พุทธชัยมงคลคาถา (คาถาปราบมาร)
(1/1)
ไอย:
Tweet
คาถาปราบมาร พุทธชัยมงคลคาถา
วิธีต่อสู้ที่ทำให้ได้รับชัยชนะในแบบของพระพุทธองค์
พุทธชัยมงคลคาถา เป็นบทสวดมนต์ที่ชาวพุทธนิยมนำมาใช้ในการสวดมนต์ภาวนาอย่างแพร่หลาย เป็นบทสวดที่กล่าวถึงชัยชนะของพระพุทธเจ้า ๘ ครั้ง ที่มีต่อ
๑. พระยามาร
๒. อาฬวกยักษ์
๓. ช้างนาฬาคีรี
๔. องคุลีมาล
๕. นางจิญจมาณวิกา
๖. สัจจกนิครณห์
๗. นันโทปนันทนาคราช
๘. ท้าวพกพรหม
หรือเป็นชัยชนะต่ออริศัตรู ๘ ประเภท คือ
๑. ชนะศัตรูหมู่มาก
๒. ชนะใจคนกระด้างกระเดื่อง
๓. ชนะสัตว์ร้าย
๔. ชนะโจร
๕. ชนะการกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายป้ายสี
๖. ชนะการโต้ตอบ
๗. ชนะเล่ห์เหลี่ยม
๘. ชนะทิฏฐิมานะของคน
บทที่ 1
พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท,
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต(เม) ชะยะมังคะลานิ ฯ
(พระจอมมุนี ได้เอาชนะพระยามารผู้เนรมิตแขนมากตั้งพัน ถืออาวุธครบทุกมือ ขี่ช้างครีเมขละ มาพร้อมกับเหล่าเสนามารซึ่งโห่ร้องกึกก้อง ด้วยวิธีอธิษฐานถึงทานบารมี เป็นต้น, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน (ข้าพเจ้า) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ)
บทที่ 2
มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท,
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต(เม) ชะยะมังคะลานิ ฯ
(อนึ่ง พระจอมมุนี ได้เอาชนะยักษ์ชื่อ อาฬวกะ ผู้มีจิตหยาบกระด้าง ผู้ไม่มีความอดทน มีความพิลึกน่ากลัวกว่าพระยามาร ซึ่งได้เข้ามาต่อสู้อย่างยิ่งยวดจนตลอดคืนยันรุ่ง ด้วยวิธีทรมานอันดี คือขันติความอดทน, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน (ข้าพเจ้า) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ)
บทที่ 3
นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง
ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท,
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต(เม) ชะยะมังคะลานิ ฯ
(พระจอมมุนี ได้เอาชนะช้างตัวประเสริฐชื่อ นาฬาคิรี ที่เมายิ่งนัก และแสนจะดุร้ายประดุจไฟป่าและจักราวุธและสายฟ้า ด้วยวิธีรดลงด้วยน้ำคือ ความมีพระทัยเมตตา, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน (ข้าพเจ้า) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ)
บทที่ 4
อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะ สุทารุณันตัง
ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท,
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต(เม) ชะยะมังคะลานิ ฯ
(พระจอมมุนี ทรงคิดจะแสดงฤทธิ์ปาฏิหารย์ จึงได้เอาชนะโจรชื่อ องคุลิ-มาล ผู้แสนจะดุร้าย มีฝีมือ ถือดาบวิ่งไล่พระองค์ไปสิ้นระยะทาง ๓ โยชน์, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน (ข้าพเจ้า) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ)
บทที่ 5
กัตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา
จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท,
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต(เม) ชะยะมังคะลานิฯ
(พระจอมมุนี ได้เอาชนะคำกล่าวใส่ร้ายของ นางจิญจมาณวิกา ซึ่งทำอาการเหมือนดั่งมีครรภ์ เพราะเอาท่อนไม้กลมผูกไว้ที่หน้าท้อง ด้วยวิธีทรงสมาธิอันงาม คือความกระทำพระทัยให้ตั้งมั่นนิ่งเฉย ในท่ามกลางหมู่ชน, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน (ข้าพเจ้า) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ)
บทที่ 6
สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง
วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท,
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต(เม) ชะยะมังคะลานิ ฯ
(พระจอมมุนีผู้รุ่งเรืองด้วยแสงสว่างคือปัญญา ได้เอาชนะ สัจจกะนิครนถ์ ผู้มีความคิดมุ่งหมายในอันจะละทิ้งความสัตย์ มีใจคิดจะยกถ้อยคำของตนให้สูงประดุจยกธง และมีใจมืดมนยิ่งนัก ด้วยการแสดงเทศนาให้ถูกใจ, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน (ข้าพเจ้า) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ)
บทที่ 7
นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง
ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท,
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต(เม) ชะยะมังคะลานิ ฯ
(พระจอมมุนี ได้เอาชนะพญานาคราชชื่อ นันโทปนันทะ ผู้มีความรู้ผิดมีฤทธิ์มาก ด้วยวิธีบอกอุบายให้พระโมคคัลลานเถระพุทธชิโนรส แสดงฤทธิ์เนรมิตกายเป็นนาคราช ไปทรมานพญานาคชื่อ นันโทปนันทะนั้น, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน (ข้าพเจ้า) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ)
บทที่ 8
ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง
พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท,
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต(เม) ชะยะมังคะลานิ ฯ
(พระจอมมุนี ได้เอาชนะพระพรหมผู้มีนามว่า ท้าวพกาพรหม ผู้มีฤทธิ์ คิดว่าตนเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์ ผู้ถูกพญานาครัดมือไว้แน่น เพราะมีจิตคิดถือเอาความเห็นผิด ด้วยวิธีวางยาคือทรงแสดงเทศนาให้ถูกใจ, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน (ข้าพเจ้า) ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ)
บทสรุป
เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา
โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ
โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญฯ
(บุคคลใดมีปัญญา ไม่เกียจคร้าน สวดและระลึกถึงพระพุทธชัยมงคล ๘ คาถาเหล่านี้ทุก ๆ วัน บุคคลนั้นจะพึงละความจัญไรอันตรายทั้งหลายทุกอย่างเสียได้ และเข้าถึงความหลุดพ้นคือ พระนิพพานอันบรมสุขแล ฯ)
ถ้าสวดให้คนอื่นใช้คำว่า เต สวดให้ตัวเองใช้คำว่า เม
(เต แปลว่าท่าน เม แปลว่าข้าพเจ้า)
ปรกติแล้ว “พุทธชัยมงคลคาถา” เป็นบทสวดที่พระท่านใช้ในการทำบุญตักบาตรในมงคลพิธี เช่นการทำบุญขึ้นบ้านใหม่หรือพิธีงานฉลองต่างๆงานแต่งงาน, งานฉลองพระ เป็นต้น
ที่มาของพระคาถาและคำแปล
http://www.agalico.com/board/showthread.php?do=post_thanks_add&p=20908
http://www.navy.mi.th/navy_admin/maolee/5-pahung.html
หมีงงในพงหญ้า:
หรือเรียกอีกอย่างว่า บทสวดพาหุง
แก้ครับ
๘. ท้าวพกพรหม
รู้สึกว่าจริง ๆ แล้วจะเป็นท้าวพกาพรหม
ผู้มีฤทธิ์ สำคัญตนว่าเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์
ปล.เอาไปปราบมารที่ไหนหนอ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ