[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
14 พฤษภาคม 2567 18:47:33 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - กำชับหน่วยงานรัฐห้ามบังคับเรี่ยไรเกลื่อน หวั่นกระทบประชาชน ชี้ต้องโปร่งใสตร  (อ่าน 44 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2566 22:30:02 »

กำชับหน่วยงานรัฐห้ามบังคับเรี่ยไรเกลื่อน หวั่นกระทบประชาชน ชี้ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2023-11-24 18:39</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>รมว.ประจำสำนักนายก กำชับหน่วยงานรัฐ ห้ามบังคับเรี่ยไรเกลื่อน หวั่นกระทบประชาชน ชี้ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ - ‘รมว.ดีอีเอส’ ย้ำกับ สภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (USABC) ‘รัฐบาล’ เดินหน้าขยายความร่วมมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัลไทย - ก.พาณิชย์ ชู 7 มาตรการ เสนอนายกฯ ให้ 'ทีมไทยแลนด์' ใช้จุดแข็ง บุก 10 ตลาดเป้าหมาย</p>
<p>24 พ.ค. 2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งข่าวต่อสื่อมวลชนว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ (กคร.) โดยคณะกรรมการ กคร. เข้าร่วม โดยที่ประชุมได้รายงานผลการดำเนินงานต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เคยได้มีการเรี่ยไรตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2566 จำนวน 11 เรื่อง และร่วมพิจารณากิจกรรมที่เสนอขออนุมัติ จำนวน 12 กิจกรรม โดยส่วนมากเป็นการขออนุมัติจัดโครงการทอดกฐิน และการแข่งขันกีฬา เช่น กอล์ฟ และโบว์ลิ่ง การกุศล ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบ และเสนอให้มีการ แจ้งหน่วยงานรัฐให้ทราบแนวทางการปฏิบัติ ในการนำกิจกรรมเสนอต่อ กคร.</p>
<p>นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า หน่วยงานรัฐที่ต้องการจะดำเนินกิจกรรมในลักษณะของการเรี่ยไรเงินจากผู้ใดก็ตาม ต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการฯ โดยกิจกรรมดังกล่าวต้องเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประชาชนส่วนรวม ต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่เรี่ยไรโดยการเจาะจงหรือบังคับใจ ทั้งนี้ หากหน่วยงานใดสนใจจัดกิจกรรมโดยการเรี่ยไรต้องยื่นกิจกรรมต่อคณะกรรมการฯ พิจารณาก่อนดำเนินกิจกรรม 60 วัน และต้องมีการรายงานผลการดำเนินงานรวมถึงงบประมาณทันทีหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมภายใน 30 วัน ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และข้อกำหนดของคณะกรรมการว่าด้วยการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">‘รมว.ดีอีเอส’ ย้ำกับ สภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (USABC) ‘รัฐบาล’ เดินหน้าขยายความร่วมมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัลไทย </span></h2>
<p>นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยถึงการหารือร่วมกับ H.E. Ambassador Brian D. McFeeters (ret.) รองประธานอาวุโสและผู้อำนวยการภูมิภาคของสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (U.S. - ASEAN Business Council: USABC) และคณะนักธุรกิจสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา – อาเซียน ในโอกาสการเยือนประเทศไทยและเข้าเยี่ยมคารวะเพื่อหารือความร่วมมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศไทยกับ USABC พร้อมฟังนโยบายภาพรวมและเป้าหมายการดำเนินงานของรัฐบาลและกระทรวง ด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย รวมทั้งโอกาสในการเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2566 ว่าได้ยืนยันกับผู้แทน USABC ถึงแนวทางของรัฐบาลที่มีกรอบนโยบายในทุกมิติ ทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว เพื่อยกระดับความปลอดภัยในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อผลักดันไปสู่การสร้างเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นจุดหมายการค้าและการลงทุนของอุตสาหกรรมดิจิทัลบนเวทีโลก</p>
<p>ระยะสั้น คือ การมุ่งเน้นการกระตุ้นการใช้จ่าย และเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของประชาชนอย่างเร่งด่วนและรวดเร็ว ซึ่งกระทรวงฯ มีบทบาทสำคัญในการเร่งรัดการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน หนึ่งในภารกิจเร่งด่วนที่สำคัญ คือ การผลักดันการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงผ่านสื่อออนไลน์ (Online scam) โดยได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti-Online Scam Operation Center: AOC) เพื่อให้มีการดำเนินการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ เป็นศูนย์แบบ One Stop Service สามารถดำเนินการปิดกั้นอายัดบัญชีให้แก่ประชาชนได้ทันที</p>
<p>สำหรับกรอบนโยบายระยะกลางและระยะยาว รัฐบาลมีเป้าหมายในการเสริมขีดความสามารถให้กับประชาชน ผ่านการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนทุกคน กระทรวงฯ จึงได้กำหนดนโยบายในการเป็นเครื่องยนต์ใหม่ของประเทศไทย “The Growth Engine of Thailand” เพื่อเป้าหมายที่สำคัญ 3 ด้าน คือ 1.การยกระดับขีดความสามารถด้านดิจิทัลในการสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศ (Thailand Competitiveness) มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล โดยผลักดันนโยบาย Go Cloud First ส่งเสริมให้มีการใช้ Public Cloud มุ่งเน้นการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเชื่อมโยงบริการภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการประชาชน และอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ 2.การสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Safety &amp; Security) ให้ความสำคัญในการป้องกันและการเตรียมความพร้อมให้กับประชาชนให้มีความปลอดภัยในการดำรงชีวิตและการประกอบธุรกิจ และเตรียมความพร้อมภาครัฐและภาคเอกชนในด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ 3.การเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ของประเทศด้านดิจิทัล (Human Capital) เร่งสร้างกำลังคนวิชาชีพดิจิทัล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลให้มีความก้าวหน้าและเข้มแข็ง รวมถึงการพัฒนาให้ประชาชนได้รับการพัฒนาความรู้ ความสามารถ และทักษะด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลที่เหมาะสม เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจใหม่
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกระทรวงฯ อยู่ระหว่างการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ ทั้งทางบกและทางทะเล มีระบบเคเบิลภาคพื้นข้ามพรมแดน (Cross-border terrestrial cables) และระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ (International submarine cables) ให้บริการเชื่อมต่อระบบสื่อสารเชื่อมโยงกับประเทศอื่น ๆ ทั้งในเอเชียและยุโรป เพื่อให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในเส้นทางดิจิทัลที่มีศักยภาพของโลก รวมถึงเร่งสร้างให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายการค้าและการลงทุนของอุตสาหกรรมดิจิทัลในเวทีโลก (Advanced Digital Technology Destination) ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้เอื้อต่อการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิมและรองรับอุตสาหกรรมใหม่ และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินโครงการไทยแลนด์ดิจิทัลวัลเล่ย์ การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม Cloud Innovation &amp; Service และ Data Center บนฐานพลังงานสะอาด และการจัดทำ (ร่าง) มาตรการส่งเสริมการลงทุนและการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G ที่สนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และการพัฒนาศักยภาพกำลังคน</p>
<p>“การหารือกันกับรองประธานอาวุโสและผู้อำนวยการภูมิภาคของสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน และคณะนักธุรกิจสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา – อาเซียน ในวันนี้ถือเป็นโอกาสดี ในการที่จะนำไปสู่ความร่วมมือทางด้านการพัฒนากำลังคน การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงการลงทุนในประเทศไทยเพื่อที่จะก้าวไปสู่ประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคต” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส กล่าวย้ำ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">'ภูมิธรรม' นำพาณิชย์ ชู 7 มาตรการ เสนอนายกฯ ให้ 'ทีมไทยแลนด์' ใช้จุดแข็ง บุก 10 ตลาดเป้าหมาย</span></h2>
<p>เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2566 ที่วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลัง “ทีมไทยแลนด์”นำเสนอประเทศเป้าหมายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง โดยนางพิมพ์ชนก พิตต์ฟีลด์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก และองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ระบุ 10 ประเทศเป้าหมาย ที่ 3 หน่วยงาน (กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศและบีโอไอ) เห็นตรงกัน ประกอบด้วย 1.สหรัฐอเมริกา 2.จีน 3.ญี่ปุ่น 4.เยอรมนี 5.ฝรั่งเศส 6.อินเดีย 7.ยูเออี 8.เกาหลีใต้ 9.ซาอุดีอาระเบีย และ 10.แอฟริกาใต้</p>
<p>ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ มี 5 แนวทางสำคัญในการผลักดัน คือ 1.ขยายโอกาสทางการค้า ทั้งกระจายตลาด หาหุ้นส่วนการค้าและวัตถุดิบ 2.การเจรจา FTA ใช้ของเดิมและเพิ่มการเจรจา FTA ใหม่ 3.ด้าน Soft Power และเพิ่มพาณิชย์ Influencer 4.เพิ่มประสิทธิภาพการค้าด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสู้กับความท้าทายและกติกาใหม่ของโลก และ 5.ใช้ช่องทางการค้า ผ่านแพลตฟอร์มและดิจิทัลช่วยผู้ประกอบการไทย</p>
<p>หลังจากที่ทีมไทยแลนด์รับนโยบายจากท่านนายกฯ ได้ทบทวนประเด็นต่างๆเป็น 7C หรือ 7 มาตรการ ของกระทรวงพาณิชย์ที่จะผลักดันนโยบายการทูตและเศรษฐกิจเชิงรุก 1.Common Goal สร้างความร่วมมือกันของทีมไทยแลนด์ 2.Customer-centric ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นสำคัญ 3.Co-creation ทำเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างนวัตกรรมทั้งในประเทศและนอกประเทศ 4. Cooperation สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนและทุกภาคส่วน 5. Connectivity เชื่อมโยงทุกส่วนทั้งในประเทศ นอกประเทศและระหว่างประเทศ 6. Care การค้ากับประเทศต่างๆใช้ความเป็นไทย เน้น Soft Power และ 7. Can Do ทีมไทยแลนด์ทุกคนต้องมีความคิดว่าต้องทำได้</p>
<p>จุดแข็งของกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานเดียวในประเทศไทยที่มีสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 76 แห่ง มีหน่วยงานระหว่างประเทศ 98 แห่งทั่วโลก และให้ความสำคัญมากในการเชื่อมโยงการค้าภายในและภายนอกประเทศผลักดันสินค้าไทย โดยการค้าขายต้องจับต้องได้ และกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการเร่งด่วนแล้ว คือ 1.นำเสนอสินค้าไทยบนหน้าร้านที่โดดเด่นในห้างหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ 2.ปรับ KPI เป้าหมายการค้าให้เข้มข้นขึ้น และ 3.ให้ร้านค้าที่ได้รับตรา Thai SELECT ในต่างประเทศ เป็นโชว์รูมสินค้าไทยในต่างประเทศ</p>
<p>จากนั้นนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชม 7C หรือ 7 มาตรการของกระทรวงพาณิชย์ และทีมไทยแลนด์ ที่จะช่วยให้คนไทยที่ออกไปค้าขายมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ขอบคุณที่ช่วยผลักดันและอยากฝากอนาคตประเทศไว้ในมือของทุกคน</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/11/106967
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ข่าวมาแรง] - ศาลอนุมัติหมายจับเจ้าของโกดังเก็บดอกไม้เพลิงมูโนะ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 406 กระทู้ล่าสุด 02 สิงหาคม 2566 14:49:17
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - องค์กรพิทักษ์สัตว์เรียกร้องให้เพิ่มเรื่องสวัสดิภาพสัตว์และห้ามใช้ยาปฏิชีวน
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 422 กระทู้ล่าสุด 05 สิงหาคม 2566 15:31:10
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - คาดแบงก์พาณิชย์ไทยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย กนง.
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 322 กระทู้ล่าสุด 06 สิงหาคม 2566 18:04:42
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ประเทศไทยกำลังเดินถอยหลังเรื่องความคุ้มครองความยากจนผู้สูงอายุ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 324 กระทู้ล่าสุด 17 สิงหาคม 2566 17:55:22
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - เผยนักกิจกรรมชายแดนใต้ถูกคุกคามหลังไลฟ์สดการปิดล้อม
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 243 กระทู้ล่าสุด 20 สิงหาคม 2566 15:35:02
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.158 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 22 เมษายน 2567 22:33:10