16 พฤษภาคม 2567 07:31:54
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ห้องสมุด
.:::
เบื้องหลังอันน่าสลด พระศพพระเจ้าธีบอไม่ได้หวนคืนพม่า
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: เบื้องหลังอันน่าสลด พระศพพระเจ้าธีบอไม่ได้หวนคืนพม่า (อ่าน 438 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2334
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
เบื้องหลังอันน่าสลด พระศพพระเจ้าธีบอไม่ได้หวนคืนพม่า
«
เมื่อ:
29 เมษายน 2564 20:08:22 »
Tweet
ภาพถ่ายสุสานของพระเจ้าธีบอ และพระนางศุภยากะเล ในรัตนคีรี เมื่อปี 2019 ภาพโดย
Aniket Konkar / Wikimedia Commons
เบื้องหลังอันน่าสลด พระศพพระเจ้าธีบอไม่ได้หวนคืนพม่า ทั้งที่สิ้นพระชนม์กว่าร้อยปี
ที่มา : ศิลปวัฒนธรรม
เผยแพร่ : วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน พ.ศ.2564
พม่าถูกอังกฤษเข้ายึดครองเมื่อ ค.ศ.1885 ภายหลังจากสงครามครั้งที่ 3 ระหว่างพม่ากับอังกฤษจบลงในระยะเวลาอันสั้นในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ กองทัพอังกฤษเข้ายึดมัณฑะเลย์ และเนรเทศกษัตริย์และพระราชินีพม่าไปพำนักที่อินเดีย
ณ ที่พำนักในต่างแดน พระเจ้าธีบอ (บางแห่งเขียน “พระเจ้าสีป่อ”) สิ้นพระชนม์ในเมืองรัตนคีรีเมื่อ ค.ศ.1916 หีบพระศพของพระองค์ถูกเชิญไปไว้ในที่เก็บคล้ายสุสานในบริเวณวังเจ้า ก่อนจะถูกเคลื่อนย้ายไปไว้ที่สุสานแห่งใหม่ในภายหลัง แต่จนถึงวันนี้พระศพของพระองค์ยังไม่ได้หวนกลับคืนพม่า
ก่อนหน้าพม่าจะถูกอังกฤษยึดครอง สถานการณ์ภายในประเทศเกิดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ สถานการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีนักถูกซ้ำเติมจากเหตุการณ์ปะทะกับอังกฤษในอินเดีย สงครามกับอังกฤษในครั้งแรกจบลงด้วยสัญญาสงบศึกใน ค.ศ.1824 (พ.ศ.2367)
สงครามครั้งที่ 2 เมื่อ ค.ศ.1852 (พ.ศ.2395) จบลงด้วยผลลัพธ์ที่พม่าตอนล่างถูกผนวกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ สงครามครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นใน ค.ศ.1885 (พ.ศ.2428) อังกฤษเข้าถึงมัณฑะเลย์และยกพลขึ้นบก ตั้งแถวเคลื่อนมาที่พระราชวัง เจรจาให้พระเจ้าธีบอมอบตัว แม่ทัพอังกฤษให้เวลาพระเจ้าธีบอจัดเก็บของใช้ส่วนตัว 45 นาที จากนั้นก็ควบคุมตัวพระเจ้าธีบอออกจากพระราชวัง เนรเทศพระเจ้าธีบอและพระนางศุภยาลัต พระราชินีไปอินเดีย
นามอันสะเทือนใจของเรือ “ทอเรียะ” ที่เนรเทศ “พระเจ้าธีบอ” กษัตริย์พม่าไปอินเดีย
ครอบครัวกษัตริย์พลัดแผ่นดินพำนักในเมืองรัตนคีรี เมืองบนชายฝั่งตะวันตกของอินเดีย ห่างไปทางตอนใต้ของบอมเบย์ จากการบอกเล่าของ
Sudha Shah
ผู้เขียนหนังสือ “ราชันผู้พลัดแผ่นดินเมื่อพม่าเสียเมือง” บ่งชี้ว่า ช่วงเวลานั้นหมู่บ้านในแถบรัตนคีรี เมืองที่ไม่มีเส้นทางรถไฟไปถึง เข้าถึงได้จากการเดินเท้าหรือเรือเท่านั้น แต่มีสภาพภูมิอากาศดี
Sudha Shah
เล่าว่า กระทั่งเมื่อถึงปี 1905 พระเจ้าธีบอยังแสดงพระประสงค์ได้บ้านหลังใหม่โดยให้เหตุผลว่า ต้องการบ้านที่กว้างขึ้นเพื่อเจ้าหญิงคนเล็กอายุ 19 ปี คนโตอายุ 26 ปี ประกอบกับพระองค์กังวลอย่างมากเรื่องกาฬโรคที่ระบาดในกระต๊อบรอบเขตบ้านพักพระองค์มานาน 5 ปี พระเจ้าธีบอขอบ้านหลังใหญ่ขึ้นและห่างไปจากเมือง และขอเพิ่มค่าครองชีพให้พระองค์ด้วย ส่วนบ้านพักใหม่ หรือวังเจ้า (คำที่ทายาทรุ่นหลังในพม่าเรียกขาน) สร้างเสร็จสิ้นในปี 1910
หลังจากได้บ้านใหม่ ในปี 1912 พระนางศุภยากะเล มเหสีรองของพระเจ้าธีบอ สิ้นพระชนม์จากอาการผิดปกติของทางเดินอาหารหลังล้มป่วยเพียง 12 ชั่วโมง รองผู้ว่าราชการแห่งพม่าปฏิเสธคำขอของพระเจ้าธีบอที่ร้องขอให้ส่งร่างของพระนางกลับไปที่กรุงมัณฑะเลย์ โดยให้เหตุผลว่า การยอมตามคำร้องขอย่อมเป็นบรรทัดฐานต่อการพิจารณาเรื่องอื่นในอนาคต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงท่าทีว่าไม่ต้องการให้ร่างของพระเจ้าธีบอ และพระนางศุภยาลัตส่งกลับมาพม่าหลังสวรรคตด้วย เพราะเชื่อว่า อาจส่งผลต่อสถานการณ์ในพม่าจนนำไปสู่ความวุ่นวาย พระนางศุภยากะเล จึงต้องถูกฝังในเมืองรัตนคีรี เบื้องต้นหีบศพของพระนางฝังในอาณาเขตบ้านพัก
หลังจากถูกเนรเทศมานานถึง 31 ปี พระเจ้าธีบอสวรรคตในวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ.1916 ก่อนถึงวันคล้ายวันประสูติปีที่ 58 ของพระองค์ราวสองสัปดาห์ บันทึกของรัฐบาล (ภายใต้อาณานิมคมอังกฤษ) ระบุสาเหตุไว้ว่า “หัวใจและไตทำงานล้มเหลว” ท่าทีของรัฐบาลชัดเจนว่า ไม่อนุญาตให้นำพระศพมาฝังในพม่าไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตาม
ความคับข้องใจในเจ้าหญิงสอง พระราชธิดาของพระเจ้าธีบอ ฝ่าคำคัดค้านเข้าพิธีแต่งงาน
อย่างไรก็ตาม เวลาต่อมา ราวเดือนพฤศจิกายน 1918 รัฐบาลในพม่าส่งสัญญาณไฟเขียวให้ส่งครอบครัวอดีตกษัตริย์กลับมาพม่า แต่ให้ไปอยู่ย่างกุ้ง ไม่ได้เป็นมัณฑะเลย์ พระนางศุภยาลัตขอร้องให้อนุญาตให้ครอบครัวของพระนางเดินทางในเดือนมกราคม 1919 หลังจากจัดงานครบหนึ่งปีของการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าธีบอก่อน และยังขออนุญาตนำหีบพระศพของพระเจ้าธีบอและพระนางศุภยากะเลกลับพม่าด้วย
รัฐบาลในพม่าแจ้งกลับมาว่า ไม่อนุญาตให้นำพระศพทั้งสองพระองค์กลับมาพม่าในทุกกรณี เหตุผลที่อธิบายคือ “มีความเป็นไปได้ที่จะใช้การนี้เป็นสัญลักษณ์เพื่อปลุกเร้าพวกหูเบาอย่างชนชาติพม่า ความมักใหญ่ใฝ่สูงทางการเมืองของบุคคลที่อันตรายเกินไปจะถูกปลุกขึ้นมา และพวกเขาจะสร้างความไม่สงบมิรู้จบ”
พระนางศุภยาลัตระงับการเดินทางเมื่อได้ยินข่าวนี้และยืนกรานว่าจะไม่เดินทางหากไม่มีหีบศพของทั้งสองพระองค์ไปด้วย อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 28 มกราคม พระนางศุภยาลัต แจ้งอย่างกะทันหันว่า พระนางให้เก็บพระศพทั้งสองพระองค์ไว้ที่สุสานในรัตนคีรีโดยไม่ฝัง (
Sudha Shah
อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า ศพของพระบรมวงศานุวงศ์พม่าจะไม่ถูกฝังใต้ดิน)
แต่วันที่ 30 มกราคม พระนางเปลี่ยนใจอีกครั้ง กลายเป็นบอกว่าพระนางจะไม่เดินทางโดยไร้หีบศพ เหตุผลในครั้งนี้คือ ถ้ารัฐบาลพิจารณาเห็นว่าการส่งหีบพระศพกลับพม่ามีแนวโน้มอาจทำให้เกิดสถานการณ์ล่อแหลม การที่พระนางกลับพม่าก็ไม่น่าจะแตกต่างกัน
พระนางศุภยาลัตขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการแห่งบอมเบย์ โดยเขียนจดหมายวอนให้นำหีบพระศพทั้งสองพระองค์ไปด้วย ในอีกด้านหนึ่งรัฐบาลในพม่าแจ้งรายละเอียดเรื่องการจัดการพิธีฝังพระศพอย่างสมเกียรติในรัตนคีรี และร้องขอให้ดำเนินการก่อนครอบครัวกษัตริย์จะเดินทางออกจากเมือง
รายละเอียดที่แจ้งมีทั้งก่อสร้าง “ละอองได้” ที่เก็บพระศพชั่วคราวในช่วงจัดพิธีกรรมทางศาสนา, มีฉัตรสีขาว 8 คันกางเหนือที่เก็บพระศพ, พนักงานตีกลอง 8 คน, นิมนต์พระสงฆ์อย่างน้อย 8-10 รูปเพื่อสวดอภิธรรม, สร้างมณฑป (เอ้านัน ปยะตั๊ด) โดยเจาะโพรงสำหรับบรรจุพระศพทั้งสอง และก่ออิฐปิดโพรงทันทีที่พิธีกรรมทางศาสนาเสร็จสิ้น
ทางการของอินเดียหวั่นว่า พระศพของทั้งสองพระองค์จะถูกเคลื่อนย้ายอย่างลับๆ ผู้ว่าการเบรนดอน ผู้ว่าการเมืองรัตนคีรีสั่งซื้อที่ดินแปลงหนึ่งและให้จัดสร้างสุสานโดยเร็ว ที่ดินที่เลือกนี้ห่างจากวังเจ้าไม่เกิน 1 กิโลเมตร ผู้ว่าการฯ ยังสั่งให้ผู้ว่าการตำรวจและรองผู้ว่าการเมืองเปิดหีบศพต่อหน้าเจ้าหญิงสี่เพื่อพิสูจน์ว่ายังมีพระศพบรรจุอยู่ด้วย แต่ครอบครัวไม่ยินยอม เจ้าหน้าที่จึงปิดล็อกหีบศพและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้ายามสุสานชั่วคราวในอาณาเขตวังเจ้า
เส้นทางรักเจ้าหญิงสี่ พระธิดาในพระเจ้าธีบอ ผู้เป็นใหญ่ในบ้านและขัดแย้งกับพี่น้อง
พระนางศุภยาลัตโทรเลขถึงผู้สำเร็จราชการแห่งอินเดียและรองผู้ว่าราชการพม่าวอนให้ยุติความพยายามเปิดหีบพระศพพระเจ้าธีบอ หลังจากนั้นผู้ว่าการเบรนดอน มาเข้าเฝ้าพระนางศุภยาลัตและอธิบายเรื่องพิธีฝังพระศพ พร้อมเตือนว่า นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่พระนางจะได้จัดการพระศพ เพราะครอบครัวของพระนางจะถูกส่งกลับพม่าในอีกไม่นาน และอยากให้พระนางยืนยันว่าพระศพในหีบไม่ได้ถูกแตะต้อง ซึ่งพระนางศุภยาลัตตกลงยืนยันว่าพระศพทั้งสองยังอยู่ในหีบพระศพ อีกทั้งยินดีให้ตรวจค้นหีบสัมภาระของครอบครัวก่อนออกเดินทาง
วันที่ 19 มีนาคม 1919 พระศพของทั้งสองพระองค์ถูกนำไปบรรจุที่สุสานแห่งใหม่ โดยที่พระนางศุภยาลัตและเจ้าหญิงใหญ่ไม่ได้มาร่วมพิธีแม้ว่าทั้งสองพระองค์ยังอยู่ในรัตนคีรี
Sudha Shah
มองว่า อาจเป็นการประท้วงเชิงสัญลักษณ์ มีเพียงเจ้าหญิงคนเล็ก 2 พระองค์เท่านั้นมาร่วมพิธี หลังจากพิธีฝังพระศพแล้ว รัฐบาลพม่าส่งโทรเลขแจ้งอนุญาตให้ครอบครัวกษัตริย์กลับพม่าในวันที่ 1 เมษายน 1919
รัฐบาลบอมเบย์ยังถือหนังสือสำคัญที่ลงนามโดยพระนางศุภยาลัตและเจ้าหญิงสี่ว่าเห็นชอบโดยเต็มใจให้ฝังพระศพพระเจ้าธีบอและพระนางศุภยากะเลที่รัตนคีรี และจะไม่ร้องขอให้เคลื่อนย้ายอีก
นับตั้งแต่นั้นมา ทายาทที่สืบสายพระเจ้าธีบอยังคงเคลื่อนไหวให้เคลื่อนย้ายพระศพพระเจ้าธีบอกลับพม่า ในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา ปรากฏการยื่นหนังสือแก่รัฐบาลทหารและผู้นำฝ่ายประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม
Kelsey Utne
นักศึกษาปริญญาเอกด้านประวัติศาสตร์ ผู้เขียนบทความ “
Ex-King Still in Exile
” เล่าว่า ผู้นำเผด็จการหลังยุคอาณานิคมมองเชื้อพระวงศ์พม่าเป็นภัยคุกคามต่ออำนาจของพวกเขา พระศพของพระเจ้าธีบออาจถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านอำนาจโดยกลุ่มขั้วตรงข้าม ซึ่งอาจเคลื่อนไหวเรียกร้องเสียงสนับสนุนจากสาธารณชนเพื่อนำระบอบการปกครองแบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขกลับมา
ไม่เพียงปฏิเสธการนำพระศพกลับคืน ผู้มีอำนาจในรัฐบาลพม่ายังกีดกันสมาชิกราชวงศ์พม่าจากการเข้าไปในสุสานในเมืองรัตนคีรี อย่างไรก็ตาม ในปี 1993 ผู้สืบเชื้อสายรุ่นหลังกลุ่มเล็กๆ สามารถเดินทางเข้าสุสานในรัตนคีรีและประกอบพิธีกรรมทางศาสนาครั้งสุดท้ายได้
ในวันที่ 16 ธันวาคม 2016 อันเป็นวาระครบ 100 ปีของการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าธีบอ ผู้สืบเชื้อสาย บรรดาผู้ที่มีฐานันดรศักดิ์ และพระสงฆ์ในพุทธศาสนามารวมตัวกันที่สุสานของพระองค์ในเมืองรัตนคีรีเพื่อรำลึกถึงกษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่า แต่ท้ายที่สุด พวกเขายังไม่ได้นำพระศพของพระองค์กลับคืนพม่า
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...