[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ร้านน้ำชา => ข้อความที่เริ่มโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 03 กันยายน 2566 04:07:54



หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - คุยกับ 'น้องสาววารุณี' กับ 13 วันผ่านไปที่พี่สาวอดอาหารน้ำทวงสิทธิประกันตัว 
เริ่มหัวข้อโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 03 กันยายน 2566 04:07:54
คุยกับ 'น้องสาววารุณี' กับ 13 วันผ่านไปที่พี่สาวอดอาหารน้ำทวงสิทธิประกันตัว 
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-09-03 03:12</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>แมวสลิดม้าเต่อ , แมวเบงกอล : สัมภาษณ์
แมวส้ม : ภาพ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>น้องสาววารุณี เล่าเหตุการณ์การวันจับกุมพี่สาวแบบเซอร์ไพรส์ ทั้งที่ไม่เคยหนี้ รายงานตัวตลอดตามนัด โมเม้นท์วันตัดสิน เผยเข้าเยี่ยมช่วงแรก ยังห่วงแต่คนข้างนอกว่าจะอยู่อย่างไร ไม่คิดว่าจะประทัวงด้วยวิธีนี้ จนกระทั่งผิดหวังมากครั้ง ก่อนตัดสินใจอดอาหารประท้วงทวงสิทธิประกันตัวผ่านแววตาที่เปลี่ยนไป ย้ำว่าความไม่อยากจะทนแล้ว พร้อมทั้งสะท้อนปัญหาการรักษาอาการเจ็บป่วยภายในเรือนจำ</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53159965170_19c7f87500_b.jpg" /></p>
<p>2 ก.ย.2566 นับเป็นการอดอาหารประท้วงวันที่ 13 และเป็นการจำกัดการดื่มน้ำวันที่ 10 ของ ‘วารุณี’ ผู้ต้องขังคดี ม.112 อายุ 32 ปี  เพื่อทวงสิทธิประกันตัว ซึ่งปฏิบัติการมาตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. โดยยังดื่มนม น้ำ และยารักษาโรค หลังศาลที่สั่งไม่ให้ประกันตัวเรื่อยมา เป็นจำนวน 5 ครั้ง (เป็นการยื่นอุทธรณ์คำสั่ง 1 ครั้ง) ตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาในวันที่ 28 มิ.ย. 2566 ล่าสุด ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่าปัจจุบันวารุณีแอดมิทอยู่ที่ ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ มาตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยญาติของวารุณีติดต่อไปยัง รพ.ราชทัณฑ์ และได้รับแจ้งจากพยาบาลว่า ปัจจุบันวารุณี ‘ไม่รับอาหาร น้ำ (Dry Fasting)และเกลือแร่ รวมถึงปฏิเสธการกินยาประจำตัวทั้งหมดแล้ว’</p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>เผย 'วารุณี' อดอาหารและนำ้ พร้อมปฏิเสธเกลือแร่และยาประจำตัวทั้งหมด (https://prachatai.com/journal/2023/09/105735)</li>
<li>'ก้าวไกล' เดินหน้าเสนอกฎหมาย แก้ ป.วิอาญา เพื่อ 'สิทธิประกันตัว' ประชาชนทุกคน (https://prachatai.com/journal/2023/08/105706)</li>
<li>[Live] คุยกับศูนย์ทนายฯ : ต้องอดอีกกี่ครั้ง ปัญหาสิทธิประกันตัวและสถานการณ์นักโทษทางการเมือง (https://prachatai.com/journal/2023/08/105694)</li>
</ul>
</div>
<p> </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">มาจับแบบเซอร์ไพรส์ ทั้งที่ไม่เคยหนี้ รายงานตัวตลอดตามนัด</span></h2>
<p>น้องสาวของวารุณี (สงวนชื่อ-นามสกุล) เล่าว่า เริ่มแรก คือตอนนั้นเท่าที่จําได้อยู่ที่พิษณุโลก แล้วไม่ได้เห็นว่ามีหมายศาลหมายอะไรมาก่อนจากนั้นเช้าวันนึง ปรากฏมีตํารวจมาที่บ้านและเข้ามาจับกุม พร้อมทั้งคุมตัวเอาวารุณีใส่รถมาน่าจะเกือบ 10 คน ด้วยความที่มันเช้ามาก โดยที่วารุณีเพิ่งตื่น โดยที่หลังจากนั้น เมื่อถึงเวลารายงานตัววารุณีก็มาทุกครั้งไม่ได้ขอเลื่อนหรือหนี รายงานตัวครบตลอด</p>
<p>ก่อนวันตัดสิน คือวารุณีก็มีความกังวล และไม่สามารถตอบได้ว่าจะทำอย่างไรต่อ เช่นเดียวกับตนก็มีความกังวล แต่จากการปรึกษาทนายความ ก็คาดว่าจะเป็นเป็นการรอลงอาญา ทำให้คลายความกังวลไปครึ่งหนึ่ง </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เล่าวันตัดสิน</span></h2>
<p>"พอวันตัดสิน ตอนนั้นเราเห็นข้อความจากพี่สาว เราก็ตกใจว่า อ้าวแล้วไม่รอลงอาญาแล้วคือยังไงต่อ เพราะเราก็ไม่รู้กระบวนการว่าคือมันยังไง แต่ตอนนั้นคือเรากําลังจะเข้าสัมภาษณ์งานก่อน พอเราแบบพิมพ์ถามอะไร ก็คือพี่เขาก็ไม่ตอบแล้ว  แล้วทีนี้พอเราสัมภาษณ์งานเสร็จ เราก็รีบเดินทางไปศาลอาญา แล้วก็เห็นว่าพี่เราโดนเหมือนคล้ายๆ ว่าฝากขัง เขาอยู่ในห้องที่เป็นห้องกรง" น้องสาวของวารุณี กล่าว</p>
<p>จากนี้ตนสอบถาม เพื่อนที่เขาเข้าฟังคำตัดสินด้วยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งพยายามคุยกับวารุณี รอดูว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ท้ายที่สุดกลับไม่ได้รับการประกันตัว</p>
<p>"เราก็มีตะโกนถามเขานะ ว่าเขากลัวไหม ตอนถูกขังอยู่ใต้ถุนศาล เขาก็พยักหน้า บอกว่ากลัว ตอนนั้นเราก็รู้สึกใจไม่ค่อยดี" น้องสาวของวารุณี กล่าว พร้อมทบทวนว่าก่อนมีคำตัดสินทนายความ คาดว่าอาจจะรอลงอาญา แต่เมื่อผลออกมาไม่รอลงอาญา อีกทั้งยังไม่ให้ประกันตัว ขณะนั้นตนจึงใช้โทรศัพท์คุยระหว่างลูกกรงพร้อมทั้งพยายามปลอบใจงวารุณีว่า อาจจะเข้าไปไม่นานก็ได้ เพราะว่าสักพักก็จะมีคําสั่งออกมาให้ประกันตัว ตอนนั้นตนก็ไม่ได้รู้มากมาย ว่ากฎหมายมันมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง แค่ให้กําลังใจเท่าที่ทําได้</p>
<p>จากนั้นตนพยายามติดต่อคนนั้นคนนี้ ขณะที่สายจากคนอื่นก็โทรเข้ามาจำนวนมากในวันนั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้วารุณีมักไปรายงานตัวหรือไปศาลแบบเงียบบๆ โดยไม่เคยบอกใคร แม้กระทั้งวันที่จะมีคำตัดสิน วารุณีก็ไม่ได้โพสต์แจ้งต่อใครด้วย โดยตนอยู่รอจนส่งวารุณีขึ้นรถของราชทัณฑ์</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53159746239_aec239c8e6_b.jpg" /></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">10 วันหลังอยู่ในเรือนจำ ห่วงแต่คนข้างนอกว่าจะอยู่อย่างไร</span></h2>
<p>10 วันที่วารุณี อยู่ในเรือนจำ ในวันที่ตนเข้าเยี่ยมครั้งแรก บรรยากาศมันคือเหมือน วารุณีห่วงแต่คนข้างนอก กลัวว่าพอตัวเขาไม่อยู่ แล้วพวกค่าใช้จ่ายต่างๆ จะทําอย่างไร ไม่พูดเรื่องตัวเองเลย ทั้งที่ 10 วัน ที่อยู่ในเรือนจำควรอัพเดตว่าเป็นอย่างไร ถามถึงแต่คนอื่น คือห่วงแต่คนข้างนอกว่าจะอยู่กันอย่างไร แล้วค่าใช้จ่ายให้ตนไปจัดการ ซึ่งเป็นเนื้อหา 15 นาที ที่ได้คุย</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ไม่คิดว่าจะอดอาหาร จนกระทั่งผิดหวังมากครั้ง </span></h2>
<p>"ส่วนเรื่องการอดอาหาร คือไม่เคยรู้จากปากเขามาก่อน แต่เรารู้จากทนายที่ไปเยี่ยมเขา ว่าเขาพูดมาแบบนี้ ซึ่งเราก็ตกใจ เพราะว่าตอนนั้นเขาน่าจะเข้าไปประมาณซัก 1 เดือนแล้ว" น้องสาววารุณีกล่าว พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า การยื่นประกันแต่ละครั้ง วารุณียังหวังว่าเขาจะได้ออก แต่เมื่อผิดหวังมากครั้ง เหตุผลศาลไม่ให้ประกันตัวก็ยกมาแบบซ้ําๆ เหมือนเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ยังกลัววารุณีจะหลบหนี</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ปัญหาการรักษาอาการเจ็บป่วย และจังหวะตัดสินใจอดอาหารประท้วง</span></h2>
<p>อีกเรื่องคือเรื่องเจ็บป่วยของวารุณีนั้น กระบวนการข้างในมันเยอะมาก แล้วคนก็เยอะ ตนไม่ได้เชื่อมั่นว่าเขาจะทําได้ แม้แต่การส่งยาให้หรือการส่งสิ่องอื่นให้ก็ต้องใช้ระยะเวลาจำนวนมาก มีช่วงที่วารุณียานอนหลับใกล้หมด เมื่อถามกับเจ้าหน้าที่ทางเรือนจํา ว่าเหลือกี่เม็ด เจ้าหน้าที่กลับไม่ตอบ จนวันถัดมาเขามาบอกตนที่ได้เข้าเยี่ยมว่ายานอนหลับหมดแล้ว ให้ตนส่งให้หน่อย วันนั้นตนจึงรีบไปซื้อ แต่ปรากฏว่าโรงพยาบาลอยู่ไกลมาก ตอนนั้นกว่าตนจะได้เยี่ยมวารุณีก็บ่ายสองบ่ายสามแล้ว อีกทั้งกว่าจะไปเอายาเสร็จก็คือปิดแล้ว ตนจึงมาฝากตอนช่วงเช้าของวันศุกร์ในการที่ฝากยานอนหลับครั้งแรก ตนจึงคิดว่าอาจจะทันให้เขาได้กิน แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้กินทันที เพราะต้องรอเวลาตรวจสอบอีก แล้วหมอจะเข้าแค่วันศุกร์วันเดียว ซึ่งมันต้องคอยให้หมอไปพิจารณาดูยาอีก ว่าจะจ่ายยาหรือว่าอะไรอย่างอยู่ตลอดใช่ไหม ดังนั้นไม่ว่าจะรีบหรือว่าจะซื้อตอนไหนก็ต้องรอหมออยู่ดี รอตรวจสอบ กระบวนการมันมีเยอะจน เราจะเชื่อมั่นได้ยังไงว่า เขาจะดูแลผู้ป่วย ได้แบบทั่วถึงจริงๆ</p>
<p>ช่วงก่อนหน้านี้ระหว่างที่ตนเข้าไปเยี่ยม แล้ววารุณีบอกว่า จะอดอาหารแล้ว โดยที่ทุกครั้งที่ตนไปก็คัดค้านอย่าเพิ่งอด ทำให้วารุณีระบว่าจะเอาไปคิดต่อ รอยื่นผลหรือรอการประกันก่อน แต่ในวันที่วารุณีตัดสินใจจริงๆ ก็คือตนได้คุยกับทนายที่เขาเยี่ยมก่อนหน้า ก็มาบอกว่า วารุณียืนยันจะอดแล้ว ไม่ต้องสั่งข้าวแล้ว ตนจึงตกใจ ทั้งที่เตรียมคำพูดและเหตุผลห้าม และเมื่อเข้าไปอธิบายเหตุผล วารุณีก็ปัดทุกเหตุผลตกหมดเลย วารุณีคิดแค่ว่าเขารู้สึกว่าเขาไม่ไหวแล้ว เขาโดนกลั่นแกล้งมากๆ แล้วก็ เหมือนสายตาเขามันบ่งบอก ว่ามันสิ้นหวังมากๆ มันทนไม่ไหวอีกต่อไป แล้วประโยคที่เขาพูดกับตนว่า “ก็ลองมาอยู่ในนี้ดู” ประโยคนี้มันทำให้ตนพูดไม่ออก รวมทั้งสายตาที่ส่งออกมาให้ตนเห็นมันสะท้อนว่า วารุณีคงทุกข์ทรมานมาก จนคิดว่าทุกคนไม่มีใครสามารถเข้าใจเขาได้แล้ว มีแต่เขาที่สามารถเข้าใจตัวเองได้เท่านั้น เรามองตาเขา ดูสิ้นหวัง </p>
<p>"ตอนที่เขาพูดเขาก็ร้องไห้ด้วยนะ ตอนที่เขาเล่าว่า ข้างในมันเป็นอย่างไรประมาณไหน เขาทนไม่ไหว เขาเล่าทั้งน้ําตาไปด้วย ตอนที่เราคุยกับเขาเราก็ร้องไห้ด้วย" น้องสาววารุณี เล่านาทีที่พี่สาวยืนยันกับตน</p>
<p>เรื่องอดอาหารตนบอกด้วยว่าหากอดแล้วมันก็จะต้องไปต่อ มันหันมากลับไม่ได้ ซึ่งมันจะทรมานมาก ตนพยายามย้ำให้เขาแน่ใจที่จะเลือกทางนี้จริงๆ ซึ่งเขายืนบันว่ารู้ จะตายก็ช่างมันไปไม่ได้สนใจอะไรแล้ว แค่คิดว่าอยู่กับการถูกกลั่นแกล้งไม่ไหวอีกแล้ว</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">แววตาที่เปลี่ยนไป ไม่อยากจะทนแล้ว </span></h2>
<p>ตนไปเยี่ยมพี่สาวบ่อยมาก เห็นความเปลี่ยนแปลงในทุกๆ วัน เห็นว่าแย่ลงแค่ไหน ซึ่งในอาทิตย์แรกที่ไปเยี่ยม รู้สึกว่าเขาสดใสกว่านี้ รู้สึกว่าแววตาเขายังมีความหวัง รู้สึกว่าเขามีกําลังใจจากคนข้างนอก กําลังใจจากเพื่อนๆ ยังช่วยพยุงเขาได้อยู่ แต่พอเริ่มยื่นประกันหลายครั้งขึ้น บ่อยขึ้น แล้วยังไม่ได้ออกสักที เมื่อไปเยี่ยมช่วงหลังๆ คือเราเห็นแววตาเขามันเปลี่ยนไปชัดมาก แววตามันบอกว่าเขาเหนื่อย แววตามันบอกว่าเขาไม่อยากจะทนแล้ว เมื่อประกันครั้งนั้นพอมันไม่ได้ เหมือนเขาผิดหวังมาก มากจนเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยจริงๆ</p>
<p>วารุณีเป็นคนที่ผอมอยู่แล้ว น้ำหนักอยู่ที่ 37-40 กิโลกรัม เมื่อเริ่มอด จากที่เราเคยเห็นเขาว่าเขาผอมมาก หลังอดแล้วเมื่อเข้าไปเยี่ยมแม้ชุดที่สวมจะใหญ่จนสังเกตยากว่าผอมลงขนาดไหน แต่ดูจากแขนก็คือ ผอมมากๆ ไม่เคยเห็นแขนเขาเล็กขนาดนี้มาก่อน  ส่วนหน้าเราไม่เห็น เนื่องจากเขาส่วมแมสก์ แต่ว่าจากการเยี่ยมช่วงหลังๆ ตาเขาเริ่มลึกโบ๋ลงไป ชัดเจนมาก การเคลื่อนไหวก็ช้าลงมากๆ</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53159746179_607b1bc7dc_b.jpg" /></p>
<p>ส่วนเรื่องถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์นั้น น้องสาววารุณี กล่าวว่า ขณะนั้นไม่มีคนโทรมาบอกเลย วันก่อนหน้านั้นตนไปเยี่ยม แล้วเขาบอกว่าเดี๋ยววันพรุ่งนี้จะไปหาหมอ เขาจะไปตรวจเลือด ให้หมอเช็คอาการว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตนรู้เท่านั้น จนมารู้อีกทีว่าอยู่โรงพยาบาลแม้ได้แจ้งทางกรมราชทัณฑ์ไปแล้ว ว่าหากมีเหตุฉุกเฉินหรือมีอะไรให้โทรศัพท์มาหาตน แต่ทางเรือนจํากลับไม่โทรมาหา ขณะที่ตนถามอาการหรือว่าอะไรเราก็ต้องเป็นคนที่โทรไปตลอด</p>
<p>"รู้ว่าทุกคนเป็นห่วง ด้วยความที่เราเป็นน้องสาว ด้วยความที่เป็นครอบครัว ก็คือ เราก็เป็นห่วงพี่เราอยู่แล้วล่ะจริงๆ แต่คือถ้าใครได้มาเห็นสีหน้าแววตา แล้วก็คําพูดของพี่สาวเราวันนั้น จะเข้าใจมากว่าทําไมเขาถึงตัดสินใจ จะเข้าใจเขาโดยที่ ไม่ตั้งข้อสงสัยว่าทําไมเขาทําแบบนี้" น้องสาววารุณี กล่าว พร้อมขอบคุณที่ทุกคนคอยให้กําลังใจและเป็นห่วงพี่สาวตน ตนได้บอกกับพี่สาวว่าเราเป็นห่วงเขา แล้วเพื่อนๆ ก็มีส่งข้อความเป็นห่วงเขากันจำนวนมาก เขารับรู้ความเป็นห่วงของทุกคนแล้ว อยากให้ช่วยเป็นแรงสนับสนุนเขา ช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้เขา ให้เขาได้มีโอกาสได้ประกันตัวออกมาใช้ชีวิตอิสระแบบที่ไม่ต้องโดนคุมขังแบบนี้</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C-0" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สัมภาษณ์[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-category field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">การเมือง[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สิทธิมนุษยชน[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-tags field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%B5" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">วารุณี[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">กระบวนการยุติธรรม[/url]</div><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B3" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">เรือนจำ[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%81" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">คุก[/url]</div><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%A1112" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ม.112[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สิทธิการประกันตัว[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-promote-end field-type-text field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even">ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/09/105743