ปู่เย็น เฒ่าทระนง แห่งแม่น้ำเพชรบุรี เล่าถึงความรู้สึกที่มีต่อแม่น้ำเพชร ซึ่งได้สะท้อนให้รู้ว่า แม่น้ำเพชรบุรีแหล่งนี้ในอนาคตจะเป็นเช่นไร ถ้าวันนี้ไม่ได้รับการพัฒนาคะจากการที่ทีมข่าวได้เสนอเรื่องราวของ ปู่เย็น แก้วมะณีอายุ 105 ปี เฒ่าทระนง แห่งแม่น้ำเพชรบุรี ที่ใช้ชีวิตอยู่ในเรือกลางแม่น้ำเพชรบุรีมากว่า 10 ปี หลังจากภรรยาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2536 โดยประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองด้วยการหาปลาขายแบบการขึงตาข่ายบริเวณแม่น้ำ เพชรบุรี ซึ่งปัจจุบันขายปลาได้วันละ 30-70 บาท
ปู่เย็น ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังอย่างเหนื่อยล้าว่า อดีตแม่น้ำเพชรบุรีนั้นมีความอุดมสมบูรณ์ แต่เดี๋ยวนี้ลำคลองตั้งแต่บริเวณวัดท่ากระเทียม อ.ท่ายาง ตลอดเรื่อยมาถึง อ.เมือง นั้นมีความสกปรกมาก น้ำที่เคยอาศัยใช้ดื่ม เดี๋ยวนี้ไม่กล้าดื่มแล้วเพราะเกรงว่าจะทำให้ท้องเสีย ปู่เย็น ยังได้เล่าต่ออีกว่า ทุกวันนี้ได้อาศัยน้ำโพลาลิดดื่ม แต่ไม่รู้สึกหนักท้อง ผิดกับน้ำเพชรในสมัยก่อนเมื่อนำมาดื่มจะรู้สึกอิ่มและหนักท้อง และแม่น้ำเพชรขณะ บางจุดจะมีกอซอล้มขวางทำให้มีความลำบากในการล่องเรือเป็นอย่างมากปู่เย็น ยังได้เล่าถึงการพัฒนาแม่น้ำเพชรบุรีของหน่วยงานต่างๆ ที่ผ่านมา ว่า มีการพัฒนาไม่ทั่วถึง ทำแบบเอาหน้าเอาตาและเอาใจเจ้านายเท่านั้น เมื่อเจ้านายไม่เห็นจะทำเหมือนผักชีโรยหน้า ทุกวันนี้ขยะก็มากมายทำให้ลำบากในการวางตาข่ายดักปลาเท่าที่ทีมข่าวได้พูด คุยกับปู่เย็น จะเห็นว่าปู่เย็น นั้นมีความคิดที่มีความสร้างสรรค์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งน้อยคนนักที่จะมีความรู้สึกดีดีกับแม่น้ำเพชรบุรี อันเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชาวจังหวัดเพชรบุรี ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน การพูดคุยกับ ปู่เย็น ในครั้งนี้ ทำให้ทราบถึงกฎเกณฑ์ในการดำรงชีวิต เป็นการต่อสู้เพื่อการดิ้นรนให้อยู่รอดไม่ใช่เป็นเรื่องยากลำบาก ซึ่งก็เปรียบเหมือน ชีวิตของ ปู่เย็น ที่กำลังต่อสู้เพื่อการอยู่รอด โดยการอาศัยแม่น้ำเพชรบุรี หาปลาขายเพื่อเลี้ยงชีพ เหมือนกับแม่น้ำเพชรบุรี ขณะนี้ต้องทนเเบกรับกับสิ่งสกปรกที่มนุษย์ได้กระทำเอาไว้และไร้คนเหลียวแล ที่จะพัฒนาจนนำไปสู่เกิดการเน่าเสีย เมื่อนั้น ปู่เย็น และคนทั้งจังหวัดคงจะอาศัยแหล่งน้ำอันเป็นประวัติศาสตร์แหล่งนี้ในการดำรง ชีพให้อยู่รอดต่อไม่ได้ ไปเยี่ยมเยียนอยู่เรื่อยๆและอีกไม่กี่วันเรือพระราชทานของปู่เย็นก็จะสร้าง เสร็จแล้วและปู่เย็น ยังยืนยัน รักษาสัจจะว่าจะกลับบ้านเมื่อถึงหน้าเดือนหก
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นาย ประสงค์ พิทูรกิจจา เปิดเผยถึงเรือพระราชทานที่ นายเย็น แก้วมะณี อายุ 105 ปี ซึ่งอาศัยหลับนอนอยู่ในเรือ และประทังชีพด้วยการหาปลาขาย จะได้ รับพระ ทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ว่าเป็นฝีมือการออกแบบของวิทยาลัยการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา เป็นเรือกว้าง 1 เมตร ยาว 6 เมตร มีประทุนหลังคากันแดดกันฝน ด้านครึ่งเรือตอนท้ายจะมีผ้ามุ้งสำหรับกันยุงและสิ่งอำนวยความสะดวกในเรือ อย่างครบครัน เช่น ยารักษาโรค และพาชนะจำเป็นสำหรับการอุปโภคบริโภค ตลอดเครื่องใช้จำนวนหนึ่ง สำหรับตัวเรือจะเป็นเนื้อไฟเบอร์กลาสตลอดทั้งลำ มีน้ำหนักเบาสามารถลอยตัวอยู่ในน้ำตื้นได้ โดยจะสร้างเสร็จภายในไม่เกิน 20 วัน หมายเหตุ..............ไปอ่านต่อที่...................ห้องสมุด สุขใจ น่ะจ๊ะ........................
chapter 2 click herehttp://www.sookjai.com/index.php?topic=1957.msg8483;topicseen#new