.เทพเจ้าผู้มีลมหายใจแห่งเนปาล เรื่องโดย อิซาเบลลา ทรี ที่มา นิตยสารเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก
ภาพ : เทพเจ้าผู้มีลมหายใจแห่งเนปาล
ภาพโดย : สเตฟานี ซินแคลร์
คำบรรยายภาพ : เด็กหญิงทัณโคล วัย 9 ขวบ กุมารีแห่งโตขะ ได้รับเลือกให้เป็นเทพเจ้าผู้มีชีวิตตั้งแต่ยังแบเบาะ
เชื่อกันว่าดวงตาของ กุมารี มีอำนาจดึงดูดผู้ที่ได้เห็นให้สัมผัสกับเทพเจ้าโดยตรง
ในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง หน้าผากของเธอจะระบายสีแดง เป็นสัญลักษณ์แทนพลังแห่งการสรรค์สร้างStoryตามประเพณีเก่าแก่ของเนปาล เด็กหญิงตัวน้อยอาจได้รับการบูชาในฐานะเทพเจ้าผู้มีชีวิต แต่ความเชื่อนี้จะดำรงอยู่ในโลกสมัยใหม่ได้อีกนานเพียงใด
ยุณิกา วัชราจารย์ อาจกำลังจะกลายเป็นบุคคลผู้ได้รับความเคารพมากที่สุดคนหนึ่งในเนปาล ปัจจุบัน เด็กหญิงวัยหกขวบเป็นนักเรียนหญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง แม้จะมีทีท่าเอียงอาย แต่ดวงตาของเธอกลับทอประกายความอยากรู้อยากเห็น เด็กหญิงไม่คุ้นกับการรับแขกแปลกหน้า สองข้างแก้มผุดรอยลักยิ้มเมื่อฉันถามเธอว่า จะทำอะไรหากบ่ายวันนี้ได้รับเลือกเป็น กุมารี หรือ เทพเจ้าผู้มีชีวิต ซึ่งเป็นบทบาทที่ทำให้ทุกคนต้องคุกเข่าลงเมื่ออยู่เบื้องหน้าเธอ
“หนูต้องไม่พูดเลยค่ะ” เธอตอบ “ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปโรงเรียน ต้องเรียนหนังสือที่บ้าน แล้วก็ให้คนมากราบไหว้ทุกวันค่ะ”
ยุณิกาเป็นชาวเนปาลเชื้อสายเนวาร์ (
Newar) เธออาศัยอยู่ที่เมืองปาทาน ชื่อทางการของเมืองนี้คือลลิตปุระมีประชากรราว 230,000 คน ส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา เมืองนี้ตั้งอยู่ในหุบเขากาฐมาณฑุตรงเชิงเทือกเขาหิมาลัยชาวเนวาร์ภาคภูมิใจในความเป็นผู้พิทักษ์วัฒนธรรมของหุบเขาแห่งนี้ และเสาหลักเก่าแก่ต้นหนึ่งของวัฒนธรรมนั้นคือการบูชาเด็กหญิงวัยเยาว์ในฐานะเทพเจ้าผู้มีชีวิต
เมื่อเราออกจากบ้านของเธอซึ่งเป็นอาคารเก่า เพดานต่ำ สร้างด้วยอิฐและท่อนซุง ในละแวกที่เรียกว่า
ฐาพู ยุณิกาเดินพลางกระโดดพลางไปตามถนนแคบๆ จูงมือ
สาพิตาผู้เป็นแม่ และ
พิผาสา พี่สาว ไปด้วย ลานหขาพะหาล (
Hakha Bahal) เดินไปไม่ไกล ลานที่ว่านี้เป็นที่อาศัยของสมาชิกครอบครัวขยายของเธอ รวมทั้งเป็นที่ชุมนุมประกอบพิธีทางศาสนาและจัดงานเฉลิมฉลองต่างๆ มานานหลายศตวรรษแล้ว ทั้งยังเป็นสถานที่คัดเลือกกุมารีในขั้นตอนแรก
กุมารีเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงในชุมชนชาวเนวาร์ เชื่อกันว่าเทพเจ้าในร่างเด็กหญิงเหล่านี้มีอำนาจในการทำนายอนาคต สามารถรักษาความเจ็บไข้ได้ป่วย ดลบันดาลให้สมปรารถนา ตลอดจนอำนวยพรให้พ้นภยันตรายและเจริญรุ่งเรืองได้
เหนือสิ่งอื่นใด เชื่อกันว่ากุมารีเป็นสายสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างโลกมนุษย์กับโลกแห่งทวยเทพสำหรับพุทธศาสนิกชนชาวเนวาร์ กุมารีคืออวตารของวัชรเทวี ซึ่งเปรียบเหมือนพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในพุทธศาสนาตันตรยาน สำหรับชาวฮินดูแล้ว กุมารีคืออวตารของตาเลจู เทวีผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นภาคหนึ่งของพระนางทุรคา [ปางดุร้ายของพระแม่อุมาเทวี ชายาของพระศิวะ]
ทุกวันนี้ มีกุมารีเพียงสิบองค์ในเนปาล เก้าองค์อยู่ในหุบเขากาฐมาณฑุ กุมารียังคงคัดเลือกมาจากครอบครัวที่ผูกพันกับ
พะหาล (bahal) หรือชุมชนลานบ้านแบบโบราณบางแห่งเท่านั้น และบรรพบุรุษของกุมารีต้องมาจากวรรณะสูง การได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ถือเป็นเกียรติสูงสุด เป็นพรอันใหญ่หลวงเกินพรรณนาสำหรับครอบครัวของกุมารีเอง
กุมารีเป็นภาระรับผิดชอบใหญ่หลวงของทุกคน และคนที่แบกภาระหนักที่สุดคงไม่พ้น
ราเมศ พ่อของยุณิกาในฐานะผู้หาเลี้ยงครอบครัว กุมารีต้องสวมอาภรณ์พิเศษและแต่งหน้าทุกวัน มีชุดใหม่ตัดเย็บด้วยผ้าราคาแพงสำหรับงานเฉลิมฉลองอย่างน้อยปีละสองครั้ง ต้องมีห้องหับแยกต่างหากในบ้าน เพื่อใช้เป็นห้องสำหรับทำพิธีบูชา มีบัลลังก์ที่ประทับเพื่อให้เทพเจ้าในร่างเด็กหญิงต้อนรับญาติโยมที่มาสักการะ ส่วนครอบครัวก็ต้องประกอบพิธี นิตยบูชา (
nitya puja) หรือพิธีบูชาประจำวันเบื้องหน้าเธอทุกเช้า กุมารีจะออกไปสู่โลกภายนอกไม่ได้ เว้นก็แต่ในวาระเฉลิมฉลองเท่านั้น แล้วยังต้องมีคนคอยอุ้มหรือนั่งเสลี่ยงเพื่อไม่ให้เท้าสัมผัสพื้น ที่สำคัญที่สุด กุมารีจะต้องไม่มีเลือดตกยางออก เพราะเชื่อกันว่า ดวงวิญญาณของเทวีหรือศักติที่มาสถิตอยู่ในร่างของเด็กหญิงขณะเป็นกุมารีนั้นจะละร่างนี้ไปทันทีเมื่อเธอเสียโลหิต แม้บาดแผลที่เกิดโดยไม่เจตนาก็ทำให้วาระแห่งการเป็นกุมารีต้องสิ้นสุดลง และเทพเจ้าผู้มีชีวิตจะพ้นจากตำแหน่งเสมอเมื่อเธอมีรอบเดือนครั้งแรก
ราเมศยังกังวลเรื่องอนาคตของลูกสาวหากได้รับเลือกด้วย เธอจะต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบสามัญชน แต่หลังจากได้รับการดูแลประคบประหงมและแยกตัวจากสังคมนานหลายปี การเปลี่ยนผ่านสถานะจากเทพเจ้าสู่คนเดินดินอาจไม่ใช่เรื่องง่าย
ผู้คนมาชุมนุมกันมากแล้ว ตอนที่ยุณิกา สาพิตา พิผาสา และฉันไปถึงลานหขาพะหาล อัญชิลา วัชราจารย์ วัยสามขวบ นั่งอยู่ท่ามกลางชาวบ้านที่มาร่วมพิธีและผู้มาให้กำลังใจ หนูน้อยเป็นผู้สมัครเข้าคัดเลือกเป็นกุมารีอีกเพียงคนเดียวอนันต์ ชวาลานันทะ ราโชปัธยายะ หัวหน้านักบวชของวิหารเทวีตาเลจู กำลังรออยู่ที่ลาน หัวหน้านักบวชวัย 77 ปีผู้นี้บอกกับฉันอย่างเศร้าใจว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกในรอบสุดท้ายเพียงสองคน
ราโชปัธยายะนำเด็กหญิงทั้งสองเข้าไปในห้องที่ปิดประตูตรงมุมหนึ่งของลาน ขั้นตอนแรกของการคัดเลือกที่ปิดเป็นความลับนี้คือการลดจำนวนผู้สมัครให้เหลือสามคน แต่เนื่องจากมีผู้สมัครเพียงสองคน นี่จึงเป็นเพียงการทำตามพิธีเท่านั้น และเสร็จสิ้นลงในเวลาไม่กี่นาที
ในขั้นตอนสุดท้าย ไมยา ภรรยาของราโชปัธยายะ จะเป็นผู้คัดเลือกที่บ้านของพวกเขาในย่านที่เรียกว่าปิมพะหาล ทางเหนือของลานหขาพะหาล ทำให้ขบวนของพวกเราทั้งหมดราว 40 คน ซึ่งมีทั้งคนที่มาสังเกตการณ์และผู้มาให้กำลังใจผู้สมัคร พากันเดินตามนักบวช ผู้สมัครเป็นกุมารี และสมาชิกในครอบครัวของพวกเธอไป ขบวนใช้เวลาเดินราวสิบนาที
ไมยาซึ่งเตรียมพร้อมด้วยการนั่งสมาธิ กำลังคอยท่าอยู่ในห้องว่างชั้นบน มีตะเกียง หม้อน้ำ พวงมาลัย ถาดใส่เครื่องบูชา ถ้วยใส่นมเปรี้ยว กระทงใส่ข้าวแผ่นแบนๆ ที่เรียกว่า พาชี และเครื่องใช้ในพิธีอื่นๆ ทุกอย่างวางอยู่บนพื้นปูนที่ละเลงทับด้วยดินเหนียวสีแดงผสมกับมูลวัว ซึ่งเชื่อว่าทำให้พื้นห้องบริเวณนั้นสะอาดบริสุทธิ์ เด็กหญิงทั้งสองที่นำตัวแยกมาจากมารดาถูกจัดให้นั่งบนเบาะสีแดงตรงหน้าไมยา อัญชิลาน้อยตื่นเต้น แม่หนูกระโดดลุกขึ้นจากเบาะที่นั่งของตัวเองวิ่งไปที่เบาะของยุณิกา แล้ววิ่งกลับ ส่วนยุณิกานั่งนิ่งราวกับก้อนหิน แต่ดวงตากวาดมองไปทั่วห้องอย่างรวดเร็ว ผู้ติดตามทุกคนรวมทั้งแม่ของผู้สมัครทั้งสองถูกพาออกจากห้อง เหลือเพียงไมยาและผู้ช่วย คือลูกสะใภ้เท่านั้น ที่อยู่ในห้องกับผู้สมัคร
พวกเราออกันอยู่ที่ปล่องบันไดด้านนอก อาทิตย์เริ่มอ่อนแสง เราได้ยินเสียงสวดมนต์ทุ้มต่ำ เสียงสั่นกระดิ่ง และกลิ่นธูปที่ลอยออกมาจากในห้อง ครู่ต่อมาเราได้ยินเสียงอัญชิลาร้องไห้ดังลั่น พอถึงเวลาที่ประตูเปิดออก หนูน้อยวิ่งลนลานหน้าตาตื่นออกไปหาผู้เป็นแม่ ส่วนยุณิกายังคงนั่งสงบนิ่งอยู่บนเบาะ หลังจากช่วงเวลาแห่งการรอคอยอันน่าอึดอัดทรมานผ่านพ้นไป บรรยากาศก็ผ่อนคลายลง
ด้วยความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น ผู้ได้รับเลือกเป็นกุมารีเริ่มรับเครื่องบูชาจากผู้มาให้กำลังใจซึ่งเข้ามาคุกเข่าและก้มศีรษะจนหน้าผากจรดเท้าของเธอทีละคน นับจากนี้ เธอจะไม่ใช่ยุณิกาอีกต่อไป แต่เป็น
ดยาห์ เมจู หรือกุมารีเทวีภาพ : เทพเจ้าผู้มีลมหายใจแห่งเนปาล
ภาพโดย : สเตฟานี ซินแคลร์
คำบรรยายภาพ : พ่อของทัณโคลต้องอุ้มเธอไปนั่งเสลี่ยง เพื่อไม่ให้เท้าสัมผัสพื้นดินซึ่งถือเป็นมลทิน
กุมารีจะได้รับการแห่แหนเหนือฝูงชน ในเทศกาลพิสเกตยาตราภาพ : เทพเจ้าผู้มีลมหายใจแห่งเนปาล
ภาพโดย : สเตฟานี ซินแคลร์
คำบรรยายภาพ : ยุณิกา วัชราจารย์ วัยหกขวบ เข้ารับตำแหน่งกุมารีแห่งปาทานเป็นวันแรก
เธอวางเท้าไว้บนถาดใส่เครื่องบูชา และมีนาคราช คอยปกปักอยู่เหนือศีรษะ ภาพ : เทพเจ้าผู้มีลมหายใจแห่งเนปาล
ภาพโดย : สเตฟานี ซินแคลร์
คำบรรยายภาพ : แม้แต่เรสุกา เทพเจ้าวัยสองขวบ กุมารีแห่งกีลคาล ก็ยังไม่อยากรับประทานอาหาร
เชื่อกันว่าถ้าเรสุกาได้พบกับกุมารีหลวงแห่งกาฐมาณฑุซึ่งพำนักอยู่ใกล้ๆ กัน วิญญาณของทั้งสองจะละร่างไปภาพ : เทพเจ้าผู้มีลมหายใจแห่งเนปาล
ภาพโดย : สเตฟานี ซินแคลร์
คำบรรยายภาพ : ทัณโคลวัยเก้าขวบต้องสวมใส่เสื้อผ้าสีแดงเสมอ เนคไทประจำโรงเรียนเป็นสิ่งเดียวที่เธอยอมประนีประนอมให้ขนบธรรมเนียม
ในแง่มุมอื่นๆ เธอก็ไม่ต่างจากเด็กนักเรียนคนอื่นๆ เว้นเสียแต่ว่าครูและเพื่อนร่วมชั้นเรียกเธอว่า ดยาห์ เมจู ซึ่งหมายถึงกุมารีเทวี ภาพ : เทพเจ้าผู้มีลมหายใจแห่งเนปาล
ภาพโดย : สเตฟานี ซินแคลร์
คำบรรยายภาพ : ในห้องนั่งเล่นของครอบครัว ยุณิกาเล่นกับน้องชาย ขณะที่พ่อแม่ปรึกษากันว่าจะส่งเธอไปคัดเลือกเป็นกุมารีดีหรือไม่
เด็กหญิงที่ดำรงตำแหน่งคนปัจจุบันต้องพ้นจากวาระหลังมีรอบเดือนครั้งแรกภาพ : เทพเจ้าผู้มีลมหายใจแห่งเนปาล
ภาพโดย : สเตฟานี ซินแคลร์
คำบรรยายภาพ : ทัณโคลแต่งหน้าด้วยเครื่องประทินผิวขนิดพิเศษที่ใช้สำหรับงานเทศกาล ทว่าในวาระเช่นนี้สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป
อาจมีมากกว่าเครื่องประทินผิว อดีตกุมารีหลายองค์บอกว่า พวกเธอรู้สึกยิ่งใหญ่และทรงพลังมากขึ้น ภาพ : เทพเจ้าผู้มีลมหายใจแห่งเนปาล
ภาพโดย : สเตฟานี ซินแคลร์
คำบรรยายภาพ : ยุณิกานั่งอยู่บนบัลลังก์ในร้านแห่งหนึ่งที่ลาคันเขละ ขณะที่ผู้ดูแลจัดแต่งสร้อยเงินซึ่งเชื่อว่าประทานพลังแห่งเทพเจ้าให้เธอ
หน้าที่แรกของกุมารีแห่งปาทานซึ่งเพิ่งได้รับการคัดเลือกองค์นี้ คือการร่วมพิธีสรงน้ำเทวรูปพระพิรุณภาพ : เทพเจ้าผู้มีลมหายใจแห่งเนปาล
ภาพโดย : สเตฟานี ซินแคลร์
คำบรรยายภาพ : ผู้ดูแล นักบวชนิกายตันตระ และผู้ช่วยอื่นๆ ห้อมล้อมมาตินา ศากยะ กุมารีหลวงแห่งกาฐมาณฑุ
ขณะเธอนั่งบนบุษบกทองอายุ 255 ปีแห่แหนไปทั่วเมืองหลวงระหว่างเทศกาลอินทรยาตราประจำปี ภาพ : เทพเจ้าผู้มีลมหายใจแห่งเนปาล
ภาพโดย : สเตฟานี ซินแคลร์
คำบรรยายภาพ : เมื่อไม่ได้ทำหน้าที่กุมารี ยูนิกาก็สนุกสนานเช่นเดียวกับเด็กทั่วไป แต่จะไม่เคยถูกดุ
เวลาเล่นกับน้องชายและพี่สาว เธอจะเป็นหัวโจกเสมอ ไม่มีใครกล้าท้าทายความพิโรธกับของเทพเจ้าผู้มีชีวิต