[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue) => ข้อความที่เริ่มโดย: มดเอ๊ก ที่ 04 พฤศจิกายน 2553 05:23:48



หัวข้อ: ประสบการณ์สุนทรียสนทนา นำพาให้ลื่นไหลโดย ดร. วรภัทร์
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊ก ที่ 04 พฤศจิกายน 2553 05:23:48
ภายใต้แรงกดดันมหาศาลของการแข่งขัน การทำงานจึงต้องเคร่งเครียดไปด้วย
ความเครียดในที่ทำงาน ส่งผลให้ความสัมพันธ์ในองค์กรแย่ลง
การพูดคุยกันดีๆ หาได้ยากขึ้น
เพราะแต่ละคนมีเป้าหมายที่ต้องทำให้บรรลุ และเป้าหมายนั้นอาจไม่สอดคล้องกัน
ความเครียดจึงเกิดขึ้น ความขัดแย้งจึงเกิดขึ้น
องค์กรที่มีความเครียดสูงทำให้เกิดการสูยเสียบุคลากรที่ดีไปได้ง่ายๆ เพราะการแข่งขันนั้นมาในรูปแบบของสงครามการดึงตัว แย่งตัว (พนักงาน)ด้วย
เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมได้จัดการฝึกอบรม เรื่อง สุนทรียสนทนา โดยเชิญอาจารย์ วรภัทร์ ภู่เจริญ มาเป็นกระบวนกร เพื่อสร้างพื้นที่แห่งความรักความไว้วางใจให้เกิดขึ้นที่องค์กรให้มากขึ้น
รูปแบบการจัดห้อง เป็นห้องโล่งๆ จัดเก้าอี้ล้อมเป็นวงกลม กรณีนี้ความอยากให้การสนทนานั้นเป้นไปแบบลื่นไหล จึงขอร้องให้โรงแรมเวสทินแกรนด์ จัดผ้าปูพื้นเผื่อว่าจะเกลือกกลิ้งเล่นกันได้ยามวงสนทนาลื่นไหลถึงขีดสุด
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/1.jpg)

เริ่มต้นด้วย กรรมการผู้จัดการ คุณ C.M. Hsu ให้โอวาทเรื่องความสำคัญของผู้นำ เนื่องจากกลุ่มนี้เป้นผู้บริหารระดับสูงขององค์กร
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/2.jpg)

อาจารย์วรภัทร์ เริ่มต้นการ Check-in เพื่อให้ทุกคนเข้าสู่บรรยากาศของ Dialogue ซึ่งตอนนี้ทุกคนดูจะเกร็งๆ
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/3.jpg)

อาจารย์ทั้งยั่ว แหย่ ให้อัตตาของเราคุกรุ่นขึ้นมา และ เชิญชวนให้พวกเราอออกนอกกะลามาดูโลกกัน
 
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/4.jpg)

ช่วงแรกของ สุนทรียสนทนา ก็เป็นการสังเกต วางมาด ยังไม่มีส่วนร่วมมากนัก ซึ่งวิทยากรจะต้องพยายามสร้างพื้นที่แห่งความไว้ใจ เอื้อให้เกิดการพูดคุย
 
จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นที่ ๒ ของวงสนทนา ในขั้นนี้แต่ละคนก็แสดงอัตตา ตัวตนออกมา
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/5.jpg)

อาจารย์เชิญชวนพวกเรา เปิดวงคุย ด้วยการแนะนำตนเอง ความคาดหวัง และเล่นเกมเพื่อเชื่อมต่อการสนทนาเป็น พหุปัญญา คือปัญญาร่วม
 
ขั้นนี้คือ ขั้นที่ ๓ คือการไหลลื่น เริ่มสนุก
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/6.jpg)

เมื่อลื่นไหลเต็มที่ก็เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/7.jpg)

กติกาอย่างหนึ่งของ สุนทรียสนทนาก็คือ การใช้ Indian Stick คือ เครื่องมือในการกำหนดคนพูด ใครที่มีไม้ หรือสัญลักษณ์นี้อยู่ในมือจึงมีสิทธิ์พูด ส่วนที่เหลือ ตั้งใจฟัง
 
ฟังแบบไม่ตัดสิน แขวนการตัดสินไว้
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/8.jpg)

เมื่อวงสนทนาลื่นไหล ปัญญาก็ไหลลื่น
 
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/9.jpg)

จบการสุนทรียสนทนาวันนั้น
 
เราได้แนวคิด ประสบการณ์ที่ดีมาก อย่างเช่น
อาจารย์สอนให้เรามองเห็นลักษณะการดำรงอยู่ขององค์กรผ่านโลกทัศน์การเปรียบเทียบแบบแสบๆคันๆเช่น
 
องค์กรยุคแรก แบบ ค๊อตเล่อร์ 1.0 คือ แบบอยู่รอด คือองคกรไม่สนใจอะไรอื่นนอกจากความอยู่รอดขององค์กร ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไม่รอด เพราะเห็นแก่ตัว งกๆเค็มๆ
 
องค์กรยุคที่ ๒ คือ คอตเล่อร์ 2.0 แบบอยู่ร่วม คือ การอยู่ร่วมกันสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม คิดถึงหัวอกพนักงาน นัยว่าเป็นแบบ ความรับผิดชอบต่อสังคม CSR นั่นเอง
 
แบบสุดท้าย คือ ค๊อตเล่อร์ 3.0 แบบอยู่เพื่อค้นหาความหมาย ความหมายของชีวิต ความหมายของการดำรงอยู่ ซึ่งนับเป็นเป้าหมายที่บรรเจิด มุ่งสู่โลกุตรธรรมอย่างกลมกลืน ไม่ต้องรอให้แก่ก่อนจึงเข้าวัด เข้าหาธรรมะ
 
สุดท้ายบรรดาลูกศิษย์ก็มาขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับมหาคุรุท่านนี้
 
เริ่มด้วย ผู้จัดอย่างกระผม เป็นพื้นที่ให้คนข้างหลังครับ
 
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/10.jpg)

ถัดมา พี่สมนึก ผู้จัดการฝ่ายขาย (Nation Sales Manager) และ พี่อ้น ฝ่าย Professional Service ที่ให้วิชาการแก่ลูกค้าในโรงพยาบาล
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/11.jpg)

ต่อมา ศุภกิจ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการขายตลาดอุตสาหกรรม
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/12.jpg)

คนต่อมา โจ พีระพงศ์ ผู้จัดการโรงงานลาดหลุมแก้ว ลูกศิษย์ที่วิศวะ จุฬา
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/13.jpg)

ต่อมาก คุณฟู ผู้จัดการส่วน IT
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/14.jpg)

ปิดท้ายที่พี่รุจิวรรณ ผู้จัดการส่วนเทคนิคและบริการลูกค้า
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/611/29611/images/WorapatLeaderConf/15.jpg)

งานนี้จบแบบชัดเจน เพื่อลื่นไหลต่อ
และเราจะนำการสนทนาแบบนี้มาใช้ในการ คุยงาน ประชุม และพัฒนาลูกน้องครับ
 
 
http://www.oknation.net/blog/hrd/2010/07/13/entry-1 (http://www.oknation.net/blog/hrd/2010/07/13/entry-1)