[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
13 พฤษภาคม 2567 19:36:41 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เจ้านายไทยกับการไว้หนวด  (อ่าน 2552 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5481


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2559 14:51:21 »



พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕)

เจ้านายไทยกับการไว้หนวด

ในอดีต พระมหากษัตริย์ ราชวงศ์ ขุนนาง เจ้านาย และผู้นำประเทศต่างๆ ต่างก็นิยมไว้หนวดกันทั้งนั้น และก็ต้องถือว่าผู้ชายกับหนวดเป็นของคู่กัน ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ด้วย บางคนอาจจะมีมาก บางคนอาจจะมีน้อย หรือไม่มีเลย

หนวด ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง ขนที่ขึ้นเหนือริมฝีปากของคน หรือสิ่งที่มีลักษณะเป็นเส้นยาวๆ ขึ้นตามบริเวณปากของสัตว์บางชนิด

ในสมัยก่อน คนส่วนมากนิยมไว้หนวดกัน และในปัจจุบันก็ยังมีผู้นิยมไว้หนวดกันอยู่ มีบางชาตินิยมการไว้หนวด เช่น ชาวอินเดีย มีการไว้หนวดและตบแต่งหนวดเป็นรูปต่างๆ  ชาวอัสสิเรียสมัยโบราณจะทำหนวดปลอมเป็นเครื่องตบแต่งร่างกายในพิธีการ  ฟาโรห์ของอียิปต์ทำหนวดปลอมยื่นตรงออกมาจากลูกคาง ชาวกรีกนิยมไว้หนวดเคราเต็มคางจนถึงข้างแก้ม ส่วนหนวดของพระเยซูนั้นไว้หนวดไล่มาตั้งแต่ใต้หูจนถึงปลายคาง ซึ่งการไว้หนวดของฝรั่งมีชื่อเรียกต่างๆ กัน เช่น
        แบบ side-whiskers ลักษณะเป็นการไว้เคราสองข้างแก้วและโกนที่ลูกคางเกลี้ยง หนวดแบบนี้ชาวอเมริกันหลังสงคราม เรียกว่า burnsides
        แบบ Vandyke เป็นการไว้หนวดที่ปลายคางแหลม ซึ่งชื่อนี้มาจาก Antony Vandyke จิตรกรชาวฮอลแลนด์ที่ชอบวาดภาพคนมีหนวดแบบนี้ พระเจ้านโปเลียนที่ ๓ แห่งฝรั่งเศส ชอบไว้หนวดเป็นปอยแหลมแข็งที่ลูกคาง ต่อมามีผู้นิยมไว้ตามจึงเรียกกันว่า แบบ Imperial อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ไว้หนวดตั้งแต่เคราข้างหูเลื้อยลงมาจนถึงลูกคาง เรียกว่า Skipper’ beard พระเจ้าจักรพรรดิแฟรงซ์โจเซฟ แห่งออสเตรีย ทรงไว้หนวดที่ริมฝีปากบนแล้วมีปุยเคราสองข้างแก้ม ฯลฯ  จากที่กล่าวมานี้ โดยทั่วไปจะพบว่าชาวต่างชาติจะมีหนวดเครามากกว่าชายไทย

ถึงแม้คนไทยจะไม่ค่อยมีหนวด แต่กระนั้น คนไทยก็ยังมีการไว้หนวดไม่แพ้ชาติฝรั่งหรือแขก ซึ่งทั้งสองชาตินี้ถือว่าเป็นชาติที่มีหนวดเคราดก  ในประเทศไทยไม่ใช่เพิ่งจะมีการไว้หนวด แต่มีการไว้หนวดกันมานานแล้ว เช่น ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ก็มีนายจันทร์หนวดเขี้ยว* เป็นผู้ไว้หนวดจนเป็นที่รู้จักกันในหน้าประวัติศาสตร์ไทย  นอกจากนั้นยังมีพระมหากษัตริย์ ผู้นำ หรือบุคคลสำคัญในอดีต ต่างก็มีการไว้หนวดกันเป็นจำนวนมาก อาทิ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)  สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา ฯลฯ

เนื่องจากคนไทยมีการไว้หนวดมานานแล้ว  ดังนั้น จึงมีลักษณะการไว้หนวดเคราแบบโบราณของคนในสมัยก่อน ซึ่งแบ่งออกเป็นลักษณะต่างๆ และเป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณ โดยมีชื่อเรียกที่คล้องจองกันมากมายหลายแบบ ดังนี้
        เขี้ยวกระแต       ชะแง้กระต่าย
        สาหร่ายบก        ปรกข้างปาก
        ฉากข้างแก้ม       แหลมขึ้นตา
        พม่าติดบั้ง          รั้งขมวด
        หนวดไม้กวาด     สาดลูกคาง
        กางปีกนอก        ปกรากไทร

ครั้นต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องจากพระองค์ได้เสด็จประพาสต่างประเทศหลายครั้ง โดยเฉพาะเสด็จประพาสยุโรปถึง ๒ ครั้ง  พระองค์ทรงพบเห็นขนบธรรมเนียมประเพณีดังกล่าวที่เหมาะสมกับคนไทยมาปรับปรุง เผยแพร่ และนำมาใช้ในเมืองไทย โดยเริ่มจากพระองค์เป็นราชนิยมก่อน แล้วจึงถ่ายทอดมายังเจ้านาย ขุนนาง ข้าราชบริพาร และอาณาประชาราษฎร์ ตามลำดับ

สำหรับการไว้พระมัสสุ (เป็นราชาศัพท์ หมายถึง หนวด) ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น เนื่องมาจากการที่พระองค์ได้เสด็จประพาสไปต่างประเทศ  และได้พบเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นชาติฝรั่งหรือแขก ต่างก็นิยมไว้หนวดกันทั้งนั้น พระองค์จึงทรงไว้พระมัสสุดังกล่าว  เมื่อพระองค์ทรงไว้พระมัสสุ เจ้านาย ขุนนาง และข้าราชบริพารต่างก็พากันไว้พระมัสสุ และหนวดตามพระองค์ท่านเป็นจำนวนมาก จนเป็นแฟชั่นการไว้หนวดอย่างหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ ๕

ปัจจุบันนี้ ถึงแม้จะมีวัฒนธรรมต่างๆ มากมายเข้ามาในประเทศไทย แต่การไว้หนวดก็ยังเป็นที่นิยมกัน โดยเฉพาะบุคคลสำคัญต่างๆ หรือดาราดังๆ ในต่างประเทศ ซึ่งบางคนไว้หนวดแล้วดูน่าเกรงขาม บางคนไว้แล้วดูหล่อ เท่ บางคนไว้หนวดแล้วดูตลก หรือบางคนไว้หนวดแล้วดูสกปรก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับบุคลิกของแต่บุคคล ซึ่งการไว้หนวดนี้มีการไว้มาตั้งแต่อดีตและสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน


* คำว่า "นายจันทร์หนวดเขี้ยว" เป็นชื่อเรียกนายจันทร์ เพราะนายจันทร์มีหนวด หรือไว้หนวดแบบเขี้ยว
  ที่เรียกว่าเขี้ยวกระแต  คนทั้งหลายจึงเรียก นายจันทร์หนวดเขี้ยว คือตามลักษณะของนายจันทร์นั่นเอง


พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๗)


สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ต้นสกุล ดิศกุล


นายฟรานซิส ยอร์ช แปตเตอร์สัน
อาจารย์สอนวิชาภาาอังกฤษ
ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ


ภาพวาดลักษณะหนวดแบบต่างๆ

เรื่อง-ภาพ: นิตยสารศิลปากร

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 พฤษภาคม 2559 14:52:54 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.581 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 02 มีนาคม 2567 07:20:57