อัตตา = อนัตตา ในจุดที่เที่ยง ไม่ทุกข์ ไม่แปรปรวน เพราะไม่มีอารมณ์กิเลสอยู่owner board : คุณพลศักดิ์นี้พูดจาวกวน กลับกลอกอยู่เสมอ อย่างเช่นครั้งนี้...
คือตอนแรกยอมรับว่า "เมื่อเป็นสิ่งปรุงแต่ง มันก็ไม่เที่ยง ต้องทนอยู่ และเป็นอนัตตา "
แต่ตอนหลังกลับมากลับคำใหม่ว่า " สิ่งปรุงแต่ง ที่มันเที่ยง อยู่เป็นอมตะ และเป็นอัตตา มันมีนะครับ " ตอบ " สิ่งปรุงแต่ง มันก็ไม่เที่ยง ต้องทนอยู่ และเป็นอนัตตา " = สิ่งปรุงแต่งที่มีอารมณ์โลภ โกรธ หลง = สังขตธาตุ
" สิ่งปรุงแต่ง ที่มันเที่ยง อยู่เป็นอมตะ และเป็นอัตตา มันมีนะครับ " = สิ่งปรุงแต่งที่ไม่มีอารมณ์โลภ โกรธ หลง สิ่งปรุงแต่งเหล่านี้อยู่ในเมืองพระนิพพาน หรือพุทธเกษตร เรียกว่า "สัมโภคกาย หรือธรรมกาย(เถรวาท)" = อสังขตธาตุ
สิ่งที่ไม่ปรุงแต่ง เที่ยง และอมตะ ไม่เป็นทั้งอัตตาและอนัตตา ก็มีเช่นกัน คือ มันอยู่ตรงกลาง = พุทธภาวะเบื้องต้น ที่เป็นแสงสุกสกาว เรียกว่า "ธรรมกาย(ตามความหมายของมหายาน)" หรือนิพพานจิต หรือ พระเจ้า หรือพระพุทธเจ้าต้นธาตุ-ต้นธรรม ซึ่งเป็นผู้ทำให้เกิดทั้งสังขตธาตุ และอสังขตธาตุ
เลือกกันเอาเองว่า คุณอยากเป็นสิ่งปรุงแต่งที่เที่ยงหรือไม่เที่ยง หรือเป็นสิ่งไม่ปรุงแต่ง ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างสิ่งปรุงแต่งที่เที่ยงและไม่เที่ยง
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความกำจัดราคะ โทสะ ความกำจัดโมหะ นี้เป็นชื่อแห่งนิพพานธาตุ ความสิ้นราคะ ความสิ้นโทสะ ความสิ้นโมหะ นี้เรียกว่า อมตภาพ" มนุษย์มีอายุสั้นลงเรื่อยๆ ก็เพราะไปปรุงแต่งด้วยอารมณ์โลภ โกรธ หลง เมื่อมนุษย์เริ่มทำความดี รักษาศีล และปฎิบัติธรรมกัน การคิดปรุงแต่งด้วยอารมณ์โลภ โกรธ หลงก็ค่อยๆลดลง เป็นเหตุให้อายุคนก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ จาก 10ปี ก็เป็น 20ปี เป็น 100ปี เป็นพันปี เป็นหมื่นปี เป็นแสนปี เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนไปถึงอสงขัยปี - พวกที่อายุยืนถึงอสงขัยปี ด้วยเหตุที่ใจของเขาไม่มีอารมณ์ราคะ โทสะ โมหะ นั่นเอง
พระพุทธองค์ได้ประทานโอวาทแก่พระเจ้า ปเสนทิโกศล ว่า:
“คนที่มีสติอยู่ตลอดเวลา รู้จักประมาณในการบริโภค ย่อมมีเวทนาเบาบาง แก่ช้า ครองอายุอยู่ได้นาน” คนที่มีสติอยู่ตลอดเวลา = พระอรหันต์ ที่วิปัสสนาตลอด หรือ พระอรหันต์วิปัสสโก นอกจากนี้ พระพุทธเจ้ายังได้เคยตรัสกับพระอานนท์ไว้ด้วยว่า:
“อานนท์ ผู้อบรมอิทธิบาท ๔ มาอย่างดีและทำจนแคล่วคล่องแล้วอย่างเรานี้ หากปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ถึง ๑ กัลป์ (คือ ๔,๓๒๐,๐๐๐,๐๐๐ ปีมนุษย์) ก็สามารถจะมีชีวิตอยู่ได้”ซึ่งก็คือ พระอรหันต์ที่ทำทั้งสมถะและวิปัสสนากรรมฐาน แต่สมถะแบบไหนผมไม่รู้ เพราะมีหลายวิชามากมาย อาจจะเป็นพระอรหันต์ที่มีวิชาต่อธาตุขันธ์(ดิน น้ำ ลม ไฟ)หรือเปล่า อันนี้ผมก็ไม่รู้ ไม่ได้ไปค้นคว้า
ตอนนี้owner board ก็มีอายุน้อยลง 3 วัน เพราะอารมณ์โกรธ ไม่พอใจผม ส่วนผมมีอายุยืนขึ้น 3 วัน เพราะไม่มีอารมณ์โกรธ และไม่มีอารมณ์ไม่พอใจท่านowner board ไว้ผมอายุ 125 ปี จะไปเยี่ยมคารวะหลุมศพหลวงพี่ หรือถ้าผมพบวิธีการในพระไตรปิฎกว่าต้องทำกรรมฐานแบบไหน อายุจะได้ยืนถึงอสงขัยปี ผมจะไปเยี่ยมท่านowner board ตอนอายุ 2000 ปี 1 ครั้ง ไปเยี่ยนตอนอายุ 3000 ปี อีก 1 ครั้ง
สรุปอนัตตา = ไม่เที่ยง ทุกข์ แปรปรวน เปรี่ยบเสมือนเป็นเส้นโค้งที่โค้งไปโค้งมา
อัตตา = เที่ยง ไม่ทุกข์ ไม่แปรปรวน
อัตตา คือ อนัตตาในจุดหรือภาวะอารมณ์ปรุงแต่งด้วยกิเลสเป็น 0 เปรียบเหมือนเป็นเส้นตรงที่เรียบตลอด ความจริง เส้นตรง = เส้นโค้งในจุดที่แบนราบ