[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 21 พฤศจิกายน 2561 15:43:36



หัวข้อ: หลวงปู่เบ้า จัตตมโล วัดบ้านโนนมาลัย ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 21 พฤศจิกายน 2561 15:43:36
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/48567094074355_1_1024x768_.jpg)

หลวงปู่เบ้า จัตตมโล
 วัดบ้านโนนมาลัย ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์  

หลวงปู่เบ้า จัตตมโล วัดบ้านโนนมาลัย ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ พระเกจิอาจารย์ที่มีวิทยาคมเข้มขลัง สืบสายธรรมจากหลวงปู่สีดา วัดโสมนัฐประดิษฐ์ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม และ พระครูจันทร์ดี วัดโพธาราม อ.นาดูน จ.มหาสารคาม

ปัจจุบัน สิริอายุ 96 ปี พรรษา 28 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านโนนมาลัย

มีนามเดิม เบ้า สัตยาคุณ เกิดปี พ.ศ.2465 พื้นเพเป็นชาวบ้านโพนงาม ต.บัวแดง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด

ในวัยเด็ก เป็นคนว่านอนสอนง่าย หลังจากจบชั้นประถมศึกษา ป.4 จากโรงเรียนในหมู่บ้านแล้ว ก็ออกมาช่วยครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา

เมื่อย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น จึงเล่าเรียนเรียนวิทยาคมกับบิดา และช่วงนั้นอยู่ระหว่างการเกิดสงครามโลก มีโจรออกอาละวาดปล้นสะดม ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ท่านและบิดาได้ร่วมกับชาวบ้านออกติดตามเอาทรัพย์สินคืนจากโจรหลายครั้ง ทำให้บรรดาโจรขยาดไม่กล้าเข้ามาอาละวาดในหมู่บ้าน

นอกจากนี้ ยังเป็นผู้มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม ยามว่างชมชอบไปช่วยงานที่วัดในหมู่บ้านเป็นประจำ

จนเมื่ออายุครบบวช 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดในหมู่บ้าน หลังเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ท่านได้เดินทางมาศึกษาเรียน บาลี และมูลกัจจายน์ กับพระครูจันทร์ดี วัดโพธาราม อ.นาดูน จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น

มุมานะศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย จนสอบได้นักธรรมโท และฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมกับหลวงปู่จันดี ซึ่งหลวงปู่จันดี ก็เมตตาถ่ายทอดสรรพวิชาให้จนหมดสิ้น อาทิแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม เป็นต้น

สมัยก่อนการศึกษาสรรพวิชาอาคม ถือว่าลำบากมาก ต้องอาศัยความเพียรเป็นเลิศ ถึงจะประสบผลสำเร็จ และที่สำคัญต้องท่องให้ได้กับปากจริงๆ พระคาถาบทนั้นๆ ถึงจะมีมนต์ขลัง

นอกจากนี้ ยังศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมจากหลวงปู่สีดา วัดโสมนัฐประดิษฐ์ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม แต่หลังจากที่ท่านอุปสมบทได้ประมาณ 9 พรรษา ท่านมีความจำเป็นต้องลาสิกขาออกมาช่วยครอบครัวทำมาหากิน

ใช้ชีวิตฆราวาสจนถึงปี พ.ศ.2533 เมื่อหมดภาระทางครอบครัว จึงได้เข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ เข้าพิธีอุปสมบท ที่อุโบสถวัดอัมพวัน ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ โดยมีเจ้าอธิการสุวรรณ สิริปุญโญ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการไสว กิตติสาโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการทองดี เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ภายหลังอุปสมบท ได้จำพรรษาปฏิบัติศาสนกิจอยู่ที่วัดบ้านโนนมาลัย ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ และจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ตั้งแต่นั้นมาตราบจนปัจจุบัน และต่อมาได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด

นับแต่นั้น ร่วมมือกับญาติโยมพัฒนาวัดแห่งนี้จนเจริญรุ่งเรืองทุกด้าน วัตรปฏิบัติที่ทำอย่างสม่ำเสมอ หลังออกพรรษาทุกปี จะออกเดินธุดงควัตรไปตามป่าเขาหลายแห่งในภาคอีสานโดยเฉพาะตามรอยตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชา

ตลอดเวลาที่จำพรรษาอยู่วัดบ้านโนนมาลัย ด้วยความที่ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเสมอต้นเสมอปลาย หลวงปู่เบ้า เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนในวงกว้างอย่างรวดเร็ว แต่ละวันจะมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม และประพรมน้ำพระพุทธมนต์อย่างล้นหลาม

ถึงแม้ท่านจะอายุมากแล้ว แต่ท่านก็ไม่เคยย่อท้อยังคงปฏิบัติศาสนกิจอย่างสม่ำเสมอ หากเมื่อญาติโยมมีทุกข์มาหา ท่านก็ปัดเป่าให้ด้วยพุทธมนต์และน้ำมนต์โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ

ส่วนหลักธรรมคำสอนที่พร่ำสอนใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต คือ การดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท และให้ยึดศีล 5 ไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต เพียงเท่านี้จะทำให้ชีวิตพานพบแต่ความสุขความเจริญ  


อริยะโลกที่ 6