|
หัวข้อ: พระเทพสีมาภรณ์ (นวล เขมสัจจวาที) วัดบึง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 22 พฤษภาคม 2562 16:07:19 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/52729882175723_view_resizing_images_4_320x200.jpg) พระเทพสีมาภรณ์ (นวล เขมสัจจวาที) วัดบึง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พระเทพสีมาภรณ์ (นวล เขมสัจจวาที) อดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่รูปหนึ่งของเมืองนครราชสีมา ที่ครองเพศบรรพชิตอย่างสมถะ ปฏิบัติตามหลักธรรมของศาสนา รักษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นปูชนียบุคคลที่สาธุชนให้ความเลื่อมใสศรัทธามาอย่างยาวนาน พระเทพสีมาภรณ์ เคยดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดบึง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาและผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า นวล เขมสันเทียะ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ก.พ. 2481 ที่หมู่ที่ 4 ต.สายออ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา บิดา-มารดาชื่อ นายแบบ และนางหมิ เขมสันเทียะ มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน ในช่วงวัยเยาว์ จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนประชาบาลบ้านโคก ต.สายออ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา เมื่ออายุ 16 ปี เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2497 วัดโคกสวาย อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา โดยมี พระมงคลสีหราชมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เป็นพระอุปัชฌาย์ ในระหว่างเป็นสามเณร สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ที่สำนักศาสนศึกษาวัดบึง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กระทั่งเมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2502 ที่พัทธสีมาวัดบึง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมีพระมงคลสีหราชมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เป็นพระอุปัชฌาย์ ภายหลังอุปสมบท ท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างมุ่งมั่น พ.ศ.2519 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค ที่สำนักศาสนศึกษาวัดบึง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2519 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบึง พ.ศ.2524 เป็นเจ้าคณะตำบลโพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ศ.2525 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2529 ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ.2534 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบึง และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบึง พ.ศ.2539 เป็นเจ้าอาวาสวัดบึง พระอารามหลวง ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระกิตติรามมุนี พ.ศ.2546 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่พระราชสีมาภรณ์ พ.ศ.2552 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่พระเทพสีมาภรณ์ ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบึง พระเทพสีมาภรณ์ พิจารณาเห็นว่า วัดบึงเป็นวัดเก่าแก่ เสนาสนะสิ่งก่อสร้างต่างๆ ชำรุดทรุดโทรม พระคุณท่านจึงดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ และก่อสร้างถาวรวัตถุขึ้นใหม่หลายสิ่ง ทั้งในวัดและนอกวัด ดังปรากฏเป็นรูปธรรม จนวัดมีความเจริญงอกงาม สมบูรณ์ทั้งในด้านการปกครอง การศึกษาเผยแผ่ และสาธารณูปการ พระเทพสีมาภรณ์ เป็นพระธรรมกถึก วิทยากร ปาฐกถา บรรยายธรรม เป็นนักอนุรักษ์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ภาพจิตรกรรมและอีกหลากหลาย อีกทั้งสร้างคุณูปการมากมายให้แก่คณะสงฆ์ และชาวเมืองโคราชนานัปการ สำหรับคำสอนที่พระเดชพระคุณพร่ำเน้นสั่งสอนญาติโยมทั่วไป คือ "ให้ทุกคนทำความดีละเว้นความชั่ว ให้มีความอดทนอดกลั้น ให้มีความละอายต่อการกระทำชั่ว" ที่เน้นหนักเป็นพิเศษ คือ ให้มีความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดาและครูบาอาจารย์ แม้ล่วงวัยชรา แต่พระเทพสีมาภรณ์ยังให้คำสั่งสอนอบรมศีลธรรมแก่ประชาชน ที่มาทำบุญฟังธรรมที่วัดมหาวนาราม ทุกวันธรรมสวนะ ก่อนทำวัตรสวดมนต์ และยังดำเนินการอบรมศีลธรรมแก่เยาวชนนักเรียนและประชาชน เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและทุกวันพระเป็นประจำ ท่านจึงเป็นพระที่มีแต่ให้ จึงนับเป็นมงคลอย่างยิ่งสำหรับผู้คนที่ได้สัมผัสใกล้ชิด และได้รับฟังคำสั่งสอนจากตัวท่าน ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง พระเทพสีมาภรณ์ มรณภาพอย่างสงบ หลังเข้ารับการรักษาอาการอาพาธด้วยโรคตับอักเสบและมะเร็งตับ ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2554 สิริอายุ 73 ปี พรรษา 53 แม้สังขารหลวงปู่จะแตกดับไปนานเกือบสิบปี แต่คุณงามความดียังคงปรากฏอยู่ในใจชาวโคราชจวบจนปัจจุบัน อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์ |