หัวข้อ: หลวงปู่รอด พรหมสโร วัดหนองกุง ต.หนองกุง อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 22 พฤษภาคม 2562 16:03:39 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/38583163710104_view_resizing_images_4_320x200.jpg) หลวงปู่รอด พรหมสโร วัดหนองกุง ต.หนองกุง อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม หลวงปู่รอด พรหมสโร หรือ พระครูนิเทศพิสัยจิต วัดหนองกุง ต.หนองกุง อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม เป็นพระรุ่นเก่าอีกรูปหนึ่งที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีชื่อเสียงโด่งดังในอดีต อัตโนประวัติ เกิดในสกุล เพียรอดวงษ์ เกิดเมื่อปี พ.ศ.2433 ที่บ้านหนองกุง อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม บิดาชื่อ นายนวล เพียรอดวงษ์ ชื่อมารดาสืบค้นไม่ได้ ท่านเป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 4 คน ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา หลังจบระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนวัดในหมู่บ้าน ก็ช่วยงานครอบครัวด้วยความขยันขันแข็ง ครั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดหนองกุง อ.นาเชือก มี พระครูจันทร สีตลคุณ วัดทองนพคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังอุปสมบท ได้ไปศึกษาพระธรรมวินัยที่สำนักเรียนวัดสระเกศ สอบได้นักธรรมชั้นเอก จากนั้นได้เดินทางกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองกุง แต่ด้วยความที่เป็นผู้ใฝ่เรียนรู้อย่างแท้จริง ได้เดินทางไปจำพรรษาที่วัดบ้านข่อยใหญ่ และวัดบ้านแคน จ.ร้อยเอ็ด เรียนมูลกัจจายน์ อักษรขอม อักษรลาว ไทยน้อย จนมีความรู้แตกฉาน จนมีความรู้ในการอ่านอักขระโบราณ จากนั้นได้กลับมาตั้งสำนักเรียนที่วัดบ้านหนองกุง ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจพัฒนาการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง ในเวลาเพียงไม่กี่ปีชื่อเสียงของสำนักเรียนบ้านหนองกุง โด่งดังเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ในแต่ละปีจะมีภิกษุ สามเณรมาจำพรรษาศึกษาเล่าเรียนนับร้อยรูป เป็นพระที่เคร่งครัดในระเบียบวินัยมาก พระภิกษุสามเณร ที่มาเรียนกับท่านจะต้องประพฤติตนอยู่ในกรอบพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด หากไม่ตั้งใจเรียนท่านจะไม่ให้จำพรรษาอยู่ที่วัดเด็ดขาด เป็นพระนักเผยแผ่ธรรม มีน้ำเสียงที่ไพเราะ เทศน์นิทานธรรมะเข้าใจง่าย ทำให้หลวงปู่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงกว้างอย่างรวดเร็ว สำหรับปัจจัยที่ได้จะนำไปสนับสนุนการศึกษาของพระภิกษุสามเณร พัฒนาเสนาสนะ กุฏิ ศาลาการเปรียญ กำแพงแก้ว อุโบสถ ฯลฯ หลวงปู่รอดยังเป็นผู้นำพาชาวบ้านพัฒนาสาธารณูปการภายในหมู่บ้าน ควบคู่กับการพัฒนาวัดมาโดยตลอด ครั้งหนึ่งได้เกิดไฟไหม้บ้านหนองกุง ต้องย้ายออกมาตั้งหมู่บ้านใหม่ หลวงปู่รอด เป็นผู้วางแผนผังหมู่บ้านด้วยตนเอง ทำให้หมู่บ้านหนองกุง มีความเป็นระเบียบสวยงาม ถนน ตรอก ซอย กว้างขวางสะดวกในการสัญจรไปมา ปรากฏจนถึงปัจจุบัน ส่วนลำดับด้านปกครองคณะสงฆ์ ท่านได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองกุง ต่อมาเป็นพระอุปัชฌาย์และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูนิเทศพิสัยจิต ช่วงหลัง มีอาการอาพาธบ่อยครั้ง แต่มีจิตใจที่เข้มแข็งมาก ท่านไม่ยอมเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ถึงแม้ญาติโยมจะนิมนต์นำท่านส่งโรงพยาบาลก็ตาม สุดท้ายหลวงปู่รอดละสังขารอย่างสงบด้วยโรคชรา ในปี พ.ศ.2519 สิริอายุ 86 ปี พรรษา 66 อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์ |