จากกระทู้กฎแห่งกรรมกำลังตามสนองอภิสิทธิ์ สุเทพ กษิต สนธิ และแกนนำพันธมิตรhttp://www.yantip.com/board/view ... 3576&extra=page%3D2
# ผมphonsak เขียนว่า:
หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเป็นคนพูดว่า "พระเจ้าตากสินไปนิพพานแล้ว" แต่คุณต้องเข้าใจว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นพระอรหันต์เท่านั้น ไม่ใช่พระพุทธเจ้า ท่านจึงมีมิจฉาทิฏฐิได้ มีอีกหลายเรื่องที่หลวงพ่อท่านเข้าใจผิด แต่ผมคงไม่ต้องการสืบต่อไปในเรื่องนั้น
คุณocto เขียนว่า: phonsak
พระพุทธเจ้า ก็เป็นพระอรหันต์ ครับ เคยสวดมนต์แปลใหมครับ พระพุทธเจ้า เป็นพระอรหันต์ ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง..... น่ะครับ
หากเป็นพระอรหันต์แล้ว มิจฉาทิฏฐิ นั้นไม่มีแล้วครับ
ผมคิดว่าคุณphonsak พูดเพราะขาดสติ และเพราะ......ไม่พูดถึงดีกว่าครับ...
พระอรหันต์ไม่มีมิจฉาทิฏฐิทางธรรมแล้ว แต่ยังมีมิจฉาทิฏฐิทางโลกอยู่ตอบคุณ octo และเพื่อนสมาชิกที่ยังไม่เข้าใจเรื่องพระอรหันต์ และพระพุทธเจ้า
พระอรหันต์: พระอรรถกถาจารย์แสดงความหมายของพระอรหันต์ไว้ 5 นัย คือ
1.ไกลจากกิเลส 2. กำจัดกิเลสได้หมดสิ้น 3. เป็นผู้หมดสังสารวัฏ คือ การเวียนว่ายตายเกิด 4. เป็นผู้ควรแก่การบูชาพิเศษของเทพและมนุษย์ทั้งหลาย 5. ไม่มีที่ลับในการทำบาป ไม่มีความชั่วเสียหายที่จะต้องปิดบัง
ด้วยเหตุนี้ พระสุกขวิปัสสก (ไม่มีญาณวิเศษใดๆ นอกจากรู้การทำอาสวะให้สิ้นไป (อาสวักขยญาณ) อย่างเดียว) ได้อานิสงค์จากการที่ปฏิบัติวิปัสสนาเพียงอย่างเดียว
อาสวักขยญาณ = ปฏิบัติได้ จนถึงขั้นจิตละกิเลสทุกชนิด ไม่มีความยึดมั่นถือมั่นว่ามีตัวกู ของกู = ได้ปัญญาวิมุตติ (อรหันต์) ไม่มีมิจฉาทิฏฐิในเรื่องทางโลกุตตระธรรมอีกต่อไป แต่พระอรหันต์เหล่านี้ยังมีมิจฉาทิฏฐิทางโลกอยู่ มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ไม่มีมิจฉาทิฏฐิทางโลก คือ มีสัมมาทิฏฐิทางโลก แต่ส่วนใหญ่พระองค์ท่าน ไม่ต้องการพูดเรื่องเหล่านั้น จึงเรียกว่า "ใบไม้นอกกำมือ"
ผมได้ยกตัวอย่างหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่มีมิจฉาทิฏฐิ เข้าใจเรื่องราวทางโลกผิดๆ เช่น เรื่องพระเยซู พระเจ้าตากสิน ฯลฯ ที่ผมบอกแล้วว่า ผมไม่ต้องการเขียนเรื่องเหล่านั้น
พระอรหันต์ที่ได้อาสวักขยญาณ แต่ยังมีมิจฉาทิฏฐิทางโลกอยู่ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ หลวงตามหาบัว หลวงตามหาบัวไม่มีมิจฉาทิฏฐิทางธรรมแล้ว แต่ท่านยังมีมิจฉาทิฏฐิทางโลกอยู่
หลักฐาน หลวงตามหาบัวเคยถูกลูกศิษย์ คือ นายสนธิ ลิ้ม...หลอกให้ด่าทักษิณ แล้วอัดเทปเก็บไว้ เอาไปเผยแพร่ จนหลวงตามหาบัวเข็ดเขี้ยวไปจนตาย ไม่กล้าพูดเรื่องการเมืองอีก ใครหลอกถามอะไรท่าน ท่านก็ไม่เอาแล้ว
พระอรหันต์ที่ไม่มีความเข้าใจผิดทางธรรมและทางโลก มีสัมมาทิฏฐิอยู่ทุกกาล(อกาลิโก) เรียกว่า "สัพพัญญู" คือ ผู้ที่เป็นพระพุทธเจ้า
พระอรหันต์สุกขวิปัสสโก ท่านเป็นผู้หลงผิด(มิจฉาทิฏฐิ)ทางโลกมากที่สุด ส่วนพระอรหันต์ประเภทอื่นก็มีมิจฉาทิฏฐิทางโลกลดน้อยลงตามลำดับ พระอรหันต์เตวิชโช
(ผู้ได้วิชชา 3 คือ 1.บุพเพนิวาสานุสสติญาณ (รู้ระลึกชาติได้) 2.จุตูปปาตญาณ (รู้จุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย)อันเป็นที่เกิดจากการเข้าใจในกฎแห่งกรรมอย่างแท้จริงจึงรู้เหตุการณ์ที่จะเป็นไปได้ทั้งสิ้น 3.อาสวักขยญาณ (รู้ทำอาสวะให้สิ้น)) มีมิจฉาทิฏฐิทางโลกน้อยกว่าพระอรหันต์สุกขวิปัสสโก ส่วนพระอรหันต์ประเภทพระฉฬภิญญะ(ได้อภิญญา 6) และประเภทปฏิสัมภิทัปปัตตะ จะมีมิจฉาทิฏฐิทางโลกน้อยกว่าเพื่อน
ปฏิสัมภิทัปปัตตะ = ผู้บรรลุปฏิสัมภิทา 4 คือแตกฉานในความรู้อันยิ่ง 4 ประการ ได้แก่ อัตถปฏิสัมภิทา ความแตกฉานในอรรถ ธัมมะปฏิสัมภิทาความแตกฉานในธรรม นิรุตติปฏิสัมภิทาความแตกฉานในภาษา ปฏิภาณปฏิสัมภิทา ความแตกฉานในปฏิภาณไหวพริบ
สรุปพระพุทธเจ้า เป็นพระอรหันต์ประเภทเดียวที่ไม่มีมิจฉาทิฎฐิทางธรรมและทางโลก = "สัพพัญญู"
พระอรหันต์ประเภทอื่นล้วนแล้วแต่ไม่มีมิจฉาทิฎฐิทางธรรม = ได้อาสวักขยญาณ แต่ยังมีมิจฉาทิฏฐิทางโลกอยู่ โดย พระอรหันต์สุกขวิปัสสโก มีมิจฉาทิฏฐิทางโลกมากที่สุด ตามด้วยพระอรหันต์เตวิชโช พระอรหันต์ฉฬภิญญะ(ได้อภิญญา 6) และพระอรหันต์ปฏิสัมภิทัปปัตตะ