[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
14 พฤษภาคม 2567 15:16:53 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: นิ ก า ย ฌ า ณ (เ ซ็ น, Z E N) :ฝนอิฐ ทำกระจกเงา  (อ่าน 1786 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 7.0.1 Firefox 7.0.1


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 04 ตุลาคม 2554 07:36:25 »



                     http://i48.photobucket.com/albums/f206/sadmonk/sadmonk1-3.jpg
นิ ก า ย ฌ า ณ (เ ซ็ น, Z E N) :ฝนอิฐ ทำกระจกเงา


นิ ก า ย ฌ า ณ (เ ซ็ น, Z E N)
ข้อปฏิบัติ ส ำ คั ญ ข อ ง นิ ก า ย ฌ า ณ (เ ซ็ น, Z E N)
โดย นายแพทย์ ตันม่อเซี้ยง

จงดูตัวอย่างในเรื่อง นั่งสมาธิของท่านภิกษุ หม่าจู่เต้าอิ๊ก
"ท่านภิกษุหม่าจู่เต้าอิ๊ก ได้บำเพ็ญสมาธิ ณ ภูเขาชงหวี้ซัน ท่านสมาธยาจารย์
ฮว้ายย่าง รู้ว่าท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยแห่งการตรัสรู้ จึงได้เดินทางมาหาและถาม
ท่านว่า "พระคุณเจ้านั่งสมาธิเพื่อหวังอะไร ?" ตอบว่า "เพื่อหวังเป็นพุทธะ"

ท่านสมาธยาจารย์ได้ฟังแล้ว ก็กำอิฐก้อนหนึ่ง มานั่งฝนบนก้อนหินที่หน้าอาราม
ท่านภิกษุหม่าจู่ เห็นดังนั้น ก็แปลกใจถามว่า "พระคุณเจ้าฝนอิฐนี้เพื่อทำอะไรหรือ ?"
ตอบว่า "เพื่อทำกระจกเงา "
ถามว่า "เอาอิฐมาฝนนี้จะสำเร็จเป็นกระจกได้หรือ ?"
ตอบว่า "ฝนอิฐไม่สำเร็จเป็นกระจกได้ การนั่งทำสมาธิจักสำเร็จเป็นพุทธะได้อย่างไร "
ถามว่า "ถ้าอย่างนั้นแล้วจะทำอย่างไรเล่า ?"
ตอบว่า "เหมือนกับลากเกวียน เมื่อเกวียนไม่เดินนั้น เราจะตีเกวียนหรือตีโคเล่า ?"
เมื่อได้ฟังดังนั้น ท่านหม่าจู่ ก็ได้บรรลุ

                   http://i48.photobucket.com/albums/f206/sadmonk/buddha12.jpg
นิ ก า ย ฌ า ณ (เ ซ็ น, Z E N) :ฝนอิฐ ทำกระจกเงา


7. การขจัดความสงสัยในเรื่อง "รู้ฉับพลันเป็นพุทธะ" ของนิกาย ฌาน
หากจะมีผู้สงสัยถามว่า นิกายฌาณกล่าวว่าเมื่อได้ตรัสรู้แล้ว ก็จักบรรลุเป็นพุทธะ
อย่างฉับพลันนั้นในโลกนี้จะมีเรื่องง่ายดายเช่นนี้หรือ ?

ทั้งนี้ถ้าอาศัยข้อความในคัมภีร์กล่าวว่า ผู้ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าจักต้องบำเพ็ญ
บารมี ตั้ง 4 อสงไขย แสนกัลป์จึงบรรลุได้ ข้อความที่กล่าวในนิกาย ฌาน จะมิเป็น
การขัดกับพระปริยัติธรรมหรือ ?

ขอตอบว่า ที่กล่าวในพระคัมภีร์นั้น พระพุทธเจ้าอย่างชนิดที่ค่อยๆ ปฏิบัติไป
แล้วค่อย ๆ รู้ไป กับที่กล่าวในนิกายฌาน ที่ว่า ตรัสรู้ฉับพลันเป็นพระพุทธะนั้น
หาเหมือนกันไม่ ข้อนี้อุปมาดั่งห้องที่มืดนั้น พลันสว่างขึ้น หรือ เหมือนกับ
กองฟืนที่สะสมมาตั้งปีๆ แต่อาศัยไฟเพียงนิดเดียว ก็ไหม้ได้หมด


ถ้ามีปัญหาถามมาอีกว่า ถ้าได้บรรลุเป็นพุทธะแล้วเหตุไรจึงไม่มีคุณปัญญาและ
อิทธิปาฏิหาริย์ เหมือนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเล่า ?

ตอบว่า "พระพุทธเจ้าในพระคัมภีร์นั้น เป็นพระพุทธเจ้าที่เห็นแจ้งสูงสุดอย่าง
แท้จริง ฉะนั้น จึงบริบูรณ์ ด้วยคุณลักษณะพิเศษต่าง ๆ มีมหาปุริสลักษณะอัน
งดงามและอิทธิปาฎิหาริย์

ส่วนพุทธะของนิกาย ฌานนั้น อุปมาดัง ทารกแรกคลอด จำต้องอาศัยการเลี้ยงดู
ซึ่งต้องกินเวลานาน จึงจักเป็นผู้ใหญ่ เพราะเหตุนั้น จึงไม่มีคุณปัญญาและ
อิทธิปาฏิหาริย์

อุปมาดั่งพระพุทธรูปที่ยังไม่ได้ลงรักปิดทอง ไม่มีมหาปุริสลักษณะอันงดงาม
แต่เราจะไปดูถูกไม่ได้ เพราะเหตุว่า ผู้ที่บำเพ็ญสมาธิ เมื่อได้เห็นแจ้งว่าตนเอง
คือพุทธะ และไม่มีวิจิกิจฉาใด ๆ เวลาใดแล้ว เวลานั้นเรียกว่า เขาได้ บรรลุ
ถึงปัญญาอันดั้งเดิม หรือเรียกว่า เข้าสู่ ศรัทธาภูมิ

ถ้าได้มีการทะนุถนอมรักษาภาวะนั้น ภาวะแห่งจิตก็นับวันยิ่งจะก้าวหน้ายิ่งขึ้น
คุณชาติแห่งปัญญาและอิทธิปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ก็จะมีมาเอง เหมือนกับน้ำเมื่อ
ไหลไปที่ไหนที่นั่นก็เป็นแม่น้ำ ลำคลองไป ท่านสังฆปรินายกที่ 6 จึงได้พูดว่า
"ถ้าตลอดชาตินี้ไม่ท้อถอยแล้ว ก็ (เป็นการแน่ที่จะต้อง) เข้าสู่อริยภูมิ"

และในศูรางคมสมาธิสูตร ท่านพระอานนท์ก็ได้กล่าวว่า
"ไม่จำเป็นที่จะต้องผ่านอสงไขยกัลป หรอก ในการที่จะบรรลุถึงธรรมกาย
(พุทธภาวะ)" ก็ต้องการให้มีความหมายเช่นนี้.

                             

8. สรุปรวบยอดแห่งข้อปฏิบัติ
ผู้ที่ได้ทำสมาธิเมื่อได้เห็นแจ้งแล้ว ก็ควรจะต้องมีมหาปณิธาน 4 ทั้งนี้เพื่อการ
บรรลุสัมโพธิอันสมบูรณ์ ถ้ามิฉะนั้นแล้วก็กลายเป็นผู้เอาแต่ตัวรอด อะไรคือ
มหาจตุรปณิธานเล่า คือ

1. สรรพสัตว์อันไม่มีขอบเขตนั้น เราจะต้องทำการโปรด ให้หมด
2. กิเลสทั้งหลายอันมากมายนั้น เราจะทำลายให้หมดสิ้น
3. พระธรรมอันไม่มีประมาณนั้น เราจะร่ำเรียนให้รอบรู้
4. พุทธภูมิอันสูงสุดนั้น เราจะต้องบรรลุให้ได้


ข้าแต่ท่านผู้ทรงคุณธรรรมทั้งหลาย ท่านทั้งหลายล้วนแต่รอบรู้ในพระปริยัติธรรม
และปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าพูดในวันนี้ เพียงแต่เป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าได้ศึกษามา ถ้าหาก
มีผิดพลาดที่ใดแล้ว ก็ขอท่านทั้งหลายได้โปรดอภัยด้วย และวันนี้ได้อาศัย
ธรรมสมาคมอันพิเศษนี้ ข้าพเจ้าขออำนวยพรให้ผู้ที่มาในสมาคมทั้งหลาย
จงได้บรรลุพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณทั่วหน้ากัน
.

                               http://i969.photobucket.com/albums/ae179/Basementpaints/lotus-flower-1.jpg
นิ ก า ย ฌ า ณ (เ ซ็ น, Z E N) :ฝนอิฐ ทำกระจกเงา


ที่มา : หนังสือ ศาสนาต่างนิกาย สำนักพิมพ์ ธรรมบูชา ถนนอัษฎางค์ ริมคลองหลอด
กรุงเทพฯ/2517
โดย mindsoul
:http://www.oknation.net/blog/print.php?id=115912

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น: คัดจากหนังสือ ศาสนาต่างนิกาย เ ซ็ น  Z E N ตันม่อเซี้ยง 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.332 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 02 พฤษภาคม 2567 22:43:47