ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง คดี 'อาจารย์วิจิตรศิลป์' มช. ฟ้อง 'นักวิจารณ์ศิลปะ'
<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2023-11-15 12:06</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายกฟ้องคดีที่ “พงศ์ศิริ คิดดี” อาจารย์วิจิตรศิลป์ มช. ฟ้องหมิ่นประมาท “พีรมณฑ์ ตุลวรรธนะ” นักวิจารณ์ศิลปะ ที่เขียนบทความพาดพิงผลงานศิลปะ ศาลระบุ บทความดังกล่าวตั้งข้อสังเกตถึงหลักเกณฑ์จัดซื้อผลงานศิลปะของหน่วยงานรัฐที่มีการใช้งบประมาณร่วม 19 ล้านบาท จำเลยในฐานะประชาชนย่อมมีสิทธิตรวจสอบการใช้ภาษีประชาชน สามารถวิพากษ์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็น หรือเขียนข้อความอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมโดยสุจริตได้</p>
<p> </p>
<div class="
https://waymagazine.org/my-tax-and-contemporary-art/">
<p>15 พ.ย. 2566
เว็บไซต์ WAY Magazine รายงานเกี่ยวกับความคืบหน้าคดีที่พีรมณฑ์ ตุลวรรธนะ คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ (Content Creator) และนักวิจารณ์ศิลปะ ถูกพงศ์ศิริ คิดดี อาจารย์คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ฟ้องต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช จากกรณีที่พีรมณฑ์ได้เขียนบทความเรื่อง
“สมบัติชาติหรือสมบัติใคร ภาษีเรา รัฐเอาไปเปย์งานศิลป์อะไรเนี่ยถามจริ๊ง” ลงเว็บไซต์ way magazine ซึ่งในเนื้อหาส่วนหนึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ผลงานศิลปะของพงศ์ศิริ</p>
</div>
<div class="more-story">
<ul>
<li>
ศาลนครศรีธรรมราช พิพากษา 'ยกฟ้อง' คดี 'อาจารย์วิจิตรศิลป์' มช. ฟ้อง 'นักวิจารณ์ศิลปะ'</li>
</ul>
</div>
<p>เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พงศ์ศิริในฐานะโจทก์ ฟ้องร้องพีรมณฑ์จำเลย ข้อหาหมิ่นประมาท กรณีเขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์และพาดพิงโจทก์ โดยศาลพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง ด้วยเหตุผลว่าในวงการศิลปะนั้น การวิพากษ์วิจารณ์หรือติชมด้วยความเป็นธรรมถือเป็นเรื่องปกติ และยังเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอน</p>
<p>ศาลอุทธรณ์ภาค 8 เห็นว่า บทความดังกล่าวมีการตั้งข้อสังเกตถึงหลักเกณฑ์การคัดเลือกและจัดซื้อผลงานศิลปะของหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งที่มีการใช้งบประมาณร่วม 19 ล้านบาท จำเลยในฐานะประชาชนคนหนึ่งย่อมมีสิทธิในการตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นภาษีของประชาชน สามารถวิพากษ์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็น หรือเขียนข้อความอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมโดยสุจริตได้</p>
<p>ส่วนข้อความที่จำเลยกล่าวถึงตำแหน่งทางวิชาการและวุฒิการศึกษาของโจทก์ ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องความประพฤติส่วนตัวในทางที่ไม่ดี และไม่ถึงขนาดเป็นการดูถูกเหยียดหยามให้โจทก์เสียหาย</p>
<p>นอกจากนี้ การวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของโจทก์ว่ายังเหมือนเดิมโดยไม่มีการพัฒนา ในมุมมองของจำเลยซึ่งเป็นผู้มีความรู้และมีความสนใจในผลงานศิลปะ เสมือนเป็นผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบความเคลื่อนไหวและสะท้อนผลงานในแวดวงศิลปะซึ่งเป็นมุมมองที่แตกต่างกัน</p>
<p>“โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานศิลปะเป็นการสร้างสรรค์ผลงานซึ่งผู้ที่พบเห็นสามารถติชมได้ตามมุมมองของตนเอง ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้ความจาก ผศ.ดร.ทัศนัย เศรษฐเสรี และนายศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ อาจารย์ประจำคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่า งานศิลปะกับการวิพากษ์วิจารณ์เสมือนกระจกส่อง เกื้อกูลกัน อีกทั้งการวิจารณ์ยังเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนและการปฏิบัติในหลักสูตร”</p>
<p>ศาลอุทธณ์ภาค 8 เห็นว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด และที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/11/106807