[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 พฤษภาคม 2567 21:33:06 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 ... 141 142 [143] 144 145 ... 1132
2841  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - "สุริยะ" เผยลูกปืนแตก ล้อรถไฟฟ้าหล่นทับแท็กซี่ มอบเงินปลอบขวัญโชเฟอร์แล้ว เมื่อ: 03 มกราคม 2567 11:00:53
"สุริยะ" เผยลูกปืนแตก ล้อรถไฟฟ้าหล่นทับแท็กซี่ มอบเงินปลอบขวัญโชเฟอร์แล้ว
         


"สุริยะ" เผยลูกปืนแตก ล้อรถไฟฟ้าหล่นทับแท็กซี่ มอบเงินปลอบขวัญโชเฟอร์แล้ว" width="100" height="100  รมว.คมนาคม เผยลูกปืนล้อแตก เหตุล้อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองตกลงมาถูกรถแท็กซี่ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับสัมปทาน วางแนวทางป้องกันเหตุซ้ำรอย

         

https://www.sanook.com/news/9167458/
         
2842  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ครม.รับทราบแล้ว ปรับเกณฑ์อายุขั้นต่ำในการสมรสเป็น 18 ปี ป้องกันบังคับแต่งงาน เมื่อ: 03 มกราคม 2567 08:56:17
ครม.รับทราบแล้ว ปรับเกณฑ์อายุขั้นต่ำในการสมรสเป็น 18 ปี ป้องกันบังคับแต่งงาน
         


ครม.รับทราบแล้ว ปรับเกณฑ์อายุขั้นต่ำในการสมรสเป็น 18 ปี ป้องกันบังคับแต่งงาน" width="100" height="100  ครม. รับทราบข้อเสนอ กสม.ชงปรับเกณฑ์อายุขั้นต่ำสมรสเป็น 18 ปี ป้องกันการหาประโยชน์จากการบังคับแต่งงาน
         

https://www.sanook.com/news/9167378/
         
2843  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - คบมา 8 ปี เพิ่งแต่งงาน เมียช็อกใจสลาย ผัวซ่อนความลับน่าขนลุกไว้ในมือถือ เมื่อ: 03 มกราคม 2567 06:23:38
คบมา 8 ปี เพิ่งแต่งงาน เมียช็อกใจสลาย ผัวซ่อนความลับน่าขนลุกไว้ในมือถือ
         


คบมา 8 ปี เพิ่งแต่งงาน เมียช็อกใจสลาย ผัวซ่อนความลับน่าขนลุกไว้ในมือถือ" width="100" height="100  คบกันมา 8 ปี เพิ่งแต่งงานกันไม่นาน สาวช็อกใจสลาย สามีซ่อนความลับไว้ในมือถือ คืนก่อนงานเลี้ยงแต่งงานยังทำแบบนี้
         

https://www.sanook.com/news/9167326/
         
2844  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - '365 วัน พันเหตุการณ์' ย้อนดู 12 เหตุการณ์การเมืองและสิทธิมนุษยชน เกิดอะไรขึ้นบ เมื่อ: 03 มกราคม 2567 06:16:36
'365 วัน พันเหตุการณ์' ย้อนดู 12 เหตุการณ์การเมืองและสิทธิมนุษยชน เกิดอะไรขึ้นบ้างในปี 2566
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-01-02 13:20</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>รายงาน: ณัฐพล เมฆโสภณ</p>
<p>ภาพปก: กิตติยา อรอินทร์</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'365 วัน พันเหตุการณ์' ปี 2566 นับเป็นปีที่เกิดเรื่องราวมากมาย เหตุการณ์ที่ 'ไม่เคยเห็น ก็ได้เห็น' ทั้งชัยชนะของพรรคก้าวไกลในสนามเลือกตั้งระดับประเทศ การกลับไทยของ 'วัชรเรศร' และอดีตนายกฯ ทักษิณ รวมถึงการต่อสู้เพื่อเรียกร้องเพื่อสิทธิประกันตัวด้วยวิธีสุดขั้วที่แทบไม่เกิดขึ้นมาก่อน ประชาไทขอชวนผู้อ่านย้อนดู 12 เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองและสิทธิมนุษยชน เกิดอะไรขึ้นบ้างในปี 2566</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">16 มกราคม: 'แบม-ตะวัน' ถอนประกันตัวเอง อดอาหาร-น้ำแลกชีวิต เพื่อสิทธิประกันตัวของผู้ต้องขังทางการเมือง</span></h2>
<p>จั่วหัวต้นปี 2566 ด้วยการต่อสู้ของนักกิจกรรมอิสระ 'แบม' อรวรรณ ภู่พงษ์ และ 'ตะวัน' ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ เมื่อ 16 มกราคม 2566 ทั้งสองคนประกาศขอถอนประกันตนเอง เพื่อต่อสู้เรียกร้องสิทธิประกันตัวของเพื่อนผู้ต้องขังทางการเมือง พร้อมกับแถลงข้อเรียกร้อง 3 ข้อสื่อสารถึงกระบวนยุติธรรม และพรรคการเมืองในช่วงเวลาก่อนการเลือกตั้ง ได้แก่ 1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 2. ยุติการดำเนินคดีทางการเมือง และ 3. พรรคการเมืองในลงเลือกตั้งต้องมีนโยบายประกันเสรีภาพ และการมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยการยกเลิกมาตรา 112 และมาตรา 116 </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52636178151_50b979e7e6_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">'แบม-ตะวัน' ประกาศถอนประกันตัวเอง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์หน้าป้ายศาลฎีกา (ถ่ายโดย แมวส้มประชาไท)</span></p>
<p>อย่างไรก็ตาม ผ่านมา 2 วัน แต่ข้อเรียกร้องยังไม่ได้รับการตอบรับ เมื่อ 18 มกราคม 2566 เพจเฟซบุ๊ก 'Tawan Tantawan' ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอแถลงยกระดับการต่อสู้โดยการอดอาหารและอดน้ำ (Dry Hunger Strike) ซึ่งเป็นวิธีที่อันตรายต่อสุขภาพและชีวิต</p>
<p>สองนักกิจกรรมกระทำอารยขัดขืนอดอาหารและน้ำ สลับกับการอดอาหารอย่างเดียว รวมระยะเวลา 52 วัน หรือนับตั้งแต่ 18 มกราคม 2566 จนถึงระยะเวลา 11 มีนาคม 2566 แม้ว่าไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่อธิบายว่า การอารยขัดขืนของอรวรรณ และทานตะวัน ส่งผลกระเทือนต่อกระบวนการยุติธรรมหรือการเมืองไทยอย่างไร แต่ข้อมูลจากศูนย์ทนายความฯ เปิดเผยว่า ระหว่าง 52 วันที่ อรวรรณ และทานตะวัน อดอาหารประท้วง ไม่มีผู้ถูกคุมขังเพิ่ม ขณะเดียวกัน มีผู้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 4 ราย และมีผู้ยื่นคำร้องขอถอดกำไล EM และศาลอนุญาตอีกอย่างน้อย 34 ราย</p>
<p>หลังจากยุติอดอาหารและน้ำ ทั้งสองคนเข้ารับการรักษาตัวจนสุขภาพร่างกายดีขึ้น ก่อนออกมากิจกรรมการเมืองอีกหลายครั้ง อย่างการไปทำกิจกรรมโพล 'เห็นด้วยหรือไม่กับการยกเลิก/แก้ไขมาตรา 112' ตามเวทีปราศรัยของพรรคการเมืองพรรคต่างๆ ก่อนการเลือกตั้ง สส.ในวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา การร่วมกิจกรรม 'เดินเพื่อเพื่อน' จากศาลเยาวชนและครอบครัวกลางไปที่บ้านปรานี จ.นครปฐม รวมระยะทาง 51 กม. เพื่อเรียกร้องปล่อยตัว ธนลภย์ ผลัญชัย หรือหยก เยาวชนอายุ 15 ปี ผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 เมื่อ 3-4 พฤษภาคม 2566 และอื่นๆ</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>'ตะวัน-แบม' ยื่นถอนประกันตัวเอง แลกอิสรภาพที่แท้จริง เรียกร้องปล่อยผู้ต้องขังทางการเมืองทั้งหมด ภายใน 3 วัน</li>
<li>เผยคลิป 'ตะวัน-แบม' 2 ผู้ต้องหา 112 ประกาศ 'อดน้ำและอาหาร' จากในเรือนจำ ร้องประกันตัวนักโทษการเมืองทั้งหมด</li>
<li>‘ตะวัน-แบม เอฟเฟกต์’ ผู้ต้องหาทางการเมืองยังไม่ถูกฝากขังเพิ่ม-ทยอยได้ประกันตัวต่อเนื่อง</li>
<li>‘ตะวัน-แบม’ ประกาศจะอดอาหารหน้าศาลฎีกาพรุ่งนี้ ลั่น เพื่อนต้องได้กลับบ้านทุกคน</li>
<li>ตะวัน-แบม ปักหลัก อดอาหารต่อหน้าศาลฎีกา จนกว่าผู้ต้องขังทางการเมืองจะได้ประกันตัวทุกคน</li>
<li>'แบม-ตะวัน' เข้า รพ.ธรรมศาสตร์ฯ อาการวิกฤต หวั่นไม่พ้นคืนนี้ อวัยวะภายในเสียหาย</li>
<li>'ตะวัน-แบม' เลิกอดอาหารแล้ว จะรับการรักษาเพื่อต่อสู้ต่อไป เนื่องจากยังไม่ได้รับการตอบรับจากศาล</li>
<li>แบม-ตะวัน ออก รพ. รุดทำโพลหน้าเวทีปราศรัย ‘เพื่อไทย’ อยุธยา ‘ต้องการให้ พท.ยกเลิก ม.112 หรือไม่'</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">7 กุมภาพันธ์: เก็ท-จตุพล-ณัฐพล ฝืนตื่นประท้วง เรียกร้องสิทธิประกันตัว </span></h2>
<p>คู่ขนานกับการอดอาหารและน้ำของทานตะวัน และอรวรรณ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 'เก็ท' โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักกิจกรรมผู้ก่อตั้งโมกหลวงริมน้ำ จตุพล และณัฐพล สองนักกิจกรรมจากทะลุแก๊ซ ได้ร่วมกันประท้วง 'ฝืนตื่น' เพื่อผลักดันข้อเรียกร้อง 3 ข้อของอรวรรณ และทานตะวัน และสิทธิประกันตัวให้ผู้ถูกคุมขังทางการเมือง </p>
<p>ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า การประท้วงโดยการฝืนตื่น หรือการประท้วงโดยไม่ให้ตัวเองนอนหลับตามธรรมชาติ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายใกล้เคียงกับการอดอาหารและน้ำประท้วง โดยเก็ท ฝืนตื่นประท้วง เป็นระยะเวลา 14 วัน ตั้งแต่ 7-20 กุมภาพันธ์ จตุพล และณัฐพล ประท้วงโดยการฝืนตื่นตั้งแต่ 7-10 กุมภาพันธ์ รวมระยะเวลา 4 วัน แต่ข้อเรียกร้องของพวกเขาก็ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด</p>
<div class="more-stiry">
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>ปชช.-ผู้ต้องขังทางการเมืองร่วมประท้วงอดอาหาร-น้ำ อดนอน ดัน 3 ข้อเรียกร้องทะลุวัง</li>
</ul>
</div>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">28 มีนาคม: ปฏิบัติการรณรงค์ยกเลิก มาตรา 112 ที่ใกล้วังมากที่สุด</span></h2>
<p>เหตุการณ์ต่อมาเกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 28 มีนาคม 2566 เมื่อมีศิลปินอิสระจากจังหวัดขอนแก่น 'บังเอิญ' ศุทธวีร์ สร้อยคำ อายุ 25 ปี ได้ใช้สีสเปรย์สีดำระบายบนกำแพงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ถนนหน้าพระลาน ฝั่งตรงข้ามสนามหลวง เป็นสัญลักษณ์ 'อนาคิสต์' ขีดฆ่า 112 และตัวอักษรภาษาอังกฤษ 'P' ซึ่งตั้งใจจะเขียนเป็นคำว่า 'People' (ประชาชน) แต่ถูกตำรวจรวบตัวก่อนจะเขียนข้อความเสร็จ</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52777036719_d4343a4269_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">บังเอิญ ถูกตำรวจจับกุมขณะพยายามพ่นสเปรย์กำแพงวัดพระแก้ว (ถ่ายโดย แมวส้มประชาไท)</span></p>
<p>ศิลปินวัย 25 ปี ถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สน.พระราชวัง ทันที โดยบีบีซีไทย ได้บรรยายเหตุการณ์นี้ว่านี่เป็นปฏิบัติการรณรงค์ยกเลิกมาตรา 112 ที่ใกล้วังมากที่สุดนับตั้งแต่การชุมนุมของคนรุ่นใหม่ ถูกจุดติดเมื่อปี 2563 เป็นต้นมา </p>
<p>บังเอิญ ถูกแจ้งข้อหา พ.ร.บ.โบราณสถาน และ พ.ร.บ.ความสะอาด และไม่มีข้อหามาตรา 112 ก่อนได้รับการประกันตัวชั้นสอบสวนในวันที่ 29 มีนาคม โดยศาลให้วางเงิน 50,000 บาท และมีเงื่อนไขห้ามกระทำผิดในลักษณะเดียวกันอีก </p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>ศิลปินอิสระวัย 25 ปี ผู้พ่นสีกำแพงวัง ถูกแจ้ง พ.ร.บ.โบราณสถาน-ความสะอาด ก่อนได้ประกัน</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">29 มีนาคม: 'หยก' เยาวชนวัย 15 ปี ผู้ต้องหา ม.112 ถูกคุมขังที่สถานพินิจในจังหวัดนครปฐม 51 วัน </span></h2>
<p>29 มีนาคม จนถึง 18 พฤษภาคม 2566 เป็นช่วงเวลาที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ออกหมายควบคุมตัว 'หยก' ธนภลย์ ผลัญชัย เยาวชนอายุ 15 ปี ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิงบ้านปรานี (บ้านปรานี) จังหวัดนครปฐม รวมระยะเวลา 51 วัน หลังเธอถูกจับกุมจากหมายจับที่ สน.สำราญราษฎร์ และแจ้งข้อหามาตรา 112 กรณีแสดงออกทางการเมืองในกิจกรรม "13 ตุลา หวังว่าสายฝนจะพาล่องลอยไป" ณ ลานเสาชิงช้า เมื่อปี 2565 </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52907116428_5c944ac74c_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">'หยก' ได้รับการปล่อยตัวจากบ้านปรานี (ภาพถ่ายโดย แมวส้มประชาไท)</span></p>
<p>สำหรับธนภลย์ ผลัญชัย เป็นหนึ่งในเยาวชนที่อายุน้อยที่สุดที่ถูกดำเนินคดีด้วยข้อหามาตรา 112 และก่อนหน้าที่เธอจะถูกจับกุม เธอเคยถูกตำรวจสันติบาลมาหาที่บ้าน และโรงเรียน และเจ้าหน้าที่มีการพูดคุกคามผู้ปกครองของเธอ เช่น ควรให้ลูกไปพบจิตแพทย์ หรือ "มีลูกแบบนี้ฆ่าตัวตายดีกว่า" และในช่วงที่อยู่ในสถานพินิจ เธอยังถูกประธานกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ไลฟ์สดขู่ฆ่า หากไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>'หยก' ต้องเจออะไรบ้าง จากผู้ถูกกล่าวหา มาตรา 112 จนถึงวันที่ถูกพรากสิทธิการศึกษา</li>
<li>ระบวนการ (ไม่) ยุติธรรมต่อ 'เด็ก' ย้อนดูกรณี 'หยก' และนักกิจกรรมเยาวชน สู่ข้อเสนอปฏิรูป</li>
<li>ปธ.ศปปส.ไลฟ์สดขู่เอาชีวิตนักกิจกรรมเยาวชน ถ้าไม่ยอมรับกระบวนการศาล</li>
<li>เยาวชนวัย 15 ปี ถูกส่งตัวเข้าสถานพินิจในคดี ม.112 ม็อบ13ตุลา65 หลังปฏิเสธอำนาจศาล-สิทธิประกัน</li>
<li>'หยก' ให้สัมภาษณ์สื่อหลังได้รับการปล่อยตัวจากบ้านปรานี ยืนยันปฏิเสธอำนาจศาลต่อ</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">14 เมษายน: นักกิจกรรมการเมืองถูกคนร้ายสวมหมวกกันน็อคใช้ไม้เบสบอลฟาดจนแขนหัก ใกล้ที่พักยามวิกาล</span></h2>
<p><span style="color:null;">14 เมษายน เวลา 21.00 น. เวหา แสนชนชนะศึก ผู้ต้องหามาตรา 112 ได้ถูกชายใส่หมวกกันน็อค ใช้ไม้เบสบอลฟาดเข้าไปที่แขนของเขา จนแขนหัก และมีรอยฟกช้ำทั่วบริเวณแขน ขา และหลัง ขณะที่เวหา และบังเอิญ เดินออกไปซื้ออาหารเย็นทาน และกำลังเดินกลับที่พักย่านนนทบุรี </span></p>
<p><span style="color:null;">อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจใช้เวลาไม่นาน สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุที่ใช้ไม้เบสบอลตีจนแขนหัก 2 ใน 3 ของผู้ก่อเหตุทั้งหมด และทั้งสองคนภายหลังได้รับการประกันตัวในเวลาต่อมา </span></p>
<p><span style="color:null;">ทั้งนี้ การก่อเหตุลอบทำร้ายร่างกายนักกิจกรรม ตามการรายงานของสื่อมวลชน เกิดขึ้นครั้งสุดท้าย เมื่อ 28 มิถุนายน 2562 กรณี 'จ่านิว' สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ขณะนั้นเป็นนักกิจกรรมการเมือง ถูกคนร้ายใช้ไม้เบสบอลตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส</span></p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>'เวหา' แจ้งความ สภ.บางบัวทอง ถูกชายสวมหมวกกันน็อคใช้ไม้เบสบอลเหล็กทำร้ายจนแขนหัก</li>
<li>ตร.จับ 2 ใน 3 ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย 'เวหา' นักกิจกรรมการเมือง</li>
<li>'ขู่ฆ่า ชกปาก ฟาดด้วยไม้' รวมเคสนักกิจกรรมถูกทำร้าย 'ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า'</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">14 พฤษภาคม : พรรคก้าวไกล ชนะการเลือกตั้ง สส.ปี 2566 ฉาบประเทศไทยเป็นสีส้ม</span></h2>
<p>14 พฤษภาคม พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1 สามารถเอกชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยได้ สส.เขต จำนวน 112 ที่นั่ง และ สส.แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 39 ที่นั่ง รวมเป็น 151 ที่นั่ง แซงพรรคเพื่อไทย แชมป์เก่าโดยได้ สส.รวม 141 ที่นั่ง เฉือนไปเพียง 10 ที่นั่งเท่านั้น และอันดับ 3 คือพรรคภูมิใจไทย ของอนุทิน ชาญวีระกูล จำนวน 71 ที่นั่ง </p>
<p>ทุกคนทราบตอนจบว่า พรรคก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ เนื่องจากไม่ผ่านเสียงโหวตของรัฐสภา แต่สิริพรรณ นกสวน สวัสดี นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ เคยนิยามว่าชัยชนะของพรรคก้าวไกลเปรียบเสมือน ‘ทอร์นาโดแห่งความเปลี่ยนแปลง’ เนื่องจากสะท้อนความต้องการความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยที่ไม่ได้แค่คนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่เป็นคนทุกวัย และในห้วงเวลาเดียวกัน ก็เป็นความเสื่อมมนต์ขลังของระบบ 'บ้านใหญ่' หรือระบบอุปถัมภ์ดูแลพื้นที่ ในการเลือกตั้ง</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52892695039_d5fd1d5302_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลช่วงเวลานั้น ปราศรัยใหญ่หาเสียงครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง สส. ปี 2566 ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง </span></p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>กกต.ประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">5 สิงหาคม: 'วัชรเรศร' แลนดิ้งไทยครั้งแรกในรอบ 27 ปี</span></h2>
<p>วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารชื่อดัง รายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกของ 5 สิงหาคม วัชรเรศร วชิรเวช อายุ 42 ปี พระราชโอรสพระองค์ที่ 2 ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จกลับประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 27 ปี พร้อมกับมีภาพของเขาที่สนามบินสุวรรณภูมิ และจะใช้เวลาอยู่ในประเทศไทย เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53100103063_8b9e1ba686_c.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ภาพของ 'วัชรเรศร' กลับมาเยี่ยมประเทศไทยครั้งแรก (ที่มา: เฟซบุ๊ก Vacharaesorn Vivacharawongse)</span></p>
<p>ไม่ได้มาแค่หนึ่ง แต่เมื่อ 13 สิงหาคม จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ อายุ 40 ปี พระราชโอรสพระองค์ที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เดินทางกลับประเทศไทยด้วยเช่นกัน และอยู่เพียงระยะเวลาสั้นๆ เพื่อมารับพี่ชาย 'วัชรเรศร' กลับสหรัฐฯ ด้วยกัน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม</p>
<p>นอกจากนี้ วัชรเรศร ไม่ได้มาแค่ครั้งเดียว เพราะในปีเดียวกัน วัชรเรศร กลับมาประเทศไทยอีกครั้งราว 4 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวยืนยันว่ามาเป็นการส่วนตัว เพื่อร่วมกิจกรรมในช่วงวันพ่อ 5 ธันวาคม โดย วัชรเรศร อาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลา 14 วัน ก่อนเดินทางกลับในวันที่ 18 ธันวาคม </p>
<p>ทั้งนี้ การกลับมาของวัชรเรศร ทั้ง 2 ครั้ง มีความน่าสนใจจากสาธารณชนอย่างมาก เนื่องจากเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสคำถามอนาคตของการสืบสันตติวงศ์หลังรัชกาลที่ 10 เนื่องจาก 'เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ' ยังอยู่ในระหว่างประชวร ตั้งแต่ปลายปี 2565</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>'Bangkok Tuk-Tuk' ท่านอ้น โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊ก หลังกลับไทย</li>
<li>เผยภาพ 'จักรีวัชร วิวัชรวงศ์' กลับไทยครั้งแรก</li>
<li>
<p>'วัชเรศร' โพสต์ภาพถึงไทยแล้ว เตรียมทำกิจกรรมวันพ่อพรุ่งนี้</p>
</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">22 สิงหาคม: 'ทักษิณ' กลับไทยในรอบ 15 ปี-'เพื่อไทย' ตั้งรัฐบาลสำเร็จ</span></h2>
<p>ไม่ได้มีแค่วัชรเรศร และจักรีวัชร เท่านั้นที่ได้กลับบ้านแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพราะว่าเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา เวลา 9.00 น. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อายุ 72 ปี นั่งเครื่องบินแลนด์ดิ้งท่าอากาศยานดอนเมือง ประเทศไทย ซึ่งเป็นการกลับไทยในรอบ 15 ปีกับอีก 22 วัน และเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เขาถูกรัฐประหารเมื่อปี 2549</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53133435781_4e9e605a51_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ทักษิณ กลับไทย (ถ่ายโดย คชรักษ์ แก้วสุราช)</span></p>
<p>ทั้งนี้ การกลับมาของทักษิณ เกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังพรรคเพื่อไทย แถลงสื่อจัดตั้งรัฐบาล 314 เสียง โดยไม่มีเงาของพรรคก้าวไกล ผู้ชนะการเลือกตั้ง สส.ครั้งล่าสุด ที่เคยร่วมกันจับมือเซ็นข้อตกลงร่วม (MOU) เพื่อจัดตั้งรัฐบาลฝั่งประชาธิปไตย ร่วม 8 พรรคการเมือง</p>
<p>ในวันเดียวกัน หลังทักษิณ กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมของไทย พรรคเพื่อไทย ผ่านโหวตของรัฐสภาและสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในวันเดียวกัน ส่งให้เศรษฐา ทวีสิน อดีตซีอีโอของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อย่าง 'แสนสิริ' ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ด้วยคะแนน 482 เสียง จาก 728 เสียงในรัฐสภา</p>
<p>นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจอย่างมากในทางการเมือง โดยมีผู้เชี่ยวชาญมองว่า การตั้งรัฐบาลครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ยกมือโหวตลงมติ 'เห็นชอบ' ให้เศรษฐา พร้อมกับดับฝันของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีกระแสข่าวมาว่าต้องการเก้าอี้นายกฯ เช่นเดียวกัน และการกลับมาของ 'ทักษิณ' ยังเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้พรรคเพื่อไทย ตั้งรัฐบาลสำเร็จ </p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>อดีตนายกฯ 'ทักษิณ' เดินทางกลับถึงไทย รอบ 2 หลังถูก รปห. ปี'49</li>
<li>สภาลงมติให้ 'เศรษฐา' ได้เป็นนายกฯ</li>
<li>
<p>ออกหมายขังอดีตนายกฯ 'ทักษิณ' รวมโทษจำคุก 8 ปี ส่งตัวเข้าเรือนจำทันที</p>
</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">22 สิงหาคม: 'ConforAll' ล่า 2 แสนรายชื่อใน 3 วัน สายฟ้าแลบ เสนอคำถามประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ทุกหมวดทุกมาตรา สสร.เลือกตั้ง 100%  </span></h2>
<p>22-25 สิงหาคม กลุ่มสมัครอาสาล่ารายชื่อเพื่อเสนอคำถามทำประชามติ หรือ ConforAll ล่าลายเซ็นรวม 205,379 รายชื่อ ด้วยเวลาเพียง 3 วัน หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อ้างว่าไม่สามารถใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในการเสนอคำถามตาม พ.ร.บ.ประชามติ ส่งผลให้ 4 หมื่นรายชื่อที่ระดมกันมาก่อนหน้านี้ในช่องทางออนไลน์ถูกปัดตกทันที และเกิดเป็นกระแสที่ประชาชนหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกันเปิดโต๊ะล่ารายชื่อเขียนด้วยมือ จนได้ลายเซ็นเกินเป้าหมายที่กำหนดจากเดิม 5,000 รายชื่อ เป็น 2 แสนรายชื่อในพริบตาเดียว</p>
<p>ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีม ConforAll ต้องเร่งรีบเสนอคำถามประชามตินั้น ก็เพื่อให้ทันการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก โดยอ้างอิงจากคำแถลงของพรรคเพื่อไทย ที่ระบุไว้เมื่อ 2 สิงหาคม 2566 ตอนที่ยุติ MOU แนวทางการจัดตั้งรัฐบาลกับ 8 พรรคร่วมเดิม (ซึ่งมีพรรคก้าวไกล) ว่า ในการประชุม ครม.ครั้งแรกจะให้มีการทำประชามติ และตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ในกระบวนการมีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560</p>
<p>อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ครม.นัดแรก ที่ประชุมเพียงแค่ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ 2560 และเมื่อล่าสุด ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการฯ ออกแถลงแนวทางการทำประชามติ โดยระบุว่าจะถามประชามติ 3 ครั้ง ครั้งแรกคือเขียนรัฐธรรมนูญใหม่โดยไม่แตะหมวด 1 และ 2 พร้อมทั้งเตรียมเสนอ ครม.ประมาณช่วงเดือนมกราคม 2567 หรือช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 ซึ่งหากเป็นการถามประชามตินี้จะไม่ตรงกับคำถามของ ConForAll ที่ต้องการแก้ไขทั้งฉบับ </p>
<p>ทีมบรรณาธิการของประชาไท ได้ยกให้ "กลุ่มสมัครอาสาล่ารายชื่อเพื่อเสนอคำถามทำประชามติ" เป็น "กลุ่มบุคคลแห่งปี 2566" เนื่องจากการล่ารายชื่อ 2 แสนรายชื่อภายในระยะเวลาอันสั้น สะท้อนพลังของประชาชน และความตื่นตัวในการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสังคมไทย เป็นบรรทัดฐานใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53154313044_91fcf5ed84_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ทีม ConforAll</span></p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>บุคคลแห่งปี 2023 : อาสาล่าชื่อทำประชามติ 'เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เลือกตั้ง 100%'</li>
<li>#ConforAll 2 แสนรายชื่อ ใน 3 วัน ไม่ปาฏิหาริย์ แต่เพราะประเทศไทยไม่เหมือนเดิม</li>
<li>'ภูมิธรรม' แถลงถามประชามติ 3 ครั้ง เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ไม่แตะหมวด 1 และ 2 เตรียมเสนอ ครม. ม.ค. 67</li>
<li>ครม.มีมติตั้ง คกก.ศึกษาแนวทาง แก้ รธน. พร้อมรับฟังประชาชน ย้ำไม่แก้หมวด 1 และ 2</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">19 พฤศจิกายน: ภาคประชาชนเปิดตัวร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม </span></h2>
<p>19 พฤศจิกายน 'เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน' เปิดตัว "ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พ.ศ...." หรือ "ร่างนิรโทษกรรมประชาชน" โดยมีเป้าหมายสำคัญ เพื่อลบล้างความผิดของประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุม และแสดงออกทางการเมือง หวังลดความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังคงมีอยู่ระหว่างฝ่ายต่างๆ ตั้งแต่ 19 กันยายน 2549 จนถึงวันที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้บังคับใช้</p>
<p>ร่างกฎหมายนี้จะแบ่งคดีการเมืองที่ได้รับการนิรโทษกรรมเป็น 2 แนวทาง คือ คดีที่ได้รับการนิรโทษกรรมทันที ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 5 คดีความ รวมถึงคดีมาตรา 112 และคดีที่ต้องผ่านคณะกรรมการพิจารณาคดีการเมืองเพื่อการนิรโทษกรรม </p>
<p>ทั้งนี้ การเปิดตัวร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีการเมืองฉบับประชาชน เกิดขึ้นหลัง 6 ตุลาคม 2566 พรรคก้าวไกล ได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากการเหตุการณ์ขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. .... ประธานสภาผู้แทนราษฎร</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง </p>
<ul>
<li>เทียบ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับประชาชน-พรรคก้าวไกล เหมือนหรือต่างกันอย่างไร</li>
<li>"เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน" เปิดตัว "ร่างนิรโทษกรรมประชาชน" ให้ทุกฝ่าย รวม ม.112 เพื่อลดขัดแย้ง</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">21 ธันวาคม: พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม 4 ฉบับผ่านวาระแรก ลุยต่อชั้น กมธ. </span></h2>
<p>21 ธันวาคม iLaw รายงาน ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ผ่านร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ทั้ง 4 ร่าง ประกอบด้วย 1. ร่างพรรคก้าวไกล 2. ร่างภาคประชาชน 3. ร่างกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และ 4. ร่างของพรรคประชาธิปัตย์ </p>
<p>ทั้ง 4 ร่างมีใจความหลักสำคัญการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) ที่ใช้บังคับอยู่ ซึ่งยังรับรองการสมรสเฉพาะชาย-หญิง เท่านั้น เพื่อให้รับรองการสมรสสำหรับบุคคลสองคนไม่ว่าจะมีเพศตามทะเบียนราษฎรเป็นเพศใดก็ตาม</p>
<p>กระบวนการต่อไปคือการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ เมื่อกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วก็จะเข้าสู่การพิจารณารายมาตราในวาระสอง และสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบในวาระสาม หลังจากพิจารณาชั้นสภาผู้แทนราษฎรทั้งสามวาระเสร็จสิ้น ก็จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นวุฒิสภาสามวาระต่อไป </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">24 ธันวาคม: 'ชัยชนะฝั่งประชาธิปไตยอีกครั้ง' ทีมประกันสังคมก้าวหน้า คว้าชัยเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม 6 ที่นั่ง </span></h2>
<p>24 ธันวาคม ทีมประกันสังคมก้าวหน้า นำโดย รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี นักวิชาการด้านรัฐสวัสดิการ สามารถคว้าชัยชนิดแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม ฝ่ายผู้ประกันตน ได้ทั้งหมด 6 ที่นั่ง จาก 7 ที่นั่ง ประกอบด้วย ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี ชลิต รัษฐปานะ สมาชิกสหภาพคนทำงาน ธนพงศ์ เชื้อเมืองพาน ประธานกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง ศิววงศ์ สุขทวี ที่ปรึกษา MWG นลัทพร ไกรฤกษ์ นักสื่อสารและนักรณรงค์เพื่อสิทธิผู้พิการ และสุดท้าย ลักษมี สุวรรณภักดี จากสหภาพแรงงานมอลลิเก้ เฮลท์ แคร์ และที่นั่งที่ 7 คนสุดท้าย คือ ปรารถนา โพธิ์ดี จากเครือข่ายพนักงานราชการไทย</p>
<p>ในวันเดียวกัน หลังทราบผลการเลือกตั้งกว่า 60 เปอร์เซ็นต์แล้ว ษัษฐรัมย์ ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า นี่เป็นชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตยอีกครั้ง (ครั้งแรกคือการเลือกตั้ง สส. เมื่อ 14 พฤษภาคม 2566) ชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ยังเป็นหมุดหมายของการปักธงฝ่ายประชาธิปไตยทุกการเลือกตั้งนับจากนี้ และเป็นการนับหนึ่งการสร้างรัฐสวัสดิการในประเทศไทย</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53436956261_823020e786_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ทีมประกันสังคมก้าวหน้า (ถ่ายโดย สหภาพคนทำงาน)</span></p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>ผลเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมปี'66 อย่างไม่เป็นทางการ 'ประกันสังคมก้าวหน้า' คว้า 6 ที่นั่ง</li>
<li>'ษัษฐรัมย์' แถลงขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลังทีมประกันสังคมก้าวหน้า คว้าชัยเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมปี'66</li>
<li>
<p>ชวนลงทะเบียนเลือกตั้ง ฝ่ายผู้ประกันตน บอร์ดประกันสังคม ปี'66 ร่วมรักษาผลประโยชน์ของแรงงาน</p>
</li>
</ul>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">รายงาhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/01/107470
 
2845  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ฝ่ายค้านเผยอภิปรายงบฯ ปี 67 ตั้งเป้า 4 วิกฤต รับอาจแตะ พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้าน เมื่อ: 03 มกราคม 2567 04:37:20
ฝ่ายค้านเผยอภิปรายงบฯ ปี 67 ตั้งเป้า 4 วิกฤต รับอาจแตะ พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้าน
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-01-02 15:04</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>วิปฝ่ายค้านยืนยันอภิปรายงบฯ 2567 เข้มข้นแน่ ตั้งเป้าถก 4 วิกฤต 'เศรษฐกิจปากท้อง-สิ่งแวดล้อม-ความเหลื่อมล้ำ -ทรัพยากรมนุษย์' รับอาจแตะ พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้าน เผยสัดส่วน กมธ.พิจารณางบฯ ก้าวไกล 16 คน ปชป. 3 คน และไทยสร้างไทย 1 คน จากทั้งหมด 72 คน - 'ประชาธิปัตย์' เผยทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่ เตรียมพร้อมอภิปรายงบฯ ย้ำไม่ใช่พรรคอะไหล่ - 'สมศักดิ์' ขอทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจ เดินหน้าพิจารณางบประมาณ 67 หลังขณะนี้งบล่าช้า กระทบการพัฒนาประเทศ</p>
<p>2 ม.ค. 2567 Thai PBS รายงานว่านายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.พรรคก้าวไกล ประธานกรรมการประสานงานพรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หรือประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ขอฝ่ายค้านอย่าอภิปรายพาดพิง นายทักษิณ ชินวัตร ว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน เชื่อว่า สส.ทุกคนทราบวาระ หากเกี่ยวข้องที่จะต้องกล่าวถึง ค่อยพูด หากไม่มีวาระเกี่ยวข้อง ก็ไม่จำเป็นจะต้องเอ่ยถึง</p>
<p>ส่วนการจัดสรรเวลาอภิปราย ฝ่ายค้านได้แบ่งเวลาให้พรรคการเมืองพรรคเล็กด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้มีพรรคประชาธิปไตยใหม่เข้าร่วมหารือ และเตรียมพร้อมการอภิปรายร่วมกับวิปฝ่ายค้าน และในเบื้องต้นพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการจัดสรรเวลา 200 นาที ไทยสร้างไทย 60 นาที พรรคเป็นธรรม 20 นาที ส่วนพรรคเล็ก เช่น พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคใหม่ และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ได้สัดส่วนอภิปรายพรรคละ 10 นาที</p>
<p>โดยทีมการอภิปรายของฝ่ายค้านในพรรคก้าวไกล ได้ประกาศไปแล้วว่า “วิกฤตแบบไหนจึงจัดงบแบบนี้” เนื่องจากรัฐบาลได้อ้างถึงสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศอยู่ในวิกฤต ที่จะต้องกู้เงินมาดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต แต่การจัดสรรร่างกฎหมายงบประมาณ ได้สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศกำลังวิกฤตจริงหรือไม่ ซึ่งเท่าที่เห็น ไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในการจัดสรรงบประมาณ ที่แตกต่างจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา</p>
<p>นายปกรณ์วุฒิกล่าวต่อว่า ความผิดปกติของร่างกฎหมายงบประมาณปี 2567 คือความปกติที่รัฐบาลยังจัดสรรงบประมาณเหมือนเดิม เหมือนไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งในการอภิปรายทั้ง 3 วัน ได้วางไว้คือ วิกฤติเศรษฐกิจปากท้อง-วิกฤติสิ่งแวดล้อม-วิกฤติความเหลื่อมล้ำ -วิกฤติทรัพยากรมนุษย์ เด็กเกิดใหม่น้อย</p>
<p>"การอภิปรายครั้งนี้ จะมีความเข้มข้นไม่ต่างจากการอภิปรายงบประมาณของพรรคก้าวไกลตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าการอภิปรายจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยอ้างอิงจากการอภิปรายครั้งที่ผ่านมาไม่มีการประท้วงวุ่นวาย" นายปกรณ์วุฒิ กล่าว</p>
<p>ประธานวิปฝ่ายค้านระบุว่า รัฐบาลออกมาบอกเองว่า ไม่ได้กังวลอะไร และไม่ได้จัดองครักษ์เป็นพิเศษ คิดว่าก็ถูกแล้ว ที่ผ่านมา 4 ปี เราเห็นว่า การอภิปรายพระราชบัญญัติงบประมาณเป็นไปด้วยความราบรื่นมาโดยตลอด เราก็พูดถึงงบประมาณล้วนๆ</p>
<p>สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น ยังรายงานเพิ่มเติมว่านายปกรณ์วุฒิยอมรับว่าในการอภิปรายร่างกฎหมายงบประมาณครั้งนี้ อาจจะมีบ้างที่จะมีผู้อภิปรายสาระเชื่อมโยงกับการเตรียมออกพระราชบัญญัติกู้เงิน 5 แสนล้านของรัฐบาล เนื่องจากเป็นภาระของฝ่ายค้านที่จะต้องติดตามในอนาคต</p>
<p>อย่างไรก็ตาม หลังจากการประชุมวิปฝ่ายค้านในช่วงบ่ายจะสรุปรายชื่อ สส.ฝ่ายค้าน จัดลำดับคิวการอภิปราย สำหรับสัดส่วนกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณปี 2567 จะมีจำนวน 72 คนเท่าเดิม โดยสัดส่วนของฝ่ายค้านพรรคก้าวไกลมี 16 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน และพรรคไทยสร้างไทย 1 คน</p>
<h2><span style="color:#3498db;">'ประชาธิปัตย์' เผยทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่ เตรียมพร้อมอภิปรายงบฯ ย้ำไม่ใช่พรรคอะไหล่</span></h2>
<p>เพจพรรคประชาธิปัตย์ รายงานว่านายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการประชุม สส.ในวันนี้ (2 ม.ค. 2567) ว่านายประมวล พงศ์ถาวราเดช  สส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในที่ประชุม ตลอดทั้งวันของวันนี้ จะมีการเตรียมความพร้อมเพื่ออภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดย สส.มีการจัดเตรียมประเด็นในการอภิปราย เตรียมข้อมูล พร้อมอภิปรายเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการจัดงบประมาณและใช้งบประมาณแผ่นดินให้คุ้มค่าโปร่งใสและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศมากที่สุด</p>
<p>นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า พรรคประชาธิปัตย์จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ เราไม่เป็นพรรคอะไหล่ของใคร และฝ่ายรัฐบาลก็อย่าดิ้นกลัวจนเกินไป อภิปรายร่าง พรบ งบประมาณแผ่นดิน ถ้าคิดว่าจัดสรรงบประมาณมีความเป็นธรรมและโปร่งใส เพื่อประโยชน์ของ ปชช. และประเทศ ก็ไม่สมควรกลัวการอภิปราย </p>
<p>ในส่วนของพรรคเราทราบดีและทำตามข้อบังคับการประชุม ฝ่ายรัฐบาลไม่ต้องสอน และรัฐบาลก็ไม่ควรเตรียมผู้ประท้วงไว้เยอะเพราะไม่เกิดประโยชน์ ควรรับฟังแล้วไปปรับปรุงในชั้นคณะกรรมาธิการ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">'สมศักดิ์' ขอทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจ เดินหน้าพิจารณางบประมาณ 67 หลังขณะนี้งบล่าช้า กระทบการพัฒนาประเทศ</span></h2>
<p>เว็บไซต์รัฐบาลไทย รายงานว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ตนเชื่อว่า รัฐบาล จะสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น และทุกข้อสงสัย โดยไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เพราะทุกอย่างเดินหน้าด้วยเหตุผล และความถูกต้อง รวมถึงรัฐบาล มีความตั้งใจที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนงานเพื่อประชาชน โดยเฉพาะการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาล ก็มีความรัดกุมในการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนอยู่แล้ว
 
“ขณะนี้ งบประมาณปี 67 ได้เกิดความล่าช้า ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ และช่วยเหลือประชาชน รวมถึงภาคเอกชน ก็ยังมีความกังวลว่า ความล่าช้าของงบประมาณ อาจกระทบต่อการนำงบประมาณ ไปกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น ผมมองว่า การพิจารณางบประมาณ ปี 67 ทุกฝ่ายควรช่วยกันเดินหน้า เพื่อให้งบประมาณ สามารถนำมาขับเคลื่อนงานได้เร็ว ทันต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
 
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การอภิปรายงบประมาณ ปี 67 ตนขอให้เกิดความราบรื่น และช่วยกันรักษาเวลา เพื่อทำให้การพิจารณางบประมาณเกิดความสำเร็จ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ซึ่งทุกฝ่ายก็ทราบดีว่า ขณะนี้งบประมาณเกิดความล่าช้าแล้ว ตนจึงอยากให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ร่วมแรงร่วมใจกันพิจารณาให้อยู่ในกรอบเวลา เพื่องบประมาณ จะได้สามารถนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้ทันต่อความเดือดร้อน โดยขอยืนยันว่า รัฐบาล ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งในปีใหม่นี้ ก็กำลังพิจารณาอีกหลายโครงการสำคัญ เพื่อส่งเสริมให้พี่น้องประชาชน มีรายได้เพิ่มมากขึ้น</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/01/107472
 
2846  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - หวยลาว 12 ราศี งวดวันที่ 2 มกราคม 2567 ตรวจหวยลาว งวดนี้ออกอะไร เมื่อ: 03 มกราคม 2567 03:52:21
หวยลาว 12 ราศี งวดวันที่ 2 มกราคม 2567 ตรวจหวยลาว งวดนี้ออกอะไร
         


หวยลาว 12 ราศี งวดวันที่ 2 มกราคม 2567 ตรวจหวยลาว งวดนี้ออกอะไร" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;ตรวจ หวยลาว (ຫວຍລາວ) หรือ หวย 12 ราศี หวยพัฒนา วันนี้ 2 มกราคม 2567 ผลหวยลาว งวดวันอังคารที่ 2/1/67
         

https://www.sanook.com/news/9157846/
         
2847  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ‘สนธิญา’ ร้องสอบจริยธรรม ‘ศิริกัญญา’ กล่าวหายุค 'ประยุทธ์' ยัดเยียดมรดกหนี้ เมื่อ: 03 มกราคม 2567 02:45:12
‘สนธิญา’ ร้องสอบจริยธรรม ‘ศิริกัญญา’ กล่าวหายุค 'ประยุทธ์' ยัดเยียดมรดกหนี้
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-01-02 16:06</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>‘สนธิญา’ ร้อง ปธ.สภาสอบจริยธรรม สส. ‘ศิริกัญญา’ กล่าวหายุค 'ประยุทธ์' ยัดเยียดมรดกหนี้ เกี่ยวข้องงบฯ ปี 67 ชี้พูดเท็จต่อสาธารณชน ข้องใจไม่แตะเรื่อง ‘จำนำข้าว-ทักษิณ’ </p>
<p>2 ม.ค. 2567 ผู้จัดการออนไลน์ และ สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น รายงานตรงกันว่า ที่รัฐสภา นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นหนังสือถึง ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอมีการให้สอบจริยธรรม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ออกมาพูดเกี่ยวกับมรดกหนี้ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าไปมีส่วนในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 โดยนายสนธิญา กล่าวว่า การกระทำของ น.ส.ศิริญญา ที่ผ่านมา ได้เคยอภิปรายไว้เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2564 ระบุว่า “พล.อ.ประยุทธ์ คลั่งอำนาจพาเศรษฐกิจชาติลงหุบเหวแห่งความตาย” และต่อมาในวันที่ 17 ก.พ.2565 น.ส.ศิริกัญญา ระบุอีกว่า “เมื่อไร พล.อ.ประยุทธ์จะไป” ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2566 น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่ามรดกหนี้สินมาจากรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์กว่า 400,000 ล้านบาท เป็นส่วนหนึ่งของงบฯ ปี67 ตนจึงข้องใจ น.ส.ศิริกัญญาว่าได้ตามจองล้าง พล.อ.ประยุทธ์ตลอดมา ถ้าเราย้อนกลับไปมองกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยอยู่ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 งบประมาณและหนี้สินที่เพิ่มขึ้นจนถึงต้นปี 2566 นั้น ส่วนมากมาจากการที่รัฐบาลเดิมกู้มาเพื่อใช้จ่ายดูแลประชาชนฟรีจากโควิด</p>
<p>“น.ส.ศิริกัญญาก็เป็น สส.มาตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ท่านก็รู้ว่าภาระหนี้สินของงบประมาณที่เกิดขึ้นมาจากเหตุผลประการใด การกระทำของ น.ส.ศิริกัญญา ผมเห็นว่าเป็นการขัดต่อจริยธรรม สส. หรือกรรมาธิการ ปี 2563 ไม่ต่ำกว่า 4 ข้อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการนำข้อมูลที่ไม่หมด หรือไม่จริง ไปแถลงต่อสาธารณะ หรือประการอื่นใดก็ตาม ถ้าให้ผมพูดตรงๆไปที่พรรคก้าวไกลว่าตั้งแต่ปี 62-66 เป็นเวลาเกือบ 5 ปี ผลงานที่ชัดเจนมีอะไรเป็นที่ประจักษ์บ้าง ผมเห็นด้วยที่จะมีการตรวจสอบ แต่การตรวจสอบต้องเท่าเทียมกัน ขณะเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้อยู่ในสถานะนักการเมือง แต่อยู่ในสถานะผู้ที่อยู่เหนือการเมืองไปแล้ว และได้ประกาศชัดเจนจะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง แล้วจะอะไรนักหนา กับการที่รัฐบาลหนึ่งที่จะทำการหนึ่งการใดมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับนายกฯคนเดียว แต่อยู่ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)ด้วย”นายสนธิญา กล่าว</p>
<p>เมื่อถามว่าการมาร้องเรียนครั้งนี้ได้หรรือกับพล.อ.ประยุทธ์มาก่อนหรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า ตั้งแต่ทำงานการเมืองมาจนวันนี้ ตนไม่เคยพบเจอพล.อ.ประยุทธ์เลย ไม่เคยพูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ แม้แต่ครั้งเดียว เพียงแต่ชื่นชม และชอบการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ ตนเห็นว่าวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองแล้ว จึงไม่ควรไปหยิบยกพล.อ.ประยุทธ์มาทำให้แต่ละฝ่ายไม่สบายใจ อย่างไรก็ตามตนคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องความแค้นที่มีมาส่วนตัวแล้วมาหยิบยกพล.อ.ประยุทธ์มาโจมตี ตนขอถามกลับว่ากรณีนโยบายจำนำข้าว กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ น.ส.ศิริกัญญาไม่เคยพูดถึงเลย ซึ่งพรรคก้าวไกลต้องตอบให้ได้ ยืนยันว่าตนไม่ได้รับงานจ้างวานมาจากใคร ถ้าตนรับเงินเหมือนบางคนตนคงทำงานแบบนี้ไม่ได้</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/01/107473
 
2848  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ร้านก๋วยเตี๋ยวปลดป้ายกินฟรี ฟังสาเหตุแล้วเห็นใจ หมดความตั้งใจดี ๆ อยากช่วยเหลื เมื่อ: 03 มกราคม 2567 01:20:24
ร้านก๋วยเตี๋ยวปลดป้ายกินฟรี ฟังสาเหตุแล้วเห็นใจ หมดความตั้งใจดี ๆ อยากช่วยเหลือ
         


ร้านก๋วยเตี๋ยวปลดป้ายกินฟรี ฟังสาเหตุแล้วเห็นใจ หมดความตั้งใจดี ๆ อยากช่วยเหลือ" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;ร้านก๋วยเตี๋ยวตัดสินใจปลดป้ายกินฟรี ฟังพ่อค้าเล่าเหตุผลแล้วเห็นใจ เจอพฤติกรรมแบบนี้ขอยกเลิก แจกให้เป็นคนไม่มีจริง ๆ ดีกว่า
         

https://www.sanook.com/news/9167322/
         
2849  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ยอดเสียชีวิตยูเครนพุ่ง หลังรัสเซียเปิดศักราชใหม่ด้วยการถล่มโจมตีหนัก เมื่อ: 03 มกราคม 2567 00:50:19
ยอดเสียชีวิตยูเครนพุ่ง หลังรัสเซียเปิดศักราชใหม่ด้วยการถล่มโจมตีหนัก
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-01-02 17:14</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>สื่อ VOA เผยยอดเสียชีวิตยูเครนพุ่ง หลังรัสเซียเปิดศักราชใหม่ด้วยการถล่มโจมตีหนัก</p>
<p>2 ม.ค. 2567 VOA รายงานว่าวันขึ้นปีใหม่นี้กลายมาเป็นวันที่ชาวยูเครนต้องร่ำไห้รำลึกถึงผู้ตกเป็นเหยื่อสงครามและเสียชีวิตเพราะรัสเซียระดมโจมตีอย่างหนักด้วยขีปนาวุธเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา</p>
<p>ทางการกรุงเคียฟระบุว่า หลังรัสเซียทำการโจมตีทางอากาศอย่างรุนแรงเข้าใส่เมืองหลวงของยูเครนเมื่อ 3 วันก่อน เจ้าหน้าที่พบร่างเหยื่อผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 รายในวันจันทร์ ซึ่งทำให้ตัวเลขสะสมเพิ่มเป็น 28 คนแล้ว</p>
<p>เซอร์ฮีย์ โพพโก หัวหน้าฝ่ายบริหารกองทัพกรุงเคียฟ โพสต์ข้อความทางแอปเทเลแกรมว่า “ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อทุกคนที่สูญเสียญาติพี่น้องและบุคคลอันเป็นที่รักไป ... ผู้ก่อการร้ายที่สังหารพลเรือนจะไม่มีวันได้รับการให้อภัยต่อเหตุการณ์นองเลือดบนผืนดินยูเครน”</p>
<p>อย่างไรก็ดี ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างกล่าวหากันและกันในวันจันทร์ว่า ทำการโจมตีรุนแรงจนทำให้ประชาชนของตนต้องเสียชีวิตลง</p>
<p>เดนิส ปูชิลิน ผู้ดูแลเขตปกครองดอแนตสก์ที่แต่งตั้งโดยรัฐบาลมอสโก กล่าวว่า การยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองดอแนตสก์ครั้งล่าสุดส่งผลให้มีประชาชน 4 คนเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 คน</p>
<p>กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุในแถลงการณ์ว่า การยิงปืนใหญ่ถล่มดอแนตสก์นั้นเป็น “การก่อการร้าย” ที่พุ่งเป้าไปยังโครงสร้างพื้นฐานพลเรือน</p>
<p>ขณะเดียวกัน รัฐบาลกรุงเคียฟเปิดเผยว่า รัสเซียส่งโดรนจำนวน “มากเป็นประวัติการณ์” เข้าโจมตียูเครนในวันปีใหม่</p>
<p>โอเลห์ ไคเปอร์ ผู้ว่าการเขตปกครองโอเดสซาทางใต้ของยูเครน กล่าวว่ เศษซากของโดรนรัสเซียที่ถูกยิงสกัดสำเร็จตกลงใส่อาคารที่พักอาศัยหลายแห่ง และทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 3 ราย</p>
<p>มีรายงานข่าวว่า รัสเซียส่งโดรนหลายลำเข้าโจมตีเขตปกครองลวิฟทางภาคตะวันตกของยูเครนด้วย ขณะที่ ระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศสามารถยิงโดรนตกไปหลายลำ</p>
<p>ทั้งนี้ กองทัพอากาศยูเครนระบุในวันจันทร์ว่า รัสเซียส่งโดรนเข้ามาโจมตีทั้งหมด 90 ลำ โดยเป็นการส่งเป็นระลอก ๆ และระบบป้องกันการโจมตียิงตกไปทั้งหมด 87 ลำ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">รัสเซียยกระดับการโจมตี</span></h2>
<p>ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวในวันจันทร์ว่า รัสเซียจะยกระดับความรุนแรงของการโจมตีเข้าใส่เป้าหมายทางทหารในยูเครน หลังกรุงเคียฟโจมตีเมืองเบลโกรอดอย่างหนักเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 24 คนและบาดเจ็บนับร้อย</p>
<p>ระหว่างเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่งในวันจันทร์ ปธน.ปูติน ระบุว่า การโจมตีของยูเครนใส่เบลโกรอดเป็น “การก่อการร้าย” และกล่าวหากองกำลังยูเครนว่า พุ่งเป้าโจมตี “ไปยังใจกลางเมือง ที่ซึ่งผู้คนกำลังเดินเล่น ในวันก่อนวันปีใหม่” ทั้งยังกล่าวอ้างด้วยว่า ฝ่ายยูเครน “จงใจโจมตีใส่พลเรือน”</p>
<p>ผู้นำเครมลินกล่าวด้วยว่า รัสเซียจะเดินหน้าโจมตีสิ่งที่เป็น “ส่วนที่เกี่ยวข้องกับทหาร” และว่า มอสโกต้องการให้สงครามที่ดำเนินมาเกือบ 2 ปีนี้จบลง แต่ย้ำว่าต้อง “เป็นไปตามเงื่อนไขของเรา” ตามการรายงานของสื่อ TASS ของรัฐบาลมอสโก</p>
<h2><span style="color:#3498db;">เซเลนสกี แถลงรับปีใหม่</span></h2>
<p>ประธานาธิบดีโวโลโดเมียร์ เซเลนสกี ระบุในแถลงการณ์วันขึ้นปีใหม่ว่า ในปี 2024 นี้ รัสเซียได้รับรู้ถึงความเกรี้ยวกราดของยูเครนจากการยกระดับสรรพกำลังการผลิตในประเทศที่จะรวมถึง โดรน “อย่างน้อย 1 ล้านลำ”</p>
<p>ปธน.เซเลนสกี ยังพูดถึงกรณีที่ยูเครนโจมตีใส่เรือของรัสเซียในไครเมียเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า “การกระทำของเราในทะเลดำนั้นกลายมาเป็นบันทึกบทมืดดำ” ในประวัติศาสตร์ของกองเรือรัสเซียแล้ว</p>
<p>ผู้นำรัฐบาลกรุงเคียฟกล่าวด้วยว่า ขณะที่ ยูเครนไม่อาจรู้ได้ว่า ปีใหม่นี้จะนำพาอะไรมาให้ แต่ “ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร เราจะแกร่งขึ้นอยู่ดี”</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/01/107475
 
2850  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ลดภาษีตามมูลค่าให้ 'สุราแช่พื้นบ้านแอลกอฮอล์ไม่เกินไม่เกิน 7 ดีกรี' เหลือ 0% เมื่อ: 02 มกราคม 2567 23:19:30
ลดภาษีตามมูลค่าให้ 'สุราแช่พื้นบ้านแอลกอฮอล์ไม่เกินไม่เกิน 7 ดีกรี' เหลือ 0%
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-01-02 18:52</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ครม.เห็นชอบตามที่ ก.คลัง เสนอลดภาษีตามมูลค่าเหลือ 0% ให้กับ 'สุราแช่ผลไม้ที่มีส่วนผสมขององุ่นหรือไวน์องุ่น-อุ กระแช่ สาโท สุราแช่พื้นบ้านอื่น และสุราแช่ที่ใช้วัตถุดิบเป็นข้าวที่มีแรงแอลกอฮอล์ไม่เกิน 7 ดีกรี'</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53437408751_63a9ff2a5a_o_d.jpg" /></p>
<p>2 ม.ค. 2567 เว็บไซต์รัฐบาลไทย รายงานว่านายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบ และรับทราบ ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอชุดมาตรการ จำนวน 2 มาตรการ ส่งเสริมประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย
 
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นนโยบายสำคัญของ ครม. ที่ได้แถลงต่อรัฐสภา จึงเห็นควรนำเสนอ ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบรายละเอียดมาตรการ เพื่อเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายได้โดยเร็ว จำนวน 2 มาตรการ
 
1. การปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพพสามิตเครื่องดื่มสินค้าสุราบางประเภท และการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตเป็นการชั่วคราวสำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ และการยกเว้นอากรขาเข้าสินค้าไวน์ เพื่อจูงใจด้านราคาให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายซื้อสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม และท่องเที่ยวหย่อยใจภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น
 
1.1 การปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพพสามิต สินค้าสุรา
 
วิธีการดำเนินการ – กค. (กรมสรรพสามิต) ได้ยกร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่...) พ.ศ. ... เพื่อปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ตอนที่ 13 สินค้าสุรา และปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ตอนที่ 17 กิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ โดยมีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้
 
(1) สุราแช่ชนิดไวน์และสปาร์กลิ้งไวน์ที่ทำจากองุ่น (Wine) ยกเลิกการจัดเก็บภาษีจากการแบ่งชั้นของราคา (Price Tier) และกำหนดให้มีการจัดเก็บเป็นอัตราเดียว (Unitary Rate) โดยปรับอัตราภาษีให้มีอัตราภาษีตามมูลค่าที่ร้อยละ 5 และอัตราภาษีตามปริมาณที่ 1,000 บาท ต่อปริมาณหนึ่งลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
 
(2) สุราแช่ผลไม้ที่มีส่วนผสมขององุ่นหรือไวน์องุ่น (Fruit Wine) ยกเลิกการจัดเก็บภาษีจากการแบ่งชั้นของราคา (Price Tier) และกำหนดให้มีการจัดเก็บเป็นอัตราเดียว (Unitary Rate) โดยปรับอัตราภาษีให้มีอัตราภาษีตามมูลค่าที่ร้อยละ 0 และอัตราภาษีตามปริมาณที่ 900 บาท ต่อปริมาณหนึ่งลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
 
(3) สุราแช่ชนิดอื่นๆ จากเดิมจัดเก็บภาษีอัตราตามมูลค่าร้อยละ 10 และอัตราตามปริมาณ 150 บาท ต่อปริมาณหนึ่งลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ให้กำหนดอัตราภาษีโดยจำแนกพิกัดอัตราภาษีประเภทย่อย ดังนี้</p>
<p>3.1) อุ กระแช่ สาโท สุราแช่พื้นบ้านอื่น และสุราแช่ที่ใช้วัตถุดิบเป็นข้าวที่มีแรงแอลกอฮอล์ไม่เกิน 7 ดีกรี โดยกำหนดอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 0 และอัตราตามปริมาณ 150 บาท ต่อปริมาณหนึ่งลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์</p>
<p>3.2) สุราแช่ ที่มีการผสมสุรากลั่นและมีแรงแอลกอฮอล์เกินกว่า 7 ดีกรี โดยกำหนดอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 10 และอัตราภาษีตามปริมาณ 255 บาท ต่อปริมาณหนึ่งลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์</p>
<p>- สุราแช่อื่นๆ นอกจาก 3.1 และ 3.2 โดยกำหนดอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 10 และอัตราภาษีตามปริมาณ 150 บาท ต่อปริมาณหนึ่งลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
 
(4) สุราแช่ที่มิใช่เพื่อการค้า ได้มีการปรับโครงสร้างและอัตราภาษีให้สอดคล้องกับการปรับโครงสร้างภาษีและอัตราภาษีในครั้งนี้ โดยกำหนดอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 0 และอัตราภาษีตามปริมาณเท่ากับอัตราภาษีของสินค้าสุราแช่
 
ระยะเวลาดำเนินการ – ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน รจ. เป็นต้นไป
 
1.2 การปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิต กิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ
 
วิธีการดำเนินการ – กค. (กรมสรรพสามิต) ได้ยกร่างกฎกระทรวงฯ เพื่อปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ตอนที่ 17 กิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ โดยปรับลดอัตราภาษีตามมูลค่าจากอัตราร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 5 สำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ ประเภทที่ 17.01 ได้แก่ ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ บาร์ ค็อกเทลเลาจน์ โดยให้หมายความรวมถึงสถานที่ที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยจัดให้มีการแสดงดนตรีหรือการแสดงอื่นใดเพื่อการบันเทิง ซึ่งปิดทำการหลังเวลา 24.00 น. เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวและบริการ ให้สอดคล้องกับนโยบายสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวของรัฐบาล
 
ระยะเวลาดำเนินการ – ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน รจ. ถึง 31 ธ.ค. 67 (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 68 จะกลับมาใช้อัตราภาษีตามมูลค่าเดิม คือ ร้อยละ 10)
 
1.3 การปรับปรุงโครงสร้างภาษีศุลกากรสินค้าไวน์
 
วิธีการดำเนินการ – กค. (กรมสรรพสามิต) ได้ยกร่างประกาศ กค. เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่ง พ.ร.ก.พิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 30 (ฉบับที่...) เพื่อปรับปรุงโครงสร้างภาษีศุลกากรสินค้าไวน์ให้สอดคล้องกับการปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิต โดยกำหนดให้ยกเว้นอากรศุลกากรสินค้าไวน์ทุกชนิดตามประเภทพิกัด 22.04 (ไวน์ที่ทำจากองุ่นสด และเกรปมัสต์) และ 22.05 (เวอร์มุท และไวน์อื่นๆ ที่ทำจากองุ่นสด ปรุงกลิ่นรสด้วยพืชหรือสารหอม) รวมทั้งสิ้น 21 ประเภทย่อย และให้ลดอัตราอากรจากร้อยละ 60 เป็นยกเว้นอากร
 
ระยะเวลาดำเนินการ – ให้มีผลใช้บังคับพร้อมร่างกฎกระทรวงฯ ตามข้อ 1.1
 
2. การปรับปรุงหลักเกณฑ์การตรวจสินค้าเพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของนักท่องเที่ยว (VAT Refund for Tourists) เพื่อลดปริมาณนักท่องเที่ยวที่ต้องเข้าคิวเพื่อแสดงสินค้าในกระบวนการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
 
วิธีการดำเนินการ – กค. (กรมสรรพากร) ได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม  (ฉ. 254) เรื่องกำหนด หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ให้ผู้ที่เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรที่ซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการจดทะเบียนเพื่อนำออกไปนอกราชอาณาจักรขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกเรียกเก็บไว้แล้วได้ ตาม ม.84/4 แห่งป. รัษฎากร ลงวันที่ 27 พ.ย. 66 และให้มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 66 สรุปได้ดังนี้</p>
<p>- ปรับเพิ่มวงเงินซื้อสินค้าที่ต้องแสดงต่อเจ้าพนักงานศุลกากร จากเดิมตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป เป็น 20,000 บาทขึ้นไป ซึ่งจะลดจำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องแสดงสินค้าลงจาก 1.2 แสนรายต่อปี เหลือประมาณ 30,000 รายต่อปี หรือลดลงประมาณร้อยละ 75</p>
<p>- ปรับเพิ่มมูลค่าสินค้าที่ต้องนำไปแสดงต่อเจ้าพนักงานสรรพากร 9 รายการ (Luxury Goods) ได้แก่ เครื่องประดับ ทองรูปพรรณ นาฬิกา แว่นตา ปากกา สมาร์ทโฟน แล็ปท็อปหรือแท็บเล็ต กระเปา (ไม่รวมกระเปาเดินทาง) เข็มขัด จากเดิมมูลค่าต่อชิ้นตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป เป็น 40,000 บาทขึ้นไป และปรับเพิ่มมูลค่าของที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ (carry-on) จากเดิมมูลค่าต่อชิ้นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป เป็น 100,000 บาทขึ้นไป
 
ในภาพรวม มาตรการดังกล่าวที่ กค. เสนอ จะส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตและภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นสุทธิประมาณ 401 ล้านบาทต่อปี และ GDP ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.0073</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/01/107477
 
2851  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - แฟน ๆ ใจหาย รายการ "คดีเด็ด" ประกาศลาจอ ปิดตำนาน 23 ปี รายการดังคู่คนไทย เมื่อ: 02 มกราคม 2567 22:24:28
แฟน ๆ ใจหาย รายการ "คดีเด็ด" ประกาศลาจอ ปิดตำนาน 23 ปี รายการดังคู่คนไทย
         


แฟน ๆ ใจหาย รายการ &quot;คดีเด็ด&quot; ประกาศลาจอ ปิดตำนาน 23 ปี รายการดังคู่คนไทย" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;รายการคดีเด็ด ยุติการออกอากาศแล้ว หลังอยู่สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนคนไทยนานกว่า 23 ปี กับวลีฮิตติดหู
         

https://www.sanook.com/news/9167318/
         
2852  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ประมวลความเคลื่อนไหวว่าด้วย ‘งบสถาบันกษัตริย์’ ย่างเข้าสู่ปีที่ 4 ที่มีการพูด เมื่อ: 02 มกราคม 2567 21:47:49
ประมวลความเคลื่อนไหวว่าด้วย ‘งบสถาบันกษัตริย์’ ย่างเข้าสู่ปีที่ 4 ที่มีการพูดถึง
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-01-02 18:58</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ทีมข่าวการเมือง</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><div class="summary-box">
<ul>
<li>จากรายงานเชิงข่าวต้นปี 63 การตั้งคำถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การเคลื่อนไหวบนท้องถนน สู่การอภิปรายในสภา การพิจารณาของกรรมาธิการพิจารณางบฯ การอธิบายตอบโต้ และการสู้กันในชั้นศาล ขณะที่อีกฝ่ายชี้บิดเบือนงบฯ สถาบันกษัตริย์ สร้างวาทกรรม ‘เงินรายปี’</li>
<li>ความเคลื่อนไหวในสภาและกรรมาธิการ รวมทั้งข้อเสนอ ‘แผนบูรณาการโครงการที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ’ ของก้าวไกลที่ไม่ถูกนำไปใช้ สส.ก้าวไกลยังประเมินว่ามีพัฒนาการจากหน่วยงาน แต่คนในสภาเองที่พยายามเซ็นเซอร์กันเอง</li>
<li>‘ส่วนราชการในพระองค์’ ปรับวิธีแจงการใช้งบ-ขอหน่วยงานอื่นเลี่ยงต่อท้ายชื่อโครงการด้วย ‘เฉลิมพระเกียรติ’</li>
<li>ขณะที่กระบวนการในศาลยุติธรรมที่มีการฟ้องคดีจากการวิพากษณ์วิจารณ์งบส่วนนี้ มีทั้งลงโทษมีทั้งยกฟ้อง เปิดมุมมองนักวิชาการนิติศาสตร์เบิกความในศาลชี้ คำว่า ‘งบสถาบันพระมหากษัตริย์’ ไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือเชื่อมโยงไปถึงพฤติกรรม หรือการกระทำของบุคคลผู้ดำรงตำแหน่ง ที่ได้รับความคุ้มครองตาม ม.112</li>
</ul>
</div>
<p>3-5 ม.ค.2567 นี้ สภาผู้แทนราษฎรจะประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจําปี 67 ในวาระที่ 1 โดยประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจตาม เอกสารงบประมาณ (เอกสารขาวคาดแดง) ที่เว็บไซต์สำนักงบประมาณเผยแพร่เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.66 นั้นคือเอกสารงบประมาณ ฉบับที่ 3 เล่มที่ 17 งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ระบุรายละเอียดหน่วยงานสำคัญคือ ส่วนราชการในพระองค์ ปีนี้ลดลงเหลือ 8 หน้าหน้ากระดาษ และตั้งงบประมาณไว้ที่ 8,478,383,000 โดยปีที่แล้วหรืองบประมาณปี 66 นั้นมีจำนวน 9 หน้ากระดาษ เป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับหน่วยรับงบประมาณอื่นๆ ที่รับงบประมาณในระดับเดียวกัน เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ราว 8,800 ล้านบาท แต่กลับมีรายละเอียดถึง 366 หน้ากระดาษ แม้ที่ผ่านมาจะมีความเคลื่อนไหวทั้ง สส. และนอกสภาเพื่อเรียกร้องให้ส่วนราชการในพระองค์ชี้แจ้งรายละเอียดมากกว่านี้ก็ตามทามกลางกระแสเรียกร้องปฏิรูป ‘งบประมาณที่เกียวกับสถาบันกษัตริย์’ หรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘งบสถาบันฯ’ กว่า 3 ปีที่ผ่านมา</p>
<p>ในโอกาสก่อนที่สภาจะพิจารณางบประมาณกว่า 3.48 ล้านล้านบาท จะขอย้อนทบทวนความเคลื่อนไหวหรือวาทกรรมเกี่ยวกับ ‘งบสถาบันฯ’ ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การตรวจสอบ การเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูป ปฏิกิริยาจากรัฐ รวมทั้งการต่อสู้ในคำอธิบายหรือนิยามของคำๆ นี้</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เปิดเมื่อ มี.ค.63</span></h2>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/49651152987_79e5f2e297_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">พายชาร์ตงบประมาณส่วนที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ตาม พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 ที่ประชาไทจัดทำและเผยแพร่เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2563</span></p>
<p>ประชาไทเผยแพร่รายงานที่ชื่อว่า “เปิดงบประมาณปี 2563 ส่วนที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.9 หมื่นล้านบาท” เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2563 สร้างปรากฎการณ์ที่มีผู้เข้ามาอ่านในจำนวนมาก รวมทั้งกระแสในการวิพากษ์วิจารณ์ โดยในครั้งนั้นประชาไทกำชับหรืออธิบายประกอบสิ่งที่เรียกว่า ‘งบสถาบันฯ’ ไว้ว่า</p>
<p>“..แบ่งการใช้จ่ายงบประมาณออกเป็น 2 ส่วนดังกล่าว โดยนิยามของรายจ่ายโดยตรงคือ รายจ่ายที่ใช้จ่ายกับสถาบันกษัตริย์โดยตรง เช่น งบรักษาความปลอดภัย งบการเดินทาง งบพิทักษ์สถาบัน นิยามของรายจ่ายโดยอ้อมคือ รายจ่ายอันเกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่น โครงการในพระราชดำริ โครงการที่เป็นไปในลักษณะเทิดพระเกียรติ โครงการประชาสัมพันธ์  นอกจากนี้หากจะกล่าวกันอย่างเคร่งครัด ยังมีนิยามของส่วนที่สาม โครงการที่ใช้ชื่อเกี่ยวเนื่อง นิยามของมันคือ โครงการของหน่วยงานใดๆ ที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงานแต่มีชื่อเกี่ยวเนื่องกับสถาบันเพื่อเทิดพระเกียรติ เช่น โครงการสร้างทักษะในการประกอบอาชีพให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ 70,000 ราย เป็นต้น...”</p>

<p>เดิมการเปิดเรื่องงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์มุ่งไปที่ ‘ส่วนราชการในพระองค์’ ภายหลังจากที่มี พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 พ.ค.60 เพื่อจัดระเบียบบริหารราชการในพระองค์ ให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัยโดยได้โอนกิจการ อำนาจหน้าที่ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน และงบประมาณของ 5 หน่วยงานเดิม ประกอบด้วย สำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง และกรมราชองครักษ์และหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ กระทรวงกลาโหม และสำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำไปเป็นส่วนราชการในพระองค์ ซึ่งที่แรกๆ ที่พูดถึงงบประมาณในส่วนนี้คือบีบีซีไทย เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.60 บีบีซีไทย รายงานหัวข้อ งบประมาณ 2561: "งบส่วนราชการในพระองค์" ลด 14% กลาโหมเพิ่ม 4.2%</p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>เปิดงบประมาณปี 2563 ส่วนที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.9 หมื่นล้านบาท https://prachatai.com/journal/2020/03/86761</li>
<li>เปิดงบเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ปี 2564 รายละเอียดตามเอกสาร ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ https://prachatai.com/journal/2020/08/89306</li>
<li>เปิดงบเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ปี 65 รายละเอียดตามเอกสาร ร่างพ.ร.บ.งบฯ พบราว 3.57 หมื่นล้าน https://prachatai.com/journal/2021/08/94506</li>
<li>เปิดงบเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ปี 66 รายละเอียดตามเอกสาร ร่างพ.ร.บ.งบฯ พบราว 3.47 หมื่นล้านhttps://prachatai.com/journal/2022/08/99977</li>
</ul>
</div>
<p>อย่างไรก็ตามงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ซึ่งหมายรวมถึงองคาพยพและกลไกต่างๆ นั้น ไม่ได้มีอยู่เฉพาะในส่วนราชการในพระองค์เท่านั้น หากแต่ยังอยู่ในหน่วยรับงบอื่นๆ ที่ระบุวัตถุประสงค์ไว้ตามเอกสารงบประมาณอีก เช่น งบกลาง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น กระบวนการนับและเผยแพร่ผลการนับจึงเริ่มขึ้นอย่างที่กล่าวข้างต้น</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">และแล้วความเคลื่อนไหวก็ปรากฏ</span></h2>
<p>ภายหลังจากเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับงบสถาบันในเดือนมีนาคม 2563 ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล อานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน ชลธิชา แจ้งเร็วและโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ นักกิจกรรมด้านประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีขณะนั้น เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและชี้แจงการใช้การใช้งบประมาณที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งอานนท์ ระบุเหตุผลว่า เนื่องมาจากมีการถกเถียงกันว่า งบประมาณที่สนับสนุนสถาบันพระมหากษัตริย์มาจากภาษีประชาชนหรือไม่ หลังจากนั้นตนก็ถูกเพจของกลุ่มกษัตริย์นิยมที่มาล่าแม่มด แจ้งความดำเนินคดีด้วยข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ตนจึงต้องการแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้</p>
<p><img alt="" src="[url]https://live.staticflickr.com/65535/50021997001_555c259594_b.jpg" />[/url]</p>
<p>ภาพ อานนท์ ชลธิชา ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและชี้แจงการใช้การใช้งบประมาณที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.63</p>
<p>ข้อเรียกร้องของทนายอานนท์ที่ระบุไว้ในหนังสือ มีทั้งหมด 3 ข้อคือ ข้อแรกให้มีการชี้แจงการใช้งบประมาณเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม และให้มีคำสั่งนายกรัฐมนตรีทำหนังสือถึงพระราชวังให้ชี้แจงการใช้งบประมาณแผ่นดิน และเงินคงเหลือทั้งหมด</p>
<p>ข้อสอง ให้ขอรับเงินงบประมาณแผ่นดินที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์จากทุกหน่วยงานของรัฐเฉพาะในส่วนที่เกินจำเป็นและที่คงเหลือคืน เพื่อนำมาเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยทนายอานนท์ได้ยกตัวอย่างงบลักษณะดังกล่าว เช่น งบสำหรับการเสด็จพระราชดำเนินทั้งในและต่างประเทศ งบส่วนราชการในพระองค์ และค่าประชาสัมพันธ์แฟชั่นของกระทรวงพาณิชย์ โดยเขาได้แนบเอกสารประกอบเป็นรายงาน “เปิดงบประมาณปี 2563 ส่วนที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.9 หมื่นล้านบาท" ที่จัดทำโดยประชาไท เพื่อประกอบการพิจารณา</p>
<p>ข้อสุดท้าย ทนายอานนท์ยังขอให้ส่งเอกสารที่ตรวจสอบแล้วแก่พนักงานสอบสวนในคดีที่เขาตกเป็นผู้ต้องหา และหากคดีต้องไปถึงชั้นศาลตนก็ขอให้พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นพยานฝ่ายจำเลยในคดีด้วย</p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>ทนายอานนท์ ร้องประยุทธ์ ตรวจสอบการใช้งบเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์</li>
<li>สำนักปลัดนายกฯ โยนสำนักงบฯ กรมบัญชีกลาง ตอบ 'ทนายอานนท์' ปมงบฯ สถาบันกษัตริย์</li>
</ul>
</div>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53436487702_192f5f939a_b.jpg" /></p>
<p>อย่างไรก็ตามเดือนธันวาคมปีเดียวกัน สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือตอบกลับอานนท์ โดยระบุว่า ได้ประสานส่งเรื่องให้ สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลาง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบกรณีที่ท่านได้มีหนังสือกราบเรียนนายกฯ ดังกล่าว เพื่อรับทราบข้อมูลประกอบการพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่เเละอำนาจต่อไปเเล้ว</p>
<p><img alt="" src="[url]https://live.staticflickr.com/65535/50184785531_8c5c742eb4_b.jpg" />[/url]</p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">อานนท์ ยังปราศรัยวันที่ 3 ส.ค.63 ซึ่งมีข้อเรียกร้องหนึ่งถึงการตรวจสอบงบประมาณเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์</span></p>
<p>3 ส.ค.2563 อานนท์ ยังปราศรัยระหว่างกิจกรรม 'เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย' ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องต่อสถาบันกษัตริย์อย่างตรงไปตรงมาในที่สาธารณะครั้งแรกในช่วงการเคลื่อนไหลระรอกปี 63 ซึ่งตอนหนึ่งอานนท์ ยังกล่าวถึงข้อเรียกร้องเกี่ยวกับงบส่วนนี้ว่า การใช้งบประมาณที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นต้องถูกตรวจสอบตามระบอบ โดยการจัดกิจกรรมนี้นอกจาก อานนท์แล้ว ผู้จัดยังถูกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ตามมาตรา 112, ยุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ, พ.ร.ก ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ ด้วย</p>
<p>จากนั้นวันที่ 10 ส.ค.63 นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในนามแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดชุมนุมโดยใช้ชื่อกิจกรรม "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" ที่ ศูนย์รังสิต ซึ่งมีข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ 10 ข้อ โดย 1 ใน 10 ข้อ ระบุว่า “ตัดลดงบประมาณแผ่นดินที่จัดสรรให้กับสถาบันกษัตริย์ให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ” จากนั้นเป็นต้นมาการเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนและประชาชนที่ชู 3 ข้อเรียกร้อง คือ 1. ให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากนายกฯ 2. จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ และ 3 ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ก็เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง จนมีการฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญและวันที่ 10 พ.ย.64 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63 ซึ่งมีอานนท์ นำภา, ภาณุพงศ์ จาดนอก และ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เป็นผู้ปราศรัย เป็นการกระทำที่เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วย</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">งบสถาบันฯ ในมุมของ iLaw และ Common School ที่ไม่ใช่ตัวบุคคล แต่มองในเชิงสถาบัน</span></h2>
<p>สำหรับรายงานเกียวกับงบสถาบันฯ นั้น iLaw หรือโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน เคยนำเสนอ เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 64 โดยดูย้อนหลังไปถึง 10 ปี ขณะที่ Common School ซึ่งหน่วยงานทางความคิดของคณะก้าวหน้าก็ เผยแพร่ข้อมูลในชื่อ "เผยละเอียดทุกรายการ ทุกโครงการ งบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์! ยอดรวมทั้งสิ้น 36,388.74 ล้านบาท" ซึ่งระบุ ผู้ค้นและเรียบเรียงข้อมูล คือ เอกวิทย์ ทองดีวรกุล เมื่อวันที่ 22 ส.ค.65</p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>iLaw เปิดงบประมาณสถาบันพระมหากษัตริย์ 10 ปีย้อนหลัง (บางส่วน)</li>
<li>Common School เปิดงบที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ ตามร่าง พ.ร.บ.งบฯ 66 ยอดรวม 3.6 หมื่นล้าน</li>
</ul>
</div>
<p>บุณยนุช มัทธุจักร ผู้จัดทำรายงานของ iLaw อธิบายการนับงบประมาณสถาบันกษัตริย์ของเธอกับประชาไทไว้เมื่อปลายปี 65 ว่า เป็นการเปรียบเทียบกันระหว่าง อิงสถานะบุคคล และอิงกับตัวพระมหากษัตริย์ รวมถึงตัวสถาบันที่เป็นบุคคลรอบข้างว่ารูปแบบการใช้ชีวิตแบบนี้เขาจำเป็นต้องใช้งบประมาณอะไรบ้างเพื่อให้ดำรงอยู่หรือปฏิบัติหน้าที่ได้</p>
<p>หากแบ่งเป็นกรอบเป็น 6 ส่วนใหญ่ๆ  1. เรื่องเกี่ยวกับพระราชฐาน ที่พำนัก  2. องคาพยพที่ใกล้ชิดกับสถาบันพระมหากษัตริย์ หมายถึงตัวองค์กรที่ทำหน้าที่เลขาฯ อย่างสำนักพระราชวัง สำนักราชเลขาธิการ ก่อนตั้งส่วนราชการในพระองค์ 3. งบฯ การเสด็จพระราชดำเนิน 4. การถวายความปลอดภัย 5. งบฯ การประชาสัมพันธ์ และ 6. งบฯ ที่เกี่ยวกับการดำเนินการตามพระบรมราโชบายหรือโครงการจิตอาสา 904</p>
<p>จุดตัดของ iLaw ในการกำหนดกรอบวิธีคิดในการนับงบสถาบันฯ คือ สถาบันได้ประโยชน์จากงบประมาณเหล่านั้นหรือไม่ ซึ่งประโยชน์กาจจะไม่ใช่ประโยชน์โดยตรง อาจเป็นประโยชน์รอบๆ ตัว เช่น สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกหรือมีคนถวายความปลอดภัย แต่อีกอย่างที่สำคัญคือการจะนับงบสถาบันฯต้องดูวัตถุประสงค์ในการใช้งบฯนั้นๆ ด้วย สมมติมีการตั้งสถานที่หากตั้งสถานที่แล้วมีห้อยชื่อ 'เฉลิมพระเกียรติ' ก็อาจไม่สามารถนับว่าเป็นงบฯ สถาบันได้ แม้การตั้งโดยห้อยชื่อในยุคเริ่มต้นอาจจะต้องการประชาสัมพันธ์ แต่เราก็ต้องไปดูในเนื้อนั้นด้วยว่างบฯที่ลงกับสถานที่นั้นถูกนำไปใช้เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์จริงๆ หรือไม่ หรือมันเป็นการใช้อย่างอื่นแต่ว่าได้มีการห้อยชื่อเฉลิมพระเกียรติเฉย เช่น รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ แม้ว่าชื่อจะห้อยคำว่า "เฉลิมพระเกียรติ" มีคีย์เวิร์ด แต่งบฯก็ใช้ไปกับประชาชนที่เขามีสิทธิการรักษาในพื้นที่</p>
<p>อีกแบบที่ไม่ค่อยนับรวมเป็นงบฯสถาบันเท่าไหร่ คือ งบฯ เครื่องราชฯ แม้จะมองเป็นงบฯสถาบันก็ได้เพราะเป็นการสืบสารวัฒนธรรมรากเหง้าจากระบบเดิมที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ แต่ทาง iLaw ก็ไม่ได้นับ เพราะคนที่ได้ประโยชน์ปลายทางจริงๆ คือคนที่ใส่เครื่องราชฯ มากกว่า ซึ่งก็ยังเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันได้อยู่ ว่ามันควรนับหรือไม่ควรนับ  ส่วนโครงการในพระราชดำริที่หมายเหตุว่าไม่ได้นำมาคำนวนงบสถาบันฯ นั้น บุณยนุช กล่าวว่าเป็นเหตุผลเรื่องการทำงานมากกว่าเพื่อให้งานเสร็จทัน แต่ส่วนตัวคิดว่าหากจะนับโครงการพระราชดำริเป็นงบสถาบันฯ ก็ยังเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันได้อยู่เช่นกัน</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/50809527197_dc7c6f652d_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">กราฟิกประกอบรายงานของ iLaw เผยแพร่เมื่อ 3 ม.ค. 64</span></p>
<p>กรณีที่ iLaw ทำงบสถาบันฯ นับย้อนหลังไปถึง 10 ปี นั้น นอกจากยอดที่เพิ่มขึ้นแล้ว บุณยนุช กล่าวว่า 10 ปี อาจเป็นตัวเลขที่มีข้อบกพร่องอยู่จากที่เห็นช่วง 3 รัฐบาล แต่สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนั้นก็เห็นไม่ครบ สำหรับเชิงตัวเลขนั้น ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีการตั้งงบประมาณสถาบันฯ ค่อนข้างสูง แต่ว่าในเชิงรายละเอียดก็พบว่าในแง่หน่วยรับงบประมาณบางอย่างมีการเปลี่ยนแปลง เช่น งบประชาสัมพันธ์หรือพีอาร์ก็มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นภายใต้ยุครัฐบาลประยุทธ์</p>
<p>อีกสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงในการจัดสรรงบสถาบันฯ คือ ในรัฐบาลประยุทธ์ มีการโอนย้ายหน่วยงานอย่างสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง และกรมราชองครักษ์และหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ที่อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงกลาโหม รวมไปถึงตำรวจราชสำนักภายใต้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเป็นส่วนราชการในพระองค์ เมื่อมีการฟอร์มรูปแบบหน่วยงานใหม่ภายใต้ พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการในพระองค์ ทำให้เกิดงบประมาณที่ไปตั้งในหน่วยงานใหม่ซึ่งมันไม่มีในยุครัฐบาลก่อนหน้านี้ และอีกอย่างเมื่อไปตั้งในหน่วยงานใหม่ก็จะมีงบประมาณบางอย่างที่ยังหลงเหลือจากหน่วยงานเดิมที่เขาโอนย้ายมา ทำให้เกิดการซ้ำซ้อนในการตั้งงบประมาณกับหน่วยงานเดิม เช่น กระทรวงกลาโหมอาจจะมีการตั้งงบประมาณซ้ำซ้อนเรื่องการถวายความปลอดภัยทั้งที่นำกำลังพลไปส่วนราชการในพระองค์แล้ว และส่วนราชการในพระองค์ก็ควรจะรวมถึงเงินเดือนของข้าราชการที่รักษาความปลอดภัยแล้ว แต่กลับปรากฏมีงบส่วนนี้ห้อยอยู่ที่กระทรวงกลาโหมอีก ซึ่งเมื่อดูงบประมาณส่วนราชการในพระองค์ที่มีการชี้แจงกับกรรมาธิการตอนพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 และ 66 พบว่างบประมาณส่วนราชการในพระองค์ประมาณ 90% เป็นเงินเดือนของข้าราชการ จึงทำให้เข้าใจได้ว่างบประมาณส่วนราชการในพระองค์ตั้งแต่งบเเดือน อาจจะมีส่วนอื่นบ้างแต่เล็กน้อย อาจส่งผลให้งบประมาณที่เกี่ยวกับการถวายความปลอดภัย เช่น การจัดซื้อวัสดุต่างๆ มันถึงไปห้อยที่กระทรวงกลาโหม เนื่องจากส่วนราชการในพระองค์ไม่ครอบคลุม</p>
<p>"ถ้าเราจะต้องรักษาพระมหากษัตริย์องค์ใดองค์หนึ่งให้มีชีวิตอยู่ได้เพื่อเป็นประมุขของรัฐ เราต้องรักษาความปลอดภัย เพราะฉะนั้นคนที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับภารกิจเพื่อการมีอยู่ของพระมหากษัตริย์โดยตรง เพราะฉะนั้นเราควรนับงบประมาณขององคาพยพของคนที่ทำหน้าที่เหล่านั้นว่าเป็นงบสถาบันฯ มันไม่ได้หมายความว่าการนับงบสถาบันฯมันจะจบแค่ว่าเงินไปเข้ามือสถาบันฯ โดยตรง ส่วนตัวมองว่าแม้กระทั้งทำระบบบางอย่างให้สถาบันสามารถอยู่ต่อไปได้ สามารถทำงานมีกลไกขับเคลื่อนต่อไปได้มันก็ต้องนับ" บุณยนุช กล่าว</p>
<p>ขณะที่ เอกวิทย์ ผู้จัดทำรายงานงบสถาบันฯ ของ Common School เปิดเผยถึงกรอบในการนับงบประมาณของเขากับประชาไทไว้เมื่อปลายปี 65 เช่นกันว่า อะไรก็ตามที่ไม่มีการอ้างอิงใดๆ กับประมุขแล้วมันไม่น่าจะเกิดโครงการนั้นได้ คิดว่านี่เป็นงบสถาบันฯ ยกตัวอย่าง พิพิธภัณฑ์ไม้มีค่าที่กำลังก่อสร้าง แม้ว่าไม่ได้มีชื่อโดยตรง แต่ที่มาที่ไปของพิพิธภัณฑ์นี้เกี่ยวข้องกับประมุขอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โครงการอาคารเฉลิมพระเกียรติหลายๆ แห่งแม้ว่าจะมีชื่อประมุขอยู่ ตนมองว่าไม่ใช่งบประมุขเพราะหลายที่มันต้องมีการก่อสร้างอยู่แล้ว เช่น โรงเรียนต่างๆ ถ้าไม่ใส่ชื่อประมุข อาคารเรียนก็ได้สร้างอยู่แล้ว</p>
<p>ในกรณี โครงการชลประทาน “ในพระราชดำริ” อย่างไรเสียก็ต้องเป็นงบประมุข เพราะความหมายมันคือโครงการที่เป็น “นโยบาย” ของประมุข ซึ่งเปรียบเสมือนการบริหารงานโดยประมุข การอ้างว่ารัฐบาลเป็นคนบริหารโครงการนี้เองโดยรับเอานโยบายจากประมุขมาทำ อย่างไรก็ผิดหลักการประชาธิปไตย ซึ่งในบริบทประชาธิปไตยมันอธิบายไม่ได้ งบส่วนนี้จึงควรเป็นของประมุขอย่างแน่นอน เป้าหมายคือการนำนโยบายประมุขไปทำต่อ เปรียบเสมือนนักการเมืองคนหนึ่งที่ใช้นโยบายนี้หาเสียงต่อไปเรื่อยๆโดยไม่ได้ยึดโยงกับนโยบายรัฐบาลที่ประชาชนเป็นคนเลือก เนื่องจากหลักการ King can do no wrong ที่รัชกาลที่ 9 เคยพูดไว้นั่นเอง โครงการ “ในพระราชดำริ” ไม่เพียงแต่เป็นงบประมุข แต่เป็นงบที่ประมุขไม่ได้ใช้กำไรจากทรัพย์สินประมุขลงทุนเองเสียด้วยซ้ำ ซึ่งในที่สุดแล้วประมุขสามารถที่จะทำได้หากใช้เงินส่วนพระองค์ เหมือนกับที่อังกฤษมีโครงการทางสังคมของตัวเอง ก็ใช้งบประมาณของวังเอง ส่วนญี่ปุ่นนั้นมีกรอบที่มากจนทำอะไรแทบไม่ได้</p>
<p>ส่วนอื่นๆ ก็คืองบโครงการจากแนวคิดของคนในพระราชวงศ์ ก็ควรเป็นงบประมุขเช่นกัน ในอีกนัยหนึ่งถ้าไม่มีระบบประมุขที่เป็นกษัตริย์คงไม่มีงบตรงนี้เกิดขึ้น เช่น งบเครื่องเครื่องราชอิสริยาภรณ์</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52303540754_ae9139fd5b_k.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">ภาพที่ Common School เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 ส.ค.65</span></p>
<p>ผู้จัดทำรายงานงบสถาบันฯ ของ Common School ระบุด้วยว่า ในความเป็นจริง หากจากเปรียบเทียบงบประมาณกับอังกฤษ งบสถาบันฯไทยควรจะขึ้นไปถึง 5 หมื่นล้านอย่างน้อยๆ เป็นการรวมงบ สามหมื่นล้านจากงบสามล้านล้าน และงบจากกำไรทรัพย์สินพระฯอีกประมาณ สองหมื่นล้านอย่างต่ำๆ อาจจะมากกว่านี้ ไม่มีงานศึกษาแน่ชัด แต่ถ้าคิดจากทรัพย์สินที่เคยรายงานกว่า ล้านล้านบาท หากกำไรปีละ 1% ก็ได้แล้ว 3 หมื่นล้านบาท สุดท้ายแล้วข้อถกเถียงเรื่องทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จะเป็นของร้อน ว่าสรุปเป็นของส่วนพระองค์หรือเป็นของรัฐ นี่คือระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลัง แม้อานนท์ นำภา จะเคยนำมาอภิปรายไปแล้วก็ตาม แต่ถูกทำให้ลืมๆ ไปโดยนิติสงคราม</p>
<p>แม้กรอบการนับงบสถาบันฯ ของประชาไท พรรคกาวไกล iLaw และ Common School อาจจะไม่เหมือนกัน 100% แต่ในส่วนใหญ่ก็เห็นไปในทางเดียวกัน โดยเฉพาะไม่ได้มองเพียงแค่ตัวบุคคลหรือกษัตริย์ แต่มองที่องคาพยพหรือกลไกและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบสร้างความเป็นสถาบันขึ้นมา</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ขณะที่อีกฝ่ายชี้บิดเบือนงบฯ สถาบันกษัตริย์ สร้างวาทกรรม ‘เงินรายปี’</span></h2>
<p>อย่างไรก็ตามไม่ได้มีเพียงกระแสทำความเข้าใจทรัพยากรหรือกลไกของรัฐผ่านงบประมาณส่วนนี้ไปทางเดียวเท่านั้น แต่ยังมีการโต้แย้ง โดยเฉพาะ อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ นักวิชาการคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า และยังเป็นหนึ่งในคณาจารย์สถาบันทิศทางไทย ออกมาเขียนบทความโต้ รวมทั้งรวมเล่มเป็นหนังสือ ‘สถาบันกษัตริย์ : ความจริงที่ถูกบิดเบือน’ ที่จัดเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 13 ต.ค.65 ในงานดังกล่าว อานนท์ กล่าวว่า งบประมาณถูกหยิบยกขึ้นมา เนื่องจากง่ายที่จะทำให้คนผิดใจกัน ดังนั้น จึงมีความพยายามใส่ไฟ และบิดเบือน เรื่องงบประมาณของสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยการประดิษฐ์วาทกรรมใหม่ คือ ‘เงินรายปี’</p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>สรุปเสวนาเปิดตัวหนังสือ 'สถาบันกษัตริย์: ความจริงที่ถูกบิดเบือน'-มองเรื่อง ‘กษัตริย์’ ผ่านแว่น ‘อนุรักษ์นิยม’</li>
</ul>
</div>
<p>นักวิชาการนิด้า แย้งว่าเขาไม่เคยได้ยินคำว่า “เงินรายปี” เพราะในประเทศไทยปกติจะมีคำว่า “เงินปี” หรือเป็นเงินที่รัฐบาลถวายให้องค์พระมหากษัตริย์ เพื่อใช้เป็นการส่วนตัว และพระราชทานให้พระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งมีต่างประเทศก็มีเหมือนกันอย่างในประเทศอังกฤษ และญี่ปุ่น และเงินปีส่วนนี้ไม่ได้จำนวนมาก นอกจากนี้ จะยังมีงบประมาณประจำปีของหน่วยราชการในพระองค์ด้วย</p>
<p>มีคนที่พยายามเอางบประมาณส่วนราชการในพระองค์ภายใต้สำนักพระราชวัง สำนักองคมนตรี และหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ มารวมกัน ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานมีบุคลากรจำนวนราว 14,000 คน และมาเรียกงบฯ ทั้งหมดว่า “เงินรายปี” และมีการนำมาตีความว่าเป็น “เงินปี” ซึ่งเป็นเงินที่ในหลวงใช้ส่วนพระองค์ ซึ่งอานนท์ มองว่า ‘เงินปี’ และงบประมาณส่วนราชการในพระองค์ฯ สำนักองคมนตรี และหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยฯ เป็นงบฯ คนละส่วน ต้องมองแยกกัน</p>
<p><img alt="" src="[url]https://live.staticflickr.com/65535/52437089609_907e95d5cf_b.jpg" />[/url]</p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">ภาพ อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ (ขวา) ในงานเปิดตัวหนังสือ ‘สถาบันกษัตริย์ : ความจริงที่ถูกบิดเบือน’ ที่เขาเป็นผู้เขียน เมื่อวันที่ 13 ต.ค.65</span></p>
<p>“อันหนึ่งเป็นเรื่องใช้ส่วนพระองค์ คือ เงินปี ส่วนเงินงบประมาณประจำปี เป็นเรื่องของงบประมาณแผ่นดิน กับราชการส่วนพระองค์ มาประดิษฐ์คำใหม่ว่า ‘เงินรายปี’ ให้คนงงเล่นๆ ใช้วิธีการในการโกหกได้ง่ายที่สุดคือการประดิษฐ์คำพูดใหม่” อานนท์ กล่าว</p>
<p>นอกจากนี้ อานนท์ ระบุว่าในความเป็นจริง พระมหากษัตริย์และพระราชินีไม่เคยรับเงินปีที่รัฐบาลถวาย และพระราชทานคืน ‘กรมบัญชีกลาง’ ทั้งหมด และเงินในส่วนที่ถวายให้พระบรมวงศานุวงษ์ ในหลวงใช้เงินส่วนพระองค์เองทั้งหมด ซึ่งไม่เกี่ยวกับที่รัฐบาลถวาย</p>
<p>สืบเนื่องจากเมื่อปี 2563 ทางรัฐบาลมีการออกพระราชกำหนดโอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก ไปเป็นหน่วยบัญชาการความปลอดภัยรักษาพระองค์ ทำให้ฝ่ายต่อต้านสถาบันฯ ออกมาวิจารณ์ว่าเป็นการสร้างกองทัพส่วนพระองค์</p>
<p>อานนท์ กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า นี่เป็นเรื่องปกติที่ประมุขของทุกประเทศต้องได้รับการคุ้มครอง อย่างในสหรัฐฯ การดูแลความปลอดภัยของประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ปีหนึ่งใช้งบฯ ประมาณ 4 หมื่นกว่าล้านบาท และมีคนในหน่วยงานหลายหมื่นคน</p>
<p>อานนท์ ระบุว่า เป็นการโอนเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจำนวน 8,000 รายเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เยอะมากพอจะไปตั้งเป็นกองทัพส่วนพระองค์ตามที่ถูกกล่าวอ้าง และเป็นคนเดิมที่ถวายงานอารักษาให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว และการโอนอัตรากำลังพลครั้งนี้ โอนมาแค่กำลังพล และไม่มีการโอนอาวุธยุทโธปกรณ์มาด้วย</p>
<p>นักวิชาการสถิติศาสตร์ ระบุว่า ตามประวัติศาสตร์ กองพันทหาร ราบ 1 และราบ 11 แต่เดิมเป็นทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ของรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 แต่พอเปลี่ยนแปลงการปกครองในสมัย 2475 คณะราษฎรกังวลว่า พระเจ้าแผ่นดินจะมีทหารรักษาความปลอดภัยในมือ ก็มีการโอนทหารไปขึ้นอยู้กับกองทัพบก สุดท้ายก็แค่โอนกลับไปอยู่ทางพระราชวังเหมือนเดิม เป็นกองบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ความเคลื่อนไหวในสภาและกรรมาธิการ รวมทั้งข้อเสนอ ‘แผนบูรณาการโครงการที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ’ ของก้าวไกลที่ไม่ถูกนำไปใช้</span></h2>
<p>อีกด้านคือการอภิปรายงบประมาณในสภาโดยเฉพาะบทบาทของ สส.พรรคก้าวไกล และกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ เริ่มจาก 20 ส.ค. 63 ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2564 เป็นการพิจารณางบประมาณส่วนราชการในพระองค์ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะที่ปรึกษา กมธ. ซึ่งเป็นสัดส่วนพรรคก้าวไกล ร่วมซักถามโดยขอให้สำนักงบประมาณช่วยชี้แจงว่า ทำไมงบประมาณส่วนราชการในพระองค์เพิ่มขึ้นในอัตราสูงมาก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงบฯ ชี้แจงว่า ที่วงเงินเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นงบบุคลากรของหน่วยงานที่รับโอนมาตาม พ.ร.ก. โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 ด้วย</p>
<p><img alt="" src="[url]https://live.staticflickr.com/65535/51218297223_49c86491d6_b.jpg" />[/url]</p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">ภาพ เบญจา แสงจันทร์ ขณะอภิปราย งบประมาณค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในปีงบประมาณ 2565 เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.64</span></p>
<p>ขณะที่ในสภาวันที่ 1 มิ.ย.64 ระหว่างประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2565 นั้น เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยระบุว่า เมื่อพูดถึงการกำหนดวงเงินของหน่วยงานรับงบประมาณต่างๆ ที่ตั้งงบประมาณค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในปีงบประมาณ 2565 มีงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันอยู่อย่างน้อยๆ 33,712,000,000 บาท (สามหมื่นสามพันเจ็ดร้อยสิบสองล้านบาท) เป็นรายการตามที่แสดงเป็นชื่อโครงการในเอกสารงบประมาณ ยังไม่ได้รวมงบที่เกี่ยวข้องกับสถาบันที่อาจซ่อนอยู่ในหมวดหมู่โครงการก่อสร้างที่มีราคาต่อหน่วยต่ำกว่า 10 ล้านบาท หรืออื่นๆ ในจำนวนนี้แบ่งงบออกได้เป็น 5 ประเภท คือ 1. งบพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์  2. งบถวายความปลอดภัย 3. งบส่วนราชการในพระองค์  4. งบโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการหลวงต่าง ๆ  5. งบอื่น ๆ เช่น พระราชทานเพลิงศพ เครื่องราชอิสริยาภรณ์</p>
<p>“ต้องย้ำก่อนว่า เงินจำนวนสามหมื่นกว่าล้านนี้ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่ประเด็นคือผลผลิตของการตั้งงบประมาณ และประสิทธิภาพของโครงการที่ควรจะมีการพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบ เหมาะสม เปิดเผย โปร่งใส ถูกต้องและตรวจสอบได้ เพื่อให้ประโยชน์สูงสุดนั้นตกเป็นของประชาชน โดยเฉพ
2853  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - แรงงานพม่าในอาคารผู้ต้องกัก ตม.ระนอง ก่อหวอดประท้วงขอกลับบ้านเทศกาลปีใหม่ เมื่อ: 02 มกราคม 2567 20:17:11
แรงงานพม่าในอาคารผู้ต้องกัก ตม.ระนอง ก่อหวอดประท้วงขอกลับบ้านเทศกาลปีใหม่
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-01-02 19:26</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>แรงงานพม่าก่อหวอดประท้วงในอาคารผู้ต้องกักสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนอง เรียกร้องขอให้ปล่อยตัว เพราะอยากกลับบ้านเทศกาลปีใหม่</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53436545037_a40f505f14_o_d.png" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: เว็บไซต์เดลินิวส์</span></p>
<p>2 ม.ค. 2567 เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานว่าเมื่อเวลา 12.00 น. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนอง ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ภายในอาคารตึก 5 ชั้น ด้านหลังซึ่งเป็นอาคารกักตัวแรงงานชาวพม่า ที่รอการส่งกลับประเทศ ผู้ต้องกักชาวพม่าได้ก่อเหตุประท้วงกันภายในอาคาร เพื่อเรียกร้องให้ทางการไทยปล่อยตัว เพื่ออยากกลับบ้านไปฉลองปีใหม่ ที่ประเทศพม่า</p>
<p>พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.ระนอง ได้ขอสนับสนุนกำลังเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี โดยมี พ.ต.อ.วัฒนา เบ้าศรี ผกก.สส.บก.ภ.จว.ระนอง เข้าเป็นผู้อำนวยการเหตุ พ.ต.อ.ธวัชชัย ซุ้นเจริญ ผกก.สภ.เมืองระนอง นำกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชน และชุดราชเดช หน่วยปฏิบัติการพิเศษ เข้าสมทบกำลังร่วม 60 นาย</p>
<p>เจ้าหน้าที่ได้รายล้อมด้านหน้าอาคารผู้ต้องกัก และใช้โทรโข่งผ่านล่ามทำการเจรจาให้ทุกคนอยู่ในความสงบและให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกลับเข้าห้องกักตัวไป และกำลังชุดราชเดช ให้กระจายกำลังตามจุดสูงรอบอาคาร โดยที่ชั้น 5 บนดาดฟ้า มีแรงงานชายชาวเมียนมา 1 คน ปิดปากปิดจมูก ได้ถือแผ่นลังกระดาษเขียนด้วยภาษาไทยว่า "ปล่อยพวกผมด้วยครับ" ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ให้ทุกคนกลับเข้าห้องกักตัวให้หมด มิเช่นนั้นจะไม่เจรจาด้วย</p>
<p>โดยผู้ต้องกักชาวพม่ารายหนึ่ง ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ผ่านหน้าต่างชั้นสองว่า ในส่วนของผมอยากจะเปิดให้ แต่บางส่วนไม่ยอมเปิดให้ โดยพวกผมแค่อยากจะกลับบ้านเฉยๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยื่นข้อเสนอให้แกนนำเปิดประตูลงมาคุยกัน ว่าต้องการอะไร และรับรองว่าจะไม่มีการทำร้ายใคร และจะไม่ให้ทหารเข้ามาภายในอาคาร</p>
<p>ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทาง ตม.ระนอง ได้เตรียมสายรัดข้อมือไว้เพื่อควบคุมตัวแกนนำ เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ใช้เวลาร่วม 1 ชม. แกนนำชุดแรกจำนวน 3 คน ยอมเปิดประตูและออกมาจากประตูห้องกักตัว และมีสายรัดพลาสติกพันธการข้อมือไว้ ก่อนเจ้าหน้าที่ ตม.ระนอง ควบคุมตัวไปคุยเจรจาด้วย ที่ภายในอาคารห้องสืบสวนสอบสวน ตม.ระนอง ซึ่งอยู่ติดกัน หลังจากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ กำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปภายในชั้น 2-ชั้น 5 ให้ผู้ต้องกัก 258 คน เป็นชาย 210 คน หญิง 48 คน เข้าห้องกักทั้งหมด และควบคุมตัวแกนนำสำคัญที่ก่อหวอดประท้วงอีก 3 ราย มาทำการสอบสวน</p>
<p>เบื้องต้นผู้ต้องกักชาวพม่าส่วนใหญ่ถูกดำเนินคดีในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และคดีได้สิ้นสุดลง ตามจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้และจังหวัดสำคัญ ก่อนถูกส่งมากักตัวที่ ตม.ระนอง เพื่อรอการส่งตัวกลับประเทศ การส่งกลับประเทศ จะมีการส่งรายชื่อให้กับทางการพม่าก่อน เพื่อให้อนุมัติตามคิวและตามรายชื่อที่เข้ามาก่อนหลัง เดือนหนึ่งสามารถส่งกลับได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 100-200 คน โดยประมาณ แต่แกนนำประท้วง 6 รายคราวนี้ อดทนรอไม่ได้ อยากกลับไปปีใหม่ที่บ้านเกิด จึงก่อเหตุภายในอาคารผู้ต้องกัก ตม.ระนอง</p>
<p>ภายหลังจากได้เจรจาหาทางออกกับผู้ต้องกักอย่างละมุนละม่อมและให้เข้าใจในกติกาการส่งตัวกลับตามลำดับก่อนหลัง ตามรายชื่อที่ได้ส่งมอบไปให้กับทางการประเทศพม่า พร้อมจะได้ประสานไปยังผู้ช่วยทูต ฝ่ายแรงงานพม่าประจำจังหวัดระนอง เพื่อให้เร่งดำเนินการรับตัวพวกเราทุกคนกลับบ้าน คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะได้ทยอยกลับประเทศตามลำดับ ภายหลังจากที่ได้มีการพูดคุยชี้แจงจนเป็นที่เข้าใจ ผู้ต้องขังแรงงานชาวพม่าทั้งหมดก็อยู่ในความสงบ และยินยอมกลับเข้าไปอยู่ในห้องกัก ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/01/107479
 
2854  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เศร้าซ้ำ เครื่องบินชนกันญี่ปุ่น ดับ 5 ศพ เป็น จนท.ไปช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว เมื่อ: 02 มกราคม 2567 19:54:10
เศร้าซ้ำ เครื่องบินชนกันญี่ปุ่น ดับ 5 ศพ เป็น จนท.ไปช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว
         


เศร้าซ้ำ เครื่องบินชนกันญี่ปุ่น ดับ 5 ศพ เป็น จนท.ไปช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;เหตุเครื่องบินชนกันที่ญี่ปุ่น ดับแล้ว 5 ศพ เป็นเจ้าหน้าที่บนเครื่องบินของหน่วยยามชายฝั่ง กำลังไปช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ส่วนนักบินได้รับบาดเจ็บสาหัส
         

https://www.sanook.com/news/9167302/
         
2855  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - วิปรัฐบาลเชื่อถกงบฯ 67 ไร้ปัญหา ชี้หากพาดพิง 'ทักษิณ' อาจถูกฟ้องกลับ เมื่อ: 02 มกราคม 2567 18:45:56
วิปรัฐบาลเชื่อถกงบฯ 67 ไร้ปัญหา ชี้หากพาดพิง 'ทักษิณ' อาจถูกฟ้องกลับ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-01-02 18:20</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>วิปรัฐบาลเชื่อถกร่างงบประมาณรายจ่าย 67 ไร้ปัญหา ชี้หากพาดพิง 'ทักษิณ' ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกอาจไม่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองในสภาอาจถูกฟ้องกลับ - สส.ประชาธิปัตย์ ย้อนถาม 'เพื่อไทย' ปมเพิ่มงบกลางกว่า16,000 ล้านบาท ถือเป็นการตีเช็คเปล่าให้นายก เหมือนที่เคยอภิปรายช่วงรัฐบาล 'ประยุทธ์' ไว้หรือไม่</p>
<p>2 ม.ค. 2567 มติชนออนไลน์ รายงานว่าที่อาคารรัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลหรือวิปรัฐบาล เป็นประธานการประชุมวิปรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมมการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 3-5 มกราคม โดย นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่กังวลการพิจารณางบประมาณในครั้งนี้ รัฐมนตรีทุกคนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี มีการเตรียมข้อมูลที่คาดว่าจะถูกอภิปรายมาชี้แจง ซึ่ง สส.เพื่อไทยรุ่นใหม่ให้ความสนใจการอภิปรายครั้งนี้อย่างมาก เชื่อว่าการประชุมจะเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น</p>
<p>นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายโยงไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในระหว่างการอภิปรายงบประมาณในส่วนของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมนั้น โดยหลักการไม่ควรไปแตะต้องบุคคลภายนอก เพราะเป็นผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดทำงบประมาณ ฝ่ายค้านไม่ควรเอาการเมืองมาเล่นในสภาฯ เพราะยังไม่ถึงเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หากไปพาดพิงถึงบุคคลภายนอก อาจไม่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองในสภาฯ และอาจถูกฟ้องกลับได้ แต่หากมีการพาดพิงมาถึงนายทักษิณ รัฐบาลก็พร้อมจะชี้แจงว่าระเบียบของกรมราชทัณฑ์ฉบับใหม่ในเรื่องการคุมขังนักโทษนอกเรือนจำได้ออกมาตั้งแต่ปี 2563 เป็นเรื่องที่นักโทษทุกคนได้ประโยชน์ทั้งหมด ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใครคนใดคนหนึ่ง หากต้องยกเลิกระเบียบดังกล่าว ก็จะเป็นผลเสียต่อนักโทษทั้งหมด</p>
<p>เมื่อถามว่า เป็นห่วงว่าหน่วยงานราชการจะสอดไส้การจัดสรรงบประมาณในทางที่ไม่โปร่งใสหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ได้กำชับให้กรรมาธิการงบประมาณฯ และ สส.ติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณให้ดี อย่าให้มีช่องโหว่หรือทุจริตใดๆ เกิดขึ้น จะต้องตรวจสอบให้ละเอียด เชื่อมั่นว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น คงไม่มีเรื่องของการเรียกรับผลประโยชน์การจัดสรรงบประมาณเกิดขึ้นอีกแล้ว เพราะมีบทเรียนเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้ว ยังเป็นคดีในชั้นศาลอยู่ จึงเชื่อว่า สส.รัฐบาลและฝ่ายค้านจะระวัง และจะต้องมีการตรวจสอบงบประมาณในส่วนของราชการควบคู่ไปด้วย จะไปโทษนักการเมืองอย่างเดียวไม่ได้ เพราะตบมือข้างเดียวไม่ดัง ในส่วนขององค์ประชุมในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในครั้งนี้ เชื่อว่าไม่มีปัญหา ต่อไปนี้เรื่องขององค์ประชุมไม่ใช่ปัญหาของฝ่ายรัฐบาลอีกต่อไป</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">'ประชาธิปัตย์' ย้อนถาม 'เพื่อไทย' ปมเพิ่มงบกลางกว่า16,000 ล้านบาท ถือเป็นการตีเช็คเปล่าให้นายก เหมือนที่เคยอภิปรายช่วงรัฐบาล 'ประยุทธ์' ไว้หรือไม่</span></h2>
<p>เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ รายงานว่านายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่จะมีการพิจารณาวาระแรก ขั้นรับหลักการ ในสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันที่ 3 - 5 ม.ค. 2567 มีเวลาน้อยมากเนื่องจากงบประมาณปี 2567 ต้องใช้งบประมาณของปี 2566 ไปพลางก่อน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีเวลาในการพิจารณางบประมาณ ภายใน 105 วัน ใน 3 วาระ จึงต้องเร่งศึกษาในประเด็นต่าง ๆ ที่อยู่ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เพื่อให้งบประมาณที่สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาแล้วอนุมัตินั้น เป็นงบประมาณที่จะได้ใช้อย่างคุ้มค่า โปร่งใสและตรวจสอบได้เพื่อประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด</p>
<p>การจัดสรรงบประมาณในส่วนของ“งบกลาง” นายสรรเพชญ ได้กล่าวว่า การจัดสรรรายจ่ายงบกลาง “สูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง“ ซึ่งนับตั้งแต่ ปีงบประมาณ 2563 - 2567 มีการจัดสรรงบกลางไปแล้ว ทั้งสิ้นกว่า 2.9 ล้านล้านบาท เฉลี่ย 5.8 แสนล้านบาทต่อปี โดยในปีงบประมาณ 2567 มีการจัดสรรงบกลาง กว่า 6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 16,295 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณที่มากที่สุดในกลุ่มประเภทรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรร โดยส่วนใหญ่เป็นงบประมาณรายจ่ายเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ ถึงร้อยละ 82.9 และเป็นงบประมาณเพื่อสำรองจ่ายในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 98,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 6,100 ล้านบาท จากปี 2566 </p>
<p>นายสรรเพชญ ได้ตั้งข้อสังเกตงบประมาณในส่วนนี้ว่า เป็นการตีเช็คเปล่าให้นายกฯ หรือไม่ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า งบกลาง เป็นงบที่ตรวจสอบยากที่สุด และเมื่อย้อนไปฟังคำอภิปรายของ สส. และ ครม. ซึ่งหลายท่านวันนั้นท่านนั่งทำหน้าที่ฝ่ายค้านอยู่ตรงนี้ ท่านวิจารณ์รัฐบาลชุดที่ผ่านมาว่าใช้งบกลางเป็นจำนวนมากและของบกลางเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี แต่มาวันนี้ท่านกลับทำในสิ่งที่ตนได้พูดไว้ในอดีต และตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำแบบนี้เข้าข่าย “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง” หรือไม่  ซึ่งตนในฐานะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ จะติดตามการใช้จ่ายงบประมาณอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การใช้งบประมาณมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/01/107476
 
2856  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ส่อคดีพลิก? สาวไทยติด ตม.เกาหลี ที่แท้เป็นเอเจนท์หาผีน้อย โป๊ะแตกเพราะผัว เมื่อ: 02 มกราคม 2567 17:23:34
ส่อคดีพลิก? สาวไทยติด ตม.เกาหลี ที่แท้เป็นเอเจนท์หาผีน้อย โป๊ะแตกเพราะผัว
         


ส่อคดีพลิก? สาวไทยติด ตม.เกาหลี ที่แท้เป็นเอเจนท์หาผีน้อย โป๊ะแตกเพราะผัว" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;รถทัวร์เลี้ยวกลับแทบไม่ทัน สาวไทยเล่ามหากพาย์ติด ตม. เกาหลี โดนพรากลูกพรากแม่ โซเชียลพบเป็นเอเจนท์หาผีน้อย โป๊ะแตกเพราะผัว
         

https://www.sanook.com/news/9167282/
         
2857  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - สหภาพแรงงานเตือน 'คนทำงานภาคสาธารณสุขไนจีเรีย' จะไหลออกนอกประเทศ เมื่อ: 02 มกราคม 2567 17:15:42
สหภาพแรงงานเตือน 'คนทำงานภาคสาธารณสุขไนจีเรีย' จะไหลออกนอกประเทศ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-01-02 16:14</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>สหภาพแรงงานสาธารณสุขของไนจีเรีย (JOHESU) แสดงความกังวลว่าบุคลากรสาธารณสุขจำนวนมากอาจตัดสินใจออกนอกประเทศ เพื่อไปหางานที่ดีกว่าในปี 2024 นี้ หากรัฐบาลยุติการจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรกำกับดูแลวิชาชีพด้านสาธารณสุข</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://uploads.mwp.mprod.getusinfo.com/uploads/sites/43/2022/01/USAID-Health-Worker-Training.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพประกอบ: U.S. Mission Nigeria</span></p>
<p>สหภาพแรงงานสาธารณสุขของไนจีเรีย (JOHESU) แสดงความกังวลว่า บุคลากรสาธารณสุขจำนวนมากอาจตัดสินใจออกนอกประเทศเพื่อไปหางานที่ดีกว่าในปี 2024 นี้ สหภาพแรงงาน JOHESU ยังขู่ว่าจะนัดหยุดงานประท้วง หากรัฐบาลตัดสินใจยุติการจัดสรรงบประมาณให้แก่เหล่าองค์กรกำกับดูแลวิชาชีพด้านสาธารณสุข</p>
<p>ในจดหมายที่ส่งถึง รัฐมนตรีสาธารณสุข มูฮัมหมัด อะลี พาเต (Muhammad Ali Pate) สหภาพแรงงาน JOHESU เตือนว่า "หากปล่อยปัญหานี้ไว้โดยไม่จัดการ เราคาดการณ์ว่าบุคลากรสาธารณสุขเกิน 25% ของไนจีเรียจะย้ายไปทำงานต่างประเทศ"</p>
<p>สหภาพแรงงาน JOHESU เรียกร้องให้รัฐมนตรีสาธารณสุข สั่งการไปยังสำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณแก่ทุกองค์กรกำกับวิชาชีพด้านสาธารณสุขโดยปกติ เพื่อไม่ให้เกิดการนัดหยุดงานประท้วงของสมาชิกสหภาพแรงงานเพื่อกดดันให้บรรลุข้อเรียกร้อง</p>
<p>จดหมายดังกล่าวลงนามโดย แมททิว อาโยรูตู (Matthew Ajorutu) รักษาการเลขาธิการสหภาพแรงงาน JOHESU อ้างว่า แนวทางการหยุดจ่ายเงินของสำนักงบประมาณส่งผลกระทบต่อองค์กรกำกับดูแลวิชาชีพทุกแห่งในเบื้องต้น รวมถึงแพทยสภาไนจีเรีย (MDCN) ซึ่งกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพแพทย์และทันตแพทย์ในไนจีเรีย</p>
<p>อาโยรูตูกล่าวว่า "จะมีผลกระทบร้ายแรงต่อผู้ใช้บริการสาธารณสุขในไนจีเรีย หากรัฐมนตรีไม่ยอมถอนคำสั่งหักงบประมาณที่ล้าหลังและสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงนี้"</p>
<p>อนึ่งไนจีเรียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในแอฟริกา โดยมีจำนวนประชากรมากกว่า 210 ล้านคน อย่างไรก็ดี คนทำงานภาคสาธารณสุขในประเทศไนจีเรียกลับมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชากร ส่งผลให้เกิดปัญหาการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพของประชาชนไนจีเรีย นอกจากจำนวนแพทย์ที่น้อยแล้ว คนทำงานภาคสาธารณสุขไนจีเรียยังกระจายตัวไม่ทั่วถึง โดยกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่และพื้นที่ที่มีรายได้สูง ในขณะที่พื้นที่ชนบทและพื้นที่ที่มีรายได้ต่ำกลับมีบุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอ ส่งผลให้ประชาชนในชนบทและพื้นที่ที่มีรายได้ต่ำเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้ยาก</p>
<p><strong>ที่มา:</strong>
More Health Workers May Leave Nigeria, Union Warns (Leadership News, 30 December 2023)</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/01/107474
 
2858  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - สปสช. ย้ำหมุดหมายเข้าปีที่ 22 ระบบบัตรทอง เน้นเพิ่มความสะดวกในการรับบริการมากขึ เมื่อ: 02 มกราคม 2567 15:42:57
สปสช. ย้ำหมุดหมายเข้าปีที่ 22 ระบบบัตรทอง เน้นเพิ่มความสะดวกในการรับบริการมากขึ้น
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-01-02 14:32</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>สปสช. ย้ำหมุดหมายเข้าสู่ปีที่ 22 ของระบบบัตรทอง เร่งเดินหน้าเพิ่มความสะดวกผู้ใช้สิทธิบัตรทองทั้งด้านสิทธิประโยชน์และด้านการเข้าถึงบริการ 7 ม.ค. 2567 นำร่อง 4 จังหวัดใช้บัตรประชาชนไปรักษาที่ไหนก็ได้ พร้อมดึงคลินิกเอกชนเข้าร่วมดูแลผู้มีสิทธิบัตรทองให้มากขึ้น</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/898/41064388582_fd40364bdb_o_d.jpg" /></p>
<p>2 ม.ค. 2567 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่าขณะนี้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกำลังดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 22 ซึ่งตลอด 21 ปีที่ผ่านมา ความสำเร็จส่วนหนึ่งคือการทำให้ประชาชนมีสิทธิในการรับบริการสุขภาพ ซึ่งถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดีก็ยังมีความท้าทายในเรื่องความสะดวกในการเข้ารับบริการ เพราะแม้มีสิทธิแล้ว แต่ถ้าประชาชนไม่สามารถเข้ารับบริการได้สะดวกก็ไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้น สิ่งที่ สปสช. จะดำเนินการต่อ คือเรื่องการยกระดับเพื่อให้ประชาชนเข้ารับบริการได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น</p>
<p>นพ.จเด็จ ขยายความว่า คำว่าความสะดวกนี้ แบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ 1.สะดวกจากสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ โดย สปสช. ได้สรรหาสิทธิประโยชน์หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวกมากขึ้น เช่น การเก็บสิ่งส่งตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตัวเอง หรือตรวจหาเชื้อเอชไอวีด้วยตัวเอง เป็นต้น สิทธิประโยชน์เหล่านี้ จะทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้สะดวกโดยไม่ต้องไปที่โรงพยาบาล</p>
<p>2.สะดวกในการเข้ารับบริการ ที่ผ่านมาเวลาเจ็บป่วยต้องไปโรงพยาบาลเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้เพิ่มบริการได้มากขึ้น เช่น เจ็บป่วยเล็กน้อยไปร้านยา หรือคลินิกพยาบาล หรือ รับบริการผ่านระบบเทเลเมดิซีน และถ้าจำเป็นต้องเจาะเลือดก็มีบริการไปเจาะเลือดให้ที่บ้าน มีบริการทำกายภาพบำบัดให้ที่บ้าน เป็นต้น ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกให้ประชาชนมากขึ้น</p>
<p>“เหล่านี้ คือ 2 ประเด็นที่ สปสช. ขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการแก่ประชาชน และส่วนหนึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้วและจะขยายให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเราผูกผู้มีสิทธิบัตรทองไว้กับหน่วยบริการใกล้บ้าน แต่ก็จะมีบางส่วนประมาณ 20% ของผู้มีสิทธิทั้งหมดอาจต้องการไปรักษาที่อื่น หรือบางครั้งต้องเดินทางไปต่างพื้นที่แล้วมีความจำเป็นต้องเข้ารับบริการ เราก็อำนวยความสะดวกให้ท่าน โดยเริ่มจากการยกระดับบัตรทองใน 4 จังหวัดนำร่อง คือ จ.แพร่ จ.เพชรบุรี จ.ร้อยเอ็ด และ จ.นราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. 2567 ประชาชนสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวไปรับบริการได้ทุกที่ในเครือข่ายหน่วยบริการของ สปสช.” นพ.จเด็จ กล่าว</p>
<p>นพ.จเด็จ กล่าวว่า การดำเนินการเช่นนี้ได้ ปัจจัยสำคัญคือข้อมูลบริการจะต้องเชื่อมต่อกัน ให้หน่วยบริการสามารถดึงประวัติการรักษาผู้ป่วยโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ซึ่งต้องขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขที่ดำเนินการเชื่อมต่อข้อมูลบริการของโรงพยาบาลรัฐไว้บนระบบคลาวด์แล้ว ส่วน สปสช. จะเสริมในส่วนการพัฒนาระบบการจ่ายชดเชยค่าบริการให้เร็วขึ้นและลดภาระหน่วยบริการให้มากที่สุด รวมทั้งการดึงหน่วยบริการในสังกัดอื่น และภาคเอกชน ให้เข้ามาร่วมดูแลผู้มีสิทธิบัตรทองมากขึ้น เช่น โรงพยาบาลเอกชนบางแห่ง คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม ร้านยา คลินิกพยาบาล คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกกายภาพบำบัด คลินิกแพทย์แผนไทย โดย สปสช. จะสนับสนุนตั้งแต่ระบบการสมัครเข้าเป็นเครือข่ายหน่วยบริการของ สปสช. แบบ One Stop Service ช่วยลดภาระเอกสารและรับรองผลอย่างรวดเร็ว สนับสนุนโปรแกรมการเชื่อมข้อมูลเพื่อการเบิกจ่ายค่าบริการ และระบบการจ่ายเงินที่รวดเร็วใน 3 วัน เพื่อให้หน่วยบริการมีเงินสดหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ</p>
<p>“ปัจจุบันโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมในการเชื่อมข้อมูลแล้ว แต่ในส่วนของหน่วยบริการอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาครัฐใน 4 จังหวัด ยังคงทยอยสมัครเข้าร่วมให้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภาพรวมของหน่วยบริการแต่ละประเภทมีจำนวนการสมัครเข้าร่วมแล้ว อาทิ คลินกเวชกรรม 479 แห่ง ร้านยา 461 แห่ง คลินิกการพยาบาล 331 แห่ง คลินิกทันตกรรม 131 แห่ง คลินิกแพทย์แผนไทย 32 แห่ง คลินิกเทคนิคการแพทย์ 25 แห่ง และคลินิกกายภาพบำบัด 15 แห่ง เพื่อร่วมนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” เลขาธิการ สปสช. กล่าว</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/01/107471
 
2859  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ข่าวดี! จีนยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศให้กับนักท่องเที่ยวไทยแบบถาวร เริ่ม 1 มี.ค.นี้ เมื่อ: 02 มกราคม 2567 14:50:50
ข่าวดี! จีนยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศให้กับนักท่องเที่ยวไทยแบบถาวร เริ่ม 1 มี.ค.นี้
         


ข่าวดี! จีนยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศให้กับนักท่องเที่ยวไทยแบบถาวร เริ่ม 1 มี.ค.นี้" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;“เศรษฐา” เผยข่าวดี จีนยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศให้กับนักท่องเที่ยวไทยแบบถาวร เริ่ม 1 มีนาคมนี้
         

https://www.sanook.com/news/9167210/
         
2860  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - '365 วันพันเหตุการณ์' ย้อนดู 12 เหตุการณ์การเมืองและสิทธิมนุษยชน เกิดอะไรขึ้นบ้ เมื่อ: 02 มกราคม 2567 14:12:56
'365 วันพันเหตุการณ์' ย้อนดู 12 เหตุการณ์การเมืองและสิทธิมนุษยชน เกิดอะไรขึ้นบ้างในปี 2566
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-01-02 13:20</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>รายงาน: ณัฐพล เมฆโสภณ</p>
<p>ภาพปก: กิตติยา อรอินทร์</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'365 วันพันเหตุการณ์' ปี 2566 นับเป็นปีที่เกิดเรื่องราวมากมาย เหตุการณ์ที่ 'ไม่เคยเห็น ก็ได้เห็น' ทั้งชัยชนะของพรรคก้าวไกลในสนามเลือกตั้งระดับประเทศ การกลับไทยของ 'วัชรเรศร' และอดีตนายกฯ ทักษิณ รวมถึงการต่อสู้เพื่อเรียกร้องเพื่อสิทธิประกันตัวด้วยวิธีสุดขั้วที่แทบไม่เกิดขึ้นมาก่อน ประชาไทขอชวนผู้อ่านย้อนดู 12 เหตุการณ์การเมืองและสิทธิมนุษยชน เกิดอะไรขึ้นบ้างในปี 2566</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">16 มกราคม: 'แบม-ตะวัน' ถอนประกันตัวเอง อดอาหาร-น้ำแลกชีวิต เพื่อสิทธิประกันตัวของผู้ต้องขังทางการเมือง</span></h2>
<p>จั่วหัวต้นปี 2566 ด้วยการต่อสู้ของนักกิจกรรมอิสระ 'แบม' อรวรรณ ภู่พงษ์ และ 'ตะวัน' ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ เมื่อ 16 มกราคม 2566 ทั้งสองคนประกาศขอถอนประกันตนเอง เพื่อต่อสู้เรียกร้องสิทธิประกันตัวของเพื่อนผู้ต้องขังทางการเมือง พร้อมกับแถลงข้อเรียกร้อง 3 ข้อสื่อสารถึงกระบวนยุติธรรม และพรรคการเมืองในช่วงเวลาก่อนการเลือกตั้ง ได้แก่ 1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 2. ยุติการดำเนินคดีทางการเมือง และ 3. พรรคการเมืองในลงเลือกตั้งต้องมีนโยบายประกันเสรีภาพ และการมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยการยกเลิกมาตรา 112 และมาตรา 116 </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52636178151_50b979e7e6_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">'แบม-ตะวัน' ประกาศถอนประกันตัวเอง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์หน้าป้ายศาลฎีกา (ถ่ายโดย แมวส้มประชาไท)</span></p>
<p>อย่างไรก็ตาม ผ่านมา 2 วัน แต่ข้อเรียกร้องยังไม่ได้รับการตอบรับ เมื่อ 18 มกราคม 2566 เพจเฟซบุ๊ก 'Tawan Tantawan' ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอแถลงยกระดับการต่อสู้โดยการอดอาหารและอดน้ำ (Dry Hunger Strike) ซึ่งเป็นวิธีที่อันตรายต่อสุขภาพและชีวิต</p>
<p>สองนักกิจกรรมกระทำอารยขัดขืนอดอาหารและน้ำ สลับกับการอดอาหารอย่างเดียว รวมระยะเวลา 52 วัน หรือนับตั้งแต่ 18 มกราคม 2566 จนถึงระยะเวลา 11 มีนาคม 2566 แม้ว่าไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่อธิบายว่า การอารยขัดขืนของอรวรรณ และทานตะวัน ส่งผลกระเทือนต่อกระบวนการยุติธรรมหรือการเมืองไทยอย่างไร แต่ข้อมูลจากศูนย์ทนายความฯ เปิดเผยว่า ระหว่าง 52 วันที่ อรวรรณ และทานตะวัน อดอาหารประท้วง ไม่มีผู้ถูกคุมขังเพิ่ม ขณะเดียวกัน มีผู้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 4 ราย และมีผู้ยื่นคำร้องขอถอดกำไล EM และศาลอนุญาตอีกอย่างน้อย 34 ราย</p>
<p>หลังจากยุติอดอาหารและน้ำ ทั้งสองคนเข้ารับการรักษาตัวจนสุขภาพร่างกายดีขึ้น ก่อนออกมากิจกรรมการเมืองอีกหลายครั้ง อย่างการไปทำกิจกรรมโพล 'เห็นด้วยหรือไม่กับการยกเลิก/แก้ไขมาตรา 112' ตามเวทีปราศรัยของพรรคการเมืองพรรคต่างๆ ก่อนการเลือกตั้ง สส.ในวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา การร่วมกิจกรรม 'เดินเพื่อเพื่อน' จากศาลเยาวชนและครอบครัวกลางไปที่บ้านปรานี จ.นครปฐม รวมระยะทาง 51 กม. เพื่อเรียกร้องปล่อยตัว ธนลภย์ ผลัญชัย หรือหยก เยาวชนอายุ 15 ปี ผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 เมื่อ 3-4 พฤษภาคม 2566 และอื่นๆ</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>'ตะวัน-แบม' ยื่นถอนประกันตัวเอง แลกอิสรภาพที่แท้จริง เรียกร้องปล่อยผู้ต้องขังทางการเมืองทั้งหมด ภายใน 3 วัน</li>
<li>เผยคลิป 'ตะวัน-แบม' 2 ผู้ต้องหา 112 ประกาศ 'อดน้ำและอาหาร' จากในเรือนจำ ร้องประกันตัวนักโทษการเมืองทั้งหมด</li>
<li>‘ตะวัน-แบม เอฟเฟกต์’ ผู้ต้องหาทางการเมืองยังไม่ถูกฝากขังเพิ่ม-ทยอยได้ประกันตัวต่อเนื่อง</li>
<li>‘ตะวัน-แบม’ ประกาศจะอดอาหารหน้าศาลฎีกาพรุ่งนี้ ลั่น เพื่อนต้องได้กลับบ้านทุกคน</li>
<li>ตะวัน-แบม ปักหลัก อดอาหารต่อหน้าศาลฎีกา จนกว่าผู้ต้องขังทางการเมืองจะได้ประกันตัวทุกคน</li>
<li>'แบม-ตะวัน' เข้า รพ.ธรรมศาสตร์ฯ อาการวิกฤต หวั่นไม่พ้นคืนนี้ อวัยวะภายในเสียหาย</li>
<li>'ตะวัน-แบม' เลิกอดอาหารแล้ว จะรับการรักษาเพื่อต่อสู้ต่อไป เนื่องจากยังไม่ได้รับการตอบรับจากศาล</li>
<li>แบม-ตะวัน ออก รพ. รุดทำโพลหน้าเวทีปราศรัย ‘เพื่อไทย’ อยุธยา ‘ต้องการให้ พท.ยกเลิก ม.112 หรือไม่'</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">7 กุมภาพันธ์: เก็ท-จตุพล-ณัฐพล ฝืนตื่นประท้วง เรียกร้องสิทธิประกันตัว </span></h2>
<p>คู่ขนานกับการอดอาหารและน้ำของทานตะวัน และอรวรรณ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 'เก็ท' โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักกิจกรรมผู้ก่อตั้งโมกหลวงริมน้ำ จตุพล และณัฐพล สองนักกิจกรรมจากทะลุแก๊ซ ได้ร่วมกันประท้วง 'ฝืนตื่น' เพื่อผลักดันข้อเรียกร้อง 3 ข้อของอรวรรณ และทานตะวัน และสิทธิประกันตัวให้ผู้ถูกคุมขังทางการเมือง </p>
<p>ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า การประท้วงโดยการฝืนตื่น หรือการประท้วงโดยไม่ให้ตัวเองนอนหลับตามธรรมชาติ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายใกล้เคียงกับการอดอาหารและน้ำประท้วง โดยเก็ท ฝืนตื่นประท้วง เป็นระยะเวลา 14 วัน ตั้งแต่ 7-20 กุมภาพันธ์ จตุพล และณัฐพล ประท้วงโดยการฝืนตื่นตั้งแต่ 7-10 กุมภาพันธ์ รวมระยะเวลา 4 วัน แต่ข้อเรียกร้องของพวกเขาก็ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด</p>
<div class="more-stiry">
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>ปชช.-ผู้ต้องขังทางการเมืองร่วมประท้วงอดอาหาร-น้ำ อดนอน ดัน 3 ข้อเรียกร้องทะลุวัง</li>
</ul>
</div>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">28 มีนาคม: ปฏิบัติการรณรงค์ยกเลิก มาตรา 112 ที่ใกล้วังมากที่สุด</span></h2>
<p>เหตุการณ์ต่อมาเกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 28 มีนาคม 2566 เมื่อมีศิลปินอิสระจากจังหวัดขอนแก่น 'บังเอิญ' ศุทธวีร์ สร้อยคำ อายุ 25 ปี ได้ใช้สีสเปรย์สีดำระบายบนกำแพงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ถนนหน้าพระลาน ฝั่งตรงข้ามสนามหลวง เป็นสัญลักษณ์ 'อนาคิสต์' ขีดฆ่า 112 และตัวอักษรภาษาอังกฤษ 'P' ซึ่งตั้งใจจะเขียนเป็นคำว่า 'People' (ประชาชน) แต่ถูกตำรวจรวบตัวก่อนจะเขียนข้อความเสร็จ</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52777036719_d4343a4269_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">บังเอิญ ถูกตำรวจจับกุมขณะพยายามพ่นสเปรย์กำแพงวัดพระแก้ว (ถ่ายโดย แมวส้มประชาไท)</span></p>
<p>ศิลปินวัย 25 ปี ถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สน.พระราชวัง ทันที โดยบีบีซีไทย ได้บรรยายเหตุการณ์นี้ว่านี่เป็นปฏิบัติการรณรงค์ยกเลิกมาตรา 112 ที่ใกล้วังมากที่สุดนับตั้งแต่การชุมนุมของคนรุ่นใหม่ ถูกจุดติดเมื่อปี 2563 เป็นต้นมา </p>
<p>บังเอิญ ถูกแจ้งข้อหา พ.ร.บ.โบราณสถาน และ พ.ร.บ.ความสะอาด และไม่มีข้อหามาตรา 112 ก่อนได้รับการประกันตัวชั้นสอบสวนในวันที่ 29 มีนาคม โดยศาลให้วางเงิน 50,000 บาท และมีเงื่อนไขห้ามกระทำผิดในลักษณะเดียวกันอีก </p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>ศิลปินอิสระวัย 25 ปี ผู้พ่นสีกำแพงวัง ถูกแจ้ง พ.ร.บ.โบราณสถาน-ความสะอาด ก่อนได้ประกัน</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">29 มีนาคม: 'หยก' เยาวชนวัย 15 ปี ผู้ต้องหา ม.112 ถูกคุมขังที่สถานพินิจในจังหวัดนครปฐม 51 วัน </span></h2>
<p>29 มีนาคม จนถึง 18 พฤษภาคม 2566 เป็นช่วงเวลาที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ออกหมายขังตัว 'หยก' ธนภลย์ ผลัญชัย เยาวชนอายุ 15 ปี ถูกควบคุมตัวที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิงบ้านปรานี (บ้านปรานี) จังหวัดนครปฐม รวมระยะเวลา 51 วัน หลังเธอถูกจับกุม และแจ้งข้อหามาตรา 112 กรณีแสดงออกทางการเมืองในกิจกรรม "13 ตุลา หวังว่าสายฝนจะพาล่องลอยไป" ณ ลานเสาชิงช้า เมื่อปี 2565 </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52907116428_5c944ac74c_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">'หยก' ได้รับการปล่อยตัวจากบ้านปรานี (ภาพถ่ายโดย แมวส้มประชาไท)</span></p>
<p>สำหรับธนภลย์ ผลัญชัย เป็นหนึ่งในเยาวชนที่อายุน้อยที่สุดที่ถูกดำเนินคดีด้วยข้อหามาตรา 112 และก่อนหน้าที่เธอจะถูกจับกุม เธอเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหาที่บ้าน และโรงเรียน และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการพูดคุกคามผู้ปกครองของเธอ เช่น ควรให้ลูกไปพบจิตแพทย์ หรือ "มีลูกแบบนี้ฆ่าตัวตายดีกว่า" และในช่วงที่อยู่ในสถานพินิจ เธอยังถูกประธานกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ไลฟ์สดขู่ฆ่า หากไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>'หยก' ต้องเจออะไรบ้าง จากผู้ถูกกล่าวหา มาตรา 112 จนถึงวันที่ถูกพรากสิทธิการศึกษา</li>
<li>ระบวนการ (ไม่) ยุติธรรมต่อ 'เด็ก' ย้อนดูกรณี 'หยก' และนักกิจกรรมเยาวชน สู่ข้อเสนอปฏิรูป</li>
<li>ปธ.ศปปส.ไลฟ์สดขู่เอาชีวิตนักกิจกรรมเยาวชน ถ้าไม่ยอมรับกระบวนการศาล</li>
<li>เยาวชนวัย 15 ปี ถูกส่งตัวเข้าสถานพินิจในคดี ม.112 ม็อบ13ตุลา65 หลังปฏิเสธอำนาจศาล-สิทธิประกัน</li>
<li>'หยก' ให้สัมภาษณ์สื่อหลังได้รับการปล่อยตัวจากบ้านปรานี ยืนยันปฏิเสธอำนาจศาลต่อ</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">14 เมษายน: นักกิจกรรมการเมืองถูกคนร้ายสวมหมวกกันน็อคใช้ไม้เบสบอลฟาดจนแขนหัก ใกล้ที่พักยามวิกาล</span></h2>
<p><span style="color:null;">14 เมษายน เวลา 21.00 น. เวหา แสนชนชนะศึก ผู้ต้องหามาตรา 112 ได้ถูกชายใส่หมวกกันน็อค ใช้ไม้เบสบอลฟาดเข้าไปที่แขนของเขา จนแขนหัก และมีรอยฟกช้ำทั่วบริเวณแขน ขา และหลัง ขณะที่เวหา และบังเอิญ เดินออกไปซื้ออาหารเย็นทาน และกำลังเดินกลับที่พักย่านนนทบุรี </span></p>
<p><span style="color:null;">อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจใช้เวลาไม่นาน สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุที่ใช้ไม้เบสบอลตีจนแขนหัก 2 ใน 3 ของผู้ก่อเหตุทั้งหมด และทั้งสองคนภายหลังได้รับการประกันตัวในเวลาต่อมา </span></p>
<p><span style="color:null;">ทั้งนี้ การก่อเหตุลอบทำร้ายร่างกายนักกิจกรรม ตามการรายงานของสื่อมวลชน เกิดขึ้นครั้งสุดท้าย เมื่อ 28 มิถุนายน 2562 กรณี 'จ่านิว' สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ขณะนั้นเป็นนักกิจกรรมการเมือง ถูกคนร้ายใช้ไม้เบสบอลตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส</span></p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>'เวหา' แจ้งความ สภ.บางบัวทอง ถูกชายสวมหมวกกันน็อคใช้ไม้เบสบอลเหล็กทำร้ายจนแขนหัก</li>
<li>ตร.จับ 2 ใน 3 ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย 'เวหา' นักกิจกรรมการเมือง</li>
<li>'ขู่ฆ่า ชกปาก ฟาดด้วยไม้' รวมเคสนักกิจกรรมถูกทำร้าย 'ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า'</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">14 พฤษภาคม : พรรคก้าวไกล ชนะการเลือกตั้ง สส.ปี 2566 ฉาบประเทศไทยเป็นสีส้ม</span></h2>
<p>14 พฤษภาคม พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1 สามารถเอกชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยได้ สส.เขต จำนวน 112 ที่นั่ง และ สส.แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 39 ที่นั่ง รวมเป็น 151 ที่นั่ง แซงพรรคเพื่อไทย แชมป์เก่าโดยได้ สส.รวม 141 ที่นั่ง เฉือนไปเพียง 10 ที่นั่งเท่านั้น และอันดับ 3 คือพรรคภูมิใจไทย ของอนุทิน ชาญวีระกูล จำนวน 71 ที่นั่ง </p>
<p>ทุกคนทราบตอนจบว่า พรรคก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ เนื่องจากไม่ผ่านเสียงโหวตของรัฐสภา แต่สิริพรรณ นกสวน สวัสดี นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ เคยนิยามว่าชัยชนะของพรรคก้าวไกลเปรียบเสมือน ‘ทอร์นาโดแห่งความเปลี่ยนแปลง’ เนื่องจากสะท้อนความต้องการความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยที่ไม่ได้แค่คนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่เป็นคนทุกวัย และในห้วงเวลาเดียวกัน ก็เป็นความเสื่อมมนต์ขลังของระบบ 'บ้านใหญ่' หรือระบบอุปถัมภ์ดูแลพื้นที่ ในการเลือกตั้ง</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52892695039_d5fd1d5302_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลช่วงเวลานั้น ปราศรัยใหญ่หาเสียงครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง สส. ปี 2566 ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง </span></p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>กกต.ประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">5 สิงหาคม: 'วัชรเรศร' แลนดิ้งไทยครั้งแรกในรอบ 27 ปี</span></h2>
<p>วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารชื่อดัง รายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกของ 5 สิงหาคม วัชรเรศร วชิรเวช อายุ 42 ปี พระราชโอรสพระองค์ที่ 2 ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จกลับประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 27 ปี พร้อมกับมีภาพของเขาที่สนามบินสุวรรณภูมิ และจะใช้เวลาอยู่ในประเทศไทย เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53100103063_8b9e1ba686_c.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ภาพของ 'วัชรเรศร' กลับมาเยี่ยมประเทศไทยครั้งแรก (ที่มา: เฟซบุ๊ก Vacharaesorn Vivacharawongse)</span></p>
<p>ไม่ได้มาแค่หนึ่ง แต่เมื่อ 13 สิงหาคม จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ อายุ 40 ปี พระราชโอรสพระองค์ที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เดินทางกลับประเทศไทยด้วยเช่นกัน และอยู่เพียงระยะเวลาสั้นๆ เพื่อมารับพี่ชาย 'วัชรเรศร' กลับสหรัฐฯ ด้วยกัน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม</p>
<p>นอกจากนี้ วัชรเรศร ไม่ได้มาแค่ครั้งเดียว เพราะในปีเดียวกัน วัชรเรศร กลับมาประเทศไทยอีกครั้งราว 4 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวยืนยันว่ามาเป็นการส่วนตัว เพื่อร่วมกิจกรรมในช่วงวันพ่อ 5 ธันวาคม โดย วัชรเรศร อาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลา 14 วัน ก่อนเดินทางกลับในวันที่ 18 ธันวาคม </p>
<p>ทั้งนี้ การกลับมาของวัชรเรศร ทั้ง 2 ครั้ง มีความน่าสนใจจากสาธารณชนอย่างมาก เนื่องจากเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสคำถามอนาคตของการสืบสันตติวงศ์หลังรัชกาลที่ 10 เนื่องจาก 'เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ' ยังอยู่ในระหว่างประชวร ตั้งแต่ปลายปี 2565</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>'Bangkok Tuk-Tuk' ท่านอ้น โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊ก หลังกลับไทย</li>
<li>เผยภาพ 'จักรีวัชร วิวัชรวงศ์' กลับไทยครั้งแรก</li>
<li>
<p>'วัชเรศร' โพสต์ภาพถึงไทยแล้ว เตรียมทำกิจกรรมวันพ่อพรุ่งนี้</p>
</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">22 สิงหาคม: 'ทักษิณ' กลับไทยในรอบ 15 ปี-'เพื่อไทย' ตั้งรัฐบาลสำเร็จ</span></h2>
<p>ไม่ได้มีแค่วัชรเรศร และจักรีวัชร เท่านั้นที่ได้กลับบ้านแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพราะว่าเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา เวลา 9.00 น. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อายุ 72 ปี นั่งเครื่องบินแลนด์ดิ้งท่าอากาศยานดอนเมือง ประเทศไทย ซึ่งเป็นการกลับไทยในรอบ 15 ปีกับอีก 22 วัน และเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เขาถูกรัฐประหารเมื่อปี 2549</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53133435781_4e9e605a51_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ทักษิณ กลับไทย (ถ่ายโดย คชรักษ์ แก้วสุราช)</span></p>
<p>ทั้งนี้ การกลับมาของทักษิณ เกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังพรรคเพื่อไทย แถลงสื่อจัดตั้งรัฐบาล 314 เสียง โดยไม่มีเงาของพรรคก้าวไกล ผู้ชนะการเลือกตั้ง สส.ครั้งล่าสุด ที่เคยร่วมกันจับมือเซ็นข้อตกลงร่วม (MOU) เพื่อจัดตั้งรัฐบาลฝั่งประชาธิปไตย ร่วม 8 พรรคการเมือง</p>
<p>ในวันเดียวกัน หลังทักษิณ กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมของไทย พรรคเพื่อไทย ผ่านโหวตของรัฐสภาและสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในวันเดียวกัน ส่งให้เศรษฐา ทวีสิน อดีตซีอีโอของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อย่าง 'แสนสิริ' ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ด้วยคะแนน 482 เสียง จาก 728 เสียงในรัฐสภา</p>
<p>นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจอย่างมากในทางการเมือง โดยมีผู้เชี่ยวชาญมองว่า การตั้งรัฐบาลครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ยกมือโหวตลงมติ 'เห็นชอบ' ให้เศรษฐา พร้อมกับดับฝันของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีกระแสข่าวมาว่าต้องการเก้าอี้นายกฯ เช่นเดียวกัน และการกลับมาของ 'ทักษิณ' ยังเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้พรรคเพื่อไทย ตั้งรัฐบาลสำเร็จ </p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>อดีตนายกฯ 'ทักษิณ' เดินทางกลับถึงไทย รอบ 2 หลังถูก รปห. ปี'49</li>
<li>สภาลงมติให้ 'เศรษฐา' ได้เป็นนายกฯ</li>
<li>
<p>ออกหมายขังอดีตนายกฯ 'ทักษิณ' รวมโทษจำคุก 8 ปี ส่งตัวเข้าเรือนจำทันที</p>
</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">22 สิงหาคม: 'ConforAll' ล่า 2 แสนรายชื่อใน 3 วัน สายฟ้าแลบ เสนอคำถามประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ทุกหมวดทุกมาตรา สสร.เลือกตั้ง 100%  </span></h2>
<p>22-25 สิงหาคม กลุ่มสมัครอาสาล่ารายชื่อเพื่อเสนอคำถามทำประชามติ หรือ ConforAll ล่าลายเซ็นรวม 205,379 รายชื่อ ด้วยเวลาเพียง 3 วัน หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อ้างว่าไม่สามารถใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในการเสนอคำถามตาม พ.ร.บ.ประชามติ ส่งผลให้ 4 หมื่นรายชื่อที่ระดมกันมาก่อนหน้านี้ในช่องทางออนไลน์ถูกปัดตกทันที และเกิดเป็นกระแสที่ประชาชนหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกันเปิดโต๊ะล่ารายชื่อเขียนด้วยมือ จนได้ลายเซ็นเกินเป้าหมายที่กำหนดจากเดิม 5,000 รายชื่อ เป็น 2 แสนรายชื่อในพริบตาเดียว</p>
<p>ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีม ConforAll ต้องเร่งรีบเสนอคำถามประชามตินั้น ก็เพื่อให้ทันการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก โดยอ้างอิงจากคำแถลงของพรรคเพื่อไทย ที่ระบุไว้เมื่อ 2 สิงหาคม 2566 ตอนที่ยุติ MOU แนวทางการจัดตั้งรัฐบาลกับ 8 พรรคร่วมเดิม (ซึ่งมีพรรคก้าวไกล) ว่า ในการประชุม ครม.ครั้งแรกจะให้มีการทำประชามติ และตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ในกระบวนการมีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560</p>
<p>อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ครม.นัดแรก ที่ประชุมเพียงแค่ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ 2560 และเมื่อล่าสุด ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการฯ ออกแถลงแนวทางการทำประชามติ โดยระบุว่าจะถามประชามติ 3 ครั้ง ครั้งแรกคือเขียนรัฐธรรมนูญใหม่โดยไม่แตะหมวด 1 และ 2 พร้อมทั้งเตรียมเสนอ ครม.ประมาณช่วงเดือนมกราคม 2567 หรือช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 ซึ่งหากเป็นการถามประชามตินี้จะไม่ตรงกับคำถามของ ConForAll ที่ต้องการแก้ไขทั้งฉบับ </p>
<p>ทีมบรรณาธิการของประชาไท ได้ยกให้ "กลุ่มสมัครอาสาล่ารายชื่อเพื่อเสนอคำถามทำประชามติ" เป็น "กลุ่มบุคคลแห่งปี 2566" เนื่องจากการล่ารายชื่อ 2 แสนรายชื่อภายในระยะเวลาอันสั้น สะท้อนความตื่นตัวในการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสังคมไทย และแสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชนจำนวนมากที่เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เป็นบรรทัดฐานใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53154313044_91fcf5ed84_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ทีม ConforAll</span></p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>บุคคลแห่งปี 2023 : อาสาล่าชื่อทำประชามติ 'เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เลือกตั้ง 100%'</li>
<li>#ConforAll 2 แสนรายชื่อ ใน 3 วัน ไม่ปาฏิหาริย์ แต่เพราะประเทศไทยไม่เหมือนเดิม</li>
<li>'ภูมิธรรม' แถลงถามประชามติ 3 ครั้ง เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ไม่แตะหมวด 1 และ 2 เตรียมเสนอ ครม. ม.ค. 67</li>
<li>ครม.มีมติตั้ง คกก.ศึกษาแนวทาง แก้ รธน. พร้อมรับฟังประชาชน ย้ำไม่แก้หมวด 1 และ 2</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">19 พฤศจิกายน: ภาคประชาชนเปิดตัวร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม </span></h2>
<p>19 พฤศจิกายน 'เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน' เปิดตัว "ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พ.ศ...." หรือ "ร่างนิรโทษกรรมประชาชน" โดยมีเป้าหมายสำคัญ เพื่อลบล้างความผิดของประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุม และแสดงออกทางการเมือง หวังลดความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังคงมีอยู่ระหว่างฝ่ายต่างๆ ตั้งแต่ 19 กันยายน 2549 จนถึงวันที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้บังคับใช้</p>
<p>ร่างกฎหมายนี้จะแบ่งคดีการเมืองที่ได้รับการนิรโทษกรรมเป็น 2 แนวทาง คือ คดีที่ได้รับการนิรโทษกรรมทันที ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 5 คดีความ รวมถึงคดีมาตรา 112 และคดีที่ต้องผ่านคณะกรรมการพิจารณาคดีการเมืองเพื่อการนิรโทษกรรม </p>
<p>ทั้งนี้ การเปิดตัวร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีการเมืองฉบับประชาชน เกิดขึ้นหลัง 6 ตุลาคม 2566 พรรคก้าวไกล ได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากการเหตุการณ์ขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. .... ประธานสภาผู้แทนราษฎร</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง </p>
<ul>
<li>เทียบ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับประชาชน-พรรคก้าวไกล เหมือนหรือต่างกันอย่างไร</li>
<li>"เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน" เปิดตัว "ร่างนิรโทษกรรมประชาชน" ให้ทุกฝ่าย รวม ม.112 เพื่อลดขัดแย้ง</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">21 ธันวาคม: พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม 4 ฉบับผ่านวาระแรก ลุยต่อชั้น กมธ. </span></h2>
<p>21 ธันวาคม iLaw รายงาน ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ผ่านร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ทั้ง 4 ร่าง ประกอบด้วย 1. ร่างพรรคก้าวไกล 2. ร่างภาคประชาชน 3. ร่างกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และ 4. ร่างของพรรคประชาธิปัตย์ </p>
<p>ทั้ง 4 ร่างมีใจความหลักสำคัญการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) ที่ใช้บังคับอยู่ ซึ่งยังรับรองการสมรสเฉพาะชาย-หญิง เท่านั้น เพื่อให้รับรองการสมรสสำหรับบุคคลสองคนไม่ว่าจะมีเพศตามทะเบียนราษฎรเป็นเพศใดก็ตาม</p>
<p>กระบวนการต่อไปคือการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ เมื่อกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วก็จะเข้าสู่การพิจารณารายมาตราในวาระสอง และสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบในวาระสาม หลังจากพิจารณาชั้นสภาผู้แทนราษฎรทั้งสามวาระเสร็จสิ้น ก็จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นวุฒิสภาสามวาระต่อไป </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">24 ธันวาคม: 'ชัยชนะฝั่งประชาธิปไตยอีกครั้ง' ทีมประกันสังคมก้าวหน้า คว้าชัยเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม 6 ที่นั่ง </span></h2>
<p>24 ธันวาคม ทีมประกันสังคมก้าวหน้า นำโดย รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี นักวิชาการด้านรัฐสวัสดิการ สามารถคว้าชัยชนิดแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม ฝ่ายผู้ประกันตน ได้ทั้งหมด 6 ที่นั่ง จาก 7 ที่นั่ง ประกอบด้วย ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี ชลิต รัษฐปานะ สมาชิกสหภาพคนทำงาน ธนพงศ์ เชื้อเมืองพาน ประธานกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง ศิววงศ์ สุขทวี ที่ปรึกษา MWG นลัทพร ไกรฤกษ์ นักสื่อสารและนักรณรงค์เพื่อสิทธิผู้พิการ และสุดท้าย ลักษมี สุวรรณภักดี จากสหภาพมอลิก้า เฮลท์ แคร์ และที่นั่งที่ 7 คนสุดท้าย คือ ปรารถนา โพธิ์ดี จากเครือข่ายพนักงานราชการไทย</p>
<p>ในวันเดียวกัน หลังทราบผลการเลือกตั้งกว่า 60 เปอร์เซ็นต์แล้ว ษัษฐรัมย์ ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า นี่เป็นชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตยอีกครั้ง (ครั้งแรกคือการเลือกตั้ง สส. เมื่อ 14 พฤษภาคม 2566) ชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ยังเป็นหมุดหมายของการปักธงฝ่ายประชาธิปไตยทุกการเลือกตั้งนับจากนี้ และเป็นการนับหนึ่งการสร้างรัฐสวัสดิการในประเทศไทย</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53436956261_823020e786_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ทีมประกันสังคมก้าวหน้า (ถ่ายโดย สหภาพคนทำงาน)</span></p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>ผลเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมปี'66 อย่างไม่เป็นทางการ 'ประกันสังคมก้าวหน้า' คว้า 6 ที่นั่ง</li>
<li>'ษัษฐรัมย์' แถลงขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลังทีมประกันสังคมก้าวหน้า คว้าชัยเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมปี'66</li>
<li>
<p>ชวนลงทะเบียนเลือกตั้ง ฝ่ายผู้ประกันตน บอร์ดประกันสังคม ปี'66 ร่วมรักษาผลประโยชน์ของแรงงาน</p>
</li>
</ul>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">รายงาhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/01/107470
 
หน้า:  1 ... 141 142 [143] 144 145 ... 1132
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 2.476 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 24 กันยายน 2566 16:45:14