[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: sometime ที่ 07 มีนาคม 2553 09:05:22



หัวข้อ: ปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 07 มีนาคม 2553 09:05:22
(http://img258.imageshack.us/img258/8182/120210.jpg)

(http://img187.imageshack.us/img187/452/045f33e1e9b0ff282efc20eid4.gif)

http://www.fungdham.com/download/sound/vorvachiramete/panyawiwat.wma

http://forums.212cafe.com/boxser/board-16/topic-45.html (http://forums.212cafe.com/boxser/board-16/topic-45.html)

การสร้างปัญญาให้เกิดขึนในครั้งแรกนั้น ต้องฝึกหัดจิตให้เป็นผู้ช่างนึกช่างคิด ต้องฝึกจิตให้เป็นนักสังเกต ให้มีเหตุมีผล ให้เป็นไปตามความเป็นจริง ฝึกวิจัย ฝึกวิเคราะห์ ฝึกคำนวณ ประมวลเหตุการณ์ต่าง ๆ มาพิจารณาให้ลงสู่ไตรลักษณ์ตามหลักความเป็นจริง การฝึกปัญญานั้น ฝึกได้ทุกกาล ฝึได้ทุกสถานที่ จะยืน เดิน นั่ง นอน ก็ฝึกได้ทั้งนั้น เช่น ขณะเดินจงกรมหรือหลังจากการทำสมาธิแล้วการฝึกปัญญาแยกออกเป็นสองทาง ทางหนึ่งคือฝึกปัญญาไปทางโลกนั้นเป็นวิธีฝึกปัญญาเพื่อสร้างสรรค์ โลก เรียกว่าปัญญาโลกีย์ ปัญญาโลกีย์นี้เป็นปัญญาประจำโลก ปัญญาประเภทนี้ไม่จำกัดเฉพาะพระพุทธศาสนาอย่างเดียว แม้ศาสนาอื่นเขาก็มีปัญญาเหมือนกัน แม้คนที่ไม่นับถือศาสนาอะไรเลย เขาก็มีปัญญาประเภทนี้ได้
ฉะนั้น การสร้างโลกทุกรูปแบบก็ต้องใช้ปัญญาโลกีย์นี้เป็นหลัก แม้การศึกษาเล่าเรียนหรือการเขียนแปลนแผนผังในการก่อสร้างต่าง ๆ ก็ต้องคิดค้น ด้วยปัญญา หาข้อมูลมาเป็นหลักวิชาการ โลกมีความเจริญด้วยวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ก็ต้องใช้ปัญญาทั้งนั้น เมื่อมีปัญญาสร้างโลกให้เจริญได้ในที่สุดก็ใช้ปัญญาคิดสร้างอาวุธนานาชนิด เพื่อครองอำนาจ ต่างคนต่างอยากมีอำนาจ ในที่สุดความเจริญของโลกก็จะเสื่อมลงเพราะปัญญาโลกีย์นั่นเองส่วนการฝึกปัญญาทางที่สองนั้น เป็นปัญญาโลกีย์ประเภทเดียวกันแต่นำมาใช้ในทางธรรม ให้พร้อมด้วยเหตุด้วยผล เพราะในโลกนี้มีสัจธรรมแฝงอยู่ทุกหนทุกแห่งถึงคนจะไม่สนใจในธรรมก็ตาม แต่ธรรมก็มีอยู่ประจำโลกมาแต่กาลไหน ๆ ฉะนั้นโลกกับธรรมยังกลมกลืนกันอยู่ ผู้ไม่เข้าใจก็ถือว่าเป็นโลกเสมอไปดังคำว่า โลกอยู่ที่ไหน ธรรมก็อยู่ที่นั้น
ฉะนั้น การพิจารณาโลกให้เป็นธรรมนี้ ขึ้นอยู่กับสติปัญญาและจิตน้อมโลกทั้งหมดลงสู่ไตรลักษณ์ เพราะโลกอยู่ที่ไหน สัจธรรมก็มีอยู่ที่นั่น ในโลกนี้จะเป็นสิ่งที่มีวิญญาณครองหรือไม่วิญญาณครองก็ตามย่อมมีสัจธรรมคือ ความจริงแฝงอยู่ตลอดเวลา คือมีสภาพความเป็นทุกข์ มีสภาพควาไม่เที่ยง มีสภาพที่สูญสลาย ไม่เป็นสัตว์และเป็นบุคคลใด ๆ ทั้งสิ้น จึงเรียกว่า สังขาร โลก สังขารธรรม
ขึ้นชื่อว่าสังขารแล้ว ย่อมเป็นสภาพที่แปรปรวน ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่มีอะไรเป็นเราเป็นเขาอยู่ตลอดเวลา คำว่าเรา คำว่าเขานั้นเป็นเรื่องอุปาทาน การสมมติเรียกกันเท่านั้น ในโลกนี้ถ้าไม่สมมติเรียกแล้วก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร และจะสับสนวุ่นวายไปหมด ฉะนั้นจึงเป็นสมมติโลก สมมติธรรม เรียกกันตามสมมติที่ตั้งขึ้น เช่น สมมติว่าเงิน ที่เราเรียกกันอย่างติดปากติดใจ แต่สภาพวัตถุที่เรียกว่าเงินนั้นไม่เหมือนกัน เช่น ในสมัยโบราณ เพียงหอยเบี้ยก็สมมติเรียกว่าเงินไปได้ หรือทองแดง ทองเหลือง ตะกั่ว เมื่อเอามาทำเป็นรูปต่าง ๆ ก็ยังเรียกว่าเงินได้ แม้แต่กระดาษก็ยังสมมติว่าเป็นเงินได้ นี้ขึ้นอยู่กับวัตถุนิยม ย่อมเป็นไปตามยุคตามสมัย จะเป็นเงินของเมืองไทยหรือเงินต่างชาติ ก็ย่อมนำเอาวัตถุธาตุที่มีอยู่ประจำโลกนี้มาสมมติเรียกกัน สมมติให้เป็นมูลค่า เป็นราคาขึ้นมา ให้เป็นกฎเกณฑ์ไปตามสมมตินั้น ๆ นี้ก็เป็นความจริงตามสมมติที่ตั้งขึ้น
ฉะนั้นโลกทั้งหมดนี้จึงเป็นโลกสมมติ แม้แต่บ้านทีสร้างขึ้นมาแล้วก็สมมติว่าทรงนั้นทรงนี้ ตลอดจนอาหาร เครื่องบริโภค และเครื่องอุปโภค ก็สมมติเรียกกันทั้งนั้น หรือแม้แต่ชื่อของคนและสัตว์ก็ยังสมมติเรียกกัน แม้ธาตุขันธ์ของคนก็ยังเรียกธาตุนั้นธาตุนี้ แม้ธาตุขันธ์แปรปรวนเปลี่ยนสภาพไปอย่างไรก็สมมติไปอย่างนั้น ถึงธาตุขันธ์มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็สมมติเรียกกันให้ถูกกับความเป็นจริง เรียกว่า จริงสมมติ..................


............................. คำอนุโมทนา.................................


คำแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลแด่ ดวงวิญญาณไร้ญาติ……….
สัพเพสัตตา(สพสตตา)สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิด - แก่ เจ็บตายด้วยกันทั้งสิ้น อเวรา จงเป็นสุขเป็นสุขเถิดอย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย
ข้าแต่.....องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระไต้ฮงกง องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม องค์ยมบาล ท่านยี่กอฮง
ข้าพเจ้า .....................................................................................(บอกชื่อ - นามสกุลของตัวเอง)
ขออุทิศส่วนบุญกุศลแด่ดวงวิญญาณไร้ญาติขาดมิตร ผู้ล่วงลับและเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายขอบารมีจากทุกพระองค์จงบันดาลให้เกิดผล เป็นเนื้อนาบุญหนุนเนื่องต่อตัวข้าพเจ้าเพื่อประโยชน์และความสุขตลอดจนถึง ครอบครัววงศ์ตระกูลญาติสนิทมิตรสหาย ครูบาอาจารย์ จงประสบแต่ความโชคดีมีสุขคิดสิ่งใดขอให้สมมาดปรารถณา ขอให้พบพานแต่สิ่งที่ดีชีวิตมีแต่ความสว่างรุ่งโรจน์ รุ่งเรือง เจริญในหน้าทีการงานชื่อเสียงลาภยศ สรรเสริญ ศัตรูคิดร้ายขอให้พ่ายแพ้เป็นมิตรทำมาค้าขึ้น ร่ำรวยเงินทอง อยู่เย็นเป็นสุข โรคภัยไม่เบียดเบียนแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งหลาย - ทั้งปวงด้วยเทอญ..........สาธุ..........สาธุ........สาธุ……………………………
หนังสืออีเล็คโทรนิค ชุดนี้จัดทำขึ้นสำหรับผู้ที่สนใจใฝ่หาศึกษาธรรม ถ้าผู้ใดได้ไป กรุณาพิมพ์แจกต่อ ๆ ไปเพื่อเป็นธรรมทานและเป็นการสร้างกุศลบารมี ขออนุโมทนาด้วย ณ...................โอกาสนี้



หัวข้อ: Re: ปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 07 มีนาคม 2553 09:39:24


(:-_-:) จริงสมมุติ.. สาธุๆๆ อนุโมทนาสาธุธรรมทานค่ะ

(http://i18.photobucket.com/albums/b121/nature-delight/HOME%20AND%20GARDEN-4/FLOWER%20AND%20GARDEN%20SHOW-1/030.jpg)

ขอให้ ชื่นบาน เฉก ดอกบานชี่น นะคะ... ด้วยรัก...


หัวข้อ: Re: ปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 08 พฤษภาคม 2555 15:23:32
(http://2.bp.blogspot.com/-rzJWXTEEXhg/T6DPVT1AEpI/AAAAAAAAEnM/AyzDEk5P2CA/s1600/%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B9.jpg)

ส่วนอันนี้ปัญญาเรณู
 ;D


หัวข้อ: Re: ปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 08 พฤษภาคม 2555 15:31:51
(http://2.bp.blogspot.com/-rzJWXTEEXhg/T6DPVT1AEpI/AAAAAAAAEnM/AyzDEk5P2CA/s1600/%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B9.jpg)

ส่วนอันนี้ปัญญาเรณู
 ;D

แหม......ดี  (:LOVE:) จัง คุณต้นไม้ ช่วยดันกระทู้ขึ้นมาอก 1 กระทู้

(:LOVE:) (:LOVE:) (:LOVE:)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=19987.0;attach=1169;image)