19 พฤษภาคม 2567 22:08:11
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
.:::
“อเวจี” ภพภูมิแห่งการลงทัณฑ์ผู้ทำกรรมหนัก ตามคติไตรภูมิ
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: “อเวจี” ภพภูมิแห่งการลงทัณฑ์ผู้ทำกรรมหนัก ตามคติไตรภูมิ (อ่าน 690 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2336
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
“อเวจี” ภพภูมิแห่งการลงทัณฑ์ผู้ทำกรรมหนัก ตามคติไตรภูมิ
«
เมื่อ:
02 กรกฎาคม 2566 19:53:20 »
Tweet
ภาพ พยายมราช ในโลกนรก จากจิตรกรรมไตรภูมิ ฉบับรัชกาลที่ 9
(ภาพจาก ไตรภูมิ ฉบับรัชกาลที่ 9, กระทรวงวัฒนธรรม, 2554)
ท่องแดนมหานรก “อเวจี” ภพภูมิแห่งการลงทัณฑ์ผู้ทำกรรมหนัก ตามคติไตรภูมิ
ผู้เขียน เด็กชายผักอีเลิด
เผยแพร่ - ศฺิลปวัฒนธรรม - วันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2566
ตามคติไตรภูมิ
“โลกนรก”
หรือ
“นิรยภูมิ”
เป็นส่วนหนึ่งของอบายภูมิหรือทุคติภูมิ 4 (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกามภูมิ) ประกอบด้วยพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาล มีมหานรกหลายขุมซ้อนทับกันหลายชั้นโดยมี
“อเวจี”
อยู่ล่างสุด แต่ละชั้นยังมีนรกบริวารรายล้อมอยู่ร่วมร้อยขุม
นิรยภูมิจะแบ่งออกเป็น
“มหานรก”
ที่มีด้วยกัน 8 ขุมใหญ่ ที่ตั้งซ้อนทับกันเป็นชั้น ๆ และแยกกันอย่างชัดเจนอยู่ลึกลงไปใต้โลกมนุษย์ มนุษย์ที่ทำกรรมชั่ว เมื่อเสียชีวิตจะลงไปเกิดเป็นสัตว์นรกในชั้นเหล่านี้เพื่อใช้กรรม เรียงจากชั้นบนสุดลงไปยังชั้นล่างสุดได้ ดังนี้
1. สัญชีวนรก
หรือนรกไม่มีวันแตกดับ เป็นนรกสำหรับผู้ที่เบียดเบียนผู้อื่น สัตว์นรกจะถูกทรมานจากนิรยบาลด้วยสารพัดวิธีจากคมอาวุธจนตาย จากนั้นจะมี “ลมกรรม” พัดผ่านให้คืนชีพมาเสวยโทษทัณฑ์เรื่อยๆ เป็นภาวะเกิด-ตาย วนเวียนอยู่เช่นนั้น อายุของสัตว์นรกคือ 500 ปี โดย 1 วันนรก เท่ากับ 9 ล้านปีโลกมนุษย์
2. กาฬสุตตนรก
หรือนรกเส้นด้ายดำ เป็นนรกสำหรับผู้ที่ทำร้ายผู้มีพระคุณหรือทำลายชีวิตสัตว์โลก หลังถูกตีด้วยด้ายดำจนเกิดเส้นตามร่างกาย สัตว์นรกจะถูกเฉือนด้วยคมอาวุธตามรอยเหล่านั้น อายุของสัตว์นรกคือ 1,000 ปี โดย 1 วันนรก เท่ากับ 3 โกฏิ (1 โกฏิ เท่า 10 ล้าน) กับอีก 6 ล้านปีโลกมนุษย์
3. สังฆาฏนรก
หรือนรกบดขยี้ เป็นนรกสำหรับผู้ไร้ความเมตตา ชื่นชอบการทารุณกรรม สัตว์นรกจะถูกกระหน่ำตีด้วยฆ้อนเหล็กและบดทับด้วยลูกไฟกับภูเขาเหล็ก อายุของสัตว์นรกคือ 2,000 ปี โดย 1 วันนรก เท่ากับ 14 โกฏิกับอีก 5 ล้านปีโลกมนุษย์
4. โรรุวนรก
หรือนรกแห่งเสียงคร่ำครวญ เป็นนรกสำหรับคนโลภ ฉ้อโกง ร่างของสัตว์นรกจะถูกตรึงให้นอนคว่ำหน้า หัว มือ และเท้าจมอยู่ในดอกบัวเหล็กที่เปลวเพลิงลุกท่วม ร้องครวญครางด้วยความทุกข์แสนสาหัส แต่ไม่ตาย อายุของสัตว์นรกคือ 4,000 ปี โดย 1 วันของนรกขุมนี้เท่ากับ 23 โกฏิกับอีก 4 ล้านปีโลกมนุษย์
5. มหาโรรุวนรก
หรือนรกแห่งเสียงคร่ำครวญอย่างยิ่งยวด เป็นนรกสำหรับคนจิตใจโหดเหี้ยม ทำความชั่วทั้งปวงด้วยจิตอาฆาตพยาบาท ดอกบัวเหล็กของนรกขุมนี้จะเพิ่มคมตามกลีบดอกและสัตว์นรกต้องจมอยู่ในดอกบัวเหล็กทั้งตัว อายุของสัตว์นรกคือ 8,000 ปี โดย 1 วันนรก เท่ากับ 921 โกฏิกับอีก 6 ล้านปีโลกมนุษย์
6. ตาปนรก
หรือนรกแห่งความร้อนรุ่ม เป็นนรกสำหรับคนบาปที่พร้อมด้วยโลภะ โทสะ โมหะ สัตว์นรกจะถูกหลาวเหล็กแท่งใหญ่ราวต้นตาลเสียบพร้อมเปลวไฟพวยพุ่ง ก่อนถูกสุนัขนรกฉุดกระชากลงมากิน อายุของสัตว์นรกคือ 16,000 ปี โดย 1 วันนรกเท่ากับ 1,842 โกฏิกับอีก 12 ล้านปีโลกมนุษย์
7. มหาตาปนรก
หรือนรกแห่งความร้อนรุ่มอย่างยิ่งยวด เป็นนรกสำหรับผู้ที่เคยฆ่าคนและฆ่าสัตว์เป็นหมู่มาก ๆ ไม่คำนึงถึงชีวิตผู้อื่น ต้องอยู่ในกำแพงและภูเขาเหล็กที่เต็มไปด้วยหนามแหลม พร้อมลมกรดพัดพาร่างไปโดนหนามเสียบ อายุของสัตว์นรกขุมนี้คือ ครึ่งกัลป์ (ตามตำราไตรภูมิกถา 1 กัลป์ เทียบได้กับเวลาที่ภูเขาสูง 1 โยชน์ กว้าง 3 โยชน์ มีเทวดาเอาผ้าทิพย์บางดุจควันไฟมาถูภูเขาในทุกๆ 100 ปี เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าภูเขาจะราบเสมอแผ่นดิน จึงเรียกได้ว่าสิ้นกัลป์หนึ่ง ซึ่ง 1 กัลป์เท่ากับ 64 อสงไขยปี และอสงไขยปีเท่ากับเลข 1 ตามด้วยเลขศูนย์ 140 ตัว)
8. อเวจีนรก
หรือนรกอันแสนสาหัสไร้ปรานี ทั้งลึกและกว้างใหญ่ที่สุด เป็นนรกสำหรับผู้ทำกรรมหนักอันได้แก่ ฆ่าบุพการี (พ่อ-แม่) ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต และยุยงให้คณะสงฆ์แตกแยก ขุมนรกล้อมด้วยกำแพงเหล็กที่เปลวไฟลุกท่วม สัตว์นรกจะถูกเพลิงเผาผลาญด้วยอิริยาบถต่างๆ ทั้ง นั่ง ยืน หรือนอน ตามกรรมของตน อยู่ห้องสี่เหลี่ยมพร้อมหลาวเหล็กเสียบทะลุร่างตรึงให้แน่นิ่งไม่สามารถขยับร่างกายได้ อายุของสัตว์นรกขุมนี้คือ 1 กัลป์
บุคคลสำคัญที่เคยใช้กรรมอยู่ในนรกชั้น อเวจี คือ
พระเทวทัต
ผู้ทำอนันตริยกรรม หรือการพยายามปลงพระชนม์พระพุทธเจ้า หลังสิ้นชีพพระเทวทัตก็ลงมาเกิดในมหานรกขุมนี้ทันทีในร่างสัตว์นรกสูง 300 โยชน์ เสวยทุกข์ในห้องสี่เหลี่ยมพร้อมหลาวเหล็กขนาดเท่าต้นตาล แท่งแรกแทงจากข้างหลังทะลุด้านหน้า แท่งที่ 2 แทงทะลุสีข้างซ้าย-ขวา และแท่งสุดท้ายเสียบกลางศรีษะทะลุกลางลำตัวลงมาด้านล่าง โดยปลายหลาวเหล็กทุกด้านถูกยึดติดเพดานของห้องสี่เหลี่ยมนั้น
นอกจากมหานรกขุมใหญ่ทั้ง 8 แล้ว จากคำอธิบายของพระเทพมุนี ระบุว่ามีนรกขุมย่อยที่อยู่ถัดออกไป เป็นนรกบริวาร เรียกว่า “
อุสสทนรก”
ซึ่งตั้งอยู่ทั้ง 4 ทิศ เหนือ-ใต้-ออก-ตก ของมหานรกทุกขุม แต่ละทิศจะมี 4 ขุม ดังนี้
1. คูถนรก
ขุมนรกที่เต็มไปด้วยหนอนตัวใหญ่คอยกัดกินสัตว์นรกที่ผ่านเข้ามา
2. กุกกุฬนรก
ขุมนรกที่เต็มไปด้วยเถ้าถ่านคอยเผาสัตว์นรกให้กลายเป็นจุณ
3. อสิปัตตนรก
ขุมนรกที่มีต้นมะม่วงใหญ่สำหรับหลอกให้สัตว์นรกเข้ามาพักพิง จากนั้นใบมะม่วงจะกลายเป็นหอกพุ่งแทงสัตว์นรกเหล่านั้น มีกำแพงเหล็กติดเปลวเพลิงขวางกั้นพร้อมสุนัขนรกและแร้งนรกคอยรุ่มฉีกกินสัตว์นรกทั้งหลาย
4. เวตรณีนรก
ขุมนรกที่เต็มไปด้วยน้ำเค็มและเครือหวายหนามเหล็กคอยทิ่มแทงให้เกิดแผล มีไฟลุกท่วมกลางน้ำกับดอกบัวกลีบคมที่ติดเปลวเพลิงอยู่ตลอด สัตว์นรกที่ปหวกว่ายอยู่ในน้ำเค็มจะถูกนิรยบาลใช้เบ็ดเกี่ยวลากขึ้นมาบนฝั่งเพื่อทำทัณฑ์ทรมานต่อ
มีอุสสทนรก 16 ขุม ต่อมหานรก 1 ขุม จึงมีอุสสทนรกทั้งสิ้น 128 ขุม (8 x 16) รายล้อมมหานรกทั้ง 8 ขุมใหญ่
ถัดจากอุสสทนรกออกไป ยังมีนรกบริวารอีกชั้นหนึ่ง เรียกว่า
“ยมโลกนรก”
ซึ่งเป็นขุมนรกชั้นนอก ล้อมอยู่นอกสุดของมหานรก เป็นนรกสำหรับผู้ทำกรรมดีบ้างร้ายบ้าง ยมโลกนรกเป็นนรกประจำทั้ง 4 ทิศ เหนือ-ใต้-ออก-ตก เช่นกัน แบ่งเป็นทิศละ 10 ขุม มีดังนี้
โลหกุมภีนรก, สิมพลีนรก, อสินขะนรก, ตามโพทะนรก, อยคุฬะนรก, ปิสสกปัพพตะนรก, ธุสะนรก, สีตโลสิตะนรก, สุนขะนรก
และ
ยันปาสาณะนรก
ยมโลกเหล่านี้จะประจำอยู่ในทุกทิศของมหานรก แบ่งเป็นชื่อและประเภทการใช้กรรมเหมือนกัน
มหานรก 1 ขุมใหญ่ มียมโลกนรกอยู่ทิศละ 10 ขุม รวมมียมโลกนรก 40 ขุม (4 ทิศ, 4 x10) ต่อมหานรก นิรยภูมิซึ่งมีมหานรก 8 ขุมใหญ่ จึงมียมโลกนรกทั้งสิ้น 320 ขุม (8 x 40)
สัตว์นรกเมื่อใช้กรรมในมหานรกแล้ว หากกรรมยังไม่สิ้น จะต้องมาใช้กรรมในอุสสทนรกต่อ หากกรรมยังไม่สิ้นอีก ก็ใช้กรรมต่อในยมโลกนรก การใช้กรรมด้วยทุกข์โทษหนักเบาจะขึ้นอยู่กับชั้นของมหานรก ยกตัวอย่างคือ กรรมในสุนขะนรก ชั้นอเวจีนรก (มหานรกชั้นล่างสุด) ย่อมทุกข์หนักกว่ากรรมในสุนขะนรก ชั้นสัญชีวนรก (มหานรกชั้นบนสุด) เพราะมีอายุการใช้กรรมนานถึง 1 ชั่วกัลป์
นอกจากนรกขุมใหญ่ คือ มหานรก, นรกบริวารอย่างอุสสทนรก และนรกบริวารชั้นนอกสุดอย่างยมโลกนรกแล้ว นิรยภูมิยังมีนรกพิเศษอยู่อีกซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง 3 โลกอันได้แก่ โลกสวรรค์ โลกมนุษย์ และโลกนรก เป็นขุมมืดมิดเพราะไม่มีแสงใดส่องไปถึง เรียกว่า “โลกกันตรนรก” เต็มไปด้วยสัตว์นรกร่างกายใหญ่โต รูปร่างแปลกประหลาด ลอยเคว้งด้วยความหนาวเหน็บอยู่ชั่วนิรันดร์ เป็นขุมนรกสำหรับผู้ที่กระทำทรมานบุพการีหรือทำร้ายผู้ทรงศีลอยู่เป็นนิจซึ่งเป็นกรรมหนักนั่นเอง
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...