[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 30 มีนาคม 2559 20:17:41



หัวข้อ: หลวงพ่อผอง ธัมมธีโร วัดพรหมยาม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 30 มีนาคม 2559 20:17:41

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/96369575502143_view_resizing_images_1_.jpg)
หลวงพ่อผอง ธัมมธีโร   พระเกจิศิษย์หลวงพ่อทบ
วัดพรหมยาม ต.สามแยก อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์

"พระครูธีรพัชโรภาส" หรือ "หลวงพ่อผอง ธัมมธีโร" เป็นพระเกจิดังแห่งเมืองมะขามหวาน และเป็นศิษย์สืบสายธรรมรูปสุดท้ายของหลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ หรือพระครูวิชิตพัชราจารย์ วัดพระพุทธบาทชนแดน พระเกจิชื่อดังเมืองเพชรบูรณ์

ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพรหมยาม ต.สามแยก อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ และที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลสระประดู่  นามเดิมว่า ผอง อินทรผล เกิดเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2467 ที่บ้านหันน้อย ต.หนองมะเขือ อ.พล จ.ขอนแก่น

ช่วงวัยเยาว์ศึกษาเล่าเรียนและจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนบำรุงไทย 2 อ.พล แต่ด้วยใจที่ใฝ่ในธรรม เมื่ออายุครบ 20 ปี ท่านได้รบเร้าให้บิดามารดาพาไปอุปสมบทที่วัดบ้านเรือ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น มี พระครูปฏิพัทธ์ธรรมคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ ภายหลังอุปสมบทได้อยู่จำพรรษาที่วัดบ้านเรือ โดยพระครูปฏิพัทธ์ธรรมคุณได้เมตตาสอนการวิปัสสนากัมมัฏฐานและทำสมาธิเจริญจิตตภาวนาให้ พร้อมกันนี้ท่านยังได้ศึกษาพระปริยัติธรรมไปด้วยจนสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท และสอบได้นักธรรมชั้นเอกในภายหลัง

ต่อมาท่านได้กราบลาพระครูปฏิพัทธ์ธรรมคุณเพื่อออกเดินท่องธุดงค์แสวงหาความวิเวกตามเทือกเขาชัยภูมิไปจนถึง จ.พิจิตร ท่านได้ทราบว่าหลวงพ่ออ้วน หรือพระครูวิชาญพัชรกิจ เจ้าอาวาสวัดสว่างเนตร ต.ดงขุย อ.ชนแดน เป็นพระเกจิที่เรืองวิทยาคม จึงได้เดินทางมาฝากตัวขอเป็นศิษย์ ซึ่งหลวงพ่ออ้วนก็ไม่ขัดข้องได้ถ่ายทอดวิทยาคมให้ อีกทั้งหลวงพ่อผองได้รับใช้ตอบแทนคุณด้วยการเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมให้แก่พระภิกษุ-สามเณร ในวัดสว่างเนตรและวัดใกล้เคียง ช่วยกิจการด้านพระพุทธศาสนา เป็นเวลา 10 พรรษา ก่อนได้กราบลาไปอยู่จำพรรษากับหลวงพ่อทบที่วัดพระพุทธบาทเขาน้อย อ.ชนแดน เพื่อศึกษาพุทธาคมและวิปัสสนากัมมัฏฐาน ซึ่งหลวงพ่อทบยินดีถ่ายทอดสรรพวิชาให้ หลวงพ่อทบเน้นย้ำว่า "การจะปลุกเสกพระเครื่องและเครื่องรางของขลังให้ศักดิ์สิทธิ์นั้น ใจจะต้องนิ่งสงบ ปราศจากกิเลส จิตจะต้องแข็งได้ฌาน จะปลุกเสกอะไรสิ่งนั้นก็จะดีไปทั้งหมด"

หลวงพ่อผองรับใช้อุปัฏฐากหลวงพ่อทบคอยช่วยเหลือกิจการคณะสงฆ์ โดยหลวงพ่อทบได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอชนแดน ส่วนตัวท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม จนได้รับแต่งตั้งจากหลวงพ่อทบให้เป็นพระใบฎีกาและเป็นพระคู่สวด ขณะที่หลวงพ่อทบถูกนิมนต์ให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ในเขตพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์

เวลาผ่านไป 10 ปี หลวงพ่อผองได้กราบลาหลวงพ่อทบเพื่อออกเดินท่องธุดงควัตรไปตามสถานที่ต่างๆ จนมาถึงบ้านพรหมยาม ต.สามแยก อ.วิเชียรบุรี ซึ่งขณะนั้นเป็นพื้นที่ป่า เต็มไปด้วยสัตว์นานาชนิด

พ.ศ.2506 หลวงพ่อผองได้ร่วมกับชาวบ้าน สร้างวัดพรหมยาม จัดสร้างกุฏิ ศาลาการเปรียญ เสนาสนะต่างๆ แม้จะมีกุฏิที่ญาติโยมร่วมกันสร้างให้ แต่หลวงพ่อผองยังคงอาศัยอยู่ในกุฏิไม้หลังเล็กที่ไม่มีสิ่งของอำนวยความสะดวกอย่างอื่น แม้แต่มุ้งก็ไม่มี แต่ปรากฏว่าไม่มียุงหรือแมลงไปตอมหรือกัดหลวงพ่อผองแต่อย่างใด

เมื่อปี พ.ศ.2531 หลวงพ่อผอง ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลสามแยก และได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูธีรพัชโรภาส

วัดพรหมยามได้รับการยกฐานะเป็นวัด เมื่อปี พ.ศ.2514 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ปี พ.ศ.2520 ปัจจุบัน วัดพรหมยาม มีพระภิกษุ-สามเณร จำพรรษาปีละกว่า 20 รูป เสนาสนะภายในวัด ประกอบด้วย อุโบสถ กุฏิที่พักสงฆ์ จำนวน 12 หลัง ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ 1 หลัง ศาลาธรรมสังเวช 2 หลัง ศาลาโรงครัว หอระฆัง ห้องสมุด หอสวดมนต์ อย่างละ 1 หลัง

วัตถุมงคลหลวงพ่อผอง ที่คณะศิษย์ได้จัดสร้างขึ้นในวาระต่างๆ ได้รับความนิยมสูง

ล่วงเข้าปัจฉิมวัย ด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร ท่านอาพาธบ่อยครั้ง สุดท้ายหลวงพ่อผอง ธัมมธีโร มรณภาพอย่างสงบ เวลา 04.45 น. วันที่ 7 ก.ย.2555 ที่ห้องไอซียู ร.พ.เพชรบูรณ์ สิริอายุ 88 ปี พรรษา 68

อริยะโลกที่ 6