มีชื่อว่า พระพุทธสิกขี หลวงพ่อฤาษีลิงดำกล่าวว่า  ได้ทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ซึ่งขณะนั้นคนมีอายุไข ประมาณ 8 หมื่นปี พระพุทธองค์ทรงผนวช ออกมหาภิเนษกรมณ์ เมื่อพระชนมายุได้ 4 หมื่นปี หลังจากผนวชได้ 2 หมื่นปี จึงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์แรกของโลก พระพุทธองค์ทรงโปรดเวไนยสัตว์ ประมาณ 2 หมื่นปี จึงได้เสด็จดับขันธปรินิพาน

พระพุทธสิกขี จึงเป็นมนุษย์

ส่วน"สมเด็จองค์ปฐม" ที่เป็นธรรมกายต้นกำเนิด หรือเป็นพุทธภาวะ คือ อาทิพุทธ องค์นี้ไม่ได้เป็นมนุษย์ และก็ไม่ได้เป็นสัมโภคกาย

อาทิพุทธที่เป็นธรรมกายองค์นี้แหละ คือ พระวิสุทธิพุทธรังษี พระบรมบิดา  ชาวโลกเรียกว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า หรือพระบิดา  ใครจะเรียกว่าอะไรก็เรียกเอาเถอะ จะเรียกว่า เต๋า อัลเลาะห์ ปรมาตมัน ยะโฮวา ฯลฯ ท่านก็เรียกไป 

ผมมีหน้าที่เปิดเผยความจริงทางศาสนา  ให้ทุกคน ทุกชาติ ทุกศาสนารู้เท่านั้น  ส่วนใครจะเบ่งว่า สิ่งสูงสุดของท่านเหนือกว่าของศาสนาอื่น ก็เบ่งกันเข้าไป จากมิจฉาทิฏฐิในใจของท่าน

สรุป

"สมเด็จองค์ปฐม" ที่เป็นมนุษย์ = พระพุทธสิกขี พระพุทธสิกขีเป็นมนุษย์  ยืนยันจากปากของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

"สมเด็จองค์ปฐม" ที่เป็นสัมโภคกาย = พระไวโรจนพุทธเจ้า(คัมภีร์มหายาน) หรือ พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า(คัมภีร์เถรวาท) ท่านเป็นสัมโภคกาย ยืนยันจากปากขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

"สมเด็จองค์ปฐม" ที่เป็นเป็นธรรมกาย คือ อาทิพุทธ หรือ พระวิสุทธิพุทธรังษี พระบรมบิดา  หรือ เต๋า อัลเลาะห์ ปรมาตมัน ยะโฮวา ฯลฯ  อ่านหลักฐานเพิ่มเติมจาก พระพุทธโอวาทองค์พระบรมธรรมบิดา พระวิสุทธิพุทธรังษี ผู้เป็นใหญ่ในแดนนิพพาน  ผมยกมาให้เลยแล้วกัน

จิต เป็นต้นกำเนิดของสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก อริยธรรมคือ จิตโลกียธรรมคือ ร่างกาย จำเอาไว้ แยกจิตออก
จากร่างกายได้ก็ไปนิพพาน ร่างกาย ทุกอย่างที่ตามองเห็น คือรูป แตกสลายกลายเป็นความว่าง จิตเป็น
รัตนะดวงแก้วแววสดใส องค์พระบรมธรรมบิดาโปรดประทานให้ลูกเก็บรักษาเป็นจิตพุทธะ รู้ชัดแจ้งแห่ง
ปัญญา องค์พระบรมธรรมบิดาโปรดประทานพลังแสงทิพย์นำจิตทิพย์ลูกรักกลับนิพพาน

ในความว่าง ไม่ว่างเปล่า มีจิตองค์พระบรมธรรมบิดาเจ้า พระผู้สร้างสุริยะจักรวาลทั้ง 3 โลก คือ
ศูนย์พลังธรรมชาติ  ทุกศาสนาได้กำหนดหมายถวายพระนาม ต่างๆ นาๆ คือ
องค์พระผู้เป็นเจ้า (GOD) , พระอนุตตรธรรมมารดาองค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา , องค์สมเด็จพระปฐมพุทธะองค์สมเด็จ พระธรรมบิดา , องค์สมเด็จพระทรงปราบมารหรือท่านพ่อเกิดแม่เกิด ทั้ง 3 ภพ ทั่วทิศ


 ;D ;D ;D

เจาะลึกสุดๆ

จะว่า เป็นสหชาติ ของพระพุทธเจ้าสมณโดดม ก็ไม่ใช่
จะว่ามีในมหาสุบินนิมิต ก็ไม่ใช่

สมัยนี้ เป็นสมัยพระพุทธสมณโคดม

ยุคนี้ สมัยนี้ มีพระพุทธเจ้า พระองค์เดียวเท่านั้น

ก็เพราะ มารมาแต่งเติมทีหลัง หลังจากปรินิพพานไปแล้ว

โผล่มาได้ยังไง บอกแล้วว่า อย่ามาแย่งซีน
จนป่านนี้ ตัวเองยังเข้านิพพานไม่เป็น










หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 11 ธันวาคม 2553 00:58:26
คุณเอกอิสโร กล่าวว่า:

 1.ไม่มีตรงไหน ที่ระบุว่า

"พระพุทธเจ้าติกขคัมมสมฺมาสมฺพุทธํ"
ไม่ได้เป็นมนุษย์

 2.เกิดมนุษย์คู่แรกมา จนเกิดวัฏฏสงสาร
ก็มี พระพุทธเจ้าติกขคัมมสมฺมาสมฺพุทธํ พระองค์นี้เป็น
พระองค์แรก ไม่มีพระองค์อื่น มาตรัสก่อนเลย

ตอบ

พระพุทธเจ้าตรัสสอนไปทางเถรวาทว่า พระพุทธเจ้าในอดีต 27 พระองค์ แต่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไปทางมหายานว่า พระพุทธเจ้าในอดีต มีมากมายยิ่งนัก จนถึงกับมีคำพูดที่ได้ยินกันอยู่เป็นประจำว่า มีมากกว่าเม็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้ง ๔

พวกเราเป็นมนุษย์และอยู่ในเถรวาท ซึ่งพระพุทธองค์พยายามไม่กล่าวถึงเรื่องที่อยู่นอกเหนือจากการรับรู้โดยขันธ์ 5 ของมนุษย์ หรือกล่าวถึงให้น้อยที่สุด ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้าในอดีต 27 พระองค์ และพระพุทธเจ้าในอนาคต อีก ๑๐ พระองค์ จึงเป็นมนุษย์ทั้งหมด แต่อาจจะไม่อยู่ในโลกมนุษย์ในมิตินี้

ส่วนพระพุทธเจ้าในอดีต มีมากมายยิ่งนัก มีมากกว่าเม็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้ง ๔

เราผู้เป็นมนุษย์ย่อมรู้ว่า จำนวนของพระพุทธเจ้าในอดีตที่ต่างกันระหว่างเถรวาทกับมหายาน ส่วนที่ต่างกันนั้น ล้วนเป็นพระพุทธเจ้าที่เป็นสัมโภคกาย

สรุปก็คือ

1. คุณต้องคิดเป็นครับ และต้องมีความรู้ทางเถรวาทและมหายาน ถ้าคิดไม่เป็น ไม่มีความรู้ในทั้ง 2 นิกาย ย่อมตีความไม่ออก เพราะผมบอกแล้วว่า มารนั้นสิงใจสงฆ์ที่ไม่บรรลุธรรมของเถรวาท ให้ตัดข้อความทุกข้อความ ที่จะอิงไปเรื่องที่ไม่ใช่มนุษย์ ดังนั้น

จึงไม่มีตรงไหน ที่ระบุว่า

"พระพุทธเจ้าติกขคัมมสมฺมาสมฺพุทธํ"ไม่ได้เป็นมนุษย์

คิดซิครับ....คิด ถ้ายังคิดไม่ออก ก็ดูหลักฐานในข้อต่อไปนะครับ

 
2. ถ้าพระพุทธเจ้าติกขคัมมสมฺมาสมฺพุทธํ พระองค์นี้เป็น
พระองค์แรก แล้วพระพุทธสิกขีที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำพูดถึงไปไหนกันล่ะ คิดซิครับ....คิด

 พระพุทธสิกขีอายุของ มีอายุขัยประมาณ 8 หมื่นปี

- พระองค์เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์เพื่อพระชนมายุได้ 4 หมื่นปี
- หลังจากทรงผนวชแล้วเป็นเวลาอีก 2 หมื่นปี จึงได้ทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์แรกของโลก
- พระองค์ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์อีกประมาณ 2 หมื่นปี จึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน

ในคัมภีร์ปฐมมูล "พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า " พระองค์มีพระชนม์มายุ 100,000 ปี แล้วจึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน

หลักฐานเรื่องอายุของพระพุทธสิกขี(8 หมื่นปี) และพระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า (100,000 ปี) ก็ชี้ว่าทั้ง 2 พระองค์เป็นคนละองค์กัน

หลักฐานอีกชิ้นหนึ่ง...พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามประวัติพระองค์ไม่เคยสร้างพระบารมีมาก่อน และท่านเป็นผู้กำหนดว่า ต่อไปภายภาคหน้า ตระกูลของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ซึ่งจะมาตรัสรู้ต่อจากพระองค์ จะมี 3 ตระกูล คือ

1. ปัญญาธิกะ
2. สัทธาธิกะ
3. วิริยาธิกะ

ในขณะที่ พระพุทธสิกขี หลวงพ่อฤาษีฯบอกว่า ท่านต้องบำเพ็ญบารมี 16 อสงไขย ฉัน 40 อสงไขยกว่า เพราะไม่มีตัวอย่าง

แล้วผู้ใดล่ะที่ไม่ต้องบำเพ็ญบารมีมาก่อน มาแล้วบำเพ็ญในชาตินั้น และก็ได้ไปพระพุทธเจ้า ไม่ใช่มนุษย์แน่ มีแต่เหล่าธยานิพุทธที่เป็นสัมโภคกายเท่านั้น คิดซิครับ....คิด


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 11 ธันวาคม 2553 11:09:35


คุณเอกอิสโร เขียนว่า:  อยากให้ลองอ่าน คัมภีร์ ปฐมมูล ทุกตัวอักษร ทุกบรรทัดใหม่นะครับ การสร้างบารมี ไม่ใช่ว่า จะอยู่ในสมัยที่มีพระพุทธเจ้า เท่านั้นการทำความดี ก็คือ การสร้างบารมี  


ผมบอกว่า...พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามประวัติพระองค์ไม่เคยสร้างพระบารมีมาก่อน

แต่คุณบอกว่า อยากให้ลองอ่าน คัมภีร์ ปฐมมูล ทุกตัวอักษร ทุกบรรทัดใหม่นะครับ การสร้างบารมี ไม่ใช่ว่า จะอยู่ในสมัยที่มีพระพุทธเจ้า เท่านั้นการทำความดี ก็คือ การสร้างบารมี  

ตอบ

ใครๆมันก็รู้ครับว่า การทำความดี ก็คือ การสร้างบารมี แต่มนุษย์ ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ อย่างน้อยต้องหลายอสงไขยและหลายกัป ผมว่า ผมก็หาดูอย่างละเอียดแล้ว ไม่พบว่าพระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า มีการสร้างพระบารมีมาก่อนเป็นอสงไขยหรือเป็นกัป นอกจากการสร้างบารมีในชาตินั้นชาติเดียว นั่นก็คือ ท่านไม่ใช่มนุษย์แน่นอน

...


Bloggang.com : นภัทรษร :

23 ส.ค. 2010 ... พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ... ประทับตรัสรู้อยู่ใต้ต้นไม้ 25 ต้น ๆ ละ 200 ปี เพราะพระองค์ไม่เคยสร้างพระบารมี ...
www.bloggang.com/viewdiary.php?id=siamniramis&group=6 (http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=siamniramis&group=6) - แคช

บทความ พระพุทธเจ้าองค์แรก พระปฐมพุทธเจ้า

พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ... และ พระปฐมสาวกทุกองค์ในศาสนาของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็จะทูลถาม พุทธประวัติ ของ ... และพระองค์ไม่เคยได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์อื่นใดมาก่อนเลย ... 25 ต้น ๆ ละ 200 ปี เพราะพระองค์ไม่เคยสร้างพระบารมี   และ ..... ก็อาจจะไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้าตามที่ตั้งใจไว้ ...
atcloud.com/stories/77787 - แคช

พระพุทธเจ้าองค์แรก พระปฐมพุทธเจ้า(หน้า 1) - Mysterious - Mythland ...

17 โพสต์ - 14 ผู้เขียน - โพสต์ครั้งล่าสุด: 17 ส.ค.
พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ... พุทธประวัติ ของ " พระพุทธเจ้าองค์ปฐม" ... และพระองค์ไม่เคยได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์อื่นใดมาก่อนเลย เพราะยังไม่มี ... 25 ต้น ๆ ละ 200 ปี เพราะพระองค์ไม่เคยสร้างพระบารมี   และ .... จากโลกอื่นตอนสมัยที่ท่าน ตามหาบาตรของพระพุทธเจ้า ...
www.mythland.org/v3/archiver/tid-2266.html (http://www.mythland.org/v3/archiver/tid-2266.html)


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 11 ธันวาคม 2553 20:53:49
พระพุทธเจ้าพระองค์แรก ที่ตรัสรู้ก่อนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ มีอยู่ จริง ๆ
และมีคัมภีร์ปฐมมูลรับรองพระนาม คือ " พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า"
หอสมุดแห่งชาติ มีคัมภีร์เก่า ๆ มากมายที่ยังไม่ได้แปล และมีสุดยอดคัมภีร์อีกหลาย ๆ คัมภีร์ที่ คนไทย ยังไม่รู้ และเป็นของเถรวาทแท้ ๆ ด้วย ครับ
พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ทรงตรัสแสดงแก่ท่าน " พระอัญญาโกณฑัญญะ" และ พระปฐมสาวกทุกองค์ในศาสนาของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็จะทูลถาม พุทธประวัติ ของ " พระพุทธเจ้าองค์ปฐม" พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตทุกพระองค์ก็จะทรงตรัสแสดงให้ฟังปฐมสาวกได้ฟัง แม้มาในศาสนาของพระพุทธเจ้าของเราก็เหมือนกัน คัมภีร์นี้เป็นคัมภีร์ที่เก่าแก่มาก ต้นฉบับ เป็น " ภาษาล้านนา " คณาจารย์ของกรมศิลปากร ได้แปลรวมไว้อยู่ใน หนังสือเล่มใหญ่ ชื่อ " โลกุปปัตติ อรุณวดีสูตร ปฐมมูล ปฐมกัป มูลตันไตรย "  -และถ้ามีปัญหาถามว่า " พระพุทธเจ้าองค์แรก ใน พระพุทธศาสนา ที่ตรัสรู้ก่อนพระ พุทธเจ้าทุกพระองค์ ทรงพระนามว่าอะไร ? พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ อุบัตขึ้นก่อนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ และพระองค์ไม่เคยได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์อื่นใดมาก่อนเลย เพราะยังไม่มี พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ก่อนหน้านั้นเลยแม้แต่องค์เดียว พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ใช้ระยะเวลาในการประทับนั่งบนโพธิบัลลังก์เป็นเวลา ยาวนานกว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่เกิดขึ้นมาภายหลัง คือ ทรงใช้เวลา 5,000 ปีนั่ง ประทับตรัสรู้อยู่ใต้ต้นไม้ 25 ต้น ๆ ละ 200 ปี เพราะพระองค์ไม่เคยสร้างพระบารมี และ ไม่เคยได้รับพุทธพยากรณ์ในศาสนาพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์มาก่อนเลย (ก็เป็นพระองค์แรกหนิ)
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมมูล พระองค์นั้น ทรงพระนามว่า " พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า " พระองค์มีพระชนม์มายุ 100,000 ปี แล้วจึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์ได้ทรงพยากรณ์เป็นพระองค์แรก ว่า

http://www.mythland.org/v3/archiver/tid-2266.html (http://www.mythland.org/v3/archiver/tid-2266.html)

 
คัมภีร์นี้เก่าแก่มากครับ ;D ;D ;D
เป็นภาษาล้านนาแท้ๆ
อาณาจักรล้านนา  มีอยู่ในพระไตรปิฎกหรือเปล่า
เอาพระไตรปิฎก มายืนยันก่อนสิครับ
ว่าอาณาจักรล้านนา ถือกำเนิดเมื่อไร

หรือว่า มารแต่งนิยาย ขึ้นมาเพื่อ ดิสเครดิท
 หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว







หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 17 ธันวาคม 2553 01:31:35
สิ่งใดเกิด ย่อมมีดับเป็นธรรมดา
พระติกขในคัมภีร์ แต่งขึ้นสมัยล้านนา หลังปรินิพพาน ไปแล้ว พันกว่าปี
พระสิขี เกิดพร้อมหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ส่วน พระรังสีวิสุทธิ เกิดหลังมหายานแตกแยกเป็นอนุตรธรรม

เมื่อสังสารวัฎพระพุทธเจ้า ยังหาเบื้องต้นไม่ได้
พระพุทธเจ้าองค์ปฐม จีงไกลเกินฌานของพระพุทธเจ้า สมณโคดม  


คนที่มีอภิญญา ส่องไปถึงได้  เก่งมั๊กๆๆ

--------------------------------------------------------------------------------

ตอบ

คุณกำลังคิดเอาเอง แต่เอาความคิดที่เป็นมิจฉาทิฏฐินั้น ไปยัดใส่พระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญู ท่านจึงทรงรู้ทุกเรื่อง

คุณบอกมาได้อย่างไร เมื่อสังสารวัฎพระพุทธเจ้า ยังหาเบื้องต้นไม่ได้
พระพุทธเจ้าองค์ปฐม จีงไกลเกินฌานของพระพุทธเจ้า สมณโคดม  


พระพุทธเจ้าหาจุดเบื้องต้นของสังสารวัฎได้ แต่สอนให้เถรวาทเพียงว่า จุดเบื้องต้นนั้นเราเป็นจิตปภัสสร แต่ต่อมาหลงในอวิชชา จึงทำให้เกิดปฏิจจสมุปบาท เกิดภพเกิดชาติขึ้น เพราะนิกายเถรวาทต้องการแค่ดับทุกข์ให้เร็วที่สุด พระพุทธเจ้าจึงไม่สอนเรื่องของผู้ยิงลูกศรใส่เรา แต่ให้เรารักษาโรคทุกข์ให้หายก่อน(เป็นพระอรหันต์) แล้วจึงจะรู้ถึงเรื่องผู้ยิงลูกศรให่เรา

อย่างไรก็ตาม นิกายของมหายาน ถ้าพระพุทธเจ้าตอบปัญหาเรื่องผู้ยิงศรใส่เขาไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องจุดเบื้องต้นก่อนสังสารวัฎ มหายานเขาไม่เรียนกับพระพุทธเจ้าแน่ พระพุทธองค์จึงต้องสอนให้ทางมหายานถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนสังสารวัฏ - เรื่องอาทิพุทธ พระไวโรจนพุทธเจ้า ทั้ง 2 องค์เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ในรูปของธรรมกายและสัมโภคกาย ให้เขา

เรื่องพระติกขคัมมะ พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ในพระไตรปิฎกเถรวาท บันทึกอยู่ในคัมภีร์ปฐมมูล แต่เนื่องจากเรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพาน พวกมารที่แทรกซึมเรืองอำนาจในคณะสงฆ์ปริยัติ จึงต้องพยายามกำจัดทิ้งให้พ้นจากพระพุทธศาสนาเถรวาท เราจึงยากจะค้นพบจำรึกในพระไตรปิฏก แต่กรมศิลปากรเขาก็ยังไปค้นคว้ามาบันทึกไว้ นอกจากนี้พระบางรูปยังมีประสบการณ์ส่วนตัวจากสมาธิ แล้วไปพบพระติกขคัมมะ จึงนำมาเล่าให้ฟัง

ส่วนเรื่องพระรังสีวิสุทธิ และพระพุทธสิกขีนั้น ผู้ที่ทำกรรมฐานจนตัวรู้เปิดหมดแล้ว ทุกท่านย่อมรู้เท่าเทียมกันว่าทั้ง 2 พระองค์เป็นใคร

สรุป

พระติกขคัมมะ เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐมในรูปสัมโภคกาย และเป็นองค์เดียวกับพระไวโรจนพุทธเจ้าที่มหายานพูดถึง

พระรังสีวิสุทธิ เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐมในรูปธรรมกาย และเป็นองค์เดียวกับอาทิพุทธเจ้าที่มหายานพูดถึง

พระพุทธสิกขี เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐมที่เป็นมนุษย์


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: wondermay ที่ 17 ธันวาคม 2553 02:43:09
 (:PL:) (:PL:) (:PL:) (:PL:) (:PL:)

ย่องหนีละ (:BYE:)


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: WangJai ที่ 17 ธันวาคม 2553 13:05:26
คุณเอกอิสโร กล่าวว่า:

 1.ไม่มีตรงไหน ที่ระบุว่า

"พระพุทธเจ้าติกขคัมมสมฺมาสมฺพุทธํ"
ไม่ได้เป็นมนุษย์

 2.เกิดมนุษย์คู่แรกมา จนเกิดวัฏฏสงสาร
ก็มี พระพุทธเจ้าติกขคัมมสมฺมาสมฺพุทธํ พระองค์นี้เป็น
พระองค์แรก ไม่มีพระองค์อื่น มาตรัสก่อนเลย

ตอบ

พระพุทธเจ้าตรัสสอนไปทางเถรวาทว่า พระพุทธเจ้าในอดีต 27 พระองค์ แต่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไปทางมหายานว่า พระพุทธเจ้าในอดีต มีมากมายยิ่งนัก จนถึงกับมีคำพูดที่ได้ยินกันอยู่เป็นประจำว่า มีมากกว่าเม็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้ง ๔

พวกเราเป็นมนุษย์และอยู่ในเถรวาท ซึ่งพระพุทธองค์พยายามไม่กล่าวถึงเรื่องที่อยู่นอกเหนือจากการรับรู้โดยขันธ์ 5 ของมนุษย์ หรือกล่าวถึงให้น้อยที่สุด ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้าในอดีต 27 พระองค์ และพระพุทธเจ้าในอนาคต อีก ๑๐ พระองค์ จึงเป็นมนุษย์ทั้งหมด แต่อาจจะไม่อยู่ในโลกมนุษย์ในมิตินี้

ส่วนพระพุทธเจ้าในอดีต มีมากมายยิ่งนัก มีมากกว่าเม็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้ง ๔

เราผู้เป็นมนุษย์ย่อมรู้ว่า จำนวนของพระพุทธเจ้าในอดีตที่ต่างกันระหว่างเถรวาทกับมหายาน ส่วนที่ต่างกันนั้น ล้วนเป็นพระพุทธเจ้าที่เป็นสัมโภคกาย

สรุปก็คือ

1. คุณต้องคิดเป็นครับ และต้องมีความรู้ทางเถรวาทและมหายาน ถ้าคิดไม่เป็น ไม่มีความรู้ในทั้ง 2 นิกาย ย่อมตีความไม่ออก เพราะผมบอกแล้วว่า มารนั้นสิงใจสงฆ์ที่ไม่บรรลุธรรมของเถรวาท ให้ตัดข้อความทุกข้อความ ที่จะอิงไปเรื่องที่ไม่ใช่มนุษย์ ดังนั้น

จึงไม่มีตรงไหน ที่ระบุว่า

"พระพุทธเจ้าติกขคัมมสมฺมาสมฺพุทธํ"ไม่ได้เป็นมนุษย์

คิดซิครับ....คิด ถ้ายังคิดไม่ออก ก็ดูหลักฐานในข้อต่อไปนะครับ

 
2. ถ้าพระพุทธเจ้าติกขคัมมสมฺมาสมฺพุทธํ พระองค์นี้เป็น
พระองค์แรก แล้วพระพุทธสิกขีที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำพูดถึงไปไหนกันล่ะ คิดซิครับ....คิด

 พระพุทธสิกขีอายุของ มีอายุขัยประมาณ 8 หมื่นปี

- พระองค์เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์เพื่อพระชนมายุได้ 4 หมื่นปี
- หลังจากทรงผนวชแล้วเป็นเวลาอีก 2 หมื่นปี จึงได้ทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์แรกของโลก
- พระองค์ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์อีกประมาณ 2 หมื่นปี จึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน

ในคัมภีร์ปฐมมูล "พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า " พระองค์มีพระชนม์มายุ 100,000 ปี แล้วจึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน

หลักฐานเรื่องอายุของพระพุทธสิกขี(8 หมื่นปี) และพระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า (100,000 ปี) ก็ชี้ว่าทั้ง 2 พระองค์เป็นคนละองค์กัน

หลักฐานอีกชิ้นหนึ่ง...พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามประวัติพระองค์ไม่เคยสร้างพระบารมีมาก่อน และท่านเป็นผู้กำหนดว่า ต่อไปภายภาคหน้า ตระกูลของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ซึ่งจะมาตรัสรู้ต่อจากพระองค์ จะมี 3 ตระกูล คือ

1. ปัญญาธิกะ
2. สัทธาธิกะ
3. วิริยาธิกะ

ในขณะที่ พระพุทธสิกขี หลวงพ่อฤาษีฯบอกว่า ท่านต้องบำเพ็ญบารมี 16 อสงไขย ฉัน 40 อสงไขยกว่า เพราะไม่มีตัวอย่าง

แล้วผู้ใดล่ะที่ไม่ต้องบำเพ็ญบารมีมาก่อน มาแล้วบำเพ็ญในชาตินั้น และก็ได้ไปพระพุทธเจ้า ไม่ใช่มนุษย์แน่ มีแต่เหล่าธยานิพุทธที่เป็นสัมโภคกายเท่านั้น คิดซิครับ....คิด


คุณ phonsak เอาสมองส่วนหลังมาคิดอีกละสิ

พระธยานิพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว ยังต้องมาบำเพ็ญหาอะไรในชาตินั้นอีก

อยากคิดก็เชิญคิด...ต่อไปเถอะนะ สังขารคิดยังไม่รู้จัก ยังมาพล่ามเรื่องพระพุทธเจ้า



หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: WangJai ที่ 17 ธันวาคม 2553 13:19:47

เรื่องพระติกขคัมมะ พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ในพระไตรปิฎกเถรวาท บันทึกอยู่ในคัมภีร์ปฐมมูล แต่เนื่องจากเรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพาน พวกมารที่แทรกซึมเรืองอำนาจในคณะสงฆ์ปริยัติ จึงต้องพยายามกำจัดทิ้งให้พ้นจากพระพุทธศาสนาเถรวาท เราจึงยากจะค้นพบจำรึกในพระไตรปิฏก แต่กรมศิลปากรเขาก็ยังไปค้นคว้ามาบันทึกไว้ นอกจากนี้พระบางรูปยังมีประสบการณ์ส่วนตัวจากสมาธิ แล้วไปพบพระติกขคัมมะ จึงนำมาเล่าให้ฟัง

ส่วนเรื่องพระรังสีวิสุทธิ และพระพุทธสิกขีนั้น ผู้ที่ทำกรรมฐานจนตัวรู้เปิดหมดแล้ว ทุกท่านย่อมรู้เท่าเทียมกันว่าทั้ง 2 พระองค์เป็นใคร


เห็นได้ชัดว่า แม้แต่ผู้ที่คุณเรียกว่า มาร ก็ยังมุ่งตรงต่อพระนิพพานมากกว่าคนที่ชอบขี้ตู่ว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้า เช่นคุณละนะ

ก็ไอ้ตัวรู้ลักกะปิดลักกะเปิดของคุณนั่นน่ะ มันของไม่จริง


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 17 ธันวาคม 2553 13:21:57
พระพุทธเจ้าพระองค์แรก ที่ตรัสรู้ก่อนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ มีอยู่ จริง ๆ
และมีคัมภีร์ปฐมมูลรับรองพระนาม คือ " พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า"
หอสมุดแห่งชาติ มีคัมภีร์เก่า ๆ มากมายที่ยังไม่ได้แปล และมีสุดยอดคัมภีร์อีกหลาย ๆ คัมภีร์ที่ คนไทย ยังไม่รู้ และเป็นของเถรวาทแท้ ๆ ด้วย ครับ
พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ทรงตรัสแสดงแก่ท่าน " พระอัญญาโกณฑัญญะ" และ พระปฐมสาวกทุกองค์ในศาสนาของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็จะทูลถาม พุทธประวัติ ของ " พระพุทธเจ้าองค์ปฐม" พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตทุกพระองค์ก็จะทรงตรัสแสดงให้ฟังปฐมสาวกได้ฟัง แม้มาในศาสนาของพระพุทธเจ้าของเราก็เหมือนกัน คัมภีร์นี้เป็นคัมภีร์ที่เก่าแก่มาก ต้นฉบับ เป็น " ภาษาล้านนา " คณาจารย์ของกรมศิลปากร ได้แปลรวมไว้อยู่ใน หนังสือเล่มใหญ่ ชื่อ " โลกุปปัตติ อรุณวดีสูตร ปฐมมูล ปฐมกัป มูลตันไตรย "  -และถ้ามีปัญหาถามว่า " พระพุทธเจ้าองค์แรก ใน พระพุทธศาสนา ที่ตรัสรู้ก่อนพระ พุทธเจ้าทุกพระองค์ ทรงพระนามว่าอะไร ? พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ อุบัตขึ้นก่อนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ และพระองค์ไม่เคยได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์อื่นใดมาก่อนเลย เพราะยังไม่มี พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ก่อนหน้านั้นเลยแม้แต่องค์เดียว พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ใช้ระยะเวลาในการประทับนั่งบนโพธิบัลลังก์เป็นเวลา ยาวนานกว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่เกิดขึ้นมาภายหลัง คือ ทรงใช้เวลา 5,000 ปีนั่ง ประทับตรัสรู้อยู่ใต้ต้นไม้ 25 ต้น ๆ ละ 200 ปี เพราะพระองค์ไม่เคยสร้างพระบารมี และ ไม่เคยได้รับพุทธพยากรณ์ในศาสนาพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์มาก่อนเลย (ก็เป็นพระองค์แรกหนิ)
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมมูล พระองค์นั้น ทรงพระนามว่า " พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า " พระองค์มีพระชนม์มายุ 100,000 ปี แล้วจึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์ได้ทรงพยากรณ์เป็นพระองค์แรก ว่า

http://www.mythland.org/v3/archiver/tid-2266.html (http://www.mythland.org/v3/archiver/tid-2266.html)

 
คัมภีร์นี้เก่าแก่มากครับ ;D ;D ;D
เป็นภาษาล้านนาแท้ๆ
อาณาจักรล้านนา  มีอยู่ในพระไตรปิฎกหรือเปล่า
เอาพระไตรปิฎก มายืนยันก่อนสิครับ
ว่าอาณาจักรล้านนา ถือกำเนิดเมื่อไร

หรือว่า มารแต่งนิยาย ขึ้นมาเพื่อ ดิสเครดิท
 หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว
 





พวกที่เป็นมาร  แล้วมารแต่งนิยาย ขึ้นมาเพื่อ ดิสเครดิท   หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว  คือ ใคร????

ตอบ

ก็พวกสมมุติสงฆ์ฝ่ายปริยัติของเรานั่นแหละ  พวกนี้ไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติได้ไม่ถึงขั้น เรียกว่า ไม่เป็นสัปปะรด  อาศัยพวกมาก  ใช่กฎหมาหมู่  ทำการปฎิรูปพระพุทธศาสนา  ให้กลายเป็นศาสนาของมาร ที่เรียกว่า "สัทธรรมปฏิรูป"  หรือของปลอม

พวกสมมุติสงฆ์ฝ่ายปริยัติ ที่ถูกมารครอบงำ ได้ทำการล้างบางพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า เริ่มต้นมาตั้งแต่ในการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 2  จะเห็นได้ว่า ในปฐมสังคายนา มีแต่พระอรหันต์ที่มีอภิญญา 6 เข้าร่วมเท่านั้น  พวกท่านจึงรู้ว่า  สิ่งใดเป็นของจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้

พระอรหันต์ที่มีอภิญญา 6 ทั้ง 500 รูป รวมทั้งพระมหากัสสปะและพระอานน์ ต่างรับรองพระไตรปิฎกของเถรวาท และปิฎกของฝ่ายอาจาริยวาท หรือ มหายาน  รวมปิฎกทั้ง 2 ฝ่าย จึงเป็นพระไตรปิฎก

แต่เมื่อสงฆ์มีจำนวนมากขึ้นในการสังคายนาครั้งที่ 2 กฎหมาหมู่(ประชาธิปไตย)จึงถูกตั้งขึ้น ให้อนุญาตทั้งพระอรหันต์ที่มีอภิญญา 6  และพระทั่วไปร่วมด้วยได้  ความเละเทะในพระไตรปิฎกจึงเริ่มต้นขึ้น  เถรวาทจะเอาเฉพาะคำสอนที่พระพุทธองค์เป็นผู้ชี้ทางให้พวกตนเท่านั้น  อีกอย่างในการสังคายนาครั้งที่ 2 ไม่มีการเชิญฝ่ายอาจาริยวาท หรือ มหายาน เข้าร่วม  ดังนั้นจึงเป็นการง่ายที่สงฆ์ที่ถูกมารสิง จะตัดคำสอนทุกอย่างที่ในปิฎกของฝ่ายอาจาริยวาททิ้งไป  เหลือแต่คำสอนของพวกตน ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่จิตปภัสสร หลงกลอวิชชา ปฏิจจสมุปบาทจึงเกิดขึ้น

คำสอนสำคัญในปิฎกของฝ่ายอาจาริยวาท  ที่ฝ่ายเถรวาทไม่มีอยู่ หรือมีอยู่น้อยมากคือ เรื่องก่อนหน้าจิตปภัสสรนั้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ

1. เรื่องสุญญตวาท ที่มี จิตอมตวาทอยู่  เรียกว่า อาทิพุทธ พระไวโรจนพุทธเจ้า หรือธรรมกาย(ศาสนาอื่นเรียกว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า)

2. เรื่องกายทั้ง 3 ของพระพุทธเจ้า -  
        ๑. สัมโภคกาย คือ พระกายที่เป็นทิพยภาวะ ประทับอยู่ ณ แดนพุทธเกษตร
          ๒. นิรมานกาย คือ พระกายที่พระองค์เนรมิตรขึ้นทำนองอวตารลงมา อาการมีทรงพระชวร ประสูติทางพระวรกายนั้นเป็นสิ่งมายาทั้งสิ้น
          ๓. ธรรมกาย คือสุญญตภาวะ หรือ พระนิพพานนั้นเอง

สงฆ์ที่ถูกมารสิงในตอนนั้น ตัดกายของพระพุทธเจ้าให้เหลือเพียง 2 กาย คือ นิรมานกาย และ ธรรมกาย  

อย่างไรก็ตาม สงฆ์ที่ถูกมารสิงในยุคต่อๆมา ก็พยายามตัดเรื่องธรรมกายออกไป และแยกนิพพานเป็นอะไรก็ไม่รู้  มาถึงยุคนี้ สงฆ์และฆราวาสที่ถูกมารสิง กำแหงหนัก  กล้าทะลึ่งบอกว่า นิพพานเป็นอนัตตา    ทั้งๆที่ในอนัตตลักขณะสูตร นิพพานแปลว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา  พอผมถามว่า  แล้วเราจะเข้านิพพานไปหาพระแสงอะไรเล่า?  ก็ไม่เห็นมีใครตอบได้สักคน  เห็นมีแต่ไล่ผมออกจากเว็บพุทธศาสนา 10 กว่าเว็บแล้ว

3. เรื่องความเมตตากรุณาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย  ที่ยังคอยช่วยเหลือมนุษย์และสรรพสัตว์ที่เดือดร้อนในโลกอยู่ เช่น เจ้าแม่กวนอิม พระพิฒเนศ ตรีมูรติ  เรืองพวกนี้ สงฆ์และฆราวาสที่ถูกมารสิง พยายามบอกว่าไม่มีอยู่จริง  แต่คนทั่วโลก  ไม่เฉพาะคนไทยเท่านั้น  ต่างเคยพบเห็นและเคยประสพกับพระบารมีของพวกท่านมาแล้วมากมาย

เรืองทั้ง 3 เรื่องนี้ เป็นข้อใหญ่ที่สุด ที่สงฆ์และฆราวาสที่ถูกมารสิง ในทุกยุคทุกสมัย ไม่ยอมให้ประชาชนรู้ความจริง


มีพระไตรปิฎกเถรวาทเก็บซ่อนอยู่ในที่อื่นๆไหม? 


มีหลายที่มากเลย เช่น 1. คัมภีร์ปฐมมูลเป็นภาษาล้านนาแท้ๆ มารตัดทิ้งไปแล้วในพระไตรปิฎก แต่พระพุทธเจ้าดลจิตให้อาณาจักรล้านนาบันทึกเอาไว้ 2. คัมภีร์วิชาเปิดโลก มารทิ้งไปแล้ว แต่พระพุทธเจ้า ก็มาสอนให้กับหลวงพ่อคง 3. คัมภีร์วิชาธรรมกาย  มารทิ้งไปแล้วเช่นกัน แต่พระพุทธเจ้า ก็มาสอนให้กับหลวงพ่อสด

ปิฎกและพระสูตรของมหายานที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนแก่ปรมาจารย์ในนิกายต่างๆของมหายาน  สงฆ์และฆราวาสที่ถูกมารสิง ต่างก็หาเรื่องใส่ร้ายว่า ตำราพวกนี้แต่งขึ้นมาเอง  โง่บัดซบจริงๆ  ในโลกนี้ไม่มีใครกล้าเขียนพระสูตรหรือปิฎกขึ้นมาเอง แล้วไปบอกว่าเป็นถ้อยคำของพระผู้มีพระภาคเจ้าหรอก  เพราะบาปใกล้ๆอนันตริยกรรม แล้วคัมภีร์ของปลอมพวกนี้  ในที่สุด จะสลายไปเอง ตามกฎแห่งกรรม

ด้วยเหตุนี้ การที่จะบอกว่า พวกที่เป็นมาร  มามารแต่งนิยายคัมภีร์ปฐมมูล หรือแต่งปิฎกและพระสูตรมหายานต่างๆ ขึ้นมาเอง เพื่อ ดิสเครดิท   หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว   จึงเป็นไปไม่ได้

แม้แต่ที่ผมเข้ามาเขียนอธิบายเรื่องราวต่างๆในพระพุทธศาสนา  ก็เป็นเรื่องประเภทมีหักหัวใจมารให้สลายทั้งนั้น  ผมมาเพื่อล้มล้างศาสนาของมารโดยเฉพาะ ผมจึงนำพระไตรปิฎก และการตีความที่ถูกต้อง เป็นสัมมาทิฏฐิมาลงโดยไม่เกรงกลัวและไม่เกรงใจมารทุกตัว




หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: WangJai ที่ 17 ธันวาคม 2553 13:49:01
 

แต่สงฆ์ที่ถูกมารสิงในยุคต่อๆมา ก็พยายามตัดเรื่องธรรมกายออกไป และแยกนิพพานเป็นอะไรก็ไม่รู้  มาถึงยุคนี้สงฆ์และฆราวาสที่ถูกมารสิง กำแหงหนัก  กล้าทะลึ่งบอกว่า นิพพานเป็นอนัตตา  ทั้งๆที่ในอนัตตลักขณะสูตร นิพพานแปลว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา  พอผมถามว่า  แล้วเราจะเข้านิพพานไปหาพระแสงอะไรเล่า?  ก็ไม่เห็นมีใครตอบได้สักคน  เห็นมีแต่ไล่ผมออกจากเว็บพุทธศาสนา 10 กว่าเว็บแล้ว


จะบอกให้ก็ได้

เพราะไม่มีใครเค้าเข้าไปหาพระแสงอะไรอย่างคุณนะสิ

ถ้านิพพานเที่ยง ฯลฯ ก็ต้อง บังคับบัญชาได้ อมพะนำคำนี้เอาไว้ กลัวเสียเครดิตละสิ ชิมิๆ


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 17 ธันวาคม 2553 14:17:38
 

แต่สงฆ์ที่ถูกมารสิงในยุคต่อๆมา ก็พยายามตัดเรื่องธรรมกายออกไป และแยกนิพพานเป็นอะไรก็ไม่รู้  มาถึงยุคนี้สงฆ์และฆราวาสที่ถูกมารสิง กำแหงหนัก  กล้าทะลึ่งบอกว่า นิพพานเป็นอนัตตา  ทั้งๆที่ในอนัตตลักขณะสูตร นิพพานแปลว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา  พอผมถามว่า  แล้วเราจะเข้านิพพานไปหาพระแสงอะไรเล่า?  ก็ไม่เห็นมีใครตอบได้สักคน  เห็นมีแต่ไล่ผมออกจากเว็บพุทธศาสนา 10 กว่าเว็บแล้ว


จะบอกให้ก็ได้

เพราะไม่มีใครเค้าเข้าไปหาพระแสงอะไรอย่างคุณนะสิ

ถ้านิพพานเที่ยง ฯลฯ ก็ต้อง บังคับบัญชาได้ อมพะนำคำนี้เอาไว้ กลัวเสียเครดิตละสิ ชิมิๆ


ถูกแล้ว ถ้านิพพานเที่ยง ฯลฯ ก็ต้อง บังคับบัญชาได้ และเป็นอมตะ  = ธรรมกาย หรือธรรมธาตุ

พระสารีบุตรก็เคยสงสัยเรื่องนี้ จึงถามพระอวโลกิเตศวร เรื่องนี้บันทึกอยู่ในปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร พระอวโลกิเตศวรจึงตรัสสอนพระสารีบุตรว่า

" ธรรมกาย  ก็คือปรัชญาปารมิตาซึ่งเป็นสภาวธรรมแห่งพระตถาคตตรัสรู้ ก็คือ อายตนะนิพพานนั้นเอง  ย่อมปราศจากการมาในอดีต ฤาการไปในอนาคต แลในปรัตยุบันกาลเล่าก็ปราศจากการตั้งอยู่มั่นคง "


หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 17 ธันวาคม 2553 15:20:49
 

แต่สงฆ์ที่ถูกมารสิงในยุคต่อๆมา ก็พยายามตัดเรื่องธรรมกายออกไป และแยกนิพพานเป็นอะไรก็ไม่รู้  มาถึงยุคนี้สงฆ์และฆราวาสที่ถูกมารสิง กำแหงหนัก  กล้าทะลึ่งบอกว่า นิพพานเป็นอนัตตา  ทั้งๆที่ในอนัตตลักขณะสูตร นิพพานแปลว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา  พอผมถามว่า  แล้วเราจะเข้านิพพานไปหาพระแสงอะไรเล่า?  ก็ไม่เห็นมีใครตอบได้สักคน  เห็นมีแต่ไล่ผมออกจากเว็บพุทธศาสนา 10 กว่าเว็บแล้ว


จะบอกให้ก็ได้

เพราะไม่มีใครเค้าเข้าไปหาพระแสงอะไรอย่างคุณนะสิ

ถ้านิพพานเที่ยง ฯลฯ ก็ต้อง บังคับบัญชาได้ อมพะนำคำนี้เอาไว้ กลัวเสียเครดิตละสิ ชิมิๆ


ถูกแล้ว ถ้านิพพานเที่ยง ฯลฯ ก็ต้อง บังคับบัญชาได้ และเป็นอมตะ  = ธรรมกาย หรือธรรมธาตุ

พระสารีบุตรก็เคยสงสัยเรื่องนี้ จึงถามพระอวโลกิเตศวร เรื่องนี้บันทึกอยู่ในปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร พระอวโลกิเตศวรจึงตรัสสอนพระสารีบุตรว่า

" ธรรมกาย  ก็คือปรัชญาปารมิตาซึ่งเป็นสภาวธรรมแห่งพระตถาคตตรัสรู้ ก็คือ อายตนะนิพพานนั้นเอง  ย่อมปราศจากการมาในอดีต ฤาการไปในอนาคต แลในปรัตยุบันกาลเล่าก็ปราศจากการตั้งอยู่มั่นคง "

555+ 

โดนความเที่ยงแทง มารพลศักดิ
ดิ้นกระแด่วๆ แถไม่ออก

"ย่อมปราศจากการมาในอดีต ฤาการไปในอนาคต แลในปรัตยุบันกาลเล่าก็ปราศจากการตั้งอยู่มั่นคง "  

ปราศจากการตั้งอยู่มั่นคง
ก็แสดงว่า ตั้งเหมือนไม้หลักปักขี้เลน ไงครับ

 ;D ;D ;D



หัวข้อ: Re: เจาะลึกสุดๆเรื่อง"สมเด็จองค์ปฐม"(หาอ่านที่ไหนก็ไม่ได้)
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 17 ธันวาคม 2553 15:31:58
พระพุทธเจ้าพระองค์แรก ที่ตรัสรู้ก่อนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ มีอยู่ จริง ๆ
และมีคัมภีร์ปฐมมูลรับรองพระนาม คือ " พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า"
หอสมุดแห่งชาติ มีคัมภีร์เก่า ๆ มากมายที่ยังไม่ได้แปล และมีสุดยอดคัมภีร์อีกหลาย ๆ คัมภีร์ที่ คนไทย ยังไม่รู้ และเป็นของเถรวาทแท้ ๆ ด้วย ครับ
พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ทรงตรัสแสดงแก่ท่าน " พระอัญญาโกณฑัญญะ" และ พระปฐมสาวกทุกองค์ในศาสนาของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็จะทูลถาม พุทธประวัติ ของ " พระพุทธเจ้าองค์ปฐม" พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตทุกพระองค์ก็จะทรงตรัสแสดงให้ฟังปฐมสาวกได้ฟัง แม้มาในศาสนาของพระพุทธเจ้าของเราก็เหมือนกัน คัมภีร์นี้เป็นคัมภีร์ที่เก่าแก่มาก ต้นฉบับ เป็น " ภาษาล้านนา " คณาจารย์ของกรมศิลปากร ได้แปลรวมไว้อยู่ใน หนังสือเล่มใหญ่ ชื่อ " โลกุปปัตติ อรุณวดีสูตร ปฐมมูล ปฐมกัป มูลตันไตรย "  -และถ้ามีปัญหาถามว่า " พระพุทธเจ้าองค์แรก ใน พระพุทธศาสนา ที่ตรัสรู้ก่อนพระ พุทธเจ้าทุกพระองค์ ทรงพระนามว่าอะไร ? พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ อุบัตขึ้นก่อนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ และพระองค์ไม่เคยได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์อื่นใดมาก่อนเลย เพราะยังไม่มี พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ก่อนหน้านั้นเลยแม้แต่องค์เดียว พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ใช้ระยะเวลาในการประทับนั่งบนโพธิบัลลังก์เป็นเวลา ยาวนานกว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่เกิดขึ้นมาภายหลัง คือ ทรงใช้เวลา 5,000 ปีนั่ง ประทับตรัสรู้อยู่ใต้ต้นไม้ 25 ต้น ๆ ละ 200 ปี เพราะพระองค์ไม่เคยสร้างพระบารมี และ ไม่เคยได้รับพุทธพยากรณ์ในศาสนาพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์มาก่อนเลย (ก็เป็นพระองค์แรกหนิ)
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมมูล พระองค์นั้น ทรงพระนามว่า " พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า " พระองค์มีพระชนม์มายุ 100,000 ปี แล้วจึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์ได้ทรงพยากรณ์เป็นพระองค์แรก ว่า

http://www.mythland.org/v3/archiver/tid-2266.html (http://www.mythland.org/v3/archiver/tid-2266.html)

 
คัมภีร์นี้เก่าแก่มากครับ ;D ;D ;D
เป็นภาษาล้านนาแท้ๆ
อาณาจักรล้านนา  มีอยู่ในพระไตรปิฎกหรือเปล่า
เอาพระไตรปิฎก มายืนยันก่อนสิครับ
ว่าอาณาจักรล้านนา ถือกำเนิดเมื่อไร

หรือว่า มารแต่งนิยาย ขึ้นมาเพื่อ ดิสเครดิท
 หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว
 





พวกที่เป็นมาร  แล้วมารแต่งนิยาย ขึ้นมาเพื่อ ดิสเครดิท   หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว  คือ ใคร????

ตอบ

ก็พวกสมมุติสงฆ์ฝ่ายปริยัติของเรานั่นแหละ  พวกนี้ไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติได้ไม่ถึงขั้น เรียกว่า ไม่เป็นสัปปะรด  อาศัยพวกมาก  ใช่กฎหมาหมู่  ทำการปฎิรูปพระพุทธศาสนา  ให้กลายเป็นศาสนาของมาร ที่เรียกว่า "สัทธรรมปฏิรูป"  หรือของปลอม

พวกสมมุติสงฆ์ฝ่ายปริยัติ ที่ถูกมารครอบงำ ได้ทำการล้างบางพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า เริ่มต้นมาตั้งแต่ในการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 2  จะเห็นได้ว่า ในปฐมสังคายนา มีแต่พระอรหันต์ที่มีอภิญญา 6 เข้าร่วมเท่านั้น  พวกท่านจึงรู้ว่า  สิ่งใดเป็นของจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้

พระอรหันต์ที่มีอภิญญา 6 ทั้ง 500 รูป รวมทั้งพระมหากัสสปะและพระอานน์ ต่างรับรองพระไตรปิฎกของเถรวาท และปิฎกของฝ่ายอาจาริยวาท หรือ มหายาน  รวมปิฎกทั้ง 2 ฝ่าย จึงเป็นพระไตรปิฎก

แต่เมื่อสงฆ์มีจำนวนมากขึ้นในการสังคายนาครั้งที่ 2 กฎหมาหมู่(ประชาธิปไตย)จึงถูกตั้งขึ้น ให้อนุญาตทั้งพระอรหันต์ที่มีอภิญญา 6  และพระทั่วไปร่วมด้วยได้  ความเละเทะในพระไตรปิฎกจึงเริ่มต้นขึ้น  เถรวาทจะเอาเฉพาะคำสอนที่พระพุทธองค์เป็นผู้ชี้ทางให้พวกตนเท่านั้น  อีกอย่างในการสังคายนาครั้งที่ 2 ไม่มีการเชิญฝ่ายอาจาริยวาท หรือ มหายาน เข้าร่วม  ดังนั้นจึงเป็นการง่ายที่สงฆ์ที่ถูกมารสิง จะตัดคำสอนทุกอย่างที่ในปิฎกของฝ่ายอาจาริยวาททิ้งไป  เหลือแต่คำสอนของพวกตน ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่จิตปภัสสร หลงกลอวิชชา ปฏิจจสมุปบาทจึงเกิดขึ้น

คำสอนสำคัญในปิฎกของฝ่ายอาจาริยวาท  ที่ฝ่ายเถรวาทไม่มีอยู่ หรือมีอยู่น้อยมากคือ เรื่องก่อนหน้าจิตปภัสสรนั้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ

1. เรื่องสุญญตวาท ที่มี จิตอมตวาทอยู่  เรียกว่า อาทิพุทธ พระไวโรจนพุทธเจ้า หรือธรรมกาย(ศาสนาอื่นเรียกว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า)

2. เรื่องกายทั้ง 3 ของพระพุทธเจ้า - 
        ๑. สัมโภคกาย คือ พระกายที่เป็นทิพยภาวะ ประทับอยู่ ณ แดนพุทธเกษตร
          ๒. นิรมานกาย คือ พระกายที่พระองค์เนรมิตรขึ้นทำนองอวตารลงมา อาการมีทรงพระชวร ประสูติทางพระวรกายนั้นเป็นสิ่งมายาทั้งสิ้น
          ๓. ธรรมกาย คือสุญญตภาวะ หรือ พระนิพพานนั้นเอง

สงฆ์ที่ถูกมารสิงในตอนนั้น ตัดกายของพระพุทธเจ้าให้เหลือเพียง 2 กาย คือ นิรมานกาย และ ธรรมกาย 

อย่างไรก็ตาม สงฆ์ที่ถูกมารสิงในยุคต่อๆมา ก็พยายามตัดเรื่องธรรมกายออกไป และแยกนิพพานเป็นอะไรก็ไม่รู้  มาถึงยุคนี้ สงฆ์และฆราวาสที่ถูกมารสิง กำแหงหนัก  กล้าทะลึ่งบอกว่า นิพพานเป็นอนัตตา    ทั้งๆที่ในอนัตตลักขณะสูตร นิพพานแปลว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา  พอผมถามว่า  แล้วเราจะเข้านิพพานไปหาพระแสงอะไรเล่า?  ก็ไม่เห็นมีใครตอบได้สักคน  เห็นมีแต่ไล่ผมออกจากเว็บพุทธศาสนา 10 กว่าเว็บแล้ว

3. เรื่องความเมตตากรุณาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย  ที่ยังคอยช่วยเหลือมนุษย์และสรรพสัตว์ที่เดือดร้อนในโลกอยู่ เช่น เจ้าแม่กวนอิม พระพิฒเนศ ตรีมูรติ  เรืองพวกนี้ สงฆ์และฆราวาสที่ถูกมารสิง พยายามบอกว่าไม่มีอยู่จริง  แต่คนทั่วโลก  ไม่เฉพาะคนไทยเท่านั้น  ต่างเคยพบเห็นและเคยประสพกับพระบารมีของพวกท่านมาแล้วมากมาย

เรืองทั้ง 3 เรื่องนี้ เป็นข้อใหญ่ที่สุด ที่สงฆ์และฆราวาสที่ถูกมารสิง ในทุกยุคทุกสมัย ไม่ยอมให้ประชาชนรู้ความจริง


มีพระไตรปิฎกเถรวาทเก็บซ่อนอยู่ในที่อื่นๆไหม? 


มีหลายที่มากเลย เช่น 1. คัมภีร์ปฐมมูลเป็นภาษาล้านนาแท้ๆ มารตัดทิ้งไปแล้วในพระไตรปิฎก แต่พระพุทธเจ้าดลจิตให้อาณาจักรล้านนาบันทึกเอาไว้ 2. คัมภีร์วิชาเปิดโลก มารทิ้งไปแล้ว แต่พระพุทธเจ้า ก็มาสอนให้กับหลวงพ่อคง 3. คัมภีร์วิชาธรรมกาย  มารทิ้งไปแล้วเช่นกัน แต่พระพุทธเจ้า ก็มาสอนให้กับหลวงพ่อสด

ปิฎกและพระสูตรของมหายานที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนแก่ปรมาจารย์ในนิกายต่างๆของมหายาน  สงฆ์และฆราวาสที่ถูกมารสิง ต่างก็หาเรื่องใส่ร้ายว่า ตำราพวกนี้แต่งขึ้นมาเอง  โง่บัดซบจริงๆ  ในโลกนี้ไม่มีใครกล้าเขียนพระสูตรหรือปิฎกขึ้นมาเอง แล้วไปบอกว่าเป็นถ้อยคำของพระผู้มีพระภาคเจ้าหรอก  เพราะบาปใกล้ๆอนันตริยกรรม แล้วคัมภีร์ของปลอมพวกนี้  ในที่สุด จะสลายไปเอง ตามกฎแห่งกรรม

ด้วยเหตุนี้ การที่จะบอกว่า พวกที่เป็นมาร  มามารแต่งนิยายคัมภีร์ปฐมมูล หรือแต่งปิฎกและพระสูตรมหายานต่างๆ ขึ้นมาเอง เพื่อ ดิสเครดิท   หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว   จึงเป็นไปไม่ได้

แม้แต่ที่ผมเข้ามาเขียนอธิบายเรื่องราวต่างๆในพระพุทธศาสนา  ก็เป็นเรื่องประเภทมีหักหัวใจมารให้สลายทั้งนั้น  ผมมาเพื่อล้มล้างศาสนาของมารโดยเฉพาะ ผมจึงนำพระไตรปิฎก และการตีความที่ถูกต้อง เป็นสัมมาทิฏฐิมาลงโดยไม่เกรงกลัวและไม่เกรงใจมารทุกตัว




อ้างมาเสียยาวเฟื้อย
ไม่หลงสำนวนหรอกครับ
พระอรหันต์ เข้านิพพานแล้ว
พระพุทธเจ้าเข้านิพพานแล้ว
แม้แต่พระอรหันต์ด้วยกัน
ยังไม่อาจตามร่องรอยกันได้
มารก็ไม่อาจตามหาพระโคธิกะได้

ตอบข้อ 123 เรื่องสูญตวาท
เรืองกายทั้งสาม
เรื่องธรรมกาย

ตอบเพียงไม่กี่บรรทัด ก็ทำลายความเห็นยาวเปื๊อยๆ ของมารพลศักดิ์ได้


เกรงใจพระอรหันต์ ในพระไตรปิฎก
เกรงใจมารในพระไตรปิฎกบ้าง
นายเหล่านั่น คนทั่วโลก (ซึ่งไม่ได้เป้นพระอรหันต์)
นายแน่มาก
ที่ตามหาพระพุทธเจ้าเจอ


 ;D ;D ;D