ความอยาก เป็นเหตุแห่งความทุกข์ ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงธรรม (สิ่ง) ที่มี
ตัณหาเป็นมูล ๙ อย่าง.
๙ อย่าง อย่างไรเล่า ?
๙ อย่าง คือ :-
เพราะอาศัยตัณหา จึงมี การแสวงหา (
ปริเยสนา);
เพราะอาศัยการแสวงหา จึงมี การได้ (
ลาโภ);
เพราะอาศัยการได้ จึงมี ความปลงใจรัก (
วินิจฺฉโย);
เพราะอาศัยความปลงใจรัก จึงมี ความกำหนัดด้วยความพอใจ (
ฉนฺทราโค);
เพราะอาศัยความกำหนัดด้วยความพอใจ
จึงมีความสยบมัวเมา (
อชฺโฌสานํ);
เพราะอาศัยความสยบมัวเมา จึงมี ความจับอกจับใจ (
ปริคฺคโห);
เพราะอาศัยความจับอกจับใจ
จึงมี ความตระหนี่(
มจฺฉริยํ);
เพราะอาศัยความตระหนี่ จึงมี การหวงกั้น(
อารกฺโข);
เพราะอาศัยการหวงกั้น
จึงมี เรื่องราวอันเกิด จากการหวงกั้น (
อารกฺขาธิกรณํ) ;
กล่าวคือ การใช้อาวุธไม่มีคม การใช้อาวุธมีคม
การทะเลาะ การแก่งแย่ง การวิวาท
การกล่าวคำหยาบว่า “มึง ! มึง !” การพูดคำส่อเสียด
และการพูดเท็จทั้งหลาย :
ธรรมอันเป็น
บาปอกุศลเป็นอเนก ย่อมเกิดขึ้นพร้อม.
ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล
ชื่อว่าธรรม (สิ่ง) ที่มีตัณหาเป็นมูล ๙ อย่าง.นวก. อํ. ๒๓/๔๑๓/๒๒๗. , (มหา. ที. ๑๐/๖๙/๕๙).http://www.facebook.com/pages/พระพุทธเจ้า/166387296709841?fref=ts