ปชช.ยื่น จม.เปิดผนึก 1,088 รายชื่อถึงนายกฯ ยุติการกักขังผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์
<span class="submitted-by">Submitted on Thu, 2024-03-14 14:51</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: บรรยากาศการยื่นหนังสือระหว่าง กฤตพร เสมสันทัด ผู้อำนวยการโครงการ 'มูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ' (ขวา) และผู้รับหนังสือ รังสิมันต์ โรม ปธ. กมธ.ความมั่นคงฯ </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ครบรอบ 10 ปี คุมขังชาวอุยกูร์ใน สตม.ไทย เครือข่ายภาคประชาสังคม ยื่นหนังสือถึง 'เศรษฐา' ยุติทศวรรษแห่งการคุมขังชาวอุยกูร์อย่างไม่มีกำหนด</p>
<p>14 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (14 มี.ค.) ที่จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา กรุงเทพฯ ในวาระผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ถูกคุมขังในสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไทย ครบ 10 ปี เมื่อเวลา 9.00 น. เครือข่ายประชาสังคม นำโดย กฤตพร เสมสันทัด ผู้อำนวยการโครงการ 'มูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ' ยื่นจดหมายเปิดผนึกลงนาม 10,088 รายชื่อถึง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยุติการคุมขังผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ ที่ถูกกักตัวในสถานกักตัวสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา โดยวันนี้มี รังสิมันต์ โรม ประธาน คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ จุลพงศ์ อยู่เกษ รองประธาน คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ คนที่ 1 และ กัณวีร์ สืบแสง รองประธาน คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน คนที่ 3 เป็นตัวแทนรับหนังสือ </p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53587025879_eabdf8764e_b.jpg" /></p>
<p>กฤตพร ตัวแทนเครือข่าย กล่าวหลังยื่นหนังสือว่า นับตั้งแต่มีการควบคุมตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ 220 คนเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2557 ต่อมา ในปี 2558 ทางการไทยได้แบ่งผู้ลี้ภัยอุยกูร์เป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย </p>
<ul>
<li>กลุ่มที่ 1 กลุ่มผู้ลี้ภัยผู้หญิงและเด็กชาวอุยกูร์ จำนวนราว 172 คน ทางการไทยได้ส่งไปประเทศที่ 3 หรือประเทศตุรกี เมื่อปลายเดือน มิ.ย. 2558 </li>
<li>เมื่อ 8 ก.ค. 2558 ทางการไทยได้บังคับส่งตัวผู้ลี้ภัยชายชาวอุยกูร์ 109 คน ให้เจ้าหน้าที่ทางการจีน นำตัวกลับประเทศต้นทาง โดยทั้งหมดนี้ไม่ทราบชะตากรรม</li>
<li>กลุ่มที่ยังค้างในห้องกัก สตม. ปัจจุบันเหลือผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์จำนวนราว 48 ราย ตั้งแต่ 2557-2567 รวม 10 ปี</li>
</ul>
<h2><span style="color:#2980b9;">สภาพเลวร้ายของห้องกัก ปี'66 ชาวอุยกูร์เสียชีวิตแล้ว 2 ราย</span></h2>
<p>กฤตพร กล่าวว่า สภาพห้องกักของ ตม. สวนพลู มีสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้าย แออัด ไม่สามารถนอนเหยีดตรง มีการเปิดไฟตลอดเวลา ไม่มีพื้นที่ให้ทำกิจกรรมออกกำลังกาย และไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ และบุคคลภายนอก เช่น ครอบครัว เจ้าหน้าที่สถานทูต และอื่นๆ ซึ่งเป็นกิจวัตรซ้ำๆ ตลอด 10 ปี ส่งผลต่อทั้งสุขภาพกาย และจิตใจของผู้ถูกกักขังย่ำแย่ลง</p>
<p>สมาชิกมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ กล่าวด้วยว่า ด้วยสภาพเลวร้ายในห้องกัก ทำให้เมื่อปีที่แล้ว (2566) มีชาวอุยกูร์เสียชีวิตในห้องกัก สวนพลู จำนวน 2 รายจากปัญหาด้านสุขภาพ และตลอดระยะเวลา 10 ปี ของการกักขังชาวอุยกูร์ ผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กทารกแรกเกิด 1 ราย และเด็กอายุ 3 ขวบ 1 ราย </p>
<p>กฤตพร ทิ้งท้ายว่า เธออยากให้รัฐบาลคำนึงถึงเพื่อนมนุษย์ ไม่อยากให้มีการแจ้งข่าวไปยังครอบครัวของพวกเขาแค่เฉพาะข่าวว่าผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์เสียชีวิตแล้ว และขอเรียกร้องกมธ. เสนอไปยังนายกรัฐมนตรี และฝ่ายบริหาร ให้ยุติการกักขังชาวอุยกูร์ในปีที่ 10 นี้</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53586701351_c3b60d8a33_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">กฤตพร เสมสันทัด</span></p>
<p>"อยากให้ยุติการคุมขังของชาวอุยกูร์ในปีที่ 10 ไม่อยากให้มีปีที่ 11 หรือปีต่อๆ ไปอีกเลย ทางเราอยากจะขอเรียกร้อง และขอให้ กมธ.ช่วยประสานไปยังนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร และผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้อง" สมาชิกมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ กล่าว</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เชื่อไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ</span></h2>
<p>รังสิมันต์ กล่าวว่า ตนให้ความสำคัญและมีการคุยใน กมธ.เรื่องนี้ แต่เรื่องที่ยากลำบากคือ เราไม่ทราบว่าเขาต้องอยู่ในห้องกักถึงเมื่อไร ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีคำพิพากษา ไม่มีโอกาสได้เยี่ยม และมีสภาพความเป็นอยู่ที่แย่เสียยิ่งกว่าคนที่กระทำอาชญากรรมร้ายแรง
รังสิมันต์ กล่าวว่า เขามีความเป็นห่วงต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจากปัจจุบัน ประเทศไทยมีการบังคับใช้ ‘พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามอุ้มหาย และซ้อมทรมาน’ แล้ว ซึ่งไม่ได้ป้องกันการบังคับสูญหายเพียงอย่างเดียว แต่มีหลักการเรื่องการคุ้มครองปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดังนั้น ถ้ามีพฤติการณ์ของการย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นอาจได้รับผลกระทบจากกฎหมายดังกล่าว</p>
<p>รังสิมันต์ กล่าวว่า เราต้องคิดอย่างจริงจังได้แล้วว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร โดยคิดแค่ว่าอย่าเพิ่งไปยุ่ง เพราะว่าอาจจะกระทบเรื่องความสัมพันธ์ แต่คนเหล่านี้จะทยอยเสียชีวิต และประเทศไทยกำลังมองถึงความเป็นไปได้ในการเข้าเป็นคณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนบนเวทีระดับโลก มันจะขึ้นได้อย่างไร </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53585839182_5c6aea66e7_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">รังสิมันต์ โรม</span></p>
<p>ประธาน กมธ.ความมั่นคงฯ มองว่า เขาเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จะมีเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาไม่เชื่อว่า การแก้ไขปัญหาจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศขาดสะบั้นลง ประเทศไทยต้องยืนยันในคุณค่าและหลักการว่าเราเป็นประเทศที่เคารพหลักสิทธิมนุษยชน และมีกฎหมายภายในประเทศที่ยึดหลักคุณค่าดังกล่าว ดังนั้น ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ ประเทศที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อประเทศไทย ต้องเคารพถึงกฎหมายภายในประเทศและหลักการที่ประเทศไทยให้คุณค่า ดังนั้น เขาขอเรียกร้องให้รัฐไทยต้องสร้างความแตกต่างในการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์และชาวโรฮีนจาที่อยู้ในห้องกักได้แล้ว </p>
<p>ประธาน กมธ.ความมั่นคงฯ ทิ้งท้ายว่า กมธ.จะขอนำเรื่องนี้ไปหารือ และมองถึงความเป็นไปได้ในการสร้างความแตกต่างจากเดิมที่มี </p>
<p>จุลพงษ์ อยู่เกษ กล่าวว่า วันนี้ กมธ.การต่างประเทศ จะมีการประชุม และเขารับปากจะนำเรื่องนี้หารือภายใน กมธ. และถ้ามีฝ่ายบริหารเข้าร่วม เขาจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารือด้วย </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53587150080_6c34e4b966_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">จุลพงษ์ อยู่เกษ</span></p>
<p>กัณวีร์ สืบแสง กล่าวว่า ขอขอบคุณภาคประชาสังคมที่ได้มองเห็นมนุษย์คือมนุษย์ และเขามองว่านี่เป็นปัญหาด้านกฎหมาย ที่เป็นสุญญากาศที่ไม่มีการรองรับพิจารณาช่วยเหลือกับผู้ลี้ภัย เพราะฉะนั้น กมธ.การกฎหมายฯ จะทำงานพิจารณาเรื่องนี้ และจะลำดับความสำคัญอย่างเร่งด่วน </p>
<p>กัณวีร์ กล่าวต่อว่า คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืนต่อการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ซึ่งตนเองเป็นประธาน ได้ทำงานเสร็จสิ้นไปแล้ว ทางอนุกรรมาธิการฯ จะดูว่ากฎหมายมีปัญหาอย่างไร และจะดำเนินการแก้ไขอย่างไรเรื่องผู้ลี้ภัย จากนั้น จะมีการเสนอข้อเสนอถึง กมธ.การกฎหมายฯ กมธ.การต่างประเทศ และ กมธ.ความมั่นคงฯ </p>
<p>ปัจจุบัน สถานการณ์ผู้ลี้ภัยภายในห้องกัก ตม. สวนพลู มีชาวอุยกูร์อยู่ทั้งหมด 48 ราย ในจำนวน 48 คน มีกลุ่มอยู่ในห้องกัก 43 คน และอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากถูกดำเนินคดีอาญา กรณีพยายามหลบหนีออกจากห้องกัก อีก 5 ราย </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">รัฐไทยสามารถใช้ พ.ร.บ.เข้าเมือง ม.17 แทน ม.54 ได้</span></h2>
<p>ทั้งนี้ กฤตพร ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว เพิ่มเติมกรณีความเห็นถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลไทยว่า เรื่องการส่งชาวอุยกูร์ไปต่างประเทศอาจจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน แต่ประเทศไทยสามารถใช้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตรา 17 แทนมาตรา 54 ในการให้มาตรการแทนการกักตัวได้ </p>
<p>กรณีเรื่องข้อเสนอยกระดับห้องกักตัว ตม. กฤตพร เผยว่า เมื่อปีที่แล้ว (2566) หลังจากมีกรณีชาวอุยกูร์เสียชีวิตในห้องกักด้วยปัญหาสุขภาพ คณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. เคยเข้าไปตรวจสอบในห้องกัก ตม. และทำข้อเสนอแนะให้รัฐบาล โดยเสนอให้มีการปรับปรุงคุณภาพห้องกักให้สอดรับกับหลักสิทธิมนุษยชน และหลักการแมนเดลา และเสนอให้มีสิทธิเข้าถึงบุคคลภายนอกของผู้ลี้ภัยกลุ่มชาวอุยกูร์ ไปจนถึนชาวโรฮีนจา จากรัฐยะไข่ </p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>
อ่านข้อเสนอของ กสม. ได้ที่นี่</li>
</ul>
</div>
<div class="note-box">
<h2><span style="color:#2980b9;">รายละเอียดหนังสือถึงเศรษฐา </span></h2>
<p><strong>จดหมายเปิดผนึก: ขอเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการกักตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่อยู่ในห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ยาวนานกว่า 10 ปี และหาทางออกที่ยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน</strong></p>
<p>เรียน นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน</p>
<p>สำเนาถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ</p>
<p>เครือข่ายสิทธิผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ และประชาชน จำนวน 1,088 คน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้การกำกับงานของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ยุติการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง ต่อกรณีผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่ถูกกักขังอยู่ในห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเป็นเวลา 10 ปี และหาทางออกที่ยั่งยืนต่อกรณีดังกล่าวอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อส่งเสริมการเพิ่มศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามหลักการสากลในสถานการณ์มนุษยธรรมนี้</p>
<p>ทั้งนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2557 ทางการไทยได้พบชาวอุยกูร์ประมาณ 350 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้หญิงและเด็ก โดยคนกลุ่มนี้หนีการถูกประหัตประหารมาจากประเทศจีน เดินทางมาในประเทศไทย เพื่อเป็นทางผ่านในการลี้ภัยไปยังประเทศที่ 3 และไม่ได้ประสงค์จะอยู่อาศัยในประเทศไทยระยะยาว</p>
<p>หลังจากที่ได้มีการดำเนินคดีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทางการไทยได้แนกชาวอุยกูร์กลุ่มนี้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่</p>
<p>1) กลุ่มแรก เฉพาะผู้หญิงและเด็กจำนวน 172 คน กลุ่มนี้ได้แสดงความประสงค์ที่จะเดินทางไปประเทศตุรกี และรัฐบาลตุรกีพร้อมที่จะรับ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558 รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ ซึ่งมีเฉพาะผู้หญิงและเด็กให้กับรัฐบาลตุรกี และปัจจุบันได้มีการตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศเรียบร้อยแล้ว</p>
<p>2) กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่รัฐบาลไทยได้ส่งให้สาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 109 ราย เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 โดยทั้งหมดนี้ไม่ทราบชะตากรรมหลังจากนั้น</p>
<p>3) กลุ่มที่สาม คือกลุ่มที่คงค้างในห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จำนวนประมาณ 48 คนที่ยังอยู่ในความดูแลของไทย รัฐบาลได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ให้กักตัวไว้ในห้องกักคนต่างด้าวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดยไม่มีกำหนด และอ้างว่ากำลังรอการแก้ไขปัญหาต่อไป</p>
<p>ปัจจุบันกลุ่มที่สามได้ถูกกักมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ในห้องกักมีสภาพแวดล้อมแออัด เข้าถึงแสงธรรมชาติได้น้อย ไม่มีพื้นที่ส่วนตัว ไม่สามารถติดต่อครอบครัวภายนอกได้ ทำให้ผู้ต้องกักมีภาวะขาดสารอาหาร ขาดการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม ขาดการออกกำลังกาย เป็นสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพกายและจิตที่รุนแรงได้ ใน พ.ศ. 2566 มีชาวอุยกูร์ซึ่งอยู่ในห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเสียชีวิตจำนวน 2 คน โดยคนแรกเสียชีวิตเมื่อ 11 กุมภาพันธุ์ 2566 ผู้เสียชีวิตอายุ 49 ปี มีอาการเจ็บป่วยในห้องกักก่อนถูกนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในวันเดียวกัน อันเนื่องมาจากปอดอักเสบจากการติดเชื้อ ส่วนรายที่สองเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 ผู้เสียชีวิตอายุ 40 ปี มีอาการป่วย อาเจียน และอ่อนแรง ถูกนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในวันเดียวกันเช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากระบบไหลเวียนโลหิต และการหายใจล้มเหลว</p>
<p>แม้ว่าการตรวจสอบกรณีเสียชีวิตทั้งสองข้างต้นของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จะไม่ปรากฏหลักฐานที่จะรับฟังได้ว่าการเสียชีวิตทั้ง 2 กรณีเกิดขึ้นจากการกระทำ หรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่อย่างไรก็ตาม กสม. ได้ให้ความเห็นว่า การควบคุมตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ไว้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเป็นเวลานาน ไม่มีกำหนดปล่อยตัว หรือส่งตัวออกนอกราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง เป็นการกระทำหรือละเลยการกระทำอันละเมิดสิทธิมนุษยชน</p>
<p>ข้าพเจ้าในนามตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนและประชาสังคม จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลให้พิจารณายุติการกักขังชาวอุยกูร์โดยไม่มีกำหนดในสภาพการกักขังที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และให้หาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนให้กับผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และขอให้แสดงจุดยืนเรื่องสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยต่อประชาคมโลก เพื่อที่จะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยได้รับการเลือกให้เป็นสมาชิกในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในปีนี้ และเป็นการคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้กับผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ทั้งหมดที่อยู่ในการควบคุมของรัฐบาลไทย</p>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/03/108424