'คนหนุ่มสาว' และการมีส่วนร่วมกับ 'การเรียนรู้จากการทำงาน'
<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-02-14 17:11</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้จัดทำข้อมูลชี้วัดใหม่เกี่ยวกับ 'การเรียนรู้จากการทำงาน' (Work-Based Learning : WBL) และอาชีวศึกษา โดยนำเสนอข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของคนหนุ่มสาวจาก WBL รวมถึงการฝึกหัดอาชีพ</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/49849588847_879291aad4_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: Marcel Crozet/ILO</span></p>
<p>การเรียนรู้จากการทำงาน (WBL) มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทักษะของคนทำงานให้สอดคล้องกับตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ใช่แค่เส้นทางสำหรับคนหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแรงงานในวัยอื่น ๆ ที่ต้องการยกระดับทักษะ (up-skill) หรือพัฒนาทักษะใหม่ (re-skill) อีกด้วย การส่งเสริมและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการฝึกหัดงานและการฝึกอบรมจากการทำงานอื่น ๆ สามารถช่วยลดอัตราการว่างงานของคนหนุ่มสาว, อำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ตลาดแรงงาน, เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันขององค์กร และช่วยให้แรงงานพัฒนาทักษะที่จำเป็นในโลกของการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว</p>
<p>เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในการประชุมขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้รับรอง
'ข้อแนะนำด้านงานฝึกหัดที่มีคุณภาพปี 2023 (ฉบับที่ 208)' ซึ่งเป็นแนวทางโดยละเอียดสำหรับประเทศสมาชิกในการส่งเสริมและกำกับดูแลแรงงานฝึกหัด</p>
<h2><span style="color:#3498db;">คนหนุ่มสาวที่อยู่ระบบการศึกษา การฝึกอบรม และผู้ที่ขาดโอกาส</span></h2>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/49845919988_a6daac6871_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: Marcel Crozet/ILO</span></p>
<p>การศึกษาที่มีคุณภาพและโอกาสเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้คนในสังคม นอกจากนี้ยังเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนผ่านอย่างยุติธรรมไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกเพียงมีสัดส่วนคนรุ่นใหม่ (อายุ 15 ถึง 24 ปี) ประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่อยู่ในระบบการศึกษาและการฝึกอบรม</p>
<p>มีความเหลื่อมล้ำอย่างมากระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยอัตราการเข้าร่วมในระบบการศึกษามีตั้งแต่เพียง 20% ไปจนถึงเกือบ 80% ในภูมิภาคต่าง ๆ อัตราการเข้าร่วมสูงสุดอยู่ในยุโรปและเอเชียกลาง คนหนุ่มสาวเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ มากกว่า 66% และต่ำสุดในแอฟริกาที่ 45%</p>
<p>แม้ว่าผู้หญิงวัยรุ่นจะมีแนวโน้มที่จะเรียนหนังสือหรือฝึกอบรมมากกว่าชายวัยรุ่นในทุกภูมิภาค ยกเว้นแอฟริกา แต่สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมีผลลัพธ์ด้านการจ้างงานที่ดีกว่า โดยทั่วโลก มีเพียง 48.6% ของหญิงวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปี ขึ้นไป) ที่ทำงานแบบได้รับค่าจ้าง เมื่อเทียบกับ 75.6% ของชายวัยผู้ใหญ่</p>
<p><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53524555673_1a1699d119_o_d.png" /></p>
<h2><span style="color:#3498db;">'อาชีวศึกษา' ยังคงมีคำถาม</span></h2>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/51062675406_f0bbb2fb72_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: Nisreen Bathish/ILO</span></p>
<p>อาชีวศึกษามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทักษะเฉพาะทาง แต่ทั่วโลกมีคนหนุ่มสาว (อายุ 15-24 ปี) เพียง 13.6% เท่านั้นที่จบการศึกษาด้านเทคนิคและอาชีวศึกษา โดยภูมิภาคที่มีสัดส่วนสูงสุด คือ ยุโรปและเอเชียกลาง ที่ 19.0% และต่ำสุดคือ แอฟริกา ที่ 9.2% ตัวเลขเหล่านี้ยังสะท้อนถึงสัดส่วนของประชากรวัยทำงาน (อายุ 15 ปีขึ้นไป) ที่สำเร็จการศึกษาด้านเทคนิคและอาชีวศึกษาอีกด้วย ซึ่งมีอัตราสูงสุดใน สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก บรูไนดารุสซาลัม ออสเตรีย และเซอร์เบีย โดยมีประชากรวัยทำงานมากกว่า 50% ที่สำเร็จการศึกษาด้านนี้</p>
<p><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53524843370_c4c596050f_o_d.png" /></p>
<p>ในประเทศส่วนใหญ่ (2 ใน 3 จากทั้งหมด 66 ประเทศ) อาชีวศึกษามีแนวโน้มแพร่หลายมากที่สุดในกลุ่มประชากรที่มีระดับการศึกษาระดับปานกลาง</p>
<p><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53524742439_1f84973fce_o_d.jpg" /></p>
<h2><span style="color:#3498db;">การเรียนรู้จากการทำงาน (Work-based learning) </span></h2>
<p>จากข้อมูลของ 85 ประเทศ คนหนุ่มสาวอายุ 15-24 ปี ประมาณ 25 คนจาก 1,000 คน เข้าร่วมโครงการฝึกงานหรือฝึกอบรม (เช่น แรงงานฝึกหัด หรือ นักศึกษาฝึกงาน) อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้มีความแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละประเทศ รวมถึงกลุ่มอายุด้วย</p>
<p>สวิตเซอร์แลนด์มีคนหนุ่มสาวมีส่วนร่วมกับ 'การเรียนรู้จากการทำงาน' (Work-based learning) สูงที่สุด (225 คน ต่อ 1,000 คน) รองลงมาคือ เซียร์ราเลโอเน (140 คน ต่อ 1,000 คน) ออสเตรีย (136 คน ต่อ 1,000 คน) และฝรั่งเศส (116 คน ต่อ 1,000 คน)</p>
<p>น่าสังเกตว่าวัยรุ่นชายมีโอกาสมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้จากการทำงานมากกว่าวัยรุ่นหญิงเกือบ 2 เท่า</p>
<p>นอกจากนี้ คำนิยามของการฝึกงานและฝึกอบรมในแต่ละประเทศยังมีความแตกต่างกันมาก ดังนั้นประสบการณ์การเรียนรู้จากการทำงานจริงจึงแตกต่างกันไป ตั้งแต่การฝึกงานเพียงไม่กี่วันเพื่อสัมผัสกับสถานที่ทำงานจริง ไปจนถึงการฝึกงานในสถานประกอบการในแต่ละภาคเรียน เป็นต้น</p>
<p><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53524768784_3e0d81f320_o_d.png" /></p>
<p>แม้การเรียนรู้จากการทำงาน จะเป็นวิธีสำคัญในการพัฒนาทักษะเฉพาะทาง แต่ตัวเลขกลับชี้ให้เห็นว่าคนทำงานวัยผู้ใหญ่ (อายุ 15-24 ปี) มีโอกาสเข้าร่วมน้อยกว่าคนหนุ่มสาว โดยมีผู้ใหญ่เพียง 14 คน ต่อคนหนุ่มสาว 1,000 คน เท่านั้นที่มีโอกาสมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้จากการทำงาน</p>
<p><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53524469761_80c4275d0a_o_d.png" /></p>
<h2><span style="color:#3498db;">การขาดโอกาสในการเรียนรู้จากการทำงานที่ได้รับค่าตอบแทน</span></h2>
<p>ข้อมูลจาก 31 ประเทศที่แยกประเภทผู้เรียนรู้จากการทำงานระหว่างได้รับค่าตอบแทนและไม่ได้รับค่าตอบแทนในกลุ่มคนหนุ่มสาว (อายุ 15-24 ปี) แสดงให้เห็นว่า ผู้ฝึกงานส่วนใหญ่ในประเทศกำลังพัฒนาไม่ได้รับค่าตอบแทน ตัวอย่างเช่น ในกัมพูชา กานา มาซิโดเนียเหนือ เซียร์ราเลโอเน ติมอร์-เลสเต กินี-บิสซา ยูกันดา และซิมบับเว ผู้เรียนรู้จากการทำงานที่ได้รับค่าตอบแทนน้อยกว่า 10%</p>
<p>ในทางกลับกัน ผู้เรียนรู้จากการทำงานมากกว่า 95% ในออสเตรีย แคเมอรูน สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักรได้รับค่าตอบแทน</p>
<p>เกณฑ์สำคัญประการหนึ่งตาม 'ข้อแนะนำด้านงานฝึกหัดที่มีคุณภาพปี 2023 (ฉบับที่ 208' คือ การฝึกหัดดังกล่าวต้องรวมถึง "ค่าจ้างหรือค่าตอบแทนทางการเงินอื่น ๆ"</p>
<p><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53523583767_b1dc6e6b98_o_d.png" /></p>
<h2><span style="color:#3498db;">บทสรุป</span></h2>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/51718320322_33cb4bf21f_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: Berke Araklı /ILO</span></p>
<p>จาก ข้อแนะนำด้านงานฝึกหัดที่มีคุณภาพปี 2023 (ฉบับที่ 208) ฉบับใหม่ของ ILO และตัวชี้วัดใหม่ ๆ ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับปรุงนโยบายเพื่อให้แน่ใจว่าการเรียนรู้จากการทำงานนั้นมีประสิทธิภาพและครอบคลุม
ซึ่งความเหลื่อมล้ำด้านวัยและเพศที่ยังมีอยู่นั้น ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการปฏิรูป</p>
<p>เพื่อลดช่องว่างเหล่านี้ ผู้กำหนดนโยบายควรให้ความสำคัญกับการเข้าถึงโอกาสในการเรียนรู้จากการทำงานอย่างเท่าเทียมกันในทุกกลุ่มประชากร ไม่เพียงแค่ในขั้นตอนการคัดเลือกแต่ตลอดการฝึกอบรม ประเมิน และการเปลี่ยนผ่านสู่การทำงาน สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ต้องการเพิ่มจำนวนหลักสูตรการศึกษาหรือโครงการที่มีอยู่เท่านั้น แต่ยังต้องปรับปรุงนโยบายเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเข้าถึงได้อย่างครอบคลุม โดยคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มประชากรที่เปราะบาง</p>
<p>ริเริ่มกิจกรรมที่มุ่งเน้นไปที่ชุมชนที่ถูกทอดทิ้ง พื้นที่ชนบท และผู้พิการ ควรได้รับความสำคัญ เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ทุกคนมีโอกาสอย่างเท่าเทียมในการมีส่วนร่วมและประสบความสำเร็จในการเรียนรู้จากการทำงาน</p>
<p>นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาการเรียนรู้จากการทำงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลต้องมีนโยบายที่มั่นใจว่าสถานที่ทำงานสำหรับผู้เรียนมีความปลอดภัย ผู้เรียนได้รับสิทธิและการคุ้มครองทางสังคมเช่นเดียวกับคนทำงานประจำอื่น ๆ และได้รับค่าตอบแทนอย่างยุติธรรม</p>
<p><strong>ที่มา:</strong>
Insights into youth participation in work-based learning (Valentina Stoevska, ILOSTAT, 24 January 2024)</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/02/108064