[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 25 มิถุนายน 2562 14:43:07



หัวข้อ: หลวงปู่ศรีทัตถ์ ญาณสัมปันโน วัดพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 25 มิถุนายน 2562 14:43:07
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/57712078508403_view_resizing_images_4_320x200.jpg)

หลวงปู่ศรีทัตถ์ ญาณสัมปันโน
วัดพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

หลวงปู่ศรีทัตถ์ ญาณสัมปันโน อดีต เจ้าอาวาสวัดพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง วิทยาคมเข้มขลัง เป็นที่เลื่องลือแห่งลุ่มน้ำสองฝั่งโขงไทย-ลาว

ถ่ายทอดสรรพวิชาให้อดีตพระเกจิชื่อดัง 2 รูป คือ หลวงปู่สนธิ์ สุรชโย วัดท่าแก้วเหนือ อ.ท่าอุเทน และหลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพประดิษฐาราม

ในห้วงที่ท่านยังมีชีวิต ได้สร้างพระธาตุเจดีย์และมณฑปขึ้น 3 แห่ง คือ พระธาตุท่าอุเทน, พระธาตุพระบาทบัวบก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และมณฑปโพนสัน ประเทศลาว

อัตโนประวัติ เกิดในสกุล สุวรรณมาโจ เมื่อวันที่ 4 พ.ศ.2408 ที่หมู่ 4 ต.ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

เมื่ออายุ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดโพนแก้ว อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ศึกษาพระปริยัติธรรม-บาลีกับพระอาจารย์ขันธ์ วัดโพนแก้ว ก่อนไปศึกษามูลกัจจายน์และคัมภีร์ทั้งห้า มีความรู้แตกฉานด้านบาลี จนจบจากพระอาจารย์ตาดำ วัดศรีสะเกษ อ.ท่าอุเทน

ในปี พ.ศ.2473 มีพระภิกษุ 2 รูป สอบได้เปรียญธรรม 4-5 ประโยค เดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อวัดความรู้พระอาจารย์ศรีทัตถ์ ขณะกำลังสร้างพระธาตุพระบาทบัวบก ผูกประโยคเป็นภาษาบาลีให้ท่านแปลเป็นภาษาไทยรูปละ 1 ประโยค ปรากฏว่า สามารถแปลได้อย่างง่ายดาย

พระอาจารย์ศรีทัตถ์ อุปสมบทและลาสิกขาไป 2 ครั้ง ระหว่างนั้นแต่งงานมีครอบครัว บุตรธิดา จนกระทั่งเกิดความเบื่อหน่ายในเพศฆราวาส จึงเข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง สุดท้ายปวารณาตัวอยู่ในสมณเพศไปตลอดชีวิต

ในปี พ.ศ.2456 ระหว่างที่ท่านกำลังก่อสร้างพระธาตุท่าอุเทน คณะสงฆ์กรุงเทพฯ แต่งตั้งพระครูสมุหวรคณิสรสิทธิการ เป็นผู้แทนหัวหน้าคณะสงฆ์มาตรวจการภาคอีสาน ครั้นมาถึง จ.หนองคาย ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่า พระอาจารย์ศรีทัตถ์ เป็นผู้มีอิทธิพล แสดงปาฏิหาริย์ล่องหนหายตัว ย่อแผ่นดินให้แคบข้ามโขงโดยไม่ต้องใช้เรือ ซ่องสุมผู้คนคิดขบถต่อกรุงเทพฯ

ต่อมามีข่าวว่าพระครูสมุหฯ จะมาจับตัวท่านส่งไปกรุงเทพฯ ด้วยถูกใส่ร้ายป้ายสีจากผู้ไม่หวังดี อันเนื่องจากมีผู้เลื่อมใสนับถือมาก และต้องการก่อสร้างพระธาตุเจดีย์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ในคราวนั้น มีพระภิกษุสามเณร 60 รูป และอุบาสกอุบาสิกา 50 คน จาก จ.หนองคาย จ.สกลนคร นำหินปูนทราย ข้าวสาร ปลาร้า ปลาแห้ง เป็นต้น มาช่วยเหลือ แต่กลายเป็นเหตุให้เกิดความเข้าใจผิดว่ากำลังซ่องสุมเสบียงและรวบรวมผู้คนคิดก่อการใหญ่ กระทั่ง พระครูสมุหฯ ล่องเรือมาถึง อ.ท่าอุเทน ตรงไปวัดอรัญวาสี (วัดพระธาตุท่าอุเทน) เตรียมจับกุมพระอาจารย์ศรีทัตถ์

ในขณะแวะพัก ณ ที่ว่าการอำเภอ มีผู้ถามผู้แทนคณะสงฆ์ว่า "ทำไมไม่ไปให้ถึงวัด" พระครูสมุหฯ ตอบว่า "กลัวพระอาจารย์ศรีทัตถ์สั่งให้ลูกน้องทำอันตราย" จึงได้โทรเลขให้พระยาพนมนครานุรักษ์ (อุ้ย นาครทรรพ) ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมสมัยนั้นให้มาจับตัว

พระยาพนมนครานุรักษ์ จึงชี้แจงต่อพระครูสมุหฯ ให้เข้าใจว่า "ท่านไม่ได้คิดขบถซ่องสุมผู้คน หากแต่สร้างพระธาตุเจดีย์ จึงมีผู้คนมาช่วยมาก เพื่อหวังกุศล ส่วนที่ท่านแสดงปาฏิหาริย์ไม่เป็นจริงตามหนังสือพิมพ์ประโคมข่าว"

เมื่อได้ทราบความจริงดังนั้น เหตุการณ์จึงสงบลง

พ.ศ.2470 พระอาจารย์ศรีทัตถ์ ได้ไปสร้างพระพุทธบาทบัวบก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ได้ถูกสามเณรรูปหนึ่งทำร้าย โดยใช้ไม้ปลายแหลมแทงหน้าอก 2-3 ครั้ง ก่อนใช้ไม้ตีพริกตีก้านคอ 2-3 ครั้งจนสลบ ญาติโยมนำไปรักษาที่โรงพยาบาลเวียงจันทน์นาน 1 เดือน แต่ท่านไม่ได้เอาเรื่องกับผู้ที่ทำร้ายท่านแต่อย่างใด

หลังสร้างพระพุทธบาทบัวบกเสร็จ ท่านได้ข้ามโขงไปธุดงค์กัมมัฏฐานในฝั่งลาว และได้สร้างมณฑปครอบพระพุทธบาท ที่บ้านโพนสัน โดยจำพรรษาอยู่ที่นั้นนาน 6 ปี

พระอาจารย์ศรีทัตถ์ มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ.2483 สิริอายุ 75 ปี

ก่อนมรณภาพท่านได้สั่งเสียกับลูกศิษย์ ให้นำอัฐิของท่านโปรยลงในแม่น้ำโขง

สำหรับพระธาตุท่าอุเทน ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2455 แล้วเสร็จ พ.ศ.2458 รูปทรงคล้ายองค์พระธาตุพนม สูง 33 วา บรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ ซึ่งท่านได้อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า

หลวงปู่ศรีทัตถ์ เป็นนามแห่งพระเถระที่คณะศิษย์และสาธุชนชาวเมืองนครพนม ต่างเลื่อมใสศรัทธานำคำสั่งสอนไปปฏิบัติ ตราบเท่าจนทุกวันนี้ 


อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์