[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
10 พฤษภาคม 2567 16:53:51 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุใด? พระคเณศจึงเสียงา  (อ่าน 1304 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5478


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 13 ธันวาคม 2558 17:35:23 »

.



เหตุใด? พระคเณศจึงเสียงา
เรื่องราวของพระคเณศ มีอยู่ในเกร็ดตำนาน ตามความเชื่อลัทธิพราหมณ์ แตกต่างกันโดยพิสดารหลายคัมภีร์

เสฐียรโกเศศ นาคะประทีป เล่าประวัติ พระคเณศ ไว้ในเทพนิยายสงเคราะห์ภาค ๔ หนังสือศิลปากรฉบับปีที่ ๑ เล่ม ๕ ก.พ.๒๔๘๐ ว่า เป็นเชษฐโอรสของพระอิศวร และพระอุมา มีชายา ๒ องค์ ชื่อพุทธิ และสิทธิ มีโอรส ๒ องค์ ชื่อเกษม และลาภ

ชาวฮินดูเชื่อว่าถ้าได้กราบไหว้บูชา ก็จะประสบแต่ความสุขความเจริญ

กำเนิดพระคเณศ ตามคัมภีร์ไววรรตปุราณ...ครั้งนั้นพระอิศวรแนะนำให้พระอุมา ทำพิธีปันยากรพรตบูชาพระนารายณ์ เริ่มบูชาตั้งแต่วันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๓ เรื่อยไปจนครบ ๑ ปี เพื่อขอประทานโอรส

พระอุมาทำพิธีจนครบเวลา...ไม่ได้โอรสก็เสียใจ แต่เมื่อกลับไปห้องก็พบพระโอรสเป็นพระกฤษณะ (ปางหนึ่งพระนารายณ์) แบ่งภาคมาเกิด ก็มีความปีติโสมนัส ทวยเทพทั้งสวรรค์ ทราบข่าวก็พากันมาแสดงความยินดี

แต่พระศนิ (พระเสาร์) ท่าทีผิดปกติ ไม่กล้ามองพระกุมาร ก้มดูแต่พื้น

พระอุมาถาม พระศนิตอบว่า ครั้งหนึ่งมัวเพลินภาวนาถึงองค์พระวิษณุ จนละเลยหน้าที่สามี องค์ชายาคิดว่าไปมีหญิงอื่น โกรธมากสาปว่า ถ้าพระศนิมองผู้ใด ผู้นั้นจะพินาศ

พระอุมาไม่เชื่อ...ขอให้พระศนิมองดูพระกุมาร พระศนิขอให้พระยมเป็นพยานแล้วก็เงยหน้า...ทันทีที่มอง เศียรพระกุมารก็ขาดกระเด็น...หายไปอยู่ที่เดิม คือที่เศียรพระ-กฤษณะที่แบ่งภาคมาเกิด

ขณะพระอุมาและทวยเทพตกพระทัยโทมนัสกันแสงกันทั่วหน้า พระวิษณุองค์เดียวทรงครุฑไปยังแม่น้ำบุษปภัทร เห็นช้างนอนหลับหันหัวไปทิศเหนือ ก็ทรงตัดเศียรช้างนำกลับมาต่อที่พระศอพระกุมาร

พระกุมารก็คืนชีพเหมือนเดิม

คัมภีร์ศิวปุราณ เล่าไว้อีกอย่าง หลายครั้งพระศิวะเสด็จเข้าไปหาพระอุมาขณะทรงสรงน้ำ โดยไม่ทันรู้ตัว พระอุมาจึงเอาไคลขมิ้นทาพระกายปั้นเป็นชายหนุ่มรูปงาม ทำหน้าที่ยามเฝ้าประตู

เมื่อพระอิศวรเสร็จไป ชายรูปงามก็ขวาง เกิดสู้กันพระศิวะสู้ไม่ได้ ป่าวร้องให้พระวิษณุและทวยเทพอื่นๆมาช่วย...ก็ยังสู้ไม่ไหว

รบกันด้วยฤทธิ์แพ้กุมาร พระวิษณุต้องใช้วิชาถนัด...เนรมิตรูปมายาเป็นนางงาม ชายรูปงามเผลอมองเพลิน พระวิษณุได้ทีตัดคอชายเนรมิตขาด

พระอุมากริ้วมาก พระศิวะสั่งเทพองค์หนึ่ง เหาะไปตัดเอาหัวช้างที่นอนเอาหัวไปทางทิศเหนือมาต่อให้

ฟื้นคืนชีพให้แล้ว พระศิวะก็ต้องเอาใจ...ตั้งให้พระ กุมารเศียรช้าง...เป็นใหญ่ในหมู่เทพที่รับใช้

ชื่อ คเณศ ที่แปลว่า เป็นใหญ่ในคณะ...มาจากคัมภีร์นี้

คัมภีร์กันทปุราณ กล่าวไว้อีกทาง...พระศิวะมีโองการว่า ถ้าใครบูชาพระองค์ ณ เทวาลัยโสมนาถ ก็จะได้ขึ้นสวรรค์ ผลก็คือมีมนุษย์จำนวนมากได้ขึ้นสวรรค์ ไปแย่งที่เทวดา...

พระอินทร์นำเทวดาไปร้องทุกข์พระ-ศิวะว่า มนุษย์นอกศาสนาทำบาปหยาบช้าได้ขึ้นสวรรค์ เป็นการไม่สมควร พระศิวะก็เอาใจเทวดา เนรมิตบุรุษรูปงาม ทำหน้าที่กลั่นกรองการบูชาของมนุษย์...ไม่ให้ขึ้นสวรรค์ได้ง่ายๆ

จู่ๆ พระอิศวรก็ทรงมีโอรสรูปงาม พระอุมากริ้วว่าพระนางหาได้มีส่วนเป็นมารดาไม่ จึงสาปหนุ่มรูปงามให้พิการ มีเศียรเป็นช้าง รูปร่างที่สะโอดสะอง เป็นอ้วนท้องพลุ้ย

พระศิวะ...เกรงพระทัยไม่กล้าปริปากแย้งพระอุมา แต่หันไปให้พรพระโอรส “ให้เจ้าเป็นผู้ได้รับบูชาก่อนเทพองค์ใด หากใครไม่บูชากิจการนั้นจะติดขัดไม่สมประสงค์

ชื่อ พระพิฆเนศวร หรือพระพิฆเนศ...แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในความขัดข้อง และชื่อสิทธิธาดา ผู้อำนวยความสำเร็จ ได้มาจากคัมภีร์นี้ล่ะกระมัง

นอกจาก ๓ คัมภีร์นี้ พระคเณศ ยังมีเกร็ดเรื่องเล่าอีกมากมาย บางเรื่องงาซ้ายหัก อีกเรื่องงาขวาหัก บางเรื่องชอบเสวยขนมต้ม จนวันหนึ่งหล่นจากหลังหนูจนพุงแตกต้องใช้งูรัดเอว

เพราะมีหลายคัมภีร์ หลายเรื่องเล่า ลักษณะของพระคเณศ ภาพรวมที่เหมือนกัน มีกายเป็นมนุษย์ มีเศียรเป็นช้าง ส่วนงาที่หักข้างหนึ่ง จากคัมภีร์ที่ถูกปรศุรามขว้างขวานที่พระอิศวรประทานให้...เข้าใส่ พระคเณศเอางารับ งาจึงหักข้างหนึ่ง แต่ก็ยังเถียงกันว่า หักข้างซ้าย หรือหักข้างขวา

ส่วนอื่นๆ ต่างกัน ตั้งแต่ เตี้ย พุงพลุ้ย หูยาน สีกายแดง บางตำราก็ว่าเหลือง ปกติมี ๔ กร บางตำราว่ามี ๖ หรือ ๘ กร

ของที่ถือในมือ...มีขอช้าง บ่วงบาศ งาหัก ขนมต้ม หม้อน้ำ ดอกบัว ส้ม สังข์ จักร หลาว ธนู ลูกธนู คทา ขวาน ลูกประคำ งู ทับทิม หัวผักกาด สมุดหนังสือ และเหล็กจาร

ที่มาของการถือเหล็กจาร ว่ากันว่า มหากาพย์เรื่อง มหาภารตะ...ที่วยาสฤาษี เล่าจากปากนั้น พระคเณศเป็นผู้เขียนเป็นตัวหนังสือ

ตามศัพท์...“คเณศ ” แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในคณะ... มีความหมายเดียวกับ “นายกรัฐมนตรี” ที่แปลว่าผู้นำมนตรี...ในเมืองไทย... หน้าที่ก็รับใช้ทุกฝ่าย รับใช้สารพัดเทพเจ้า เอาใจพ่อค้านายทุน แล้วก็ยังต้องรับใช้เอาใจชาวบ้าน

ไม่แปลก...ที่เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่...จาก บุรุษรูปงาม...สะโอดสะอง จึงถูกจินตนาการตกแต่งให้เป็นพิการ...หัวเป็นช้าง งาหักไปข้างหนึ่ง ทั้งพุงก็พลุ้ย...

มนุษย์นั้น ถ้าเป็นพ่อค้า เป็นชาวบ้าน รับราชการ เป็นทหาร...ก็ยังคงลักษณะเป็นมนุษย์ธรรมดาอยู่ได้ แต่ถ้าวันหนึ่งวันใด... เป็นนักการเมือง ก็จะถูกอุปโลกน์ให้เป็นอะไรก็ได้สารพัดสารพัน จนถึงพิกลพิการไปก็มี.



ภาพจาก : วัดศรีสุพรรณ ถนนวัวลาย ตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
(ศูนย์เรียนรู้ศิลปะหัตถกรรมการตีเครื่องเงินที่สืบทอดมาแต่โบราณ)

บทความโดย 'บาราย' หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 ธันวาคม 2558 19:29:09 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.341 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 14 เมษายน 2567 20:17:49