พระราชาตรัสถามว่า ท่านเป็นใครมาร้องขายหม้ออยู่กลางอากาศเช่นนี้ หม้อท่านใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
พราหมณ์ตอบว่า ขอเดชะหม้อใบนี้มิใช่หม้อน้ำผึ้งเป็นหม้อที่มีโทษมากกล่าวคือผู้ใดดื่มน้ำในหม้อนี้แล้วเดินโซซัดโซเซตกหลุมตกบ่อ ไม่มีกฎเกณฑ์ในใจ เทียวหยำเปไป ฟ้อนรำ ขับร้องได้ เดินแก้ผ้าเปลือยกายตามถนนก็ได้นอนตื่นสาย พูดคำที่ไม่ควรพูดกินอาหารที่เหลือเดนสุนัขได้ นอนจมอยู่ในอาเจียนของตนมีตาขวาง เข้าใจว่าบ้านเมืองเป็นของเราผู้เดียว ทะเลาะวิวาท เสียทรัพย์สินเงินทองไร่นา ด่ามารดาบิดาได้ ฆ่าสมณชีพราหมณ์ได้ ท่านจงซื้อหม้อใบนี้เสียเถิด น้ำในหม้อใบนี้ ก็เป็นสุราเช่นเดียวกัน ถ้าประสงค์จกเห็นความพินาศของตนเองและบ้านเมืองแล้ว จงดื่มเถิด
พระราชา พราหมณ์ ท่านมิใช่มารดาบิดาของเรายังหวังดีแก่เราปานนี้ ขอมอบบ้านเก็บภาษี ๕ ตำบล ทาสี ๕๐๐ คนวัว ๗๐๐ ตัว รถม้าอาชาไนยอีก ๑๐ คัน แก่ท่าน ขอท่านจงเป็นอาจารย์แก่ข้าพเจ้าเถิด
พราหมณ์แสดงตน ให้ทราบว่าเป็นท้าวสักกะแล้วให้โอวาทว่า พระราชาบ้าน ทาสี วัว และรถม้าอาชาไนยจงเป็นของท่านตามเดิมเถิดเราเป็นท้าวสักกะ ขอพระองค์จงตั้งอยู่ในธรรมอย่าประมาทเถิด เมื่อประทานโอวาทแก่พระราชาแล้ว ท้าวสักกะก็เสด็จกลับยังสถานวิมานของพระองค์ทันที
ฝ่ายพระราชาก็ไม่ดื่มสุรานั้น รับสั่งให้ทำลายทิ้งทั้งหมด สมาทานศีลบริจาคทานแล้วในที่สุดของชีวิตไปเกิดในสวรรค์ ส่วนการดื่มสุราก็มีมาในโลกมนุษย์
แต่วันนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
...................................นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า........................................
การดื่มสุราไม่มีประโยชน์ มีแต่โทษฝ่ายเดียวทำให้เสียทรัพย์เสียของรักและทำให้ผู้คนประกอบกรรมชั่วได้ สาธุชนเมื่อทราบเช่นนี้แล้วมิควรดื่มสุราเลยที่มา...............................หนังสือนิทานชาดก โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม