ผลสำรวจแรงงานนอกระบบปีงบฯ 2565 พบเกือบครึ่งมีรายได้ต่ำกว่า 9,000 บาทต่อเดือน
<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-10-07 12:35</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ผลสำรวจข้อมูลแรงงานนอกระบบทั่วประเทศ 78,750 คน ช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 พบส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตร-แรงงานรับจ้างทั่วไป มากกว่า 90% มีอาชีพหลักเพียงอาชีพเดียว 83.90% ไม่ได้ตั้งเป้าหมายความสำเร็จในการทำงานในแต่ละวัน 49.62% มีรายได้ต่ำกว่า 9,000 บาทต่อเดือน และ 63.76% มีหนี้สิน</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/8311/8046754709_3cac51f411_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: ILO/Thierry Falise (CC BY-NC-ND 2.0)</span></p>
<p>ข้อมูลจาก
รายงานผลการจัดทำดัชนีชี้วัดคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบและสำรวจข้อมูลแรงงานนอกระบบ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยกองเศรษฐกิจการแรงงาน สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ที่ได้สำรวจข้อมูลแรงงานนอกระบบทั่วประเทศ 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร จำนวน 78,750 คน พบข้อค้นพบที่น่าสนใจดังต่อไปนี้</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ข้อมูลทั่วไป</span></h2>
<p>ข้อมูลทั่วไปของแรงงานนอกระบบ พบว่า จำนวนแรงงานนอกระบบที่สำรวจทั้งสิ้น 78,750 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง สถานภาพสมรส มีอายุอยู่ในช่วงวัยแรงงาน อายุ 20 - 59 ปี ส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับประถมศึกษา ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมงน้ำจืดมากที่สุดรองลงมา คือ อาชีพแรงงานรับจ้างทั่วไป มากกว่าร้อยละ 90 มีอาชีพหลักเพียงอาชีพเดียว และไม่เคยทำงานหรือประกอบอาชีพมาก่อน สำหรับผู้ที่เคยทำงาน/ประกอบอาชีพมาก่อนส่วนใหญ่เคยเป็นพนักงานโรงงานเหตุผลสูงสุดที่ทำให้เปลี่ยนงานมาเป็นแรงงานนอกระบบว่าต้องการอิสระสูงสุด รองลงมาคือ ค่าจ้าง/รายได้ไม่คุ้มค่า มากกว่าร้อยละ 50 ไม่ต้องการทำงานในระบบหรืองานองค์กรที่มีระบบสวัสดิการ และส่วนใหญ่ทำงานในฐานะลูกจ้าง</p>
<h2><span style="color:#3498db;">คุณภาพชีวิตของแรงงานนอกระบบ</span></h2>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/3776/9038042237_5e95380581_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: ILO/Marcel Crozet (CC BY-NC-ND 2.0)</span></p>
<p><strong>ด้านเศรษฐกิจ </strong>พบว่าแรงงานนอกระบบที่สำรวจมีรายได้รวมเฉลี่ยเท่ากับ 9,595.41 บาทต่อเดือน โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 49.62 มีรายได้ต่ำกว่า 9,000 บาทต่อเดือน มีคนที่ร่วมใช้จ่าย จำนวน 3 คน ร้อยละ 26.51 ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของแรงงานนอกระบบที่สำรวจมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ร้อยละ 63.76 และมีภาระหนี้สิน ร้อยละ 52.14 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการกู้ยืมเงินในระบบ ร้อยละ 87.16 จากการสำรวจรายได้จากการทำงาน (เพียงอย่างเดียว) ของแรงงานนอกระบบโดยเฉลี่ย มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 9,507.46 บาทต่อเดือน ร้อยละ 37.31 ได้รับรายได้เป็นรายวัน โดยร้อยละ 43.08 ระบุว่ารายได้จากการทำงานที่ได้รับไม่มีความคุ้มค่า สาเหตุส่วนใหญ่ระบุว่ากำไรน้อย/รายได้น้อย เมื่อสอบถามถึงเป้าหมายความสำเร็จในการทำงานในแต่ละวัน ส่วนใหญ่ร้อยละ 83.90 ระบุว่าไม่ได้ตั้งเป้าหมาย มีเพียงร้อยละ 16.10 ที่ตั้งเป้าหมาย และส่วนใหญ่ของผู้ที่ตั้งเป้าหมายระบุว่าทำงานได้สำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้</p>
<p><strong>ด้านสังคม</strong> พบว่า แรงงานนอกระบบที่สำรวจ ส่วนใหญ่ร้อยละ 67.83 มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองไม่ต้องผ่อนชำระ รองลงมาอาศัยอยู่กับบิดา มารดา ญาติ พี่น้อง ร้อยละ 18.30 ส่วนใหญ่ ร้อยละ 97.62 ไม่มีปัญหา ทะเลาะ และขัดแย้ง มีเพียงร้อยละ 2.38 เท่านั้น ที่มีปัญหา ทะเลาะ และขัดแย้ง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องงาน</p>
<p><strong>ด้านสุขภาพ </strong>พบว่า แรงงานนอกระบบที่สำรวจ ร้อยละ 99.00 มีสภาพร่างกายปกติมีเพียง ร้อยละ 1.00 ที่มีความพิการ ซึ่งร้อยละ 51.48 ของผู้พิการเป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหว โดยส่วนใหญ่ของผู้พิการ ร้อยละ 63.09 ไม่มีบัตรประจำตัวผู้พิการ และจากการสำรวจแรงงานนอกระบบ โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 92.67 ไม่มีโรคประจำตัว และกลุ่มตัวอย่างมีปัญหาสุขภาพจากการทำงาน ร้อยละ 15.87 ส่วนใหญ่ระบุว่าปัญหาสุขภาพนั้นคือการเกิดความปวดเมื่อยจากการทำงานด้านความปลอดภัย พบว่า แรงงานนอกระบบที่สำรวจ ส่วนใหญ่ร้อยละ 94.32 ไม่เคยได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงาน สำหรับด้านความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนใหญ่แล้วไม่เคยประสบเหตุการณ์ไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีเพียงร้อยละ 1.24 ที่เคยประสบเหตุการณ์ โดยผู้ที่เคยประสบเหตุการณ์ส่วนใหญ่เป็นเรื่องอื่น ๆ</p>
<p><strong>ด้านสภาพแวดล้อม</strong> พบว่า แรงงานนอกระบบที่สำรวจ ส่วนใหญ่ร้อยละ 62.95 มีที่พักห่างจากที่ทำงาน 0 - 3 กิโลเมตร แรงงานนอกระบบมีความพึงพอใจในสภาพแวดล้อมของพื้นที่ที่อาศัยอยู่ในปัจจุบันในระดับมาก ดังนี้ บริเวณที่อาศัยมีไฟฟ้าใช้เพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า มีสภาพของถนนที่ดีหรือมีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกต่อการเดินทาง มีความสะดวกในการเข้าถึงบริการสาธารณะ เช่น โรงพยาบาล สถานีตำรวจ เป็นต้น บริเวณที่อาศัยมีน้ำประปาที่มีคุณภาพและเพียงพอต่อการอุปโภคและบริโภคมีการจัดการปัญหาขยะ น้ำเสีย และมลพิษทางอากาศอย่างเหมาะสม มีพื้นที่สันทนาการและสวนสาธารณะเพียงพอต่อทุกคนที่อยู่ภายในพื้นที่ และมีความปลอดภัยจากยาเสพติดและอาชญากรรม ตามลำดับ</p>
<p><strong>ด้านการทำงาน</strong> พบว่า แรงงานนอกระบบที่สำรวจ ส่วนใหญ่ร้อยละ 81.64 ไม่มีปัญหาจากการประกอบอาชีพ สำหรับผู้ที่ระบุว่ามีปัญหาร้อยละ 18.36 ที่มีปัญหา ระบุว่า มีปัญหาในเรื่องการทำงานที่ไม่ได้รับสวัสดิการมากที่สุด รองลงมาได้แก่ ไม่สามารถหยุดงานได้ ทั้งนี้ แรงงานนอกระบบมีระยะเวลาทำงาน (รวมทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริมทั้งหมด) โดยเฉลี่ย 7.94 ชั่วโมงต่อวัน</p>
<p><strong>ด้านความพร้อมและศักยภาพ</strong> พบว่าแรงงานนอกระบบที่สำรวจมีความพร้อมในการใช้ภาษาไทยในการฟัง พูด อ่าน และเขียน ได้ในระดับมากที่สุด ร้อยละ 35.45 แต่ส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้ภาษาต่างประเทศ เพื่อเป็นภาษาที่สองในการฟัง พูด อ่าน และเขียน ร้อยละ 49.68 ไม่สามารถใช้โปรแกรม/แอปพลิเคชันเพื่อเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ได้อย่างดี ร้อยละ 39.78 และไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตในการสืบค้นข้อมูลได้อย่างดี ร้อยละ 33.15 ตามลำดับ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นต้องมีสำหรับการทำงานในปัจจุบันสำหรับด้านทักษะความพร้อมหรือการมีความความชำนาญและมีศักยภาพในการทำงาน</p>
<p>ในสาขาอาชีพ พบว่า แรงงานนอกระบบที่สำรวจ มีทักษะในสาขาอาชีพภาคบริการ ร้อยละ 20.98 ส่วนใหญ่มีความชำนาญในงานขาย มีทักษะในสาขาอาชีพช่าง ร้อยละ 14.38 ส่วนใหญ่มีความชำนาญในงานไม้มีทักษะในสาขาอาชีพเทคโนโลยีสารสนเทศ ร้อยละ 8.47 ส่วนใหญ่มีความชำนาญในการใช้อินเทอร์เน็ตสืบค้นข้อมูลมีทักษะในสาขาอาชีพศิลปะ ร้อยละ 7.45 ส่วนใหญ่ชำนาญในงานตัดเย็บ มีทักษะในสาขาอาชีพไฟฟ้า ร้อยละ 4.17 ส่วนใหญ่มีความชำนาญในงานไฟฟ้า</p>
<p>จากการประมวลผลข้อมูลศักยภาพและความพร้อมของแรงงานนอกระบบ พบว่า แรงงานนอกระบบมีความพร้อมและศักยภาพในการทำงานโดยเฉลี่ยในระดับ “ปานกลาง” ที่คะแนนเฉลี่ย 2.08 และมีความพร้อมและศักยภาพเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านการใช้ภาษาไทยในระดับ “พร้อมมาก” ที่คะแนนเฉลี่ย 3.82 ความพร้อมและศักยภาพในด้านการใช้อินเทอร์เน็ตในการสืบค้นข้อมูลในระดับ “ปานกลาง” ที่คะแนนเฉลี่ย 1.81 ด้านการใช้โปรแกรม/แอปพลิเคชันเพื่อเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ และด้านการใช้ภาษาต่างประเทศ ในระดับ “พร้อมน้อย” ที่คะแนนเฉลี่ย 1.55 และ 1.15 ตามลำดับ เมื่อพิจารณาข้อมูลศักยภาพและความพร้อมของแรงงานนอกระบบตามกลุ่มอาชีพ พบว่ากลุ่มอาชีพที่มีความพร้อมและศักยภาพมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ กลุ่มอาชีพฟรีแลนซ์/อิสระ (2.57) รองลงมา คือ กลุ่มอาชีพลูกจ้างทั่วไป (2.48) และกลุ่มอาชีพทำงานในภาคบริการ (2.38) ตามลำดับ สำหรับกลุ่มอาชีพที่มีศักยภาพและความพร้อมโดยเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ กลุ่มอาชีพแรงงานรับจ้างทำการเกษตรตามฤดูกาล (1.65)</p>
<p><strong>ด้านอื่น ๆ</strong> พบว่า ใน 24 ชั่วโมงหรือ 1 วัน แรงงานนอกระบบที่สำรวจมีเวลางานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 7.38 ชั่วโมง อีก 7.44 ชั่วโมง เป็นเวลาพักผ่อน/นอน ซึ่งเกือบจะทั้งหมด ร้อยละ 88.63 ของแรงงานนอกระบบที่สำรวจ มีเวลาสำหรับพักผ่อนหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากการทำงาน ร้อยละ 93.52 ระบุว่ามีเวลางานกับเวลาส่วนตัวที่เหมาะสมและเพียงพอ ส่วนใหญ่แล้ว ร้อยละ 96.14 ไม่เคยโดนดูถูกหรือไม่ได้รับการยอมรับจากการทำงาน และแรงงานนอกระบบ ร้อยละ 26.20 มองว่าความสำเร็จในชีวิตทำงานในอนาคตคือมีรายได้เพิ่มขึ้น อีกร้อยละ 55.18 ระบุว่าไม่ได้ตั้งเป้าหมายความสำเร็จในชีวิตทำงาน</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ปัญหาด้านแรงงาน</span></h2>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/8454/8046761739_faabcd4987_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: ILO/ Thierry Falise (CC BY-NC-ND 2.0)</span></p>
<p>ปัญหาด้านแรงงานของแรงงานนอกระบบที่สำรวจ พบว่า ร้อยละ 72.50 ของแรงงานนอกระบบที่สำรวจไม่มีปัญหาด้านแรงงาน ส่วนที่ระบุว่ามีปัญหาด้านแรงงาน พบว่า มีปัญหาการไม่มีงานทำอย่างต่อเนื่องสูงที่สุด รองลงมาได้แก่ มีปัญหาเรื่องค่าตอบแทน ขาดทักษะฝีมือทั่วไป ขาดทักษะฝีมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม และไม่รู้สิทธิด้านกฎหมาย ตามลำดับ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ความต้องการการช่วยเหลือจากภาครัฐ</span></h2>
<p>แรงงานนอกระบบที่สำรวจส่วนใหญ่ ร้อยละ 67.54 ไม่เคยใช้บริการหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ผู้ที่เคยใช้บริการ ส่วนใหญ่เคยใช้บริการศูนย์บริการประชาชน กระทรวงแรงงานรองลงมาแก่ สำนักงานประกันสังคม สำนักงานจัดหางาน สถาบัน/ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ตามลำดับ นอกจากนี้ แรงงานนอกระบบที่สำรวจมีความต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐมากที่สุดในเรื่องทุนในการประกอบอาชีพ รองลงมาคือ ความต่อเนื่องในการทำงานสนับสนุนอาชีพเกษตรกรรม เรื่องค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น/เป็นธรรม และให้ข้อมูลข่าวสารด้านแรงงาน ตามลำดับ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ผลการวิเคราะห์ด้านสวัสดิการและการมีรายได้ที่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย</span></h2>
<p>ประเด็นสำคัญด้านแรงงานของแรงงานนอกระบบคือรายได้และสวัสดิการ พบว่า แรงงานนอกระบบที่สำรวจมากกว่าครึ่งหนึ่งของแรงงานนอกระบบที่สำรวจมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ร้อยละ 63.76 เมื่อพิจารณาร่วมกับปัจจัยการมีสวัสดิการด้านแรงงานของแรงงานนอกระบบ พบว่า แรงงานนอกระบบที่สำรวจส่วนใหญ่ได้รับความคุ้มครองและหลักประกันทางสังคมที่ดำเนินการโดยภาครัฐ ร้อยละ 58.99 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้รับเบี้ยสวัสดิการแห่งรัฐ มีเพียงร้อยละ 41.01 ที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง</p>
<p>แรงงานนอกระบบที่สำรวจ ทั้งที่ได้รับสวัสดิการและไม่ได้รับสวัสดิการล้วนมีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย พบว่า แรงงานนอกระบบที่ได้รับสวัสดิการมีสัดส่วนของแรงงานที่มีรายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายน้อยกว่าแรงงานที่มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย (ร้อยละ 23.26 และร้อยละ 61.63 ตามลำดับ) และในกลุ่มแรงงานที่ไม่ได้รับสวัสดิการมีสัดส่วนของแรงงานที่มีรายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายน้อยกว่าแรงงานที่มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกัน (ร้อยละ 21.41 และ 78.59 ตามลำดับ) พบว่า ผลต่างการมีรายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของกลุ่มแรงงานที่ได้รับสวัสดิการน้อยกว่ากลุ่มแรงงานที่ไม่ได้รับสวัสดิการ แสดงให้เห็นว่าการที่แรงงานนอกระบบไม่ได้รับสวัสดิการยิ่งเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำให้เกิดขึ้น</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ดัชนีชี้วัดคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ</span></h2>
<p><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53234939597_2f09309f40_o_d.png" /></p>
<p>ดัชนีชี้วัดคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบโดยรวมของทั้ง 8 ด้านเท่ากับ 48.67 คะแนน โดยแรงงานนอกระบบให้น้ำหนักกับคุณภาพชีวิตด้านสภาพแวดล้อมมากที่สุด 51.81 คะแนน รองลงมาคือ ด้านการทำงาน 50.65 คะแนน ด้านสังคม 50.61 คะแนน ด้านความพร้อมและศักยภาพ 50.38 คะแนน ด้านความปลอดภัย 50.30 คะแนน ด้านสุขภาพ 49.88 คะแนน ด้านเศรษฐกิจ 48.04 คะแนน และให้น้ำหนักด้านอื่น ๆ น้อยที่สุด 46.94 คะแนน ตามลำดับ ทั้งนี้ ให้น้ำหนักกับคุณภาพชีวิตด้านสภาพแวดล้อมมากที่สุดร้อยละ 23.94 รองลงมาได้แก่ ด้านความพร้อมและศักยภาพร้อยละ 22.99 ด้านอื่น ๆ ร้อยละ 12.48 ด้านเศรษฐกิจร้อยละ 10.40 ด้านสุขภาพร้อยละ 8.80 ด้านความปลอดภัยร้อยละ 7.80 ด้านการทำงานร้อยละ 7.05 และให้น้ำหนักด้านสังคมน้อยที่สุดร้อยละ 6.53 ตามลำดับ</p>
<p>เมื่อเปรียบเทียบดัชนีชี้วัดคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบระหว่างปี 2564 และ 2565 พบว่าคุณภาพชีวิตในภาพรวมปี 2565 อยู่ที่ 48.67 คะแนน ลดลงจากปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ 54.07 คะแนน โดยที่ดัชนีชี้วัดคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบลดลงในทุกด้าน จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้ต้องลดการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ประกอบกับผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น เกิดภาวะเงินเฟ้อด้านต้นทุน (Cost put) ค่าครองชีพสูง ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั้งเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทย</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">รายงานพิ
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/10/106256