[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4 => ข้อความที่เริ่มโดย: sometime ที่ 03 กรกฎาคม 2553 09:29:34



หัวข้อ: สติปัฏฐาน
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 03 กรกฎาคม 2553 09:29:34
(http://www.seesod.com/storage34/udvI1AoihV1278059674/o.jpg)

http://www.fungdham.com/download/song/allhits/20.wma

(http://i950.photobucket.com/albums/ad348/namoyts07/TINH%20LUU%20LY%20THE%20GIOI/khungdanhhieupsd.gif)


(http://i950.photobucket.com/albums/ad348/namoyts07/TINH%20LUU%20LY%20THE%20GIOI/12249c611f93b0772psd.gif)


เรื่องของการเจริญสติปัฏฐาน

เป็นเรื่องที่ละเอียดมากและซับซ้อนมาก

โดยเฉพาะเรื่องของ

จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐานซึ่งเป็น

การระลึกรู้ลักษณะของจิต

ที่เป็นปกติในชีวิตประจำวัน

ถ้า(สติ)ไม่เกิดขึ้น + ไม่ระลึกรู้ + ลักษณะของจิต

ซึ่งเป็นไปในวันหนึ่ง ๆ

ก็จะไม่ทราบเลยว่าแต่ละท่านสะสม

พอกพูนกิเลสเอาไว้มากมายแค่ไหน

ถ้า(สติ)เกิดขึ้น + ระลึกรู้ + ลักษณะของจิต

ซึ่งเป็นไปในวันหนึ่ง ๆ

ก็จะทราบได้ว่าในวันหนึ่ง ๆ กุศลมาก หรือ อกุศลมาก

ทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ทางใจ

ทุก ๆ ขณะที่เห็นได้ยินได้กลิ่นลิ้มรส

รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส และ คิดนึก

ถ้า(สติ)ระลึกรู้ ลักษณะของจิตที่กำลังเห็นในขณะนี้

สภาพธรรมที่เห็น คือ สิ่งที่กำลังปรากฏทางตา

นี่คือจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน

ระลึกรู้ลักษณะของจิต + ทางทวารทั้ง ๖ ในวันหนึ่ง ๆ

บางท่านอาจคิดนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ได้ มากมายหลายเรื่อง

บางท่านกล่าวว่าเวลาที่ฟังรายการธรรมะทางวิทยุ

พอฟังไปได้หน่อยหนึ่งก็เผลอคิดนึกถึงเรื่องอื่นอีกแล้ว

แต่เวลาที่มีปกติเจริญสติปัฏฐาน

ก็ทราบได้ว่าขณะนั้น.............เผลอ คิดนึก ไปแล้ว

ขณะนั้น..............ไม่ได้ฟังเสียแล้ว

เมื่อทราบว่าเผลอคิดนึกก็กลับมาฟังใหม่

ฟังประเดี๋ยวหนึ่งก็เป็นคิดนึกอีกแล้ว

แต่ถ้าเป็นผู้ที่

ไม่มีปกติอบรมเจริญสติปัฏฐาน

ก็คิดนึกกันไปไม่รู้วันละมากมายเท่าไร

แล้วแต่ว่าจะคิดเรื่องอะไร

ซึ่งเป็นเรื่องที่วิจิตรแตกต่างกันไปตามการสะสม

และขณะนั้น ๆ ก็ไม่รู้ตัวเลยว่า

ได้คิดนึกเสมือนล่องลอยไปไกล.................

คือ ไกลจากทางตาที่กำลังเห็นในขณะนี้

หรือไกลจากทางใจที่กำลังรู้เรื่องรู้ความหมาย

ของสิ่งที่ปรากฏจากทวารทั้ง ๕ ในขณะนี้

และไม่รู้ว่าในขณะนั้น ๆ ก็เป็นแต่เพียงสภาพธรรม

ซึ่งไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน

แต่การที่จะละคลายอกุศลธรรม

ให้บรรเทาลดน้อยลงได้นั้น

ไม่ใช่การบังคับไม่ให้จิตชนิดนั้น ๆ เกิดขึ้น

แต่ด้วยการรู้ลักษณะสภาพธรรมที่แท้จริง

ว่าเป็น ธรรม

ซึ่งไม่ใช่สัตว์ + ไม่ใช่บุคคล + ไม่ใช่ตัวตน

เป็นสภาพธรรมแต่ละชนิดที่เกิดขึ้นแล้วตามเหตุปัจจัย

จึงไม่สามารถบังคับบัญชาสภาพธรรมนั้น ๆ

ให้เป็นไปตามความต้องการได้

...........................มัชฌิมประภาสปุญสถาน......................

ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ......................

....................................นำโมออมีทอฝอ.............................

http://forums.212cafe.com/boxser/ (http://forums.212cafe.com/boxser/)