มองศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์พะเยา (1) สำรวจเบื้องต้น ความเป็นไปได้ “ซอฟต์พาวเวอร์พะเยา”
<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-03-20 22:56</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>กมลชนก เรือนคำ</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><div class="note-box">
<p>ชุดบทความนี้อยู่ภายใต้โครงการจัดการทุนทางวัฒนธรรมด้วยพันธกิจที่ 4 ของมหาวิทยาลัยพะเยา เพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนและสำนึกท้องถิ่นของชุมชนวัฒนธรรมระเบียงกว๊านพะเยา</p>
</div>
<p><strong>“ซอฟต์พาวเวอร์” คืออะไร</strong></p>
<p>ไม่กี่ปีมานี้การพูดถึง “ซอฟต์พาวเวอร์” (Soft power) ในสังคมไทยถือเป็นเป็นปรากฎการณ์สำคัญอย่างหนึ่ง จนถึงขั้นที่ว่าพรรคการเมืองหลายพรรคได้บรรจุเรื่องนี้เข้าไปในนโยบาย และหลังการเลือกตั้งปี 2566 พรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ได้ผลักดันเรื่องซอฟต์พาวเวอร์นี้ให้เป็นรูปธรรม</p>
<p>ในงานวิจัย “ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายยุทธศาสตร์ Soft Power ของไทย” จากชุดโครงการ “จับตาอาเซียน” (ASEAN Watch) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้ให้นิยามว่า ซอฟต์พาวเวอร์ (อำนาจละมุน หรือ อำนาจแบบอ่อน) หมายถึง อำนาจในการชักจูงหรือโน้มน้าวประเทศอื่นให้ปฏิบัติตามที่ตนประสงค์ โดยการสร้างเสน่ห์ ภาพลักษณ์ ความชื่นชม และความสมัครใจพร้อมที่จะร่วมมือกันต่อไป อำนาจแบบนี้จะได้รับการยอมรับมากกว่าอำนาจแบบแข็ง (hard power) หรืออำนาจเชิงบังคับอย่างอำนาจทางทหาร โดยองค์ประกอบ soft power มักมาจากทรัพยากรสำคัญ 3 ประการ วัฒนธรรม (culture) ค่านิยม (values) และนโยบายต่างประเทศ (foreign policy)</p>
<p>ในบทความของชำนาญ จันทร์เรือง (2564) ชี้ว่า ซอฟต์พาวเวอร์ เป็นแนวคิดที่ได้รับการพัฒนาโดย Joseph S. Nye ศาสตราจารย์ทางรัฐศาสตร์จากสถาบันจอห์น เอฟ เคเนดี มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่มีประสบการณ์ทั้งในวงวิชาการและวงการเมือง เพราะเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาเมื่อครั้งที่บิล คลินตัน เป็นประธานาธิบดี ซึ่งเขาได้พัฒนาแนวคิดนี้ร่วมกับ Robert Keohane โดยได้เขียนหนังสือ Power and Interdependence ตั้งแต่ปี 1977 มาแล้ว ซึ่งบริบทแตกต่างจากปัจจุบันนี้มาก โดยหากนิยามแบบแคบ ๆ ก็คือ ซอฟต์พาวเวอร์ หมายถึงอํานาจในการชักจูงหรือโน้มน้าวประเทศอื่นให้ปฏิบัติตามที่ตนประสงค์ โดยการสร้างเสน่ห์ ภาพลักษณ์ ความชื่นชม และความสมัครใจ พร้อมที่จะร่วมมือกันต่อไป อํานาจในลักษณะนี้จะได้รับการยอมรับมากกว่าการออกคำสั่งโดยใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญ หรืออํานาจเชิงบังคับอย่างอํานาจทางทหาร ที่เรียกว่าฮาร์ดพาวเวอร์ (hard power) ซึ่งในกรณีของสหรัฐอเมริกาจะเห็นได้ว่ามีทรัพยากรเชิงซอฟต์พาวเวอร์ ที่เข้มแข็ง อาทิ วัฒนธรรมที่เสนอผ่านภาพยนตร์ฮอลลีวูด ค่านิยมประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ตลอดจนการค้าเสรี เป็นต้น ส่วนหากจะนิยามแบบกว้าง ๆ ซอฟต์พาวเวอร์ก็คืออำนาจโดยปราศจากกำลังทางทหาร (Non-military power) ไม่ว่าจะเป็นอำนาจทางวัฒนธรรม ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ซอฟต์ พาวเวอร์คืออิทธิพลทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อพฤติกรรม ความนิยมชมชอบ มุมมอง แนวคิดของผู้คน และมีส่วนดึงดูดให้ผู้คนเหล่านั้นรู้สึกมีส่วนร่วมกับวัฒนธรรมของอีกประเทศหนึ่งได้</p>
<p>ส่วนในงานศึกษาของพิมพาภรณ์ บุญประเสริฐ (2566) หมายถึง ความสามารถที่จะได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการโดยการชักจูง โน้มน้าวให้คนอื่นคล้อยตามความประสงค์ของเรา โดยคำนี้นำมาใช้ในทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่ออรรถาธิบายศักยภาพทางการเมืองของรัฐนั้น ๆ ที่ส่งอิทธิพลโดยทางอ้อมต่อพฤติกรรมหรือความสนใจของรัฐอื่น ๆ ผ่านการเผยแพร่ทางวัฒนธรรมหรือความคิด ซอฟต์พาวเวอร์จึงเป็นอำนาจในการชักจูงมิใช่บังคับเพื่อให้ผู้รับสารเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านการดำเนินชีวิต ความเชื่อ ความเกรงกลัว การบริโภค การแต่งกายประเด็นสำคัญของซอฟต์พาวเวอร์จึงประกอบไปด้วย 3 เสาหลัก คือ วัฒนธรรม คุณค่าทางการเมืองหรืออุดมการณ์ประชาธิปไตย และนโยบายการต่างประเทศ ซึ่งเป็นมุมมองทางรัฐศาสตร์ในบริบทหลังสงครามเย็น ทว่าซอฟต์พาวเวอร์ยังมีนิยามอื่นและมีบทบาทขยายไปยังมิติทางเศรษฐกิจ สะท้อนผ่านปรากฏการณ์ “คลื่นเกาหลี” (Korea Wave/ Hallyu) ที่เริ่มต้นปลายทศวรรษ 1990 และ “ญี่ปุ่นเท่” (Japan Cool) ที่เกิดขึ้นในปี 2002 เพื่อตีโต้กระแสวัฒนธรรมเกาหลี กล่าวคือการทำให้ประเทศอื่นยอมรับวัฒนธรรมของเขา ไปเสพ ไปใช้ แล้วกลายเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ในที่สุด จึงอาจกล่าวได้ว่าจากมุมมองเรื่องการเมือง สังคม วัฒนธรรม ซอฟต์พาวเวอร์มีความสำคัญในทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นตามลำดับอย่างไรก็ตาม แม้ว่าการนิยามความหมายของซอฟต์พาวเวอร์จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน กล่าวคือ หมายถึง วัฒนธรรม วิถีชีวิต ในบางวัฒนธรรมอาจหมายรวมถึงศิลปะความบันเทิง ดนตรี ภาพยนตร์ แต่ในรายละเอียดอาจมีการให้คำอธิบายที่แตกต่างกันไป</p>
<p>ในงานศึกษาชิ้นนี้ของพิมพาภรณ์ ยังได้วิเคราะห์นิยามความหมายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไว้ว่าอาจหมายถึง “ต้นทุนทางวัฒนธรรมที่พัฒนาคนพัฒนาชาติสู่ระดับโลก ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นไทย อันจะนำมาซึ่งรายได้ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยมีรัฐบาลเป็นผู้ขับเคลื่อนด้วยการสร้างให้มีหรือกำหนดให้เป็น” ในความเข้าใจของประชาชนผ่านสารที่รัฐบาลนำเสนอ ซอฟต์พาวเวอร์จึงมิใช่เป็นเพียงอำนาจละมุนที่ดึงดูด “คนนอก” มิใช่เป็นเพียง “เสน่ห์” หรือการ “บริหารเสน่ห์” ที่ประเทศไทยมีอยู่เดิม หากแต่มีนัยเรื่องอำนาจต่อ “คนใน” ผ่านการคัดเลือก สร้าง และพัฒนาทักษะที่เกี่ยวกับซอฟต์พาวเวอร์ของไทย</p>
<p>ส่วน THACCA (Thailand Creative Content Agency) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานหลักที่มีภารกิจในการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ได้ให้คำนิยามซอฟต์พาวเวอร์ว่าคือ “การใช้อิทธิพลทางวัฒนธรรม การทำให้คนมีส่วนร่วม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การเปลี่ยนแปลงทางความคิด ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงเรื่องการเมือง การปกครอง นโยบายสาธารณะ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เกิดขึ้นได้กับผู้คนทุกชนชั้น และสังคมการเมืองทุกรูปแบบ ทั้งยังแฝงอยู่ในกิจกรรมต่าง ๆ และเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของสังคม”</p>
<p><strong>ส่องยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย</strong></p>
<p>ดังที่ได้กล่าวไปว่ารัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ได้พยายามผลักดันเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ให้เป็นรูปธรรม โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ขึ้นมาขับเคลื่อน โดยในเดือนตุลาคม 2566 ได้มีการเปิดเผยแนวทางการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยอย่างบูรณาการ โดยมีเป้าหมายขับเคลื่อนโครงการ แผนงาน และมาตรการต่าง ๆ ที่มีผลกระทบสูง ผ่านคอนเทนต์ 11 อุตสาหกรรม Soft power เป้าหมายของประเทศไทย โดยจะต้องเพิ่มความเข้มข้นในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมในทุกสาขาที่เกี่ยวข้อง โดยได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการ 11 ด้าน 12 คณะ ได้แก่ แฟชั่น หนังสือ ภาพยนตร์ ละครและซีรีส์ เฟสติวัล อาหาร ออกแบบ ท่องเที่ยว เกม ดนตรี ศิลปะ และกีฬา ต่อมาที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้เห็นชอบในหลักการตามข้อเสนอแผนงานโครงการภายใต้ทั้ง 11 สาขาในเบื้องต้นแล้วจำนวน 54 โครงการ กรอบวงเงิน 5,164 ล้านบาท</p>
<p>นอกจากนี้ยังจะมีการเร่งขับเคลื่อน 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ หรือ One Family One Soft Power (OFOS) และ Thailand Creative Content Agency (THACCA) มีเป้าหมายยกระดับทักษะคนไทยจำนวน 20 ล้านคน สู่การเป็นแรงงานทักษะขั้นสูงและแรงงานสร้างสรรค์ และจะสามารถสร้างรายได้อย่างน้อย 4 ล้านล้านบาทต่อปี สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านชอฟต์พาวเวอร์ของโลก สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายตามตามนโยบาย OFOS และ THACCA ได้แบ่งขั้นตอนการดำเนินการเป็น 3 ขั้น ได้แก่</p>
<p>ขั้นที่ 1 การพัฒนาคนผ่านกระบวนการส่งเสริมบ่มเพาะศักยภาพ โดยจะเฟ้นหาคนที่มีความฝันและอยากทำความฝันนั้นให้เป็นจริง ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ จำนวน 20 ล้านคน จาก 20 ล้านครัวเรือน โดยให้แจ้งลงทะเบียนกับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อบ่มเพาะผ่านศูนย์บ่มเพาะทักษะสร้างสรรค์ ทั้งด้านทำอาหาร ฝึกมวยไทย วาดภาพศิลปะ ฝึกการแสดง ร้องเพลง ออกแบบ แฟชั่น ฝึกแข่ง e-sport และอื่น ๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย</p>
<p>ขั้นที่ 2 การพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์สาขาต่าง ๆ ภายในประเทศ 11 สาขา ได้แก่ อาหาร, กีฬา, เฟสติวัล, ท่องเที่ยว, ดนตรี, หนังสือ, ภาพยนตร์, เกม, ศิลปะ, การออกแบบ, แฟชั่น กำหนดให้เป็นหน้าที่ขององค์กร THACCA ที่จะถูกจัดตั้งขึ้นในอนาคต โดยจะดำเนินการปรับแก้กฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ ที่ไม่สอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป สร้าง One Stop Service อำนวยความสะดวกในการดำเนินการของอุตสาหกรรมชอฟต์พาวเวอร์ต่าง ๆ พร้อมกับการสนับสนุนเงินทุนวิจัยและพัฒนา การสร้างแรงจูงใจด้านภาษี การทลายกรอบบรรทัดฐานเดิมเพื่อให้เสรีภาพแก่ความคิดสร้างสรรค์ เปิดพื้นที่สาธารณะให้มากขึ้น ให้ทุกคนสามารถแสดงผลงานได้อย่างไร้ขีดจำกัดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งจะมีการจัดตั้งศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบหรือ TCDC ในทุกจังหวัด มีการเพิ่มพื้นที่สำหรับ Co-Working Space ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร เพื่อส่งเสริมบรรยากาศการเรียนรู้ การพบปะกันเพื่อริเริ่มไอเดียสร้างสรรค์ และต่อยอดกลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างมั่นคงตั้งแต่ระดับภูมิภาค ไปจนถึงระดับประเทศ</p>
<p>ขั้นที่ 3 การนำอุตสาหกรรมชอฟต์พาวเวอร์รุกสู่เวทีโลก จะเดินหน้าผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศสู่ระดับสากลด้วยการทูตเชิงวัฒนธรรม หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ จะร่วมมือกับภาคเอกชนนำซอฟต์พาวเวอร์ของไทยเผยแพร่สู่ตลาดโลกผ่านยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนด้วยการวิจัยข้อมูลเชิงพฤติกรรม กลยุทธ์การสื่อสาร และการร่วมจัดกิจกรรมในระดับภูมิภาคและระดับโลก ซึ่งสามารถทำได้ทั้งที่เป็นกิจกรรมระดับโลกซึ่งจัดภายในประเทศ และการนำซอฟต์พาวเวอร์ศักยภาพสูงเข้าร่วมกิจกรรมระดับโลกในต่างประเทศ</p>
<table class="MsoTableGrid" style="border-collapse:collapse; border:solid windowtext 1.0pt">
<tbody>
<tr>
<td style="border:solid windowtext 1.0pt; width:450.8pt; padding:0in 5.4pt 0in 5.4pt" valign="top" width="601">
<p><strong>นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์</strong> หรือ One Family One Soft Power (OFOS) และ Thailand Creative Content Agency (THACCA) ของพรรคเพื่อไทย</p>
<p>ก่อนหน้าการเลือกตั้งปี 2566 พรรคเพื่อไทยได้เสนอนโยบาย "1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ หรือ One Family One Soft Power (OFOS) และ Thailand Creative Content Agency (THACCA)" โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้</p>
<p><strong>นโยบาย One Family One Soft Power</strong></p>
<p>ส่งเสริมผลักดันซอฟท์พาวเวอร์ไทยไปทั่วโลกโดยเริ่มต้นจากการ “พัฒนาคน” (นโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power) โดยจะเฟ้นหาศักยภาพของคนไทยทุกครอบครัว อย่างน้อยครอบครัวละ 1 คน เพื่อนำมาส่งเสริมบ่มเพาะศักยภาพ ผ่าน “ศูนย์บ่มเพาะทักษะสร้างสรรค์” ที่จะมีในทุกระดับตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ไปจนถึงระดับประเทศ ให้ทุกคนสามารถเข้ามาเรียนรู้เพื่อเพิ่มทักษะสร้างสรรค์ของตัวเองในทุกด้าน ไม่ว่าทักษะด้านการทำอาหาร ร้องเพลง ออกแบบ ศิลปะ กีฬา และอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ จะ “ไม่เสียค่าใช้จ่าย” เพื่อสร้างแรงงานทักษะสูง 20 ล้านคน ที่มีรายได้อย่างน้อย 200,000 บาทต่อปี</p>
<p>นอกจากสร้างคนแล้ว เราจะ “สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง” เพื่อรองรับแรงงานทักษะสูง โดยจะสนับสนุนทุกอุตสาหกรรมซอฟท์พาวเวอร์ ผ่านการปลดปล่อยเสรีภาพ ปลดล็อคกฎหมาย ทลายทุกอุปสรรค สนับสนุนเงินทุน ขยายการส่งออกผ่านนโยบายต่างประเทศ โดยมี “THACCA” (Thailand Creative Content Agency) ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จและงบประมาณที่เพียงพอทำหน้าที่สร้างระบบนิเวศทั้งหมดเพื่อสร้างอุตสาหกรรมซอฟท์พาวเวอร์ไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด</p>
<p>นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟท์พาวเวอร์ จะยกระดับทักษะคนไทยให้เป็นแรงงานทักษะสูง 20 ล้านคน สร้างรายได้อย่างน้อย 200,000 บาทต่อปี สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง สร้างอุตสาหกรรมให้เติบโต สร้างเงินเข้าประเทศมหาศาล และสร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศชั้นนำของโลกด้านซอฟท์พาวเวอร์</p>
<p>THACCA เพื่อ “ซอฟต์พาวเวอร์ไทย” เพื่อไทยจะทำอะไรบ้าง?</p>
<p>การผลักดัน Soft Power ไทยจะเป็นจริงได้ ต้องทำทั้งระบบด้วยการ “สร้างแรงงานทักษะสูง 20 ล้านคน” ด้วยนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power (OFOS) และต้อง “สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง” ด้วยเจ้าภาพหลัก คือ Thailand Creative Content Agency (THACCA) ที่จะดูแล Soft Power อย่างเป็นระบบ ครบวงจร</p>
<p><strong>THACCA จะทำอะไรบ้าง เพื่อผลักดัน Soft Power ไทยอย่างครบวงจร</strong></p>
<p>1. THACCA ดูทั้งระบบ จบที่เดียว เป็นเจ้าภาพหลัก ดูทั้งระบบเบ็ดเสร็จองค์กรเดียว ไม่ต้องประสานงานวิ่งหลายหน่วยงาน</p>
<p>2. กองทุนรวมซอฟต์พาวเวอร์ รวมกองทุนที่กระจัดกระจายในหลายหน่วยงานให้อยู่ภายใต้การดูแลของ THACCA และเติมทุนให้ทุกสาขาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ลดหย่อนภาษีสร้างแต้มต่อให้รายเล็กและรายใหม่</p>
<p>3. ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ขยาย TCDC ครบทุกจังหวัด เพิ่ม Co-Working Space สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร เชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวด้วยระบบขนส่งมวลชน และลงทุนถนน ราง เรือ ขยายสนามบิน</p>
<p>4. ยกระดับคนทำงานด้วย 1 ครอบครับ 1 ซอฟต์พาวเวอร์ (OFOS) สร้างศูนย์บ่มเพาะเพื่อยกระดับศักยภาพสร้างสรรค์ทุกพื้นที่ เรียนฟรีมีเงินเดือนผ่านการเรียนไปทำงานไป สนับสนุนให้ตั้งสหภาพคนทำงานในทุกสาขา เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการจ้างงานและคุ้มครองสวัสดิการ</p>
<p>5. รื้อกฎหมาย ทลายอุปสรรค เลิกงานเอกสาร ลดขั้นตอน ลัดเวลา ในการประสานงานและขอใบอนุญาตทุกฉบับ แก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรค ปลดล็อคสุราเสรี ปลดล็อคเวลาเปิดปิดธุรกิจกลางคืน กวาดล้างขบวนการรีดไถ่จ่ายส่วนให้หมดไป</p>
<p>6. ปลดปล่อยเสรีภาพในการแสดงออก เลิกเซนเซอร์ เปิดพื้นที่แสดงออก ไม่ตีกรอบความคิดสร้างสรรค์</p>
<p>7. เร่งผลักดัน 8 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์เป้าหมาย (ศิลปะร่วมสมัย, งานออกแบบ งานฝีมือ และแฟชั่น, การท่องเที่ยว, กีฬา, อาหาร, ภาพยนตร์, หนังสือ, ดนตรี, เฟสติวัล) เร่งส่งออกสินค้าสร้างสรรค์ เจรจาเปิดตลาดใหม่ ขยายขนาดอุตสาหกรรม สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง</p>
</td>
</tr>
</tbody>
</table>
<p><strong>สำรวจตรวจตราเบื้องต้น ความเป็นไปได้ “ซอฟต์พาวเวอร์พะเยา”</strong></p>
<p>พะเยาเป็นเมืองมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาเก่าแก่ เดิมชื่อว่า “พยาว” หรือ “ภูกามยาว” เป็นเมืองเก่าแก่ในแคว้นล้านนา ตั้งอยู่เชิงเขาชมพูหรือดอยด้วน ใกล้แม่น้ำสายตาหรือแม่น้ำอิง ตั้งขึ้นพุทธศตวรรษที่ 16 ประมาณปี พ.ศ.1638 โดยพ่อขุนจอมธรรม กษัตริย์แห่งราชวงศ์ลั๊วะจักราช และเจริญรุ่งเรืองพร้อมกับกรุงสุโขทัย</p>
<p>พุทธศตวรรษที่ 18 สมัยพ่อขุนงำเมืองเป็นกษัตริย์ เมืองพะเยามีความเจริญมาก มีฐานะเป็นเมืองเอก เรียกว่า “อาณาจักรพยาว” ต่อมาพะเยาถูกยึดครองและตกเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านนาของราชวงศ์เม็งราย (พ.ศ. 1877-1879)</p>
<p>ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 21 พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา โปรดให้พระยายุทธิษฐิระ อดีตเจ้าเมืองสองแคว ผู้มีเชื้อพระวงศ์สุโขทัย ให้มาเป็นเจ้าครองเมือง เมืองพะเยามีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดทางศิลปะและวิทยาการ จากนั้นค่อยๆ เสื่อมลง ในปี พ.ศ. 2101 พม่ายึดครองอาณาจักรล้านนาและปกครองล้านนาอยู่ 200 ปีจวบจนปี พ.ศ. 2317 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรียึดเมืองเชียงใหม่สำเร็จ และโปรดให้พระเจ้ากาวิละครองเมืองลำปาง และยึดครองล้านนาบางส่วนรวมทั้งเมืองพะเยาคืนมาได้ </p>
<p>พ.ศ. 2330 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พม่ายกทัพมารุกรานหัวเมืองฝ่ายเหนือรวมทั้งเมืองพะเยา ประชาชนต้องอพยพไปอยู่เมืองลำปาง ทำให้เมืองพะเยาร้างไปเป็นเวลานานถึง 50 ปี </p>
<p>พ.ศ. 2386 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 3 ทรงโปรดให้เจ้าหลวงวงศ์นำชาวเมืองพะเยามาจากเมืองลำปางแล้วฟื้นฟูเมืองพะเยาขึ้นมาใหม่ ให้เมืองพะเยาเป็นเมืองขึ้นของเมืองลำปางจากนั้น เมืองพะเยามีเจ้าผู้ครองเมืองต่อมาอีกหลายองค์ เจ้าผู้ครองเมืององค์สุดท้ายคือ พระยาประเทศอุดรทิศ (เจ้าหนานไชยวงศ์ ศีติสาร)</p>
<p>พ.ศ. 2437 - 2449 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5 โปรดให้ปฏิรูปการปกครองจากแบบเดิม เป็นการปกครองแบบ “มณฑลเทศาภิบาล” เมืองพะเยา ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลลาวเฉียง (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นมณฑลพายัพ) และยุบให้มีฐานะเป็น “อำเภอเมืองพะเยา” แล้วให้เจ้าอุปราชมหาชัย ศีติสาร รักษาการในตำแหน่งเจ้าเมืองพะเยา</p>
<p>พ.ศ.2457 มีการเปลี่ยนระบบการปกครองใหม่ทำให้เมืองพะเยาเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงราย </p>
<p>และเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง “จังหวัดพะเยา” ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดพะเยา ให้ไว้ ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2520 โดยจังหวัดพะเยาประกอบด้วยอำเภอ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา อำเภอจุน อำเภอเชียงคำ อำเภอเชียงม่วน อำเภอดอกคำใต้ อำเภอปง และอำเภอแม่ใจ</p>
<p>จากอดีตอันยาวนานจวบจนถึงปัจจุบัน พะเยาได้สะสมความโดดเด่นและความหลากหลายทางวัฒนธรรมไว้อย่างมากมาย กลายเป็นทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ที่สามารถนำไปพัฒนาศักยภาพตามแนวนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ได้</p>
<p>เมื่อพิจารณาซอฟต์พาวเวอร์ 11 สาขา ที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะผลักดัน ซึ่งได้แก่ อาหาร, กีฬา, เฟสติวัล, ท่องเที่ยว, ดนตรี, หนังสือ, ภาพยนตร์, เกม, ศิลปะ, การออกแบบ, แฟชั่น นั้นผู้เขียนได้ลองสำรวจตรวจตราและจัดหมวดตัวอย่างคร่าว ๆ โดยใช้ข้อมูลจากสำนักสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพะเยา เน้นในหมวด อาหาร, เฟสติวัล, ท่องเที่ยว และการออกแบบ ได้ดังนี้</p>
<table class="MsoTableGrid" style="border-collapse:collapse; border:solid windowtext 1.0pt">
<tbody>
<tr>
<td colspan="4">
<p><strong>ตารางแสดงตัวอย่างทุนทางวัฒนธรรมที่สามารถพัฒนาเป็นซอฟพาวเวอร์ 4 ด้านของพะเยา</strong></p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p><strong>อาหาร</strong></p>
</td>
<td>
<p><strong>เฟสติวัล</strong></p>
</td>
<td>
<p><strong>ท่องเที่ยว</strong></p>
</td>
<td>
<p><strong>ออกแบบ</strong></p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ปลาส้ม (อ.เมือง)</p>
<p>ถั่วเน่า (อ.เมือง)</p>
<p>ข้าวส้ม (อ.เชียงคำ)</p>
<p>แอ่งแถะ (อ.เชียงม่วน)</p>
<p>ลาบ (ทุกอำเภอในจังหวัดพะเยา)</p>
<p>ตำเตา (อ.เมือง)</p>
<p>ขนมจีนยายหม่อม (อ.เมือง)</p>
<p>น้ำปู (อ.เมือง)</p>
<p>กะละแมโบราณ (อ.เชียงคำ)</p>
<p>ไส้อั่ว (อ.เมือง)</p>
<p> </p>
</td>
<td>
<p>งานสืบสานตำนานไทลื้อ (อ.เชียงคำ)</p>
<p>ฟ้อนผีมด-ผีเม็ง (อ.เมือง)</p>
<p>ตักบาตรชายแดนไทยลาว (อ.ภูซาง)</p>
<p>ปีใหม่เมี่ยน</p>
<p>เวียนเทียนกลางกว๊าน (อ.เมือง)</p>
<p>ประเพณีตานข้าวสังฆ์ดิบ</p>
<p>งานสถาปนาจังหวัดพะเยา</p>
<p>ประเพณีแปดเป็งไหว้สาปูจาพระเจ้าตนหลวง</p>
<p>ประเพณีตานตุงไทลื้อ (อ.เชียงคำ)</p>
<p>ประเพณีปู่จาพญาลอ</p>
</td>
<td style="border-bottom:solid windowtext 1.0pt; width:112.7pt; border-top:none; border-left:none; border-right:solid windowtext 1.0pt; padding:0in 5.4pt 0in 5.4pt" valign="top" width="150">
<p>กว๊านพะเยา (อ.เมือง)</p>
<p>อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง (อ.เมือง)</p>
<p>เฮินไตลื้อแม่แสงดา (อ.เชียงคำ)</p>
<p>อุทยานแห่งชาติ (อ.ภูซาง)</p>
<p>วนอุทยานภูลังกา (อ.ปง)</p>
<p>ผาช้างน้อย (อ.ปง)</p>
<p>หนองเล็งทราย (อ.แม่ใจ)</p>
<p>เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ (อ.จุน)</p>
<p style="margin-top:12.0pt; margin-right:0in; margin-bottom:12.0pt; margin-left:0in; margin:0in"> </p>
</td>
<td>
<p>ผ้าทอไทลื้อ (อ.เชียงคำ อ.เชียงม่วน)</p>
<p>ตุ๊กตาไทลื้อ (อ.เชียงคำ)</p>
<p>ตะแหลว (อ.เชียงคำ)</p>
<p>กระเป๋าผักตบชวา (อ.เมือง)</p>
<p>มีดบ้านร่องไฮ (อ.เมือง)</p>
<p>ผ้ามัดหมี่ลายขอ (อ.ปง)</p>
<p>แก้วไวน์จากกะลามะพร้าว (อ.เมือง)</p>
<p> </p>
</td>
</tr>
</tbody>
</table>
<p><strong>จากตัวอย่างที่ยกมา จะเห็นได้ว่าจังหวัดพะเยาเองก็มีของดีประจำถิ่นอยู่มากมายหลากหลายในอำเภอต่าง ๆ และบางอย่างได้รับการยกย่องเชิดชูแล้ว บางอย่างก็รอการพัฒนาศักยภาพ ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายว่าจะทำอย่างไรในการพัฒนาทุนทางวัฒนธรรมเหล่านี้ให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของจังหวัดพะเยา </strong></p>
<p><strong>โดยในตอนต่อไปของบทความชุดนี้จะขอลงในรายละเอียดตัวอย่างไอเดียการสร้างซอฟต์พาวเวอร์จากต้นทุนทางวัฒนธรรมที่เด่น ๆ ของจังหวัดพะเยา.</strong></p>
<p style="margin-top:12.0pt; margin-right:0in; margin-bottom:12.0pt; margin-left:0in; margin:0in"> </p>
<p><strong>ข้อมูลประกอบการเขียน</strong></p>
<p>
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพะเยาโครงการแผนที่ทุนทางสังคมจังหวัดพะเยาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายยุทธศาสตร์ Soft Power ของไทย, ชุดโครงการ “จับตาอาเซียน” (ASEAN Watch) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.), ตุลาคม 2561ชำนาญ จันทร์เรือง: ซอฟต์พาวเวอร์ (soft power) คือ อะไร?, ประชาไท, 28 ตุลาคม 2564มรดกวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์: SOFT POWER เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน, หน่วยข้อมูลและสำนักงานผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.), ธันวาคม 2564"ไส้อั่ว" สูตรดั้งเดิม จ.พะเยา อีกหนึ่ง ซอฟต์ พาวเวอร์ ขายดีของทุกวัน, คมชัดลึก, 5 มิถุนายน 2565ปลาส้มไร้ก้างแม่ทองปอน จ.พะเยา มรดกภูมิปัญญากว่า 100 ปี ซอฟต์พาวเวอร์ที่ไปสร้างชื่อหลายประเทศ, ผู้จัดการออนไลน์, 16 มีนาคม 2566นายกฯ ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาตินัดแรก มอบ “แพทองธาร” เป็นประธานเดินหน้าขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ กำชับหน่วยงานรัฐและเอกชน เตรียมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว, เว็บไซต์รัฐบาลไทย, 3 ตุลาคม 2566กรมวิชาการเกษตร ขับเคลื่อนตามนโยบาย รมว.เกษตรฯ นำร่องพัฒนา 5 สาขา "พะเยาโมเดล", ไทยรัฐ, 6 พฤศจิกายน 2566ททท.เชียงราย ผนึกทุกภาคส่วนเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวภายใต้แคมเปญ“สุขทันที...ที่เที่ยวพะเยา”คาดรายได้กว่า 3,000 ล้านบาท, ฐานเศรษฐกิจ, 11 ธันวาคม 2566วาทกรรมซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของรัฐบาลไทย, พิมพาภรณ์ บุญประเสริฐ, วิวิธวรรณสารปีที่ 7 ฉบับที่ 3 (กันยายน - ธันวาคม) 2566เปิดงบฯ Soft Power ทั้ง 11 สาขา 54 โครงการ กว่า 5 พันล้านบาท, Rocket Media Lab, 5 มกราคม 2567</p>
<p style="margin-top:12.0pt; margin-right:0in; margin-bottom:12.0pt; margin-left:0in; margin:0in"> </p>
<p style="margin-top:12.0pt; margin-right:0in; margin-bottom:12.0pt; margin-left:0in; margin:0in"> </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">บทค
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/03/108509