หัวข้อ: วัดสระลงเรือ ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 16 พฤศจิกายน 2562 13:57:35 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/29676984912819_1_Copy_.JPG) วัดสระลงเรือ ตำบลสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี วัดสระลงเรือ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลางหรืออายุประมาน ๔๐๐-๕๐๐ ปี วัดสระลงเรือน่าจะถูกทิ้งร้างไปประมาณ ๑๕๐ ปี ไม่ปรากฏหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรใดๆ เกี่ยวกับวัด ดังนั้น จึงไม่ทราบชื่อเดิมของวัด ปี และบุคคลที่ก่อสร้าง หลักฐานที่หลงเหลืออยู่ก็ได้แก่ โบราณวัตถุต่างๆ อันประกอบด้วย พระเจดีย์และพระปรางค์แบบก่ออิฐถือปูน สูงประมาณ ๑๐ เมตร อย่างละ ๑ องค์ ตั้งอยู่คู่กัน พระเจดีย์ด้านทิศใต้และพระปรางค์ด้านทิศเหนือ ด้านหน้าของพระเจดีย์และพระปรางค์ เดิมมีอาคารแบบก่ออิฐถือปูนขนาดประมาณ ๖x๑๒ เมตร อยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์ (ยกเว้นหลังคาที่คงเสื่อมสภาพและอันตรธานไปตามกาลเวลา) อาคารนี้เข้าใจว่าน่าจะเป็นพระวิหารและน่าจะเป็นประธานวัตถุของวัด โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออก และภายในอาคารเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย และด้านหน้าของอาคารเยื้องไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเล็กน้อยเป็นที่ตั้งของสระน้ำรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดประมาณ ๖๐x๖๐ เมตร (เป็นที่น่าเสียดายว่าเมื่อประมาณปี ๒๕๓๔-๒๕๓๕ ทางวัดได้รื้อตัวอาคารโบราณดังกล่าวเสีย นัยว่าเพื่อจะสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ดังนั้น โบราณวัตถุที่เหลือให้คนรุ่นหลังได้เห็นจึงมีเพียงพระเจดีย์ พระปรางค์ และพระประธาน) จนกระทั่งเมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๗๐ ชาวบ้านจากพื้นที่ใกล้เคียงได้อพยพเข้ามาทำไร่นาและหาของป่าในบริเวณดังกล่าว ได้มาพบซากโบราณวัตถุ ชาวบ้านเห็นที่ตั้งของวัดมีความเหมาะสมที่จะเป็นชุมชน โดยเฉพาะการมีสระน้ำ จึงได้เข้ามาตั้งชุมชนบริเวณนี้อีกครั้ง และได้ช่วยกันหักร้างถางพงบริเวณซากโบราณสถานดังกล่าว เล่ากันว่าในตอนนั้น ตัวอาคารมีต้นไม้ปกคลุมหนาทึบ และต่อมาก็ได้ช่วยกันสร้างวัด นิมนต์พระมาจำพรรษา รวมทั้งได้มีการทำหลังคาใหม่ให้กับพระอุโบสถ และได้ตั้งชื่อวัดขึ้นว่า"วัดสระลองเรือ" เพราะสมัยนั้นบริเวณนี้มีต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่มาก จึงมีคนมาตัดต้นไม้ขุดเรือแล้วนำไปทดลองในสระน้ำ ชาวบ้านจึงเรียกว่าสระลองเรือ ต่อมาเพี้ยนเป็น "สระลงเรือ"อย่างในปัจจุบัน (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/63945305844147_10_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/60989657955037_4_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/77272296365764_5_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/75188482304414_2_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/76379718217584_3_Copy_.JPG) สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ประดิษฐานที่วัดสระลงเรือ ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สักการะบูชา (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/53013034992747_7_Copy_.JPG)
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/92094951205783_6_Copy_.JPG) จิตรกรรมพุทธประวัติในพระอุโบสถวัดสระลงเรือ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/53461624681949_11_Copy_.JPG) จิตรกรรมในพระอุโบสถวัดสระลงเรือ แสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายของเด็กๆ ในสมัยนั้น ผู้ใหญ่นำดินเหนียวมาปั้นเป็นวัวควายให้เด็กเล่น (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/52620456657475_8_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/36134050827887_9_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/18024356621834_13_Copy_.JPG) จิตรกรรมแสดงทุกขเวทนาของสัตว์นรก ในขุมนรกอันเป็นที่ไปของผู้ผิดศีลข้อ ๓ : กาเมสุมิจฉาจาราเวรมณี (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/57784918944040_12_Copy_.JPG)
|