คนวิจารณ์ก็พูดแต่เปลือก ไม่รู้ถึงแก่น ของศาสนา
ความสำคัญของการบวชมันอยู่ที่สมบัติแห่งการบวช ถูกต้องหรือไม่ดังนี้
๑.วัตถุสมบัติ คือคุณสมบัติของผู้บวชต้องครบถ้วน
๒.ปริสสมบัติ คือ ประชุมสงฆ์ครบองค์กำหนดแห่งการบวช
๓.สีมาสมบัติ คือ เขตสีมาที่ประชุมสงฆ์ได้สมมติสีมา ถูกต้องหรือไม่ ไม่เป็นสีมาวิบัติ ไม่ใช่นึกอยากจะบวชตรงไหนก็บวชได้
๔.กรรมวาจาสมบัติ คือ ญัตติสมบัติและอนุสาวนาสมบัติที่ภิกษุรูปหนึ่งหรือสองรูป จะสวดประกาศในท่ามกลางสงฆ์ จะต้องถูกระเบียบ เรียกว่า ญัตติจตุตถกัมมวาจา
เมื่อมีคุณสมบัติครบถ้วนดังนี้ จึงจะถือว่าการบวชนั้นๆ สำเร็จเป็นพระภิกษุที่ถูกต้องสมบูรณ์ตามพระธรรมวินัย
จากนั้นยังต้องไปประพฤติวัตรปฏิบัติรักษาศีล ทำสมาธิ อบรมปัญญาให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ต่อไปอีก จึงจะถือว่าเป็นพระแท้ได้
ไม่ใช่ไปดูแค่การทำพิธีบวช
ไม่ใช่ไปดูที่มีโบสถ์ หรือไม่มีโบสถ์
ไม่ใช่ไปดูที่โบสถ์สวยราคาแพง
ไม่ใช่ไปดูที่โบสถ์ไม่สวยราคาถูก
เดี๋ยวจะวิปลาสไปใหญ่
พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติให้ต้องสร้างโบสถ์ วิหาร หรูๆ หราๆ แต่ก็ไม่ได้บัญญัติห้ามไว้ว่า จะสร้างไม่ได้
ครั้งพุทธกาล นางวิสาขาขอสร้างบุพพาราม พระพุทธองค์ก็ทรงอนุญาตให้สร้างได้ มีรับสั่งให้พระโมคคัลลาน์ไปดูแลเพื่อความเหมาะสม
บุพพารามของนางวิสาขาสวยไหม? หมดเงินไปกี่โกฏ? กระทั่งผ้าเช็ดเท้าในวิหาร ยังทำจากผ้าไหมแคว้นกาสีที่ดีที่สุด
ดังนั้น การจะสร้างโบสถ์ สร้างวิหารให้งดงามแค่ไหนอย่างไร? มันจึงอยู่ที่ความเหมาะสมของแต่ละสถานที่ ตลอดจนศรัทธาของประชาชนในที่นั้นๆ
ไม่ใช่นึกอยากจะสร้างตรงไหนก็สร้างได้ ต้องมีเหตุปัจจัยหลายด้านเป็นองค์ประกอบ ทั้งบุญบารมีของผู้ที่จะสร้างด้วย
บางที่ก็อาจสมควรสร้าง บางที่ก็อาจไม่สมควรสร้าง ก็แล้วแต่ใครจะพิจารณากันอย่างไร?
ถ้าไม่มีศรัทธาก็จงอยู่เฉยๆ เสียจะดีกว่านะ ใครจะไปห้ามศรัทธาของคนได้ ขอเพียงให้ทำถูกต้องตามกฎหมาย และอย่าให้ผิดธรรมผิดวินัยก็พอ
ศาสนวัตถุบางอย่างก็จำเป็นต้องสร้างเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของศาสนา ดูวัดพระแก้ว วัดพระพุทธชินราช เป็นตัวอย่าง คนไปกราบไหว้วันละเท่าไร ก็เพื่อเชิดหน้าชูตาของศาสนา และเป็นศิลปประจำชาติอีกด้วย
สำหรับคนที่ยังเข้าไม่ถึงแก่น ก็เอาเปลือก เอากระพี้ไปใช้ก่อน ส่วนผู้เข้าถึงแก่นแล้ว ก็เอาแก่นไป
ศาสนาเปรียบเหมือนต้นไม้ ต้องมีทั้งเปลือก กระพี้ และแก่น จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป ต้นไม้นั้นก็ตั้งอยู่ไม่ได้นาน
เพราะเหตุนั้น พระพุทธเจ้าจึงทรงสอน ทาน ศีล ภาวนา และสำทับอีกว่า วิหารทานมีอานิสงฆ์มากที่สุดในฝ่ายวัตถุทาน เป็นรองแค่ธรรมทานเท่านั้น
ถ้าไม่ให้สร้างโบสถ์ สร้างวิหาร แล้ววิหารทานพระองค์จะแสดงไว้ทำอะไร? แสดงไว้เพื่อใคร? ถ้าไม่ใช่ไว้เพื่อให้ชาวพุทธ
ดังนั้น การพูดมันจึงต้องมีแยกแยะ มีหนักมีเบา มีเหตุมีผล ไม่ใช่พูดแบบหว่านแห ไม่รู้ดี รู้ชั่ว อย่าพูดเสียดีกว่าพระอาจารย์วิทยา กิจฺจวิชฺโช
วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน