[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
18 พฤษภาคม 2567 01:17:49 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 ... 375 376 [377] 378 379 380
7521  สุขใจในธรรม / พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม / "สติปัญญา" โดย หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เมื่อ: 18 ธันวาคม 2552 13:00:19
เราพูดถึงอยู่เสมอถึงคำว่า “สติปัญญา”
เราใช้ปัญญาอยู่เสมอก็จริง  แต่สตินั้นแท้จริงแล้ว
เรานำออกมาใช้น้อยนัก ทั้งที่สตินั้นมีคุณค่าต่อชีวิต
และจำเป็นแก่ชีวิต มีคุณค่าเหลือที่จะประมาณได้
(พระธรรมสิงหบุราจารย์ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี)

 

7522  สุขใจในธรรม / ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก / Re: ชายชรา กับ ลังเหล็ก แง่คิดดี ๆ ของชีวิต เมื่อ: 18 ธันวาคม 2552 12:58:42
สาธุ
7523  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ / Re: นายกฯดาราศาสตร์ไทยฟันธงวัตถุประหลาดไม่ใช่ยูเอฟโอ. เมื่อ: 18 ธันวาคม 2552 12:56:20
UFO = Unidentified Flying Object

ถ้าแปลตรงตัวคือวัตถุบินลึกลับที่ไม่สามารถยืนยันได้
เพราะงั้นไ้แสงดังกล่าวก็น่าจะเหมารวมเป็นยูเอฟโอได้

จะไปอ้างนาซ่าไม่ได้หรอก
เพราะในเมื่อคนไทยมากมายที่เคยทำงานกับนาซ่า
ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นาซ่ามีการติดต่อสื่อสาร
กับมนุษย์ต่างดาว แต่ปิดข่าวไปทั่ว...

 หุบปากซะ หุบปากซะ
7524  สุขใจในธรรม / ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4 / Re: "ดูจิต" มีสติอย่างเบิกบาน เมื่อ: 18 ธันวาคม 2552 12:51:19
เอาหละ ... เรียนรู้ให้เข้าใจคอนเซ็ปภาพรวมก็พอ หากท่านมีข้อสงสัยประการใดสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเองครับ สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้วิธีการปฏิบัติจากครูบาอาจารย์ให้ถูกต้องเพื่อให้ไม่เดินหลงทางหรือปฏิบัติผิด ๆ ไป ซึ่งทางเว็บจะพยายามรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ไว้ให้ทุกท่านได้ศึกษากัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลายท่านเข้าใจเลย ตรงกันข้ามเป็นธรรมะที่อ่านง่ายกว่าที่คิดมากเลยครับ

ขอให้เจริญในธรรมกันทุก ๆ ท่าน
คณะผู้จัดทำเว็บ

เราพูดถึงอยู่เสมอถึงคำว่า “สติปัญญา”
เราใช้ปัญญาอยู่เสมอก็จริง  แต่สตินั้นแท้จริงแล้ว
เรานำออกมาใช้น้อยนัก ทั้งที่สตินั้นมีคุณค่าต่อชีวิต
และจำเป็นแก่ชีวิต มีคุณค่าเหลือที่จะประมาณได้
(พระธรรมสิงหบุราจารย์ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี)

 

จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์
จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค
ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นนิโรธ
(หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)





ปล.ทั้งหมดนี้คัดลอกมาจาก ฟังธรรม.com
7525  สุขใจในธรรม / ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4 / Re: "ดูจิต" มีสติอย่างเบิกบาน เมื่อ: 18 ธันวาคม 2552 12:50:46
มีอานิสงส์อย่างไร ?

อย่างที่ได้กล่าวไว้แล้ว ในเบื้องปลาย อานิสงส์ของการเจริญสติคือความดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง หากอานิสงส์เบื้องปลายมันดูเหมือนจะห่างไกลจากความรู้สึกเราก็ขอให้ลองมาดูใกล้ ๆ ตัว ท่านอาจจะเคยได้ยินว่ามีคนเข้ากรรมฐานที่วัดแล้วชีวิตเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เช่น เลิกติดเหล้าติดการพนัน, หน้าที่การงานดีขึ้น, การค้าเจริญขึ้น แล้วก็อาจเกิดความสงสัยว่ามันเกี่ยวกันอย่างไร

จากการที่ webmaster ได้ศึกษาผู้ที่เข้ากรรมฐานที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) (สามารถหาอ่านได้ในหนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติในเว็บ)  ขอสรุปตามความเข้าใจดังนี้

หากท่านลองพิจารณาดูให้ดีจะเห็นว่า ความหายนะ ความเลวร้ายในชีวิตของคนเราล้วนมาจากการขาดสติทั้งสิ้น เช่นการโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง, การทะเลาะตบตีกันในครอบครัว, การปล้นฆ่า, สามีมีผู้หญิงอื่น, ติดการพนัน, กินเหล้าเมายา ฯลฯ โดยรวมคือการละเมิดศีล 5 อันเป็นธรรมแห่งความ “ปกติ” ของคนเรา

คนเราทุกคนล้วนมีกิเลสตัณหา มีความโลภ โกรธ หลงด้วยกันทุกคน ดังนั้นหากขาดสติเมื่อไร ก็พร้อมที่จะเผลอทำกรรมชั่วได้เสมอ ในขณะที่ฝ่ายกรรมดี อันได้แก่ ทาน ศีล ภาวนา ก็แทบจะไม่ได้ทำเลย

การมีสติจึงเสมือนเป็นตัวช่วยคุมให้เรามีความเป็น “ปกติ” คืออยู่ในกรอบของศีล เช่น เมื่อเราโกรธมาก ๆ ก็จะรู้ตัวไม่ทำการประทุษร้ายใคร, โลภมาก ๆ ก็จะรู้ตัวไม่ไปทำการปล้นหรือโกงใคร ฯลฯ  ดังนั้นกรรมชั่วจึงแทบไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ในขณะที่ฝ่ายกรรมดีคือ ศีล และภาวนาได้ทำทุกวันจนเป็นอาจิณกรรม

เมื่อเปรียบเทียบฝ่ายที่ไม่ค่อยมีสติกับฝ่ายที่สติดีในทางคณิตศาสตร์ก็จะเห็นภาพชัดขึ้น ฝ่ายแรกนั้นดูเหมือนจะมีเรื่องให้ติดลบอยู่เนือง ๆ อาจจะได้คะแนนบวกบ้างในบางครั้ง ส่วนฝ่ายที่สองนั้นเรื่องติดลบแทบไม่เกิด แต่ได้คะแนนบวกอยู่ทุกวัน เมื่อเวลาผ่านไปเป็นหลายเดือน หลายปีผลรวมด้านกุศลกรรมของทั้งสองคงจะต่างกันอย่างเทียบไม่ติดเลยทีเดียว นี้เป็นเหตุผลหนึ่ง

แต่ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือคำสอนของหลวงพ่อจรัญซึ่งหากพิจารณาดูก็จริงทีเดียว ผู้ที่มีสติสัมปชัญญะดีมักจะเป็นคนที่ขยัน เบิกบาน มีความคล่องแคล่ว ว่องไว ใครมีหน้าที่อะไรก็จะปฏิบัติตามหน้าที่ตัวเองได้อย่างดี เช่นเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่, เป็นสามีที่ดีต่อภรรยา ครอบครัวมีแต่ความอบอุ่น การงานก็จะมีความเจริญก้าวหน้าอันเกิดจากความขยัน ความมีสติก่อให้เกิดสมาธิ ปัญญาจึงตามมา สามารถแก้ไขปัญหาชีวิตได้ นี้จึงเป็นอานิสงฆ์ของการเจริญสติที่เห็นได้ชัดเจน



7526  สุขใจในธรรม / ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4 / Re: "ดูจิต" มีสติอย่างเบิกบาน เมื่อ: 18 ธันวาคม 2552 12:50:14
รู้ไปเพื่ออะไร ?

สตินั้นหากนำมาใช้กับทางโลกทั่วไปก็ย่อมมีประโยชน์มหาศาลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการงาน, ความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ๆ การคิดอ่านย่อมเป็นระบบ, จิตย่อมมีสมาธิในการทำกิจการงานใด ๆ , อารมณ์มักจะเป็นปกติ ไม่ค่อยโกรธ เครียด หรือทุกข์ใจอะไรมาก ๆ กล่าวโดยรวมคือย่อมเกื้อกูลชีวิตประจำวันทางโลกได้อย่างดีซึ่งเป็นประโยชน์ที่ค่อนข้างเห็นได้ชัดเจน

หากแต่ถ้ารู้เนือง ๆ มาก ๆ เข้าจนเป็นมหาสติ ก็จะได้ประโยชน์จากทางธรรมด้วย การที่เรามีสติอยู่เนือง ๆ รู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง ทำอย่างติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ก็เพื่อให้สติเกื้อกูลต่อการ “เห็นความจริง” ความจริงนี้เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเราที่สุดก็คือกายกับใจของเรา แต่เราไม่เคยรู้สึกถึงความจริงนี้เลย

จุดหมายของการรู้ก็เพื่อให้เห็นความจริง อันได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ว่ากายและใจของเรานั้นเป็นสิ่งไม่เที่ยง  เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวเรา เนื่องจากสัมมาสติทำให้เราได้เห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตามสภาวธรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่นับครั้งไม่ถ้วน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนในที่สุดจิตจะยอมรับความจริงในข้อนี้ (หรือที่ท่านพระพุทธทาสชอบเรียกว่าให้ละตัวกู ของกู)  อันนำไปสู่หนทางแห่งการดับทุกข์ ที่เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญของพระพุทธศาสนา   

ดูจิตมีอะไรดี ?

ดูจิต คือการเรียนธรรมะที่ “เรียบง่ายและธรรมดาที่สุด” ไม่จำเป็นต้องรู้คำศัพท์ทางศาสนายาก ๆ หรือนั่งท่องพระไตรปิฎก เพราะจุดมุ่งหมายคือการเรียนรู้กายและใจของตัวเอง ให้ปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่น (อุปทาน) อันเป็นสาเหตุทำให้เรา ๆ มีความทุกข์กัน

การดูจิตสามารถทำได้ “ทันที” , “ที่นี่” และ  “เดี๋ยวนี้” ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยมักเข้าใจผิดว่าการปฏิบัติธรรมต้องทำอะไรที่มันดูยาก ๆ, เคร่งเครียด, น่าเบื่อ, หรือต้องใช้เวลา เนื่องจากตนไม่มีเวลาจึงไม่สามารถปฏิบัติธรรมได้ ซึ่งความจริงเราสามารถเรียนธรรมะด้วยการฝึกสติได้ตลอดเวลา ด้วยใจที่ปกติสบาย ๆ ไม่ว่าจะดูทีวี, กินข้าว, เล่นเน็ต, อาบน้ำ, ไปเที่ยว, ออกกำลังกาย ฯลฯ ล้วนสามารถฝึกสติได้ทั้งสิ้น

ธรรมทั้งปวงรวมที่จิต (ตามที่ครูบาอาจารย์ได้กล่าวไว้) ดังนั้นการดูจิตคือการเรียนรู้ธรรมะภาคปฏิบัติที่เป็นเส้นทางตรง ไม่อ้อม ช่วยให้ถึงจุดหมายปลายทางได้ไวขึ้นและไม่หลงทาง

หากพูดถึงในแง่ของบุญกุศลสำหรับคนชอบทำบุญ  การดูจิตเปรียบเสมือนการทำวิปัสสนากรรมฐาน จึงเป็นภาวนาบารมี ซึ่งเหนือกว่าศีลและทาน (อ่านเพิ่มเติมได้ในหนังสือ "วิธีสร้างบุญบารมี" สมเด็จพระสังฆราชฯ) ดังนั้นจึงเสมือนเป็นการทำบุญโดยไม่เสียสตางค์ และเป็นบุญสูงสุด ทำได้ทุกที่ ทุกเวลาตามกำลังสติที่เรามี

เส้นทางนี้มีกัลยาณมิตรที่เดินเส้นทางเดียวกันมากมาย เมื่อติดปัญหาหรือไม่เข้าใจสิ่งใดจึงมีช่วยตอบข้อสงสัยได้ มีแหล่งข้อมูลให้ศึกษาอยู่เยอะ (เสียงธรรมของพระอริยเจ้าในเว็บนี้ก็มักสอนเรื่องสติอยู่บ่อย ๆ) ถึงที่สุดแล้วหากศึกษาด้วยตัวเองเต็มที่แล้วยังมืดบอดอยู่ ก็มั่นใจได้ว่ามีพระสุปฏิปันโนที่สามารถตอบข้อซักถามของเราได้แน่นอนในยุคปัจจุบัน

ต้องดูนานแค่ไหน ?

อันนี้ไม่สามารถตอบได้ เพราะขึ้นอยู่กับความเอาใจใส่และบารมีของแต่ละท่าน ใครขยันเดินก็ไปได้ไกลว่า (แล้วต้องเดินให้ถูกทางด้วย) แต่มั่นใจได้ว่าถึงแน่เพราะมีพุทธวัจนะรับรองไว้ว่า บุคคลใดเจริญสติปัฏฐานอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง ย่อมหวังความดับทุกข์ได้แน่นอนอย่างเร็ว 7 วัน  อย่างกลาง 7 เดือน หรืออย่างช้า 7 ปี

จะเห็นได้ว่าแม้คนที่คิดว่าตัวเองไม่ได้มีบุญบารมีอะไร ฉันจะทำได้หรือ ?  ก็มั่นใจได้เลยว่าทำได้แน่นอนตามที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ แต่โดยทั่วไปหากฝึกสติในระดับหนึ่งแล้ว จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างชัด จิตจะรู้ ตื่น เบิกบาน ไม่ค่อยมีอารมณ์โกรธ หงุดหงิด หรืออารมณ์เพี้ยน ๆ ทั้งหลายเท่าใดนัก





7527  สุขใจในธรรม / ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4 / "ดูจิต" มีสติอย่างเบิกบาน เมื่อ: 18 ธันวาคม 2552 12:49:10
"ดูจิต" มีสติอย่างเบิกบาน

คำนำ

เนื่องจากทาง ผู้ดูแลเว็บ ยังเป็นผู้หนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยกิเลส เป็นผู้รู้น้อย และยังมีหนทางอีกยาวไกลในการปฏิบัติ ดังนั้นจึงไม่กล้าหรืออาจหาญที่จะอธิบายความได้อย่างเต็มที่ จึงขอเกริ่นเพียงสั้น ๆ เพื่อให้เข้าใจความหมายหรือคำจำกัดความของการดูจิตหรือการฝึกสติเท่านั้น ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของ ผู้ดูแลเว็บ เท่านั้น ผู้ที่สนใจฝึกสติควรศึกษาจากครูบาอาจารย์ให้มากโดยสำคัญ ที่ทาง เว็บ จะทำการรวบรวมมาให้ท่านผู้อ่านได้ศึกษาอย่างสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้

การดูจิตคืออะไร ?

พูดว่า “ดูจิต” ท่านที่ไม่เคยได้ยินอาจจะงง ที่จริงการดูจิตคือ “การฝึกสติ” นั่นเอง ... สติ แปลว่าความระลึกได้  ดังนั้นการดูจิตจึงไม่ได้มีความหมายอะไรซับซ้อนไปกว่า “ความรู้สึกตัว” เมื่อใดที่เรามีความรู้สึกตัวนั่นหมายความว่าเรามีสติอยู่นั่นเอง

รู้สึกตัวที่ว่าคือรู้อะไร ?

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า สติปัฏฐาน 4 มาบ้าง การมีสติก็คือการฝึกสติปัฏฐาน 4 ,  สี่อย่างที่ว่านั้นคือ กาย เวทนา จิต ธรรม ฟังดูอาจจะงง พูดง่าย ๆ ก็คือเมื่อใดเราเกิดความรู้สึกในสิ่งใดที่ชัด ก็ให้รู้อันนั้น การรู้นั้นรู้อะไร ก็เช่น หากเดินอยู่ก็รู้สึกว่าเดินอยู่, นั่งก็รู้สึกว่านั่ง, ยืนก็รู้สึกว่ายืน, นอนก็รู้สึกว่านอน, ดีใจก็รู้ว่าดีใจ, โกรธก็รู้ว่าโกรธ, สุขก็รู้ว่าสุข, ทุกข์ก็รู้ว่าทุกข์, จะขยับซ้าย แลขวา หันหน้า มองหลัง เคลื่อนไหวใด ๆ ก็ "รู้สึก"ตามนั้น คิดก็รู้ว่าคิด, จะฟุ้งซ่านก็รู้ว่าฟุ้งซ่าน เผลอลืมไม่มีสติก็รู้ว่าเผลอ   

กล่าวโดยย่อคือให้มีความรู้สึกตัวผ่านอายตนะทั้ง 6 ได้แก่ ตา (รูป), หู (เสียง), จมูก (กลิ่น), ลิ้น (รส), กาย (สัมผัส), ใจ (ความรู้สึก-ความคิดปรุงแต่ง) รู้ไปเรื่อยๆ ตามอารมณ์หรือสภาวธรรมที่ปรากฏ “ตามจริง” ในขณะนั้น ๆ

รู้แบบนี้มันจะเครียดไหม ? ขอตอบว่าไม่เลย การมีความรู้สึกตัวนั้นทำแบบสบาย ๆ ให้เป็นธรรมชาติตามปกติ ไม่ต้องไปเพ่ง ไปจ้อง ไปบังคับ ไปควบคุม ง่าย ๆ คือเป็นปกติอย่างที่เคยเป็นนั่นหละ เพียงแต่มีความรู้สึกตัวอยู่เนือง ๆ อยู่เสมอ




7528  จากใจถึงใจ / สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน) / Re: ยินดีต้อนรับเข้าสู่เวบไซท์ สุขใจ ดอท คอม เมื่อ: 18 ธันวาคม 2552 12:43:59
ขอเป็นกำลังใจและขอแสดงความยินดีกับผู้ก่อตั้งเว็ป สุขใจ ดอทคอม
Mckaforce  ผู้เปี่ยมล้นด้วยพลัง แห่งความคิดสร้างสรรค์

และในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2553 ขออวยพรให้ ผู้ก่อตั้งเว็ป Mckaforce ซะเลย
                  ขอให้พร อันประเสริฐ ในโลกนี้
                  ส่งผลดี ให้แก่ท่าน ในวันหน้า
                  คิดสิ่งใด หวังสิ่งใด จงได้มา
                  สมปรารถนา ดังใจหวัง ยั่งยืนนาน



ขอพรอันประเสริฐสนองกลับผู้ให้ร้อยเท่าพันทวีเทอญ
7529  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / Re: เจียวไข่ให้หนานุ่ม เมื่อ: 17 ธันวาคม 2552 23:04:51
ถ้าใส่น้ำมันเยอะ ใช้วิธี วักน้ำมันขึ้นมาตรงกลางไข่ที่ยังไม่สุกจะกรอบกว่าครับ
บางคนก่อนทอดเค้าจะทำไข่ฝอย ด้วยการเอานิ้วจุ่มไข่ แล้วดีดลงกระทะน้ำมัน
มันจะเป็นฝอยกรอบ ๆ จากนั้นเอาไข่ที่เหลือลงทอด เมื่อเสร็จ ก็เอาไข่ฝอย
มาโรยอีกที อร่อยเหาะครับ

เชื่อน้าแม๊คครับ น้าแม๊คโตมากับไข่ ทุกวันนี้ก็ยังคงกินอยู่
(กับข้าวทำเป็นอย่างเดียวก็พวกไข่นี่แหละครับ)

7530  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ไปรษณีย์ / Re: ลักษณะของผู้ชายที่ดี......... เมื่อ: 17 ธันวาคม 2552 23:01:44
ผมว่าตาคนที่ชวนขอทานนี่ต้องเป็นปู่ซ่าแน่ ๆ เลย

โดยเฉพาะตอนที่ชวนลงอ่าง หลักฐานมันฟ้อง
7531  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ดูดวง ทำนายทายทัก / Re: รังสีออร่าในตัวคุณ เมื่อ: 17 ธันวาคม 2552 23:00:48
ว๊าว ๆ ๆ รังสี "รออ้า"
7532  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ / ลำแสงลึกลับ รูปใยแมงมุม โผล่เหนือน่านฟ้า นอร์เวย์ ( 09/12/09 ) เมื่อ: 16 ธันวาคม 2552 15:38:04
เมื่อวันนี้ผมเปิดอีเมลล์ดูและพบว่า มีเมลล์จากเว็ปอัพเดทสภาพอากาศอวกาศว่าได้เกิดเหตุประหลาด พบลำแสงลึกลับเหลือน่านฟ้าประเทศนอร์เวย์ในวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมานี้ ส่งผลให้เกิดกลุ่มเมฆ กลุ่มควันเป็นรูปใยแมงมุมขนาดใหญ่บนท้องฟ้า อย่างไรก็ดี มีผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าอะไรก็ตามแต่สิ่งนี้ถูกยิงมาจากรัสเซีย บางคนถึงกลับบอกว่าเป็นจรวดมิส"ซย์ที่ถูกยิงมาจากเรือของรัสเซีย แต่ระเบิดเกิดผิดพลาด มันเสียสมดุลและหมุนวนในอากาศจนทำให้เกิดควันเป็นวงกลมรูปใยแมงมุมดังกล่าว บ้างก็ว่าเป็นการทดลองของ HAARP จาก Project Blue Beam บางคนถึงกลับบอกว่ามนุษย์ต่างดาววาร์ปมาขัดขวางการรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่กำลังจะมาถึงนี้ของนายบารัค โอบาม่า
 


 

 

 
http://www.youtube.com/v/iIg5eczY5Ms
 
 
 
 
จากลิ้งนี้ครับ spiral blue light display hovers above Norway
 
 
 
ส่วนนี่เป็นความคิดเห็นของเพื่อนผมที่ได้แนบวีดีโอข้อมูลมาให้ด้วย น่าสนใจมากๆครับ
 
 
มมีอะไรสนุกๆน่าสนใจมานำเสนอครับ เป็นสิ่งที่ผมกำลังค้นคว้าอยู่และบังเอิญเหลือเกินที่มันเป็นสิ่งที่ไม่ได้ เกิดขึ้นครั้งแรกแต่มีการเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ย้อนกลับเมื่อคืนวันที่ 9/12/09 ที่ Norway ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น บ้างอ้างว่าเป็น Spiral UFO, Project Bluebeam, HAARP บ้างก็ว่าเป็นการมาถึงของ Destroyer, Satan, Sevenheads Dragon เป็นข่าวครึกโครมในต่างประเทศอย่างมาก ถึงกระนั้นกองทัพรัซเซียก็อ้างว่าเป็นการทดสอบอาวุธในแถบนั้น ซึ่งเป็นที่น่ากังขาของคนที่เฝ้าติดตามเหตูการณ์นี้อยู่ เพราะมันไม่มีน้ำหนักพอที่จะมาลบล้างสิ่งที่หลายคนเชื่อได้เลย ด้วยเหตุผลง่ายๆที่พวกเค้าได้ให้ไว้คือ "หากมีการทดทอบอาวุธจริง ทำไมถึงทดสอบกันในที่ที่มีผู้คนมากมายในเมืองขนาดนั้น" แน่นอนผู้คนที่สงสัยจึงยังไม่ลดละความพยายามที่จะค้นหาความจริงต่อไป
 
แน่ นอนสิ่งหนึ่งที่ผมโยงไปถึงก่อนเลยคือ Nibiru และทำให้ผมได้พบสิ่งที่น่าสนใจคือ NASA พยายามปกปิดภาพถ่ายของ SOHO โดยการบิดเบือนเวลาและตัดภาพรวมไปถึงตบแต่งภาพในช่วงเวลาที่ใกล้ๆกับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Norway
 
แต่สิ่งที่น่าสนใจยังไม่หมดเพียง เท่านี้ครับ หลายคนเสนอรูปวาดโบราณต่างๆหลายรูป ที่คล้ายคลึงกับ ก้นหอยที่ปรากฏใน Norway จึงเกิดคำถามว่า คนโบราณทั่วโลกเหล่านั้นได้เห็นเหตุการณ์เช่นเดียวกับที่เราได้เห็นใน Norway เช่นกันหรือแล้วทำไมในบางภาพถึงมีรูปวาดเหมือนกับคนวิ่งหนีขึ้นที่สูง และมีซากโครงกระดูกปรากฏในภาพวาดด้วย เป็นไปได้หรือไม่ว่านั่นหมายถึง ปรากฏการณ์นี้จะนำมาซึ่งหายนะของโลกเรา
 
ความประหลาดยังไม่หมดเพียง เท่านี้ แน่นอนว่าผมได้กล่าวไปแล้วว่ามันบังเอิญเหลือเกินว่าเคยเกิดเหตุการณ์คล้าย กันนี้หลายครั้งแต่ที่แน่ๆ มี 3 ครั้งที่ถูกบันทึกเป็นภาพไว้ได้ อยากให้ลองชมคลิบเหล่านี้ดูนะครับ แน่นอนว่ายังไม่มีใครสามารถสรุปได้ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้คืออะไร นอกจากการตัดสินใจด้วยตัวคุณเอง อาจเป็นเรื่องตบตาโลกครั้งใหญ่ หรือเป็นเพียงการทดสอบอาวุธอย่างที่รัซเซียอ้าง แต่ที่แน่ๆความจริงเป็นสิ่งที่ท้าทายให้เราพิสูจน์ครับ
 
1. คลิบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Norway 9/12/09
UFO or missile trace? Mystery spiral lights over Norway

 
2. คลิบที่คล้ายกันแต่เกิดขึ้นในประเทศจีน เมือ april 09 ครับ
中国气象台曝光20年前UFO绝密录像

 
3. คลิบที่น่าประหลาดใจหลังจากเกิดเหตุการณ์ก้นหอยกลับมี สิ่งประหลาดโผล่ออกมา เกิดขึ้นที่ รัซเซียเมื่อปี 2006
Spiral UFO coming out Wormhole or Hyperspace?

 
4. สิ่งที่ NASA พยายามปกปิดจากภาพถ่าย SOHO รวมถึงรูปวาดประหลาดที่คล้ายกับเหตุการณืที่เกิดขึ้นครับ
Proof NASA Is Trying To Cover Up The Source Of The Norway Spiral! The Destroyer Approaches

 
 
เครดิตคุณ วินซ์ ครับผม










ที่มาข้อมูลทั้งหมดด้านบน : บอร์ด พลังจิต โพสท์โดยคุณ fernezzo
 
7533  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ จิบกาแฟ / หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ให้พรปีใหม่ ขอให้เลิกทะเลาะกัน เมื่อ: 16 ธันวาคม 2552 15:32:01

วันนี้ (13 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุดทด กล่าวอวยพรในเทศกาลปีใหม่แก่สาธุชนชาวไทยทั้งประเทศ ว่า “ปีใหม่ปีเก่าก็กินข้าวเหมือนกัน ปีใหม่นี้ขอให้โชคดี เดินทางกลับบ้านปลอดภัยทุกคน”

ทั้งนี้ หลวงพ่อคูณยังฝากเตือนสติประชาชนชาวไทยอีก ว่า “ปีใหม่นี้อยากให้บ้านเมืองสงบสุขก็เลิกทะเลาะเบาะแว้งกัน ทำได้ก็จะสงบ” และขอให้ชาวไทยทุกคนทำความดีรักษาศีล 5.





ที่มา: Daily News
7534  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ / ตะลึง ภาพนักรบโบราณ โผล่กลางผนังบ้าน เจ้าบ้านถูกหวยมา 15 งวดติด เมื่อ: 16 ธันวาคม 2552 15:29:10

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านใน อ.บางปะหัน จ.พระนคศรีอยุธยา ว่าที่บ้านเลขที่ 1/8 ม.8 ต.พุทเลา อ.บางปะหัน

มีภาพคล้ายนักรบโบราณปรากฏอยู่ที่ฝาบ้าน จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านใต้ถุนสูง ด้านล่างกั้นเป็นห้องเอาไว้จำนวน3 ห้อง ภายในบ้านมีชาวบ้านจำนวนมากจับกุมนั่งพูดคุยกันอยู่ ตรวจสอบภายในห้องกลาง มีโต๊ะตั้งอยู่มีกระถางธูปดอกไม้ ขวดน้ำอัดลม ที่ฝาผนังมีรอยคราบน้ำปรากฏอยู่อย่างชัดเจน คล้ายนักรบโบราณรูปร่างกำยำมีหนวดเครา สวมหมวก ยืนถือดาบครึ่งตัว
นางจำนง ไสยศรี อายุ39 ปี เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่12 ธ.ค.ช่วงบ่าย ตนเองนอนเล่นอยู่ภายในห้องสังเกตเห็นภาพของนักรบค่อยๆปรากฎขึ้นมาเป็นรูปร่าง

ตนตกใจมากรีบวิ่งออกไปหน้าบ้านและเรียกญาติมาดู ต่างพากันเชื่อว่าเป็นภาพของนักรบยืนถือดาบหันข้างอยู่ จึงนำดอกไม้ธูปเทียนมาสักการะ ได้ต่อเติมห้องเพิ่มที่ด้านล่างของบ้าน ได้ประมาณ1 ปี ไม่ได้มีการทาสีแต่อย่างใดและไม่เคยมีคราบน้ำหรือภาพอะไรปรากฏมาก่อน เมื่อกลางปีที่ผ่านมาตนเองได้ซื้อล็อตเตอร์รี่และพูดเอาไว้ว่าถ้าถูกหวยจะทำศาลพระภูมิใหม่เพราะของเดิมชำรุดมากแล้ว ตั้งแต่นั้นมาก็ถูกหวยมาตลอดติดต่อกัน ทุกงวดจำนวนกว่า 15 งวดแล้ว จึงได้นำคนทรงเจ้ามาเข้าทรงบอกว่าที่ดินบริเวณนี้เป็นที่แรง ถ้าอยู่แล้วทำดีจะให้โชคให้ลาภเขาไม่ที่อยู่จะขอที่อยู่ ตนเองฟังแล้วขนลุกจนทุกวันนี้ไม่กล้าเข้าไปนอนห้องดังกล่าว เจ้าที่อาจจะมาปรากฎภาพเพื่อเตือนสติตนเองเรื่องสร้างศาลพระภูมิ หลังทราบข่าวมีเพื่อนบ้านเข้ามากราบไหว้และขอโชคลาภ ถ่ายภาพเก็บเอาไว้ ตลอดทั้งวัน

ด้านนางเล็กไสยศรี อายุ74 ปี แม่ของนางจำนง เล่าว่า อยู่ที่บ้านนี้มากว่า 30 ปี ยังไม่เคยมีเรื่องราวลักษณะนี้เกิดขึ้น

เมื่อก่อนเคยเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย มีโจรมันเข้ามาจะขโมยวัวอยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งตนจะได้ยินเสียงมีคนมาเขย่าประตูรั้วดังสนั่น พอออกมาดูเห็นโจรกำลังจะขโมยวัว และโจรจะเตลิดหนีทิ้งวัวควายไปทุกครั้ง ปู่ยาตายายเล่าให้ฟังว่าทุ่งบริเวณนี้เรียกกันว่าทุ่งผี เพราะเป็นที่ทิ้งศพนักรบทั้งไทยและข้าศึกที่เสียชีวิตในศึกสงครามสมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะเป็นเส้นทางทำการรบของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย ที่ทุ่งมะขามหย่องและทุ่งภูเขาทองที่สมเด็จพระนเรศวรรบกับข้าศึก

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลานี้ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำลังจัดงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลกและมีการแสดงจินตภาพประกอบแสงสีเสียง เรื่อง กรุงศรีอยุธยา กษัตรามหาราชัน ชาวบ้านจึงร่ำลือกันว่า วิญญาญนักรบที่เสียชีวิตในศึกสงครามในบริเวณดังกล่าวมาปรากฎตัวให้เห็น

 



 
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
 
7535  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ จิบกาแฟ / ชาวบ้าน ฮือฮา ! พบโบสถ์โผล่กลางทะเลแหลมตะลุมพุก เมื่อ: 16 ธันวาคม 2552 15:25:49

ฮือฮาโบสถ์วัดแหลมตะลุมพุก โผล่ฐานพ้นน้ำทะเลขึ้นมาให้เห็น นับจากเกิดพายุใหญ่ถล่มพังพินาศตั้งแต่ปี 2505 หรือ 47 ปีก่อน ชาวบ้านแห่รอชมอย่างตื่นเต้น ช่วงน้ำทะเลลงต่ำ ฐานโบสถ์จะปริ่มพ้นน้ำขึ้นมา ห่างจากฝั่งประมาณ 80 เมตร เจ้าอาวาสเผยนับจากโบสถ์พังไปเพราะพายุ จนปัจจุบัน วัดแหลมตะลุมพุกที่เป็นวัดเก่าแก่ก็ยังไม่มีโบสถ์หลังใหม่มาทดแทนแต่อย่างใด แต่กำลังหาทุนก่อสร้างอยู่

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากทราบข่าวว่า พระอุโบสถของวัดแหลมตะลุมพุก ที่จมหายไปเมื่อไป 2505 หลังเกิดวาตภัยครั้งใหญ่ โผล่เหนือน้ำขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจนในช่วงที่น้ำลง

เมื่อไปถึงพบพระอธิการจตุพร จตุวโร เจ้าอาวาสวัดแหลมตะลุมพุก รวมทั้งประชาชนและนักเรียนจำนวนมาก จับกลุ่มกันอยู่ริมทะเล เพื่อรอดูโบสถ์ดังกล่าวโผล่ขึ้นมาจากทะเล สอบ ถามทราบว่า โบสถ์จะปรากฏให้เห็นชัดเจนในช่วงน้ำลงเต็มที่ตอนเช้าและเย็น เป็นรูป 4 เหลี่ยมปริ่มน้ำ กว้างประมาณ 8 เมตร ยาวประมาณ 16 เมตร ช่วงเดือนที่จะเห็นชัดเจนคือเดือนพ.ย.-มิ.ย. ซึ่งเวลาน้ำลงก็จะลงเต็มที่ ทำให้เห็นฐานโบสถ์ ระยะห่างจากฝั่งประมาณ 80 เมตร

พระอธิการจตุพร กล่าวว่ วัดแหลมตะลุมพุกสร้างขึ้นเมื่อปี 2400 ในสมัยก่อนมีความเจริญ เป็นเมืองท่าที่จะเข้าไปยังเมืองปากพนัง มีหลักฐานที่ปรากฏว่าวัดแหลมตะลุมพุกมีที่ดินประมาณ 84 ไร่ แต่เมื่อปี 2505 เกิดวาตภัยครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,300 ราย จากพายุคลื่นถล่มดังกล่าว ทำให้เนื้อที่ของวัดเหลืออยู่ประมาณ 36-37 ไร่เท่านั้น เพราะด้านซึ่งเป็นที่ตั้งโบสถ์ที่ติดกับทะเล คลื่นซัดหายไป สำหรับโบสถ์ ชาวบ้านระบุว่ามีอายุประมาณ 94 ปี ภายในมีสถาปัตยกรรมสวยงามมาก เป็นที่เก็บกระดูกของชาวบ้าน ต้องมาจมอยู่ใต้ท้องทะเลเพราะพายุครั้งนั้น

พระอธิการจตุพร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2550 ตนร่วมกับชาวบ้านได้ออกสำรวจโบสถ์ดังกล่าว ปรากฏว่าพบลูกนิมิต 4 ลูก ส่วนตัวโบสถ์หลังเกิดวาตภัยครั้งใหญ่ก็พังเสียหายทั้งหมด เหลือแต่ฐานเท่านั้น เมื่อน้ำลดเต็มที่ก็จะโผล่มาให้เห็น จากวันนั้นจนถึงวันนี้รวม 47 ปีเต็ม วัดแหลมตะลุมพุกยังไม่มีอุโบสถหลังใหม่มาทดแทนแต่อย่างใด ทางวัดได้ร่วมกับญาติโยมหาทุนก่อสร้างอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จอีกไม่นานนี้ อ.ปากพนังมีวัดทั้งหมด 52 วัด แต่วัดแหลมตะลุมพุก เป็นวัดเก่าแก่วัดเดียวที่ยังไม่มีอุโบสถ เนื่องจากจมทะเลไปดังกล่าว

นายอนันต์ บุญโชติ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.3 ต.บางพระ อ.ปากพนัง คนแก่ในพื้นที่ กล่าวว่า สมัยก่อนตนไปวัดเป็นประจำ และจำโบสถ์หลังนี้ได้อย่างแม่นยำ แต่หลังจากเกิดวาตภัยก็พังเสียหายจมทะลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่คิดว่าจะได้เห็นอีกแล้ว เมื่อเห็นว่ายังมีฐานของโบสถ์เหลืออยู่ ชาวบ้านก็รู้สึกดีใจอย่างยิ่ง





ที่มา: บอร์ด พลังจิต โพสท์โดย คนมีกิเลส
7536  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ไปรษณีย์ / Re: ข้อแตกต่างระหว่างการนั่งสวดมนต์ กับการลงมือทำ เมื่อ: 16 ธันวาคม 2552 14:34:55
ผมไม่กินเสลดครับขอบคุณ
7537  สุขใจในธรรม / บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม / Re: พุทธชัยมงคลคาถา (คาถาปราบมาร) เมื่อ: 16 ธันวาคม 2552 14:00:52
หรือเรียกอีกอย่างว่า บทสวดพาหุง



แก้ครับ
๘. ท้าวพกพรหม

รู้สึกว่าจริง ๆ แล้วจะเป็นท้าวพกาพรหม
ผู้มีฤทธิ์ สำคัญตนว่าเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์

ปล.เอาไปปราบมารที่ไหนหนอ
7538  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ไปเที่ยว / Re: น้าแม๊คพาเที่ยว บึงบอระเพ็ด นครสวรรค์ เมื่อ: 16 ธันวาคม 2552 13:56:44
ป้ายโปรโมตบึงบอระเพ็ด



ประวัติบึงบอระเพ็ด

บึงบอระเพ็ด เป็นทะเลสาบน้ำจืดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีเนื้อที่กว้างขวางประมาณ 133,000 ไร่ อยู่ในเขตอำเภอเมือง อำเภอท่าตะโก อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ เดิมบึงแห่งนี้เป็นที่ราบลุ่มได้รับน้ำฝนและน้ำป่า จากที่ราบสูงทางทิศตะวันออกไหลเข้าสู่ตามลองต่าง ๆ แล้วไหลออกสู่แม่น้ำน่านทางคลองบึงบอระเพ็ด เมื่อถึงฤดูน้ำหลากพื้นที่แห่งนี้จะท่วมท้นกลายเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สุดของภาคกลางตอนบน
บึงบอระเพ็ดมีความหลากหลายทางชีวภาพ ประกอบด้วย ทรัพยากรธรรมชาติ อันได้แก่ พืชพรรณไม้น้ำ สัตว์น้ำและนกน้ำ ด้วยภูมิประเทศพื้นที่ที่แตกต่างกันจึงทำให้พบนกชนิดที่แตกต่างกันมากที่สุดในทวีปเอเชีย พบว่า มีนกต่าง ๆ อาศัยมากกว่า 44 วงศ์ 100 สกุล 156 ชนิด เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2511 นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์แห่งประเทศไทยได้พบนกชนิดใหม่ล่าสุดและพบที่เดียวในโลกที่บึงบอระเพ็ดเท่านั้น จึงได้ขอพระราชทานนามตั้งชื่อนกนี้ว่า “นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินทร” ต่อมา กรมป่าไม้ได้ประกาศพื้นที่บึงบอระเพ็ดให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เมื่อ พ.ศ. 2518 เพื่อปกป้องคุ้มครองและอนุรักษ์นกเจ้าฟ้าและนกน้ำทั้งหลายให้อยู่อย่างสงบสุขตลอดไป

ลักษณะภูมิประเทศ
ลักษณะเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ที่น้ำท่วมขังตลอดปี เป็นบริเวณกว้างอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 23 เมตร สภาพพื้นที่เป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยพื้นที่ที่เป็นทุ่งนาบริเวณพื้นน้ำจะมีพืชพันธุ์ไม้น้ำชนิดต่าง ๆ ได้แก่ พืชใต้น้ำ พืชลอยน้ำ พืชพ้นน้ำ พืชชายเลน ป่าพรุ และเกาะต่าง ๆกระจายอยู่ทั่วไป
ตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์
บึงบอระเพ็ดตั้งอยู่ ณ. ตำแหน่งภูมิศาสตร์ที่ละติจูด 15 องศา 40 ลิปดา ถึง 15 องศา 45 ลิปดาเหนือ และ ลองจิจูด 100 องศา 10 ลิปดา ถึง 100 องศา 23 ลิปดาตะวันออก มีพื้นที่ประมาณ 132, 737 ไร่ หรือ 212.3792 ตารางกิโลเมตร อยู่ในเขตการปกครองของจังหวัดนครสวรรค์ รวม 3 อำเภอ คือ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอชุมแสง และอำเภอท่าตะโก ซึ่งทั้ง 3 อำเภอได้แบ่งเขตที่กลางบึงบอระเพ็ด โดยมีอาณาเขต ดังนี้ ทิศเหนือ ขนานไปกับคลองปลากดในเขต อำเภอชุมแสง ท้องที่ตำบล ทับกฤช มีถนนสายทับกฤช – ท่าตะโก โดยได้แบ่งพื้นที่บึงบอระเพ็ดไปส่วนหนึ่งซึ่งพื้นที่ในด้านนี้จะมีความตื้นเขินมาก และมีราษฎร บุกรุกจับจองมากที่สุด ทิศตะวันออก จากปากคลองปลากดใน ถึงบ้านแหลมจันทร์ ในเขตอำเภอชุมแสงผ่านบ้านคลองบอน บ้านกระทุ่มเจ้า บ้านปากง่ามเหนือ ในเขตอำเภอท่าตะโก รวมถึงพื้นที่เขาพนมเศษ ทิศใต้ อยู่ในเขตอำเภอท่าตะโก และอำเภอเมือง ซึ่งจะขนานไปกับถนนสายนครสวรรค์ – ท่าตะโก ทิศตะวันตก อยู่ในเขตตำบลแควใหญ่ ตำบลเกรียงไกร อำเภอเมือง และ ตำบล ทับกฤช ในเขตอำเภอชุมแสงใช้ทางรถไฟเป็นขอบเขตจากสถานีรถไฟนครสวรรค์(สถานีหนองปลิงเดิม)ถึงสถานีคลองปลากด

ลักษณะทางกายภาพ
บึงบอระเพ็ดตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศร้อนชื้นแบบสะวันนา มีช่วงฤดูฝนและฤดูแล้งชัดเจน ได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จึงมีฝนตกชุกในฤดูฝนและได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ จึงหนาวเย็นและแห้งแล้งในฤดูหนาว ชึ่งฤดูร้อนมีอากาศร้อนจัด อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี 28.4 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ย 69.6 % ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,081.9 มม./ปี บึงบอระเพ็ดมีพื้นที่รับน้ำประมาณ 2.75 ล้านไร่ หรือ 4,400 ตร.กม. ระดับความลึกเฉลี่ยของน้ำในบึงประมาณ 1.6 เมตร บริเวณที่ลึกที่สุดประมาณ 5 เมตร ระดับน้ำต่ำสุดในเดือนสิงหาคม และสูงสุดในเดือนตุลาคม มีเนื้อที่ผิวน้ำประมาณ 62,500 ไร่ (100 ตร.กม.) ในบึงมีเกาะเล็กๆ อยู่ราว 10 เกาะ เนื้อที่ประมาณ 900 ไร่ (1.44 ตร.กม.) เกิดจากการทับถมรวมตัวของพันธุ์ไม้น้ำ
ลักษณะทางนิเวศวิทยา บึงบอระเพ็ดเป็นระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำ ประกอบด้วยพื้นที่น้ำขังซึ่งในฤดูน้ำหลากเป็นบึงน้ำใหญ่ผิวน้ำเปิดโล่ง บริเวณที่มีระดับความลึกของน้ำไม่มากนักมีพืชลอยน้ำเกาะกลุ่มอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะทางตะวันตกเฉียงเหนือ พืชลอยน้ำเกาะกลุ่มใหญ่จนมองดูคล้ายเกาะลอย มีทุ่งบัว มีบริเวณที่เป็นเกาะซึ่งเดิมเป็นเนินดิน เมื่อสร้างประตูน้ำแล้วน้ำท่วมไม่มิด บริเวณที่ลุ่มชื้นแฉะ ป่าพรุและป่าละเมาะริมบึง ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างระบบนิเวศน้ำและบก น้ำท่วมเฉพาะในช่วงน้ำมาก มีพืชยืนน้ำขึ้นอยู่หนาแน่น และโดยรอบบึงเป็นทุ่งนาและทุ่งหญ้า เนื่องจากมีลำน้ำลำห้วยไหลลงสู่บึง พัดพาตะกอนและธาตุอาหารสะสมอยู่ จึงอุดมด้วยพืชและสัตว์นานาชนิด ที่สำคัญคือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนให้กับแม่น้ำเจ้าพระยา และ เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยหากินสร้างรังวางไข่ของนกนานาชนิด ทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพย้ายถิ่น
7539  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / Re: หมูกรอบ เมื่อ: 16 ธันวาคม 2552 13:45:47
ว๊าว เนี่ยเมนูในฝัน

แต่เคล็ดลับมันอยู่ที่ว่าจะทำไงให้หนังมันกรอบได้

ไม่งั้นทำออกมามันจะเหนียวอ่ะครับ
7540  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ไปรษณีย์ / ข้อแตกต่างระหว่างการนั่งสวดมนต์ กับการลงมือทำ เมื่อ: 16 ธันวาคม 2552 13:17:00
หน้า:  1 ... 375 376 [377] 378 379 380
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.28 วินาที กับ 23 คำสั่ง

Google visited last this page 24 กันยายน 2566 12:25:01