พระพุทธองค์ทรงรับสั่งว่า "การประสบสิ่งไม่รัก เป็นทุกข์... ปรารถนาสิ่งใด
ไม่สมปรารถนาเป็นทุกข์" งานนี้ทุกข์ทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องอยู่ในสภาพต้องพบต้องเจออารมณ์ หรือบุคลคล
ที่ตนไม่ชอบ ก็เป็นทุกข์
หรือแม้ไม่สมรักก็เป็นทุกข์..เราจึงต้องบริหารความรัก และบริหารใจเรา
ด้วยปัญญา
จึงจะสามารถพาจิตใจของตนให้พ้นจากความทุกข์ทั้งหลายได้...
ผู้ใดมีปัญญา ย่อมมีความสุขทางใจอย่างยิ่ง...
เราจะเห็นได้ว่า บางคนมีเงินทองมากมาย รูปสวย รวยทรัพย์ แต่ก็หา
ความสุขทางใจไม่ได้ เดือดร้อนทุรนทุรายอยู่มิเว้น...
เพราะเราไม่เคยรู้ว่า.....ที่ว่าเรารัก "คนอื่น" น่ะ จริง ๆ แล้วเรารักใคร.. ?
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า "รักอื่นเสมอรักตนนั้นไม่มี"
จึงมีบัณฑิตท่านขยายว่า การที่เราเป็นผู้รักตนมากนั่นเอง จึงปรารถนา
ให้คนอื่นมารักตัวเองอย่างที่เราอยากจะให้เขามารักตน..
ลองคิดดูว่าจริงไหม.. ?
เราทนไม่ได้......ที่เขาไม่รักเรา อย่างที่เราอยากจะให้มารัก ...
เราทนไม่ได้......ที่เขาไม่มาใส่ใจเรา เท่าที่เราต้องการ...
อะไร ๆ ก็วิ่งกลับมาไม่พ้น รักตน นั่นเอง...
ถ้ารักคนอื่นจริง ๆ แล้วละก็ ......... เขาเป็นสุขอย่างไรก็ต้องมีใจมุฑิตา
ยินดีในความสุขของเขา ตามแต่ที่เขาจะเป็นมิใช่หรือ?
ทำไมต้องดึงให้กลับมาหา..ตัวเอง.. ด้วยเล่า.. ?
ก็เพราะเหตุที่เรา "รักตน" ยิ่งกว่าสิ่งใดมิใช่หรือ.. ? นี้เป็นความจริง
ที่เราต้องยอมรับ.. เมื่อเห็นความจริงอย่างนี้แล้ว
เราควรถามตัวเองอีกว่า ที่เรารักตัวเองนั้น เรารักอย่างมีปัญญา
หรือรักแบบคนตาบอด
คนมีปัญญาย่อมรักตัวเป็น.... กตัญญูต่อตัวเองเป็น... เมตตาตัวเอง ...
ไม่ทำร้ายตัวเองด้วยการใส่ใจในสิ่งที่ไม่ควร...
จนจิตใจหมองไหม้ เป็นทุกข์ตลอดเวลา...เพราะว่าวางใจไม่ถูก...
เรานั้น มักเฝ้าเพรียกหาคนอื่นมาปลอบใจตัวเรา ทั้ง ๆ ที่เราเองไม่คิดจะช่วยเหลือตัวเอง
ให้พ้นจาก ทุกข์และโทษเลย...
ถ้าเรารักตัวเราเป็นแล้ว ..ใยจึงต้องปล่อยใจตัวเองให้ตกจมไปกับทุกข์
อย่างนั้นด้วย?.
ขนาดเรายังไม่รักตัวเองเลย ประสาอะไรจะให้คนอื่นมารักเราเล่า.. ?
ถ้าเรารักตัวเราเองจริงๆ แล้วละก็เราจะทำร้ายใจตนเองอยู่ทุกวี่ทุกวัน
ได้อย่างไร?
เหตุกับผลไม่ตรงกันเลย...หากเราเป็นคนที่รักตัวเอง เมตตาตัวเอง
เราต้องทำให้ตัวเองมีค่า ....
เมื่อเรารักตัวเองได้แล้ว... เราก็จะไม่ถวิลหาคนอื่นให้มารักเราอย่างที่เป็นอยู่...
ทำได้แล้วเราจะเป็นสุข... สุขที่มีตนเป็นที่พึ่งไม่ต้องพึ่งรักจากคนอื่น
เลิกทำร้ายตัวเอง หันกลับมารักตัวเองให้เป็น ด้วย "ปัญญา" เถิด
แล้วเราจะตระหนักถึงคุณค่าแห่งชีวิตอันประเสริฐของเรา.....
ที่มา
http://www.raksa-dhamma.com/topic_35.phpCredit by :
http://www.watkoh.com/forum/index.php?topic=2972.0Pics by : Google
ขอบพระคุณที่มาทั้งหมดมากมาย
อนุโมทนาสาธุค่ะ