ทำไม พระสงฆ์ถึงมาชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมาย ?
‘วันมาฆบูชา’ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดง โอวาทปาฏิโมกข์ เป็นครั้งแรก แก่พระสงฆ์ 1,250 รูป ที่มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย จึงเป็นวันที่พุทธศาสนิกชนชาวพุทธ จะพร้อมใจกันทำบุญ เพื่อระลึกถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ โดยปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 นิยมเดินทางไปไหว้พระ ทำบุญ ในตอนเช้า และเวียนเทียนในตอนค่ำ
เกร็ดความรู้ ประวัติความเป็นมาของ วันมาฆบูชา หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ทรงประกาศพระศาสนา และส่งพระอรหันต์สาวกออกไปจาริกเพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนายังสถานที่ต่างๆ ล่วงแล้วได้ 9 เดือน เมื่อเสร็จพุทธกิจแสดงธรรมที่ถ้ำสุกรขาตาแล้ว ได้เสด็จมาประทับที่วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ หรือประเทศอินเดียในปัจจุบัน ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์" แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก อันเป็นหลักคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา โดยได้มีเหตุการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้นพร้อมกันถึง 4 ประการ คือ
1.ตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
2.มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
3.พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6
4.พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ "เอหิภิกขุอุปสัมปทา"
และเพราะเกิดเหตุอัศจรรย์ 4 ประการข้างต้น ทำให้วันมาฆบูชา เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" ซึ่งมีความหมายตามการแยกศัพท์คือ
- จาตุร แปลว่า 4
- องค์ แปลว่า ส่วน
- สันนิบาต แปลว่า ประชุม
ดังนั้น "จาตุรงคสันนิบาต" จึงหมายความว่า "การประชุมด้วยองค์ 4" หรือมีเหตุการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นพร้อมกันนั่นเอง
ทำไม พระสงฆ์ถึงมาชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมาย ? ในวันพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3) ตามคติพราหมณ์ เป็นวันพิธีศิวาราตรี วันสำคัญของศาสนาพราหมณ์ อันเป็นศาสนาที่เคยนับถือของพระสาวกอยู่แต่เดิม โดยในวันนี้เหล่าผู้ศรัทธาพราหมณลัทธินิยม จะทำการบูชาพระศิวะด้วยการลอยบาปหรือล้างบาปด้วยน้ำ แต่มาบัดนี้ได้หันมานับถือพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าแล้ว จึงเดินทางไปเข้าเฝ้าบูชา เพื่อฟังพระสัทธรรมจากพระพุทธเจ้าแทน ทำให้พระอรหันต์เหล่านั้นซึ่งเคยปฏิบัติศิวาราตรีอยู่เดิม เดินทางมารวมกันโดยมิได้นัดหมายนั่นเอง