[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ใต้เงาไม้ => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 29 มิถุนายน 2555 09:59:04



หัวข้อ: สุนทรภู่ ๓ "นิทานคำกลอน-โคบุตร"
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 29 มิถุนายน 2555 09:59:04
.

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/5/55/Poo-2.jpg/85px-Poo-2.jpg)
งานของสุนทรภู่

ประเภทนิทานคำกลอน - โคบุตร

โคบุตร เป็นกลอนนิทานเรื่องแรกของสุนทรภู่ แต่งขึ้นเพื่อถวายเจ้านายในพระราชวังหลังพระองค์หนึ่ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับ โคบุตรซึ่งเป็นลูกของพระอาทิตย์และนางอัปสร โดยฝากเลี้ยงไว้กับพญาราชสีห์ และนางไกรสร เมื่อเจริญชันษาโคบุตรซึ่งได้รับของวิเศษจากพระอาทิตย์ คือ แหวน และสังวาล และได้รับมอบใบยาวิเศษที่สามารถชุบชีวิตคนตายให้มีชีวิตได้จากราชสีห์ ต่อจากนั้นจึงเป็นเรื่องราวการผจญภัยของโคบุตร ดังที่จะคัดมาตอนหนึ่งในตอนท้ายที่โคบุตรมีพระมเหสีสองคน คือ นางอำพันมาลา และนางมณีสาคร นางอำพันมาลาเห็นโคบุตรรักนางมณีสาครมากกว่าตน จึงทำเสน่ห์ให้โคบุตรหลงรัก แต่อรุณกุมารได้แก้ไขเสน่ห์ โคบุตรโกรธมากถึงกับสั่งประหาร แต่อรุณกุมารขอร้อง โคบุตรจึงขับไล่นางอำพันมาลาออกจากวัง .... (ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย)




         ๑.
โฉมอำพันมาลาน้ำตาไหล      
เห็นชาวในพระสนมมาคับคั่ง
ค่อยหยุดยืนฝืนองค์ทรงประทัง      
เหลียวมาสั่งสาวสวรรค์กำนัลใน

จงปกป้องครองกันเป็นผาสุก      
อย่ามีทุกข์เศร้าสร้อยละห้อยไห้
เรามีกรรมจำลาเจ้าคลาไคล      
หักพระทัยออกจากทวารา

          ๒.
อันมนุษย์สุดจะเชื่อมันเหลือปด
พูดสบถแล้วสะบัดไม่ขัดสน
เพราะแต่คำน้ำจิตคิดประจญ
ปากเป็นผลใจเป็นพาลเหมือนมารยา

ใครหลงลิ้นกินลูกยอก็พอม้วย
ต้องตายด้วยปากมนุษย์ที่มุสา
คนทุกวันมันมิซื่อถือสัจจา
สู้สัตว์ป่าก็มิได้ใจลำพอง

          ๓.
จงตรองตรึกนึกกำดัดสมบัติทิพย์
วิมานลิบลอยสลอนอัปสรสวย
สมบัติใครในมนุษย์ถึงสุดรวย
จะเปรียบด้วยทิพย์สมบัติไม่ทัดทัน

ทรัพย์ทั้งนี้ที่เอาไว้ไม่กะผีก
สู้แต่ซีกหนึ่งไม่ได้ในสวรรค์
อย่าห่วงใยสมบัติจงตัดมัน
หมายสวรรค์เถิดออเจ้าไปเฝ้าชม

          ๔.
โอ้ดวงนุชสุดสายสวาทจิต
สวาทเจ้าหรือจะคิดอางขนาง
สวาทน้องอย่าหมองเลยน้องนาง
สวาทโน้นหรือจะร้างสวาทนุช

สวาทไหนหรือจะเปรียบสวาทมิ่ง
สวาทแม่นี่ยิ่งเป็นที่สุด
ที่หวังเสกเป็นเอกอนงค์นุช
อนงค์ไหนมิได้สุดสวาทเรียม

          ๕.
เทวศร่ำกำสรดกันแสงโศก
แสนวิโยคเศร้าสร้อยละห้อยหา
ละห้อยหันผันพักตร์ดูปรางค์ปรา
โอ้ปรางค์เปรียบปรางค์ฟ้าจะราคี

จะร้างไปไกลถิ่นที่เคยเล่น
ไม่แลเห็นเช้าเย็นจะหมองศรี
จะหมองเศร้าเปล่าใจไกลบุรี
ไกลบุรินทร์ธานีกลับพลัดพราย