ท้องฟ้ากับนกฉันส่งพู่กันให้เจ้าลูกชายตัวน้อยก็ไม่รอช้า
แตะปลายพู่กันลงบนสีที่เตรียมไว้ก่อนแล้ว
พอได้ที่ก็ตวัดสีลงบนกระดาษไปมา ละเลงสีนั้นหยอดสีนี้อยู่ครู่ใหญ่
ฉัดอดใจไว้ไม่ไหวจึงถาม “วาดภาพอะไรล่ะลูก”
ลูกชายยิ้มพูดเบาเบา “วาดท้องฟ้าไงพ่อ....เสร็จแล้ว”
เขาวางพู่กัน มองดูภาพที่ตัวเองวาด
“ฉันจะบินไปในท้องฟ้า” เขาบอก
“ไปอย่างไรล่ะลูก”
“ขี่นกกระดาษไป”
ว่าแล้วเขาก็ฉวยกระดาษขาวมาพับเป็นนก
แล้วโยนนกกระดาษในมือลงบนภาพวาดท้องฟ้า
“ฉันไปก่อนนะพ่อ” สิ้นเสียง
เจ้าลูกชายตัวน้อยก็กระโดดขึ้นไปขี่บนนกกระดาษ
เข้าไปในภาพที่เขาวาดเป็นรูปท้องฟ้า
นกกระดาษพาลูกชายตัวน้อยล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าสีประหลาด
หมุนไปทางซ้ายเลี้ยวไปทางขวา ฉันมองดูด้วยอาการตกตะลึง
ภาพท้องฟ้าที่ลูกวาดสักครู่เปลี่ยนเป็นเมฆครึ้ม แล้วมีฝนตกลงมาอย่างหนัก
นกกระดาษที่ลูกชายขี่ พอเปียกน้ำอมชุ่มหนักไม่ช้าก็ตกลงมาพร้อมลูกชาย
“ลูกระวัง !” ฉันร้องตะโกนลั่น
ร่างของลูกชายกลิ้งหลุดออกมาจากภาพวาด เนื้อตัวเปียกปอน
มาหมอบอยู่ข้างๆฉัน แล้วหันมาหัวเราะ
“เมื่อกี้นี้ แม่ทำน้ำหกโดนใครหรือเปล่า ?”
เสียงแม่ของลูกชายดังมาจากห้องชั้นบนบ้าน
“โดนภาพวาดกลายเป็นฝนไปแล้ว”
ฉันพูดทีเล่นทีจริง แล้วหันไปกอดลูกชายแน่น.......
ขอบคุณ..บ้านแม่จ้อง ตลาดใหญ่ ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ มีนาคม ๒๕๔๔