[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
15 พฤษภาคม 2567 20:50:39 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 ... 46 47 [48] 49 50 51
941  สุขใจในธรรม / กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ / “เป็นอะไรก็ไม่สู้เป็นกูเอง” เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2553 09:54:22


“เป็นอะไรก็ไม่สู้เป็นกูเอง”

กบ ตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในสระใกล้กุฏิของพระในวัดแห่งหนึ่ง
ทุกเช้ามันจะโดดออกจากสระขึ้นไปหมอบอยู่ริมทางเดิน
มันเห็นพระเดินออกไปบิณฑบาตและเห็นโลกกว้างทุกวัน

อยู่มาวันหนึ่ง
มันเห็นพระออกไปบิณฑบาต ไม่นานก็กลับวัดพร้อมกับมีข้าวเต็ม
บาตรมีกับข้าวและขนมเต็มย่าม
มันจึงคิดว่า “เออ เป็นพระนี่ก็ดีเหมือนกันนะ ดีกว่าเราเป็นไหนๆ
แค่เดินเข้าบ้านไปชั่วโมงเดียวก็ได้อาหารมากมาย” >>

หลักจากพระฉันอาหารเสร็จแล้ว
ท่านก็นำเศษข้าวมาโปรยให้ฝูงไก่กิน กบเห็นเข้าก็คิดอยากเป็นไก่ขึ้นมา >>
“อ๊ะ เป็นไก่นี่ดีกว่าเป็นพระอีก ไม่ต้องเดินไปหากินไกล ๆ
ถึงเวลาพระก็มาโปรยข้าวให้กิน สบายดีจริงๆ” >>

ทันใดนั้น
มีหมาวัดตัวหนึ่งเห็นไก่กำลังจิกอาหารกินอย่างเพลิดเพลิน
จึงวิ่งมาไล่ไก่จนแตกกระเจิงไป กบเห็นเข้าก็อยากจะเป็นหมาขึ้นมาอีก >>

“เป็นหมานี่ก็ไม่เบา เป็นฮีโร่ไล่ไก่เล่นสนุกดี ทำอย่างไรเราจึงได้เป็นหมาได้หนอ” >>

ขณะกำลังคิดเพลิน ๆ อยู่
เด็กวัดคนหนึ่งเห็นหมาไล่ไก่เข้าก็คว้าไม้ไล่ตีหมาร้องลั่นวัดไป

กบเห็นเข้าถึงกับสะดุ้งโหยง คิดว่า “โธ่เรานึกว่าเป็นหมาจะเก่ง
ที่แท้ก็สู้เด็กไม่ได้ ขนาดเป็นเด็กหมายังกลัวถ้าเป็นผู้ใหญ่คงปราบอะไรได้ทั้งหมด
เราน่าจะเป็นคนดีกว่า” กบคิดเตลิดไปอีก >>

หลักจากเด็กวัดไล่ตีหมาแล้วก็มานั่งหอบอยู่บนม้านั่งใต้ร่มไม้
ขณะนั้นมีแมลงวันหลายตัวมาตอมแข้งตอมขา เด็กวัดจึงปัดแมลงวันให้วุ่นไป
เมื่อสู้ไม่ไหวทนรำคาญไม่ได้ก็ลุกหนีไปพลางบ่นว่า >>
“รำคาญจริง ตอมได้ตอมดีไอ้พวกแมลงวันนี่” >>

กบได้ยินเสียงบ่นก็เลิกคิดเป็นคนทันที สู้เป็นแมลงวันไม่ได้ “หนอยเป็นคนนึกว่าจะเก่ง
ที่แท้ก็แพ้แมลงวันตัวเล็กนิดเดียว เป็นแมลงวันท่าจะดีเป็นแน่” >>

กำลังคิดเพลินอยู่นั้น
แมลงวันตัวหนึ่งบินผ่านหน้ามันไปพอดีมันจึงใช้ลิ้นตวัดแมลงวันตัวนั้นเข้า
ปากไปด้วยสัญชาตญาณ พอได้สัมผัสแมลงวันเท่านั้น
ตัณหาของกบก็สะดุดกึก มันได้ดวงตาเห็นข้อสัจธรรม ถึงกับรำพึงว่า >>
“เป็นอะไรก็ไม่สู้เป็นกูเอง”

เรื่องนี้สื่อความให้เห็นว่า
อันความอยาก เช่นอยากได้ อยากมี อยากเป็น ที่ภาษาพระเรียกว่าตัณหานั้นไม่มีขอบเขต
ไม่มีจุดจบ หาฝั่งไม่เจอ เพราะเป็นเรื่องของใจ ใจจึงคิดอยากเรื่อยไป นี่เป็นธรรมดา
ถ้า หากรู้ทันไม่หลงละเมอไปกับตัณหาที่เกิดขึ้นก็จะไม่เดือดร้อนอะไรมาก
หากปล่อยให้มันมีอำนาจเหนือใจเหนือความรู้สึกก็จะยุ่งวุ่นวายไม่เลิก
อันที่จริงความอยากนั้นเกิดจากความหิวและความไม่รู้จริง
คิดแต่เพียงว่าที่ตัวเองเป็นหรือที่ตัวมีนั้นไม่ดี
ยังไม่สมบูรณ์แบบ สู้เป็นอย่างนั้นไม่ได้ สู้มีอย่างนี้ไม่ได้

แต่ถ้ารู้ความจริงว่าไม่ว่าจะอะไรล้วนมีดีและมีเสีย
ล้วน มีข้อดีข้อด้อยอยู่ในตัวทั้งสิ้น ไม่มีอะไรดีอย่างเดียวหรือเสียอย่างเดียว
ก็จะผ่อนเพลาความอยากลงได้

และหากยอมรับภาวะที่ตัวเองเป็นอยู่ และพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
ก็ย่อมประจักษ์ว่าเป็นอะไรก็สู้เป็นตัวเรา และเป็นตัวของตัวเองไม่ได้เลย


942  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ใต้เงาไม้ / Re: สนามอารมณ์.... เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2553 09:35:55


หากใครจะให้เปรียบเปรยว่า...
"ผู้หญิงเป็นเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง"
หนังสือที่ผู้ชายหลายต่อหลายคนอยากอ่านเพียงเพื่อต้องการรู้ตอนจบ
พวกเขามักอ่านผ่าน ๆ พอให้จับใจความได้
และรีบเร่งให้ถึงตอนจบอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ใช่ --ไม่ใช่ -- เป็น --ไม่เป็น --ได้ --ไม่ได้ --รัก --ไม่รัก

พวกเขาใส่ใจกับตอนจบเหล่านั้น
จนลืมที่จะเก็บรายละเอียดมากมายที่บรรจุอยู่ในหนังสือ
พวกเขารีบจนลืมที่จะเปิดหน้าหนังสือแต่ละหน้าด้วยความทะนุถนอม
เขาคงลืมคิดไปว่าหนังสือนั้นบอบบางเพียงใด

ใครบางคนทำหนังสือหลายเล่มฉีกขาด
แต่เขาไม่มีความใส่ใจพอจะย้อนกลับมาปะรอยขาดนั้น
เมื่อเขาได้อ่านมจนถึงตอนจบแล้วไม่ได้อย่างที่ใจหวัง
เขาก็ทิ้งขว้างอย่างไร้ค่า
ใครอีกหลายคนที่หยิบหนังสือขึ้นมา

....เปิดหน้าแรก....ข้ามไปหน้าสุดท้าย....ไม่ได้ดั่งใจก็วางไว้ดังเดิม

ฉันว่าผู้หญิงทุกคนคงจะรอคอยใครสักคน
ที่จะหยิบหนังสือขึ้นมาด้วยความใส่ใจ
ตั้งใจอ่านแต่ละหน้าอย่างใจเย็น
ซึมซับบทกวีงดงามที่บรรจงเขียนด้วยถ้อยคำที่ไพเราะ
และค้นหาความหมายที่แท้จริงของหนังสือเล่มนั้น

ฉันคิดว่ามันคงดีนะถ้าหากเราจะมีเวลาสักชั่วอึดใจ
เพียงช่วงเวลาที่มากพอจะสังเกตุใบไม้สักใบ
ผลิออกจากก้าน เติบโต เปลี่ยนสี และร่วงหล่น
เพื่อให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายได้เรียนรู้
ทำความรู้จักซึ่งกันและกัน
เพื่อคำตอบที่ถูกต้อง ตรงใจของทั้งสองฝ่าย
เพื่อที่จะได้เลือกคนมายืนข้างกายได้อย่างถูกต้อง

และถ้ามีคนตั้งคำถามแก่ฉัน
ฉันจะไม่เร่งรีบให้คำตอบใครในช่วงเวลาที่จำกัด
และถ้าต้องตอบจริง ๆ คำตอบของฉันคือ
"ไม่ พร้อมกันนี้ฉันจะไม่มีความเสียใจ"
แม้ว่าท้ายที่สุดจะได้รับรู้ว่าใครคนนั้นคือ "คนที่ใช่" ก็ตาม
เพราะฉันไม่อาจจะเอาหัวใจมาเสี่ยงได้

ฉันเชื่อว่า หนังสือทุกเล่มมีคุณค่าอยู่ในตัวของมันเอง
ถ้าหากว่าใครสักคนหรือหลายคนจะไม่เรียนรู้จัก....
ซึมซับเนื้อความที่ลึกซึ้งในนั้น
นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณค่าในหนังสือเล่มจะลดลง

นี่จึงเป็นสิ่งที่ฉันบอกตัวเองเสมอว่า
"จงรออย่างยินดีและเต็มใจจนกว่าจะเจอคน ๆนั้น"


http://img368.imageshack.us/img368/7121/1720080321163646ck0.jpg
943  สุขใจในธรรม / ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก / Re: "แสงธรรมสุขใจ" เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2553 18:44:51


การยอมรับความจริง

ความจริงเป็นสิ่งที่น่ายอมรับที่สุด
เพราะอย่างไรมันก็ต้องเป็นของมันอยู่อย่างนั้น
แต่สิ่งที่น่ายอมรับที่สุดนั่นแหละ
ที่มนุษย์มักปฏิเสธยิ่งกว่าอะไรอื่น
ราวกับจิตใจห่อหุ้มไปด้วยเมฆหมอกแห่งการหลอกตัวเองหนาทึบ

การยอมรับ ความจริงย่อมทำให้ใจคุณสบายกว่าตอนไม่ยอมรับ
ความจริงไม่เคยน่าหวาดกลัวสำหรับนักยอมรับ
ความจริงเป็นแค่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรมดาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ไม่ว่าก่อนคุณเกิดหรือหลังคุณตาย
ระหว่างมีชีวิตคุณเคยทำให้ความจริงบิดเบี้ยวไปเพียงใด
ก็ขอให้ใช้เวลาช่วงสุดท้ายดัดมันให้กลับตรงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เถิด
ผลจะเกิดเป็นจิตที่สบายของคุณเอง
944  สุขใจในธรรม / ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก / Re: "แสงธรรมสุขใจ" เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2553 18:37:18


เรื่องง่ายๆ..ที่แสนยาก ..

รู้เพียงว่า ..ไม่มีสิ่งใดยากเท่าการตามรู้จิตตัวเองให้ได้ทุกขณะ
เพราะไม่มีใครหลีกหนีความทุกข์ได้ เพียงเราจะอยู่กับมันอย่างไรโดยไม่ทุกข์นัก
อยู่โดย "ไม่มีตัวเรา" ให้มากที่สุด

..เพียงกำหนดรู้ ..เรื่องง่ายๆ ที่ทำได้ยาก ..
แต่เรื่องยากๆ นี้ทำให้มีชีวิตง่ายขึ้น..ที่จะดำรงอยู่


..จิตที่ไม่ค่อยได้เฝ้าตามดู ตามรู้ และยากที่จะมีสติรู้ทุกขณะจิต
ไปครั้งใดก็เหมือนตัวเองยังเป็นเด็กอนุบาลที่ต้องฝึกเรียนรู้อีกมาก
เพราะเพียงการไปปฏิบัติเพียงชั่วไม่กี่วัน บางคนอาจจะเปลี่ยนแปลงได้

เพียงเรามีสติรู้ .. และหมั่นที่จะฝึกฝนจิตตัวเอง



945  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ใต้เงาไม้ / Re: ** หากเหนื่อยนัก..ก็พักหน่อย.แล้วค่อยไป ! ** เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2553 16:15:04


เหนื่อยแล้วหนอ...ดวงใจท้อ...ย่นย่อนัก
เหนื่อยหยุดพัก...และตั้งหลัก...พักใจก่อน
เหตุและผล...กลเวลา...วาจาซ่อน
ลางหลอกหลอน...ดั่งไฟฟอน...ร้อนลุกลาม

เหนื่อยแล้วหนอ...ท้อก็ท้อ...ใจฝ่อแล้ว
ลมหายใจ...ก็เริ่มแผ่ว...แล้วหวั่นไหว
พักนานแล้ว...แต่ไร้แวว...หายแผ่วใจ
พักต่อไป...นานเท่าใด...ให้ร้ายลืม


946  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ใต้เงาไม้ / Re: "วังวน..ความคิด" เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2553 15:14:53
http://i146.photobucket.com/albums/r261/TesnoMel/profilefall2.gif


เพียงสายตาที่มองไป
เจอต้นไม้ใหญ่ทอดเงาลงสู่ผืนดิน
มอบความร่มรื่นให้แก่ธรณีที่ให้กำเนิด
สายฝนร่วงอยู่ข้างนอกนั่น
ประดุจดั่งน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตที่แล้งล้า
หลายต่อหลายชีวิต
ธรรมชาติสร้างและทำสิ่งที่ดีทีสุดเสมอ
หัวใจก็เกิดคำถาม
แล้วความสงสัยก็เริ่มต้นขึ้น

จะใช้เวลานานเท่าไหร่นะ
ที่ใบไม้สักใบ ดอกไม้สักดอก
จะผลิออกจากก้าน....เติบโต
....เบ่งบาน....เปลี่ยนสี....และร่วงหล่น

หนึ่งวัน..... หนึ่งสัปดาห์..... หนึ่งเดือน..... หรือมากกว่านั้น

บางทีอะไรบางอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
และจบลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
แต่บางทีบางสิ่งอาจคงอยู่
เนิ่นนานกว่านั้น

ถ้าเพียงเรามีเวลาสักนิด
เวลาที่ยาวนานกว่านี้อีกสักหน่อย
เพื่อที่จะมองดู สังเกตุ
เราคงจะตอบคำถามง่าย ๆ ข้อนี้ได้
แต่บางทีบางสิ่งเราก็อาจไม่มีเวลายาวนานขนาดนั้น
ไม่มีเวลาจะสังเกตุใบไม้สักใบ ใครสักคน
และสังเกตุหัวใจของตัวเอง ก่อนที่จะตอบคำถาม
เพราะคนถามเขารีบเร่งอยากได้คำตอบเหลือเกิน
เราเองก็จำเป็นจะต้องตอบคำถามนั้นทันที

คำตอบของบางคนอาจถูกต้อง
คำตอบของใครหลายคนอาจผิด
เพราะเขาคงไม่มีเวลาสังเกตุให้นานพอ


947  สุขใจในธรรม / ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก / Re: "แสงธรรมสุขใจ" เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2553 11:12:23
ด้วยความยินดี..และขอให้ทางทีมงานแยกหัวข้อเรื่องเล่า(นิทาน)นะค่ะ
948  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ จิบกาแฟ / Re: สวัสดี..วันใหม่ค่ะ... เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2553 10:49:30


โอ้คนดี…วันนี้เป็นอย่างไร

ฟ้าวันนี้...มีจุดหมายที่ใดหนอเธอ

มองให้ซึ้ง...สูดอากาศสายลมดี ๆ

949  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ใต้เงาไม้ / Re: สนามอารมณ์.... เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2553 10:26:09


ตอนเราเป็นเด็กกำลังหัดก้าวเดิน

ทุกย่างก้าวมีคนคอยล้อมหน้าล้อมหลัง

เพราะกลัวเราจะหกล้มแล้วร้องไห้

แต่ถึงอย่างไรสุดท้ายก็มีบ้างที่การประคับประคองพลั้งเผลอ

เด็กน้อยหกล้มเสียงร้องไห้แผดจ้า

โอ๋...โอ๋...คนดี...อย่าร้องนะ  อ่ะเป่าเพี้ยง.....หาย

เด็กน้อยยิ้มร่าแม้จะมีคราบน้ำตาติดอยู่ข้างแก้มก็ตามที

เมื่อเวลาผ่านไปจากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปี

ฉันเชื่อว่าคงมีอีกหลายครั้งหลายหนที่เราหกล้ม

หกล้มโดยที่ไม่มีใครคอยประคับประคองล้อมหน้าล้อมหลัง

หกล้มโดยที่เราต้องลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง

แต่การหกล้มในแต่ละครั้ง

ความเจ็บปวดมันอาจแตกต่างกันไปบ้าง

บางครั้งแค่สะดุดแล้วหกล้มมันก็ไม่ได้เจ็บมากมาย

บางครั้งหกล้มหน้าคะมำทำเอาหัวร้างข้างแตก

นั้นย่อมเจ็บปวดมากมายกว่าจะรักษาแผลให้หาย

หากแต่การหกล้มแต่ละครั้งถ้ามันแค่เจ็บเพียงร่างกาย

ก็หมายถึงว่าแผลทางกายสามารถรักษาให้หายได้ในเวลาที่ไม่นานนัก

แล้วถ้าผลของการหกล้มทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดที่ใจ

ก็จงเชื่อเถิดว่าเวลาจะช่วยรักษา

ให้ความเจ็บปวดทางใจบางเบาและบรรเทาลงได้เช่นกัน

งั้นก็คงไม่แปลกอะไร

ถ้าเราจะล้มลง....แม้ว่าจะเจ็บบ้างก็ไม่เป็นไร

เพราะถึงอย่างไรเวลาก็จะช่วยรักษาความเจ็บปวดให้มันหายไป

ไม่มีใครที่ยอมจะจมจ่อมอยู่กับความพ่ายแพ้หรอก

เมื่อหกล้มฉันเชื่อว่าทุก ๆ ครั้งเราจะต้องลุกขึ้นยืนได้ใหม่อีกแน่นอน

จะแปลกอะไรถ้าใครหลาย ๆ คนจะหกล้มบ่อย ๆ ในชีวิต

จะแปลกอะไรถ้าใครหลาย ๆ คนจะเจ็บปวดกับการหกล้มเสมอ

แต่ที่หน้าแปลกนั้นคือ...ยิ่งล้มมากเท่าไหร่

กับทำให้เราเข็มแข็งขึ้นและกล้าที่จะเผชิญกับความไม่ท้อถอยตลอดไป

ขอบคุณ..คือฉัน


950  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ใต้เงาไม้ / Re: "วังวน..ความคิด" เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2553 18:13:17
ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน

ใครมีความรู้สึกเหมือนเราบ้าง

ได้แต่อ้ำอึ้ง กลัวเธอรู้

แล้วเปลี่ยนไป...ไม่เหมือนเดิม

เธอทำให้ฉันรู้สึกมีค่า

ตลอดเวลาที่คบกัน

อยากเป็นคนที่เธอให้ความสำคัญ

คอยห่วงใย เคียงข้าง ทุกเวลา

ป่วยการที่จะคิด

ยิ่งถวิลหายิ่งวุ่นวาย

เพราะ..คำตอบสุดท้าย

เดียวดายเหมือนเดิม

....................................................

กฤตบวรวิชญ์


951  สุขใจในธรรม / ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก / Re: "แสงธรรมสุขใจ" เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2553 12:04:14


ธรรมะเกิดได้ง่ายๆ
แค่เรามีสติ ครองสติเราให้มั่น
หลังจากนั้นเราก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว
เพราะ
ศีล (พระพุทธคุณ)
สมาธิ (สติ)
กระทำดี (บารมี)
จะคุ้มครองเราอยู่เสมอตราบเท่าที่เรามีสติ...
ทุกข์ (เจ้ากรรมนายเวร) ที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร
กรรม (คือการเกิดมาเพื่อสร้างความดี เพื่อให้ทุกข์ที่จะเกิดขึ้นเบาบางลงในที่สุด)

ธรรมะง่ายๆ นี้ หากไม่ต้องใจอยากโกรธนะค่ะ...
ที่ข้าพเจ้าคิดแบบนี้..เพราะยังเป็นปถุชนคนเดินดิน....
ยังมีครอบครัวให้อาวรณ์...(กตัญญู..และรัก..)
ยังมีเพื่อนร่วมโลกให้อาทร...(ช่วยเหลือ..และแบ่งปั่น)
952  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ใต้เงาไม้ / Re: สนามอารมณ์.... เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2553 11:54:49

ค่ำคืนที่เคยเปลี่ยวเหงานั้นคงห่างหายไป
ในขณะที่กาลเวลาที่เริ่มเหนื่อยล้ากับการรอคอย

แล้วทุกอย่างจะกลับมาดังเดิมอีกครั้ง
ดั่งใบไม้ที่ร่วงโรย  ที่บัดนี้ใบอ่อนกำลังผลิรับแสงนั้น

คงไม่ได้แตกต่าง
กับคำปลอบโยนชโลมใจในยามที่เหนื่อยล้า
กำลังใจและความห่วงใยที่ไม่อาจลืมเลือนในห้วงวันเวลา

ดั่งแสงแห่งฉ่ำชื่นทอดผ่านความเหงาเข้ามาภายใน
ผ่านหน้าต่างแห่งความเดียวดายของความว่างเปล่า
ทอสายใยสว่างไหวในความเงียบ....

หากแต่ค่ำคืนนี้..คงเป็นการดี
ถ้าฉันจะขอบคุณใครสักคน..



ขอบคุณ..หนุ่มใต้ใจดี..ค่ะ
953  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ใต้เงาไม้ / Re: ** หากเหนื่อยนัก..ก็พักหน่อย.แล้วค่อยไป ! ** เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2553 11:12:01


หากเหนื่อยล้าก็วางสิ่งที่อยู่บนบ่าไว้บ้าง
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ
ลองสำรวจตัวเองดูหน่อยดีมั๊ย
คุณละเลยตัวเองมานานแค่ไหน
คุณใช้เวลาไปกับภาระหน้าที่และความรับผิดชอบมานานเท่าไหร่

สุขภาพร่างกายคุณใช้งานมันหนักหนาสาหัสเพียงใด

หากวันนี้คุณจะวางทุกอย่างลงบ้าง
อย่างน้อยแค่ซักช่วงเวลานึง
มันก็เหมือนการได้เติมพลังให้กับตัวเองอีกครั้ง
พลังในตัวเองที่มีอยู่ถ้าแค่ได้แต่ใช้ไป
ไม่มีการเติมเต็มมันย่อมมีวันหมด
เมื่อถึงวันนั้นเราอาจจะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นมา
และต้องละทิ้งภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบตลอดไปก็อาจเป็นได้

งั้นถ้าวันนี้มันเหนื่อยล้า.....
แต่..ด้วยความรักที่มีต่อลูก
ไม่ว่าจะหนักเพียงใด แม่ก็ไม่เคยวางซะที


954  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ใต้เงาไม้ / Re: "วังวน..ความคิด" เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2553 11:10:56


มากมาย

คำถาม และ คำตอบ

มีอยู่ในระยะทางที่เราเดิน

รับรู้ล่วงเลย ผ่านกาลเวลา

เจ็บปวด..ดีใจ

สุข ก็ร้อง...เศร้าก็ร้อง

ทางไม่ใช่ว่าจะเรียบเสมอไป .........

บางสิ่งไม่ได้เป็นเหมือนดังที่ตาเห็น

หลุมพราง...หลอกล่อ

กับดัก หลอกลวง และ โกหก

เหน็บหนาว โดดเดี่ยว

ครุ่นคิด

อ้างว้าง สับสน

หาเพื่อน..ยึดเหนี่ยว ผูกพัน

สัญญา คล้องในเกลียวที่เหน็บหนาว

สวยงาม รำพัน ไม่ห่าง

ก่อเกิดสิ่ง สวยงาม

คืนวันที่หนาวเหน็บ

คลายตัว อบอุ่นปกคลุม

แสงทีหายไป

ทางที่สับสน

คืนวันที่หนาวเหน็บ

หลุมพรางอับแยบยล

สับสนกับจิตตัวเอง

บัดนี้หายไป........แล้ว

ซึ่ง..วีถีเก่าก่อเกิดสิ่งใหม่ๆ

ชีวิตใหม่ กับ การต่อสู้  กำลังจะเริ่มต้น..

..เดินข้ามสะพานชีวิต..ไปอย่างระทึก..


955  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ จิบกาแฟ / Re: สวัสดี..วันใหม่ค่ะ... เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2553 10:58:22
(:PING:)ขม..ชอบวันหยุดดดดด.... หลับ


956  นั่งเล่นหลังสวน / เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว / Re: 108 เคล็ดกิน เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2553 13:38:30
หวัดดีค่ะ... โทดค๊าบ
แอบเข้าครัว...ชิมโน่น..ชิมนี้..เยอะแยะดีจัง...
ขอบคุณกับสาระดีๆ  ตกหลุมรัก
957  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ใต้เงาไม้ / Re: ** หากเหนื่อยนัก..ก็พักหน่อย.แล้วค่อยไป ! ** เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2553 10:16:22

พักซะบ้าง ...เงยหน้าขึ้นมองสำรวจท้องฟ้า...
เห็นอะไรบนนั้น...
อย่างน้อยจะได้รู้ว่า...
อดีตที่ผ่านมา...ผิดพลั้งแค่ไหน...
หรือปัจจุบัน ...มีความสุขดีไหม
ควรหยุดอยู่ตรงนี้หรือก้าวไปข้างหน้า...
มองท้องฟ้า ...อ่านชีวิตตัวเองให้ออก...
อย่าพยายามควบคุม...แต่ก็อย่าละเลยไม่สนใจ..

...วันนี้ท้องฟ้าของเธอสวยไหม...คนดี...


958  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ จิบกาแฟ / Re: สวัสดี..วันใหม่ค่ะ... เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2553 10:01:18
เมฆหมอกวันเก่าผ่านไปแล้ว
ท้องฟ้าวันใหม่สดใสเสมอ
ผีเสื้อโปรดบินออกมา
แต่งแต้มความแจ่มใสให้ท้องฟ้า
สร้างรอยยิ้มให้แก่เด็กน้อย
เป็นสัจจธรรมฝากไว้ในโลก
ด้วยความมุ่งมั่นของชีวิต.....
ที่ทุกๆ วันเป็นการเริ่มต้นใหม่
และเป็นโอกาสที่จะแก้ไขสิ่งผิดพลาดในวันวานเสมอ


959  สุขใจในธรรม / ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก / Re: "แสงธรรมสุขใจ" เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2553 09:50:56
เมื่อจิตอ่อนน้อมเป็นกุศล

เห็นทุกชีวิตเสมอภาคเป็นคุณธรรม

เอาใจใส่ต่อสิ่งเหล่านี้ด้วยรอยยิ้ม

ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต หากกลับใจก็คือฝั่ง.

ใจสงบ..เป็นความบริบูรณ์แห่งพุทธธรรม


960  สุขใจในธรรม / ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก / Re: "แสงธรรมสุขใจ" เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2553 10:08:28
"ปัญญาวิมุตติ "

แม้จะเป็นผู้รู้คงไว้ซึ่งพระไตรปิฎก
แต่เป็นผู้รกรุงรังอยู่ภายในจิตใจก็ใช้ไม่ได้
ต้องบริสุทธิ์ทั้งภายนอกและภายใน
ปัญญาเป็นเรื่องสำคัญ มีวาจาที่เป็นประดุจดาบสองคม
คือพูดสอนตรงประเด็นเลย คนรับได้ก็ดีไป
คนที่ไม่เข้าใจหรือรับไม่ได้ก็อาจเป็นปรปักษ์ไปเลยทีเดียว

มีคำกล่าวไว้ว่า...
"ไม่ต้องอาศัยหนังสือ แต่ชี้ไปตรงจิตของมนุษย์
ให้เห็นแจ้งในภาวะที่แท้จริง แล้วจะเห็นธรรม"

สรรพสัตว์ล้วนมีพุทธภาวะอยู่ภายในตัวทุก ๆ คน
คำพูดหรือตัวหนังสือไม่เพียงพอที่จะอธิบายสัจภาวะใดใดได้

เพราะฉะนั้น
บางคราวจำต้องอาศัยปริศนาธรรม และคำพูดที่เสียดแทงเข้าไปถึงหัวใจ
การบรรลุมรรรคผลนั้น ไม่ใช่อยู่ที่ตัวบทอักษร หรือความรู้ในด้านปริยัติ
แต่ต้องอยู่ที่การขัดเกลาจิตใจของตนเองเป็นสำคัญ


หน้า:  1 ... 46 47 [48] 49 50 51
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.144 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 31 สิงหาคม 2566 12:45:51