หัวข้อ: เรียนแล้วไม่เข้าใจธรรม ประโยชน์จะอยู่ที่ไหน เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2554 12:17:56 (http://www.seesod.com/storage36/9W9uBpVgrm1295519812/l.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/24.wma ถ่ายภาพประกอบโดย Sometime สงวนลิขสิทธิ์ภาพตามกฏหมายห้ามละเมิดลิขสิทธิ์โดยเด็ดขาด ...................ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น.............. คุณลุงนิภัทร........คนที่ศึกษาพระอภิธรรมโดยยึดตำราเป็นหลักนี่นะก็เป็น มิจฉาทิฏฐิมาไม่น้อยครับ แนะนำคนผิดด้วยและไม่กลัวบาป ดูถูกการให้ทานด้วย เพราะว่ามันต่ำ ดูถูกการรักษาศีลด้วย เพราะ(คิด)ว่าอภิธรรมนี้สูง เรียนอภิธรรมนึกว่าเลิศไม่ติดดิน เนี่ยมีเยอะ เพราะฉะนั้น อย่าหยิ่งผยอง............ว่าได้เรียนอภิธรรมแล้ว เพราะว่าอภิธรรมน่ะ ท่านอาจารย์ท่านก็เตือนพวกเราอยู่เสมอว่า ไม่ใช่อยู่ในหนังสือเดี๋ยวนี้อภิธรรมมีอยู่ตลอดเลยใครจะ เรียนหรือเปล่า ? ใครจะศึกษาหรือเปล่า หรือจะมุ่งจ้องแต่ตำรานี้ อย่างเดียวถ้า(เป็น)อย่างนี้แล้วเราก็จะเข้าใจอภิธรรมช้า ประโยชน์ที่จะได้ก็น้อย ท่านอาจารย์.......เพราะฉะนั้นจุดประสงค์ก็คือเรียนให้เข้าใจสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏให้ถูกต้องถ้าเรียนแล้วไม่เข้าใจสภาพธรรมที่ กำลังปรากฏน่ะค่ะประโยชน์จะอยู่ที่ไหน ? ผู้ถาม........ก็ไม่ได้อะไรเลยล่ะครับอย่างที่ท่านอาจารย์ก็กล่าว บ่อย ๆ ว่า รู้ตัวหรือเปล่าว่ายังไม่รู้อะไร - นี่ตรงนี้ - ตรงนี้ผมก็ยัง ไม่รู้อะไร คือ รู้เรื่องราว แล้วก็รู้สภาพธรรมที่ท่านอาจารย์บรรยาย นี้ ก็พอจะระลึกรู้ได้บ้าง ท่านอาจารย์.......ค่ะแต่ถ้าจะพิจารณาทางของคนเสื่อมน่ะค่ะถ้าเรา ผ่านข้อที่ ๑ ไปผู้ใคร่ธรรมเป็นผู้เจริญ - ผู้เกลียดธรรมเป็น ผู้เสื่อมอันนี้คร่าวมากใช่ไหมค่ะเพราะเหตุว่า ใคร่ธรรม เหมือนกับว่าทุกคนเนี่ย ใคร่ธรรม แต่เข้าใจธรรมหรือเปล่า ? หรือว่าเพียงแต่ว่าเราใคร่เราอยากฟัง(แต่)ฟังแล้ว ก็ไม่ได้พิจารณาไตร่ตรองในเหตุในผลในความเป็นจริงอย่าง นั้นก็ไม่ได้(เข้าใจอะไร)แต่ต้องเริ่มจากการเห็นประโยชน์เมื่อ เห็นประโยชน์แล้วต้องละเอียดว่าธรรมที่ได้ฟังเนี่ยค่ะ - >{ถูกต้อง} อย่างไรน่ะค่ะข้อไหนที่ผู้กล่าวยังเข้าไม่ถึง หรือว่ายังเข้าใจ ผิดอยู่อันนั้นก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลซึ่งจะได้ประโยชน์ คือ ความเห็นถูกของตนเอง ซึ่งพึ่งใครไม่ได้เลยน่ะค่ะ นอกจากตัว เองเท่านั้น มีธรรมเป็นที่พึ่งมีตนเป็นที่พึ่งก็คือมีปัญญา ความเห็นถูกเป็นที่พึ่ง แล้วก็จะไปถึงข้อต่อไปน่ะค่ะที่ว่าคนมี{อสัตบุรุษ} เป็นที่รักไม่กระทำสัตบุรุษให้เป็นที่รักนี่แสดงให้เห็นแล้ว ใช่ไหมค่ะ ว่าแม้ว่าจะเป็นผู้ใคร่ในธรรมแต่ว่ามี{อสัตบุรุษ}เป็นที่ รักไม่กระทำสัตบุรุษเป็นที่รักเพราะไม่ได้เห็นถูกไม่เข้าใจถูก ก็อย่าประมาทเพียงแต่ว่า เราจะเป็นผู้ใคร่ในธรรม แต่ ใคร่ในธรรมอย่างเดียวไม่พอค่ะต้องรู้ว่าธรรมคืออะไร? แล้วก็ พิจารณาละเอียดรอบคอบน่ะค่ะจึงจะเป็นผู้ที่ไม่มี อสัตบุรุษ เป็น ที่รักแต่ว่าถ้าใครก็ตามเป็นคนมี{อสัตบุรุษ}เป็นที่รักไม่กระทำ สัตบุรุษเป็นที่รักชอบใจธรรมของอสัตบุรุษ ข้อนั้นเป็นทางของ คนเสื่อม.............. ถอดเสียงจาก.........ชุดปกิณณกธรรม แผ่นที่ ๑๒ ครั้งที่ ๖๘๒ สนทนาธรรมที่หมู่บ้านเมืองทองนิเวศน์ ๑ พ.ศ. ๒๕๔๗ โดย...................ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ หัวข้อ: Re: เรียนแล้วไม่เข้าใจธรรม ประโยชน์จะอยู่ที่ไหน เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2554 12:49:36 (http://www.bloggang.com/data/sdayoo/picture/1163460060.jpg) (:88:) (:SY:) (:88:) อนุโมทนาสาธุธรรมค่ะน้อง "บางครั้ง" (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQVpWgcp6Q1ACH5uFvL1FOJ7RXVjvQ9FjCScE3bVoFcMC1eM-Xc_g) หัวข้อ: Re: เรียนแล้วไม่เข้าใจธรรม ประโยชน์จะอยู่ที่ไหน เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2554 23:04:10 คนแก่ในภาพนี่ อ.บางครั้งแน่เลย
กำลังนั่งสมาธิแบบอิ๊กคิวซัง หาทางงัดตู้บริจาค ๕๕๕๕๕ |