[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ร้านน้ำชา => ข้อความที่เริ่มโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 09 เมษายน 2567 23:19:54



หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - สาธุ ในโลกที่ความศรัทธาเป็นสินค้า
เริ่มหัวข้อโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 09 เมษายน 2567 23:19:54
สาธุ ในโลกที่ความศรัทธาเป็นสินค้า
 


<span>สาธุ ในโลกที่ความศรัทธาเป็นสินค้า</span>
<span><span>sarayut</span></span>
<span><time datetime="2024-04-09T21:45:15+07:00" title="Tuesday, April 9, 2024 - 21:45">Tue, 2024-04-09 - 21:45</time>
</span>

            <div class="field field--name-field-byline field--type-text-long field--label-hidden field-item"><p>อัจฉรา รักยุติธรรม</p><p>&nbsp;</p></div>
     
            <div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><div class="note-box"><p><span style="-webkit-text-stroke-width:0px;background-color:rgb(255, 255, 255);color:rgb(5, 5, 5);display:inline !important;float:none;font-family:&quot;Segoe UI Historic&quot;, &quot;Segoe UI&quot;, Helvetica, Arial, sans-serif;font-size:15px;font-style:normal;font-variant-caps:normal;font-variant-ligatures:normal;font-weight:400;letter-spacing:normal;orphans:2;text-align:start;text-decoration-color:initial;text-decoration-style:initial;text-decoration-thickness:initial;text-indent:0px;text-transform:none;white-space:pre-wrap;widows:2;word-spacing:0px;">ไหม่ถึงกับสปอย แต่ไปดูก่อนอ่านจะดีกว่า&nbsp;</span></p></div><p>

ในโลกทุนนิยม อะไรก็สามารถกลายเป็นสินค้าคิดหาต้นทุน-กำไรได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความนิยมชมชอบในตัวบุคคลอย่างนักร้อง นักแสดง เน็ตไอดอล ยูทูบเบอร์ หรือแม้แต่พระนักเทศน์ การตลาดทำง่ายและแพร่กระจายกว้างขวางรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล&nbsp;
"สินค้า" ที่สามารถล้วงเงินในกระเป๋าของเราได้ไม่จำเป็นต้องเป็นวัตถุที่จับต้องได้ แต่เป็นประสบการณ์ ความรู้สึก และจินตนาการ ที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเอง "มีตัวตน" มีความใกล้ชิด หรือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของใครบางคนที่เราชื่นชอบ แม้ว่าในความเป็นจริงเราอาจเป็นได้แค่ "ติ่ง" ดังเงารางๆ ในสายตาของเขา หรือเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่โปร่งแสงและโปร่งใส เขารับรู้ได้ว่าเรามีอยู่แต่เขาไม่รู้หรอกว่ารูปร่างหน้าตาเราเป็นอย่างไร แม้เราจะช่วยเพิ่มยอดฟอล ยอดวิว ยอดแชร์ ทุ่มเงินส่งดาว เทกระป๋าซื้อบัตรคอนเสิร์ต ซื้อสินค้ารวมมูลค่านับหมื่นนับแสนบาทก็ตามที &nbsp;&nbsp;

ประสบการณ์ สุนทรียะ ความเชื่อ ความศรัทธา ฯลฯ นามธรรมเหล่านี้ถูกทำให้เป็นสินค้า (commoditization) มานานนับร้อยๆ ปี มนุษย์ยอมจ่ายเพื่อสิ่งที่ครอบครองไม่ได้ แม้แต่ความรู้สึกก็ยัง ชั่วขณะ ชั่วครั้งชั่วคราว &nbsp;

ถ้าการตลาดทำงานได้อย่างชอบธรรมในทุกพื้นที่โลก เหตุใดการตลาดในวงการศาสนาจึงกลายเป็นเรื่อง "ไม่เหมาะสม" หรือกระทั่ง "ผิดบาป" ?

ใช่ว่าทำไม่ได้ หรือไม่ทำกัน เพียงแต่ไอ้ที่ทำกันมานานนมนั้นก็แสร้งว่ามันไม่ใช่ "ธุรกิจ" "การค้า" หรือ "การลงทุน" และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่เพื่อทำกำไร &nbsp;ทั้งที่เม็ดเงินก็เป็นเป้าหมายหลักอยู่ดี&nbsp;

<strong>บูดิเยอร์ชี้ว่าเราเลือกใช้คำเพื่อกลบเกลื่อนการซื้อ-ขาย "สินค้าเชิงสัญลักษณ์" ซึ่งช่วยให้มูลค่ามันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล &nbsp;</strong>

หากพิจารณาที่วัตถุธาตุและประโยชน์การใช้สอย ราคาของสินค้าหลายอย่างจะดิ่งลงไปในทันที ถ้าเพชรเป็นแค่หินชนิดหนึ่ง ทองคำเป็นแค่แร่ชนิดหนึ่ง (ซึ่งความจริงมันก็เป็นแบบนั้น) คิดดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากไม่นับรวมว่าซื้อเพื่อเก็งกำไร สินค้าเชิงสัญลักษณ์บางอย่างนอกจากจะได้รับการยกย่องว่ามี "คุณค่า" แล้ว ผู้คนยังเทิดทูนบูชาไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม เพราะเชื่อว่าสูงส่งศักดิ์สิทธิ์&nbsp;

เราไม่ "ซื้อ" พระไปประดับบ้านหรือเรือนกาย แต่เรา "เช่า" พระไป "บูชา"


เราไม่ "ให้เงิน" วัดหรือพระสงฆ์ แต่เรา "ถวาย "ปัจจัย" "ทำบุญ"

เราไม่ได้ "จ้าง" คนห่มผ้าเหลืองมา "ท่องบ่นบทบาลี" ซึ่งเราเองก็ฟังไม่รู้เรื่อง แต่เรา "นิมนต์" พระสงฆ์มา "เจริญพระพุทธมนต์" หรือ "สวดพระอภิธรรม"

<strong>แต่เราก็แลกการกระทำเหล่านี้ด้วยเงินอยู่นั่นเอง &nbsp;</strong>

สำหรับข้าพเจ้า "สาธุ" เป็นซีรีย์ที่บันเทิงเริงรมย์มาก ไม่ใช่ด้วยความแปลกใหม่ของเหตุการณ์ในเรื่อง การตีบทแตกของนักแสดง หรือพล็อตเรื่อง แต่ข้าพเจ้ารู้สึกสาแก่ใจอย่างไรบอกไม่ถูกที่ซีรีย์เล่าเรื่องจริงอย่างโจ่งแจ้งหมดจด หลวงเจ๊เอย วัดแย่งเจ้าภาพแย่งความนิยมกันเอย พระสงฆ์ต่อยตีเพราะแย่งกิจนิมนต์กันเอย ไหนจะมัคนายกที่อมเงินวัดเป็นภารกิจหลักอีก &nbsp;

พุทธพาณิชย์และธุรกิจการศาสนา รวมทั้งที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้น แต่ต่างก็ช่วยกันกลบเกลื่อน หลบเลี่ยง ที่จะไม่พูดถึงว่ามันเป็นธุรกิจสร้างรายได้และแสวงกำไรรูปแบบหนึ่ง พอใครลุกขึ้นมาตั้งคำถามก็กลายเป็นมารศาสนา ใจบาปหยาบช้าไปเสียนี่ แค่คิดสงสัยก็ยังผิดมโนกรรม พูดออกไปกลายเป็นผิดวจีกรรม ถ้าเปิดโปงก็ผิดกายกรรมไปโน่นเลย &nbsp;

ไวยกรณ์ภาษากำกับความสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ &nbsp;พระดลย์ในเรื่องบอกว่าเราจะ "สวัสดี" พระสงฆ์ไม่ได้แต่ต้อง "นมัสการ" &nbsp;พระเอกชัยบอกว่าการไหว้วานพระเป็น "บาป" &nbsp;ดูทีรึนักการตลาดรุ่นใหม่ทั้ง 3 คน ทำอะไรก็ผิดขนบผิดจารีตไปเสียหมด

แต่ยุคทุนนิยมสมัยนี้ถ้าไม่มีคนรุ่นใหม่มาออกแบบวางแผนประชาสัมพันธ์ คิดหาพรีเซนเตอร์ จัดอีเว้นท์ ยิงแอดในโซเชียล ทำพอดแคสต์ และอื่น ๆ วัดก็คงเรียกความนิยมได้ยาก ยิ่งใช้สื่อโซเชียลยิ่งช่วยให้ธุรกิจเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ร่ำรวย และวัดก็รุ่งเรืองได้ไม่ยาก&nbsp;

ทำไมล่ะ ? สมัยนี้ขายอะไรก็ต้องอาศัยการตลาด &nbsp;หากใช้หลักการตลาดเข้าถึงหัวจิตหัวใจกลุ่มเป้าหมายเพื่อขาย "บุญ" ขาย "ศรัทธา" มันผิดตรงไหน ? ข้าพเจ้าว่ามันดูโอเคกว่าตอนที่ศาสนจักรโรมันคาทอลิกขายใบไถ่บาปในสมัยศตวรรษที่ 14 เสียอีก ใครทำงานก็ต้องได้ค่าแรง พระไปรับกิจนิมนต์ยังได้เงินกลับมา นักการตลาดที่ช่วยงานในวัดก็ควรได้เงินเป็นธรรมดา สมัยนี้ข้าวก็ต้องซื้อกิน จะมาขูดรีดแรงงานกันฟรี ๆ ในนามของ "จิตอาสา" มันไม่น่าจะเป็นธรรม

คนหิวเงินมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกับคน "หิวบุญ" ก็เหมาะเจาะเหมาะสมกันดีแล้ว สมเหตุสมผลตามตรรกะทุนนิยม จ่ายเงินไปเพื่อแลกกับความรู้สึกว่า "ได้บุญ" ตัวบุญหน้าตาเป็นยังไง ใครแคร์ ? จ่ายเงินเช่าพระเครื่องก็ได้พระเครื่องกลับบ้านไปในมูลค่าที่ตัวเองยินยอมพร้อมใจจ่าย ไม่มีใครบังคับขืนใจ พระเครื่องที่ว่ามีมวลสารศักดิ์สิทธิ์ก็จริงตามที่ยิงแอดโฆษณา ผ่านการปลุกเสกอย่างถูกต้องตามระเบียบพิธีการ ไม่มีตรงไหนที่เรียกว่า "ปลอม" หรือ "โกง" เสียแต่ว่าคนจ่ายเงินเชื่อว่าเงินนั้นตกไปสู่วัด แต่วัดไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ใช้เงินไม่ได้ &nbsp;มนุษย์ที่อยู่ในวัดต่างหากที่มีชีวิต ต้องกิน ต้องใช้ และเป็นคนทำงานที่สมควรได้ค่าแรง ทำงานเก่ง ครีเอทดี ก็คิดค่าแรงแพง ทุนนิยมมันก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ&nbsp;

<strong>วงการศาสนาปากว่าตาขยิบกันมานาน อยากได้เงินแต่ไม่ยอมรับว่าตัวเอง "ขาย" ไม่ว่าจะเป็น "บุญ" และ "ศรัทธา" ที่มองไม่เห็น หรือ "วัตถุมงคล" ที่จับต้องได้ แต่จะศักดิ์สิทธิ์ไหมนั่นก็แล้วแต่จะมโนกันไป&nbsp;</strong>

ข้าพเจ้ารับชมและอมยิ้มกับซีรีย์เรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ ดูรวดในคืนเดียว เท่าที่ถามมิตรสหายหลายท่านก็ดูรวดเดียวจบเหมือนกัน น่าสนุกจะตายที่เอาข้อเท็จจริงที่กระมิดกระเมี้ยนกันอยู่นานมาเปลือยซะล่อนจ้อน สงสัยอยู่ว่าเล่าเรื่องตรงไปตรงมาขนาดนี้ทำไมไม่โดนแบน ไม่โดนประท้วง พูดเรื่องจริงที่ท้าทายซะยิ่งกว่าวาดรูปพระสงฆ์ในร่างอุลตร้าแมน หรือหนังอาบัติ อาปัติ ที่โวยวายกันจนลั่นบ้านลั่นเมืองนั่นเสียอีก &nbsp;หรือที่บ้านของฝ่ายพิทักษ์ปกปักษ์ศาสนาพุทธยังไม่มี netflix 5555555 &nbsp;

มีแง่มุมเล็ก ๆ ที่ขัดใจอยู่นิดหนึ่ง ตรงที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ทั้ง 3 คน ดันทำไปก็แอบรู้สึกผิดไป บางคนรอแค่มีเงินใช้หนี้หมดแล้วจะลาออกจากวงการ มีสองคนที่ถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูกตอนที่ขายพระเครื่องแล้วพบว่าลูกค้าดันเป็นคนที่บ้านของตัวเองไปเสียฉิบ ...อารมณ์คล้ายๆ นักค้ายาที่รู้ทีหลังว่าผู้ซื้อยาไปเสพคือคนในครอบครัวตัวเอง...แต่สิ่งที่สามคนทำในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นมารสังคมขนาดนั้น ข้าพเจ้าว่าไม่เห็นต้องรู้สึกผิดเลย เงินที่ได้มาใช่ว่าวัดจะไม่ได้ส่วนแบ่ง ก็บูรณะปฏิสังขรณ์และสร้างความนิยมให้ขนาดนั้น วัดยังเก็บเกี่ยวอะไรได้อีกเยอะจากกระแสความนิยมที่สามคนนี้ช่วยเริ่มต้นสร้างมาให้

ประเด็นโคตรเศร้าสำหรับข้าพเจ้าก็คือ...ในที่สุดแล้ว วิน เกม และเดียร์ กลับกลายเป็นแค่หมากตัวเล็ก ๆ ในโครงข่ายธุรกิจชั่วช้าที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าตัวเองจะคาดคิด เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นบ่อย เกิดขึ้นจริงเกินไป คนตัวเล็ก ๆ ทำเรื่องเสียหายเล็กน้อยแล้วรู้สึกผิดซะเยอะแยะ ส่วนคนตัวใหญ่ๆ ทำเรื่องชั่วชาติจนบรรลัยไปทั้งแผ่นดินกลับไม่รู้สึกอะไรเลย&nbsp;

<strong>มีซีรีย์เปิดโปงการตลาดของศาสนาแล้ว รอว่าเมื่อไหร่จะมีภาพยนตร์ที่เปิดโปงการตลาดของสถาบันยิ่งใหญ่ที่ได้รับการเคารพบูชาอื่น ๆ อีก สาธุ</strong></p><p>&nbsp;</p><p>&nbsp;</p></div>
      <div class="node-taxonomy-container">
    <ul class="taxonomy-terms">
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1" hreflang="th">บทความ[/url]</li>
      </ul>
</div> <!--/.node-taxonomy-container -->
<div class="node-taxonomy-container">
    <ul class="taxonomy-terms">
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" hreflang="th">การเมือง[/url]</li>
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1" hreflang="th">สังคม[/url]</li>
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1" hreflang="th">วัฒนธรรม[/url]</li>
      </ul>
</div> <!--/.node-taxonomy-container -->
<div class="node-taxonomy-container">
    <ul class="taxonomy-terms">
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B8" hreflang="th">สาธุ[/url]</li>
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C" hreflang="th">ภาพยนตร์[/url]</li>
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%89%E0%B8%A3%E0%B8%B2-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1" hreflang="th">อัจฉรา รักยุติธรรม[/url]</li>
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%A2%E0%B9%8C" hreflang="th">พุทธพาณิชย์[/url]</li>
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2" hreflang="th">ศาสนา[/url]</li>
      </ul>
</div> <!--/.node-taxonomy-container -->

            <div class="field field--name-field-promote-end field--type-string field--label-hidden field-item">ติดตาม "ประชาไท Prachatai.com" ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้า https://prachataistore.net</div>
     
 

http://prachatai.com/journal/2024/04/108763