พื้นที่ชีวิต : สมองแห่งพุทธะ บางทีการได้ฟังเรื่องพุทธศาสนาจากมุมมองของฝรั่งก็ทำให้เราได้รับมุมมอง การจับประเด็น รวมทั้งวิธีคิดอันแตกต่างจากที่เราคุ้นเคย และหลายครั้งนำไปสู่ความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นอย่างคาดไม่ถึง วันนี้"นิ้วกลม"มาอยู่ที่ซานฟรานซิสโก เพื่อคุยกับนักจิตวิทยา นักปฏิบัติธรรม และเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีหลายเล่มอย่างเช่น buddha’s brain และ just one thing ที่ช่วยสร้างกระแสความสนใจพุทธศาสนาในหมู่ชาวตะวันตกอย่างกว้างขวางตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาคือ "คุณริค แฮนสัน" จุดเด่นสำหรับหนังสือของริคคือ นอกจากตัวเขาเองจะเป็นนักจิตวิทยาแล้ว เขายังมีเพื่อนสนิทเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางด้านสมองและระบบประสาท ทำให้หนังสือที่ทั้งคู่เขียนร่วมกันเป็นการนำเอาประสบการณ์จากการปฏิบัติธรรมมาผสานกับความรู้ทางด้านสมองและระบบประสาท ติดตามเรื่องราวเหล่านี้ได้ในพื้นที่ชีวิต ตอน สมองแห่งพุทธะ ติดตามรายการพื้นที่ชีวิต ตอน สมองแห่งพุทธะ วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน 2555 เวลา 22.00 น. และรับชมออนไลน์ได้ที่
www.thaipbs.or.th/Live "ความซับซ้อนของสมองมนุษย์ ที่มีน้ำหนัก 1250 กรัม
แต่มีพื้นที่เพียง2 นิ้วมือที่รับรู้ด้านภาษา ในการเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น หรือของตัวเราเอง ยังมีการทำงานของสมองส่วนอื่นๆอีกมาก ที่ไม่ต้องอาศัยภาษา " ...
ดังนั้นการเรียนรู้ผ่านภาษาไม่ใช่ทางสายเดียวหากเป็นแค่กระผีกหนึ่งที่ช่วยให้เราเข้าถึงสัจธรรมแห่งชีวิต ...
ความคิดสร้างสมอง... คิดดีสร้างสมองดี ... ชีวีเป็นสุข
พุทธศาสนานิกายต่างๆ ถกเถียงกันมากมายว่าแนวทางใดถูกหรือผิด
แต่คนทุกนิกาย มีสิ่งที่เหมือนกันคือ สมอง
การศึกษาการทำงานของสมองเป็นทางหนึ่งซึ่งช่วยให้เราเข้าใจผลที่มีต่อสมองจากการปฏบัติธรรม วิปัสสนา หรือเจริญสติ
มีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยเราให้เข้าถึงสมาธิได้ง่าย แต่ก็เหมือนแพ ที่เราแค่ใช้มันชั่วคราว
คุณริค แฮนสัน บอกเราว่า ทุกขณะที่สมองถูกกระตุ้น ได้เกิดร่องรอยมากมาย แล้วก็วับหายในพริบตา... พินิจดูก็จะรู้ถึงความว่าง แบบที่พระพุทธเจ้าทรงสอน
ข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์มากมายในสมอง มันปรากฏให้เราเห็นเหมือนเป็นแค่เพียงยอดของภูเขาน้ำแข็ง เราไม่อาจรู้ถึงร่องรอยทั้งหมดที่เราได้ทำให้เกิดขึ้นในสมองของเรา
การหม่นทุกข์ วิตก เศร้าหมอง มักโกรธ โทษตนเอง มันก็สร้างร่องรอยที่ไม่ดีได้อีกมหาศาลโดยเราไม่รู้อยู่ใต้สมองของเรา
ส่วนการสร้างนิสัยก่อสุข คิดดี เมตตา สร้างสรรค์ ก็เหนี่ยวนำสมองให้สร้างร่องรอยดีๆ ซึ่งวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้มากมายแล้ว
.
เราและทุกชีวิตบนโลกล้วนรักสุขหนีทุกข์เหมือนกัน
.
เราดิ้นรนในโลก เหมือนม้าต่างที่ถูกบังตาไว้ แล้วมีบางสิ่งได้ล่อหลอกให้เราวิ่งไปตามแครอท และหากไม่วิ่งก็จะถูกเฆี่ยนตีจากข้างหลัง ...
.
มนุษย์เราปล่อยให้ ความโกรธ ความโลภ และความหลง หรือให้ความทุกข์นำทางเราผิดๆ มานักแล้ว ทำไมไม่ลองใช้...
ให้ความสงบ ความสุข และปัญญา นำทางเราบ้าง ...
สรุปแล้วการเจริญสติ และ เมตตา สร้างสมองดี และชีวิตมีสุขได้จริง
จาก
http://www.oknation.net/blog/mettapc/2012/11/08/entry-1