[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
06 พฤษภาคม 2567 12:17:55 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไข้ fever!!!!!  (อ่าน 2420 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
wondermay
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 19 ธันวาคม 2553 17:55:23 »

เมื่อคุณเป็นไข้

ไข้ คือ การที่อุณหภูมิของร่างกายเพิ่มขึ้นสูง เนื่องจากการติดเชื้อ หรือการอักเสบ และสามารถเกิดขึ้นได้ โดยมีสาเหตุ หรือไม่มีสาเหตุที่รุนแรงได้
ไข้บางชนิด เช่น ไข้หวัดใหญ่ สามารถใช้ยาลดไข้ได้ ในขณะที่ไข้ อันเนื่องมาจากสาเหตุที่ร้ายแรงอื่นๆ ควรได้รับการรักษาอย่างเฉพาะเจาะจงจากแพทย์

กลไกของการรักษาอุณหภูมิในคนปกติ

คนปกติอุณหภูมิของร่างกายถูกควบคุม ให้อยู่ประมาณ 36.5-37.5 องศาเซลเซียส โดยศูนย์ควบคุมความร้อนในสมอง ศูนย์นี้จะเป็นตัวปรับให้ร่างกายสร้างความร้อนมากขึ้นหรือขับถ่ายความร้อนออก

   1. ความร้อนในร่างกายถูกสร้างขึ้น โดย การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
   2. การเผาผลาญของพลังงาน เช่น การทำงานของเซลล์
   3. การหลั่งของฮอร์โมนบางชนิด
   4. การปรับตัวของร่างกาย

สาเหตุของการเกิดไข้


สาเหตุทั่วไปของไข้ โรคติดเชื้อจาก แบคทีเรีย รา ไวรัส ยีสต์ โปรโตซัว เป็นต้น
การอักเสบ
ไข้เนื่องจากสาเหตุอื่น เนื้องอกหรือมะเร็ง
เนื้อเยื่อถูกทำลาย
ความผิดปกติของการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย เช่นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
ภาวะขาดน้ำ

อาการที่เกิดจากไข้หรือร่วมกับไข้

ผู้ป่วยแต่ละคนจะมีความรู้สึกแตกต่างกันไป แล้วแต่ความสมบูรณ์ของร่างกาย บางคนรู้สึกร้อน ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดข้อ เบื่ออาหาร มีไข้ หนาวสั่น

ประโยชน์และข้อเสียของไข้


   1. ประโยชน์ของไข้ ไข้สูงทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตไม่ดี
   2. ไข้ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดเมื่อย เป็นการบังคับให้ต้องพักผ่อน
   3. ทำให้ผู้ป่วยทราบว่าตนเองผิดปกติ ต้องรีบรับการรักษา

   1. ข้อเสียของการมีไข้ อาจทำให้เกิดอาการชักในเด็กที่มีไข้สูง
   2. ทำให้ร่างกายต้องการออกซิเจนสูงขึ้น
   3. ถ้าไข้สูงถึง 41 องศาเซลเซียส จะเป็นอันตรายต่อสมอง
   4. เกิดผลร้ายแรง เช่น ขาดน้ำ เพ้อ ชัก
   5. ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบาย

การลดไข้


   1. มีหลักอยู่ 2 วิธี คือ การ ใช้น้ำอุ่นเช็ดตัว เพราะจะช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกายได้มาก ผู้ป่วยที่กำลังมีไข้ ไม่ควรสวมเสื้อผ้าหนา เพราะจะทำให้ ความร้อนระบายออกได้ยาก แต่ถ้าผู้ป่วยหนาวสั่นควรใส่เสื้อผ้า เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายเพียงพอ แต่ต้องไม่หนาจนเกินไป
   2. รับประทานยาลดไข้
          * ยา พาราเซตามอล ในผู้ใหญ่รับประทานครั้งละ 2 เม็ดทันทีที่รู้สึกมีอาการไข้ หลังจากรับประทานยาแล้ว 4 ชั่วโมงสามารถทานยาซ้ำได้ ถ้ายังมีอาการไข้ แต่ไม่ควรรับประทานยาติดต่อกัน มากกว่า 3 วันโดยไม่ได้รับการรักษาจากแพทย์
          * ยา แอสไพริน เป็นยารักษาอาการไข้ แต่มีฤทธิ์ข้างเคียงที่สำคัญคือกัดกระเพาะ จึงควรรับประทานทานหลังอาหารทันที และไม่ควรซื้อยารับประทานเอง

หาก อาการไข้ มีสาเหตุมาจากโรคร้ายแรง ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโรค อันก่อให้เกิดไข้ เพราะการลดไข้ เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ของการรักษาเท่านั้น
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=325546[/url

อาการไข้ ปวดเมื่อย

การเป็นไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย หมายความว่า ร่างกายต้องสร้างเม็ดเลือดจากไขกระดูกทุกข้อ จนกว่าเม็ดเลือดจะสมดุล การเป็นหวัด เกิดจากเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย
เมื่อร่างกายอ่อนแอจากการถูกละอองฝน ตากแดดนาน ๆ อาบน้ำตอนดึก ๆ แล้วไม่ฝึกปรับลมปราณ (คือ การหายใจเข้าไปลึก ๆกลั้นไว้ นับ 1-10 ในใจ แล้วเป่าลมออกแรง ๆ )
ทำอย่างนี้ 10 ครั้ง จะทำให้เพิ่มเม็ดเลือดแดง เพื่อไปช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายแข็งแรง ต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้


จากหนังสือเส้นสายสร้างสมดุล
ผู้เขียน “ล้อเกวียน”

ของแสลงยามเป็นไข้

ของแสลงที่ไม่ควรกินตอนเป็นไข้ คือ แป้ง ของหวานจัด อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง อาหารที่มีกำมะถันเยอะ ๆ ทุเรียน ขนุน ลำไย ผักที่มีกลิ่นแรง ๆ เช่น ใบกุยช่าย
หรือผักที่ห้ามกินตอนตรุษจีน เพราะจะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ยิ่งทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงมากยิ่งขึ้น

อาหารที่มีโซเดียม
เป็นส่วนประกอบ เช่น อาหารรสเค็มจัด อาหารที่ใส่ผงชูรสมาก ๆ รวมไปถึงเครื่องดื่ม เช่น ชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาขับปัสสาวะ
ยาล้างไต ก็ไม่เหมาะกับคนเป็นไข้ เพราะจะทำให้ปัสสาวะบ่อย ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ
 
นอกจากนี้ควรงดออกกำลังกาย เพราะจะยิ่งทำให้เหงื่อออกมาก ร่างกายสูญเสียน้ำ และควรงดสูบบุหรี่ เพราะคนเป็นไข้ต้องการออกซิเจนในปริมาณมาก
 
ส่วนของแสลงที่เป็นความเชื่อที่บอก  ต่อ ๆกันมาในอดีตอย่างหน่อไม้ บางคนเชื่อว่าจะยิ่งทำให้ไข้สูง ไข้ไม่ลด ก็ไม่เกี่ยวกัน แต่ที่ไม่ควรกิน คือหน่อไม้ดอง
เพราะอาหารรสเค็มทุกชนิดมีโซเดียมสูง อาหารทะเล จริง ๆกินได้ดีด้วยซ้ำ เพราะอาหารทะเลมีไอโอดีนเยอะ จะไปช่วยปรับสมดุลในร่างกาย
 
ฝรั่งก็กินได้ เพราะฝรั่งมีวิตามินซีเยอะ จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับ  ร่างกาย แต่ที่กลัวกัน คือ ในฝรั่ง  มีโพแทสเซียม ถ้ามีไข้สูงและเป็นโรคไตด้วย ไม่ควรกิน
เพราะอาจทำให้เกิดอาการชักได้  ถ้าไม่เป็นโรคไต ก็สามารถกินฝรั่งได้ตามปกติ แต่ใน 1 วัน ไม่ควรกินฝรั่งเกิน 5 มิลลิอีควิวาเลนท์ คำนวณแล้วก็ประมาณ  2 กิโลกรัมขึ้นไป
ในความเป็นจริงเชื่อว่าคงไม่มีใครกินฝรั่งในปริมาณที่มากมายขนาดนั้น ดังนั้นถ้าไม่ได้มีไข้สูง เป็นแค่ไข้ธรรมดา และไม่ได้เป็นโรคไต ก็สามารถกินฝรั่งได้ตามปกติ
 
ส่วนผล ไม้อื่นที่มีโพแทส เซียมสูง เช่น กล้วย ส้มโอ สามารถรับประทานได้เช่นกัน เพราะอย่างที่บอกจะต้องรับประทานมากถึง 2 กิโลกรัมขึ้นไป จึงอาจจะทำให้เกิดอันตราย
 
น้ำเย็น การดื่มน้ำเย็นไม่ได้เป็นอันตรายแต่จะทำให้ร่างกายดูดซึมได้เร็วกว่า ส่วนการกินน้ำแข็งก็ไม่เป็นอันตรายอะไร ดังนั้นเวลาเป็นไข้ ขอแนะนำว่า ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เข้าไว้
 
อาหาร พืช ผัก ผลไม้ รสเย็น เช่น  ฟัก แฟง แตงกวา แตงโม สามารถกินได้ เพราะมีน้ำเยอะ อะไรก็ตามที่ไปเพิ่มน้ำให้กับร่างกาย ในภาวะที่ร่างกายเหงื่อออกเยอะ สามารถกินได้ทั้งนั้น
ดังนั้นจึงควรกินผัก ผลไม้ที่มีน้ำเยอะ ๆ โดย  เฉพาะน้ำผลไม้จะมีน้ำตาลดูดซึมได้ดี ไม่เป็นเชื้อเพลิงให้กับไข้ หลักสำคัญจงจำเอาไว้ว่า อย่ากินอะไรที่ไปจุดไฟในร่างกายให้ร้อนขึ้น
แต่ควรกินอาหารรสเย็น เพื่อไปดับไฟในร่างกาย

http://www.rploei.go.th/web/index.php?option=com_content&task=view&id=109&Itemid=67

ไม่อยากเป็น "ไข้" กินอะไรดี???

1. ผลไม้รสเปรี้ยว “วิตามินซี” ที่มีมากในผลไม้รสเปรี้ยวนั้นถือว่าเป็นพระเอกสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้ม กันให้กับร่างกาย เนื่องจากผลไม้รสเปรี้ยวเป็นส่วนใหญ่
ได้แก่ ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี่ กีวี มะขาม มะม่วง มะเขือเทศ โดยเฉพาะส้มทุกชนิดนั้นเป็นแหล่งของวิตามินซี ทราบไหมคะว่าส้มหนึ่งผลใหญ่อุดมไปด้วยวิตามินซีถึง 50 มิลลิกรัม
เราจึงไม่ต้องแปลกเลยว่าทำไมคนที่รับประทานส้มเป็นประจำมักจะไม่เป็นหวัด หรือหากบังเอิญเป็นหวัดก็จะหายได้ในเวลารวดเร็ว

2. ซุปไก่ ในซุปไก่มีกรดอะมิโนตามธรรมชาติชื่อซีสเทอีน มันจะละลายในน้ำเมื่อเราต้มน้ำซุป ซีสเทอีนที่ว่านี้มีสูตรโครงสร้างทางเคมีคล้ายคลึงกับยาตัวหนึ่งที่ชื่ออะเซ
ทีลซีสเทอีนที่มีฤทธิ์เหมือนยาขับเสมหะ และเป็นยาที่แพทย์ในหลายประเทศนิยม จากการศึกษาวิจัยพบว่าซุปไก่มีฤทธิ์ยับยั้งการ เคลื่อนที่ของเม็ดเลือดขาวชนิดที่เรียกว่านิวโทรฟิลด์
ไปยังเนื้อเยื่อปอด ซึ่งจะช่วยลดขบวนการอักเสบในปอดและลดอาการไอได้ด้วยค่ะ


3. นมเปรี้ยว แต่ต้องเป็นนมเปรี้ยวที่มีเชื้อแลคโตบาซิลลัส จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายนะคะ เพราะจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สูงขึ้นได้
จากผลการวิจัยระบุว่าการรับประทานโยเกิร์ตวันละ 4 เวลาเป็นประจำทุกวันจะทำให้ระดับภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า ยิ่งไปกว่านั้นงานวิจัยยังพบอีกว่าการดื่มนมเปรี้ยวทุกวันจะช่วยลด
อาการทุกข์ทรมานจากหวัดละอองฟาง ภูมิแพ้ และร้อยละ 25 เป็นหวัดน้อยลง เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ดื่มนมเปรี้ยวเลยหรือดื่มเป็นบางครั้งบางคราวค่ะ

4. น้ำอุ่น การดดื่มน้ำอุ่นจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ หายใจไม่สะดวกอันเนื่องมาจากโรคหวัดได้ เนื่องจากน้ำ อุ่นช่วยขยายเนื้อเยื่อที่กำลังอักเสบหรือหดตัวอยู่ให้คลายโล่งขึ้นได้
ยิ่งดื่มน้ำอุ่นมากๆหรือจิบบ่อยๆจะยิ่งช่วยให้ทางเดินหายใจชุ่มชื้นขึ้น ลดความรุนแรงของอาการ และเสมหะยังถูกขับออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยนะคะ

     นอกจากนี้ยังมีผักสมุนไพรพื้นบ้านตามฤดูหนาวนี้ อย่างสะเดาช่วยแก้ไข้อาการหวัด ทำให้เจริญอาหาร ขี้เหล็กมีสรรพคุณช่วยระบาย ดอกแคแก้ไข้หัวลม ส่วนการเลือกเครื่องดื่มในช่วงหน้าหนาวนี้ควรจะเป็นเครื่องดื่มร้อนๆ เช่น น้ำขิง ชาสมุนไพร เพื่อช่วยให้ชุ่มคอ ลดอาการไอ แก้หวัด ซึ่งป้องกันการเป็นหวัดในช่วงนี้ได้อีกทางหนึ่งด้วยค่ะ

http://blog.eduzones.com/rangsit/12867

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 ธันวาคม 2553 18:03:13 โดย wondermay » บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 2.0.157.2 Chrome 2.0.157.2


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2553 17:25:10 »

ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ไม่สบาย ขี้มูกไหล น้ำลายเหนียว เยี่ยวไม่ออก ใช้ เป็ดโปรขวดสีม่วง

ย้ำ เป็ดโปร ขวดสีม่วง ม่วง ๆ ๆ ๆ (เสียงแอ๊คโค่)

55555555+

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น: ไข้ เป็นไข้ ปวด หวัด 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.352 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 01 เมษายน 2567 05:16:51