[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: phonsak ที่ 22 ตุลาคม 2553 23:40:46



หัวข้อ: เรา..เป็นใคร มาจากไหน....... เราคือทุกอย่างหรือนี่?
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 22 ตุลาคม 2553 23:40:46
เรา..เป็นใคร มาจากไหน....... เราคือทุกอย่างหรือนี่?


'sawamura' เขียน:

กรุณาอย่ามามั่วนิ่มครับ ถ้าเป็นศาสดาองค์เดียวกันต้องมีคำสอนเหมือนกันสิครับ
และการนิพพานคือไม่กลับมาเกิดแล้ว ไม่ใช่ว่าเจอกิเลส เลยนิพพานหายกลับมาเกิดใหม่
แบบนั้นไม่ได้เรียกว่านิพพานหรอกครับ

ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้นับถือพระเจ้า แค่นี้ก็ต่างกันแล้ว จะมาเป็นคนๆเดียวกันได้ยังไง
คิดง่ายๆ เลย คนๆเดียวกันก็ต้องสอนอะไรที่เหมือนกันสิ ???

ดังนั้นกรุณาอย่าทำให้เยาวชนสับสนครับ คุณก็ไม่ใช่พระเจ้า ไม่ใช่คนเขียนคำภีร์
ฉะนั้นให้คนเขาเลือกเองว่าจะนับถือศาสนาอะไร อย่าเอาเหตุผลส่วนตัวมาอ้างในสิ่งที่ไม่รู้หรือทึกทักเอาเองครับ


ตอบ


คุณไม่ได้พูดเอง แต่กิเลสมันพูดแทนคุณ  ทำให้คุณไม่รู้จักตัวเอง

คุณเองนั่นแหละคือ อัลเลาะห์  คุณเองนั่นแหละคือ พระพุทธเจ้า  คุณเองนั่นแหละคือ เปรต พรหม เทวดา นางฟ้า หมา แมว แมลงสาบ ฯลฯ ...... คุณเป็นผู้เลือกเอาเองทั้งนั้นว่าจะเป็นใคร? เป็นแบบไหน?

แต่เดิมในจักรวาลนี้ไม่มีอะไรอยู่เลย  มีแต่ความว่างเปล่า และจิตบริสุทธิ์ปภัสสร ที่ว่างเปล่า เป็นแสงสุกสกาวประภัสสร เรียกว่า "นิพพานจิต"

ใช่!...ใช่เลย!     .......  คุณ ผม และทุกสรรพชีวิต เคยอยู่ในนิพพานมาแล้ว  แต่เราจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่า นิพพานที่เป็นสุขบริสุทธิ์ เป็นบ้านเดิมของเรา มันดีที่สุดแล้ว  คุณจะรู้ได้อย่างไรล่ะ   ในเมื่อเราไม่เคยอยู่ในภพภูมิอื่นมาเลย  ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงต้องออกจากนิพพาน  ออกจากความเป็นอัลเลาะห์  ออกจากความเป็น พระพุทธเจ้า  ออกมาเล่นเกมส์ค้นหาความจริงเอาเอง  เบื่อเมื่อไร รู้ความจริงเมื่อไร  เราค่อยกลับบ้านเดิมของเรา ก็ยังไม่สาย  เพราะเราเป็นอมตะนิรันดร

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ "นิพพานคือกลับบ้านเก่า"

หลวงพ่อสด "ช้า เร็ว เราทุกจิตก็ต้องเข้านิพพานกันหมด"

เพราะอะไรรู้ไหมครับ  ก็เพราะว่าพวกเราคือ "พระพุทธเจ้า"  พวกเราคือ "อัลเลาะห์"

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต  "ธรรมชาติของจิตเป็นของผ่องใสยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด แต่อาศัยของปลอม กล่าวคืออุปกิเลสที่สัญจรเข้ามาปกคลุมจึงทำให้หมดรัศมี ดุจพระอาทิตย์เมื่อเมฆบดบังฉะนั้น อย่าพึงเข้าใจว่าพระอาทิตย์เข้าไปหาเมฆ เมฆไหลมาบดบังพระอาทิตย์ต่างหาก"

พระพุทธเจ้า " ภิกษุทั้งหลาย จิตนี้เสื่อมปภัสสรแจ้งสว่างมาเดิม แต่อาศัยอุปกิเลสเครื่องเศร้าหมองเป็นอาคันตุกะสัญจรมาปกคลุมหุ้มห่อ จึงทำให้จิตมิส่องแสงสว่างได้"  คุณยังไม่เห็นหรือว่า จิตของพวกเราคือ พระอาทิตย์ ที่ถูกกิเลสมาบดบังแสงเอาไว้

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า "จิตประภัสสร คือ จิตหลุดพ้นจากกิเลส(นิพพาน)"
   
"ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว จิตฺตํ ตญฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิปฺปมุตฺติ" ความว่า "ภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ประภัสสร ก็จิตนั้นแล หลุดพ้นแล้วจากอุปกิเลสทั้งหลายที่จรมา "

   ในเอกนิบาตอังคุตตรนิกาย อรรถกถา ภาค ๑ หน้า ๔๕ ข้อ ๕๐


สรุปด้วยข้อความในคัมภีร์อุปนิษัท


พระเจ้า(พระศิวะ) - อัลเลาะห์ หรือ พระพุทธเจ้า - ตรัสว่า:

"เราเปล่าเปลี่ยว เพระมีมาก่อนสรรพสิ่ง และจะดำรงอยู่ ทั้งจะต้องดำรงอยู่ต่อไป
 ไม่มีใครทำให้แปรผันได้  เราคืออมตะ แต่ไม่ทรงสภาวะอมตะ  เราสามารถเล็ง
ทุกอย่าง และไม่มีใครสามารถเล็งเห็นเรา เราคือพรหม และเราไม่ใช่พรหม"

เราคืออมตะ แต่ไม่ทรงสภาวะอมตะ เราคือพรหม และเราไม่ใช่พรหม = ข้าอยากจะเป็นพระเจ้า เป็นอมตะ ไม่มีวันตาย  หรือข้าจะตายเหมือนหมาข้างถนน  มันก็เรื่องของข้า  เพราะข้าคือทุกสิ่ง...ข้าคือทุกอย่าง