มีคาถาแสดงไว้ว่า มนุสฺสตฺตํ ลิงฺคสมฺปตฺติ วิคตาสวทสฺสนํ อธิกาโร ฉนฺทตา เอเต อภินีหารการณา
มีเหตุแห่ง ปณิธานขึ้นพื้นฐาน(ก็เพราะธรรมสโมธาน ๕ ประการ) เหล่านี้ คือ ความเป็นมนุษย์ ความถึงพร้อมด้วยเพศ การเห็นท่านผู้
ปราศจากอาสวะอธิการ และความพอใจ
แต่สำหรับบุคคลที่ตั้งปณิธานเป็นพระสัมมาสัมพุทธ เจ้า ต้องประกอบด้วยองค์ธรรมซึ่งเรียกว่า ธรรมสโมธาน ๘ ประการ [สุตฺต.อ. ๑/๔๕] คือ
๑. ความเป็นมนุษย์ (มนุสฺสตฺตํ) มีนัยเดียวกับองค์ธรรมของบุคคลที่ตั้งปณิธานเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
๒. ความถึงพร้อมด้วยเพศ (ลิงฺสมฺปตฺติ) ก็มีนัยเดียวกัน
๓. เหตุ (เหตุ) คือ ความถึงพร้อมด้วยอุปนิสัยแห่งพระอรหันต์ ในชาติที่ตั้งปณิธานเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าพยายามอย่างเต็มกำลัง จะสามารถ
เป็นพระอรหันต์ได้
๔. การเห็นพระศาสดา (สตฺถารทสฺสนํ) คือการเห็นเฉพาะพระพักตร์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง อาทิเช่นสุเมธบัณฑิตได้เห็นพระทีปังกร
พุทธเจ้าเฉพาะพระพักตร์แล้วจึงตั้ง ปณิธาน
๕. การบรรพชา (ปพฺพชฺชา) คือ ความเป็นอนาคาริก ต้องเป็นนักบวชผู้เป็นกรรมวาทีและกิริยวาที อาทิเช่น สุเมธบัณฑิตเป็นดาบสชื่อสุเมธ จึงตั้ง
ปณิธาน
๖. ความถึงพร้อมแห่งคุณ (คุณสมฺปตฺติ) คือการได้คุณธรรมหรือธรรมวิเศษมีฌานเป็นต้น อาทิเช่น สุเมธบัณฑิตได้อภิญญา ๕ และสมาบัติ ๘ แล้ว
จึงตั้งปณิธาน
๗. อธิการ (อธิกาโร) มีนัยเดียวกัน
๘. ความพอใจ (ฉนฺทตา) มีนัยเดียวกันมีคาถาแสดงไว้ว่ามนุสฺสตฺตํ ลิงฺคสมฺปตฺติ เหตุ สตฺถารทสฺสนํ ปพฺพชฺชา คุณสมฺปตติ อธิกาโร ฉนฺทตา อฎฺฐธมฺมสโมธานา อภินีหาโร สมิชฺฌติ
ปณิธานขั้นพื้นฐานย่อมสำเร็จได้ ก็เพราะธรรมสโมธาน ๘ ประการ คือ ความเป็นมนุษย์ ความถึงพร้อมด้วยเพศ เหตุ การเห็นพระ
ศาสดา การบรรพชา
ความถึงพร้อมแห่งคุณ อธิการ และความพอใจ
ส่วนผู้ที่ตั้ง ปณิธานเป็นพระอัครสาวกทั้งสองและพระอสีติมหาสาวก ต้องมีองค์ธรรม ๒ ประการ คือ อธิการหรือการกระทำอันยิ่ง (อธิกาโร) และ
ความพอใจ (ฉนฺทตา) [สุตฺต.อ. ๑/๔๘].................................จบภาค 1.............................