หัวข้อ: ความรัก กับ สัจจธรรม เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2553 14:34:04 (http://i260.photobucket.com/albums/ii12/jblover42/love.jpg) ความรัก กับ สัจจธรรม (http://www.vcharkarn.com/uploads/128/128916.jpg) จาก..วาทะดังตฤณ ความรักหลากสี หน้า ๘ "การสูญเสียเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักร ไม่มีอะไรอยู่กับเราตลอดไป ไม่มีอะไรจากเราไปตลอดกาล ถ้าคลี่เวลาออกเป็นเส้นตรงและสามารถเห็นได้จริงทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคตพร้อมกัน เราคงเห็นตัวเองได้ของรักแล้วเสียของรัก หัวเราะแล้วร้องไห้ พบแล้วพลัดพราก ย้อนเวียนกลับไปกลับมา สลับกันเป็นสายโซ่ยืดยาว" (ทางนฤพาน บทที่ ๑๔ ร่วมทาง) ธรรมชาติจะบังคับให้เราทิ้งทุกคนไปอยู่ดี เราเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม เรารักและหวังหอบหิ้วใครไปด้วยก็ตาม พวกเราต่างก็เป็นนักเดินทางผู้โดดเดี่ยว มาสวมหัวโขนเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง คนรัก เพื่อน ศัตรู หรืออะไรอื่นเดี๋ยวเดียว แล้วก็ต้องตายจากไปเป็นอื่น แม้ในชาติเดียวกันก็อาจเป็นอะไรหลาย ๆ ฐานะ บางคนเดินชนไหล่หรือเหยียบเท้าใครอีกคนบนถนน ทะเลาะกันเลือดขึ้นหน้าเป็นพัก กว่าจะจำได้ว่าเคยเป็นเพื่อนรักสุดรักสมัยประถมมัธยมที่เคยอยากไปไหน ๆ ด้วยกันตลอดชีวิต แต่พอห่างกันมาก ๆ เจออีกทีอาจกลายเป็นศัตรูก็ได้ เราต่างถูกหลอกว่ามีคนรักและเครือข่ายญาติมิตร ทั้งที่จริงทุกคนไม่มีแม้แต่เงาติดตามตัวเองไปได้ตลอด (๗ เดือนบรรลุธรรม เดือนที่ ๕) (http://www.thainn.com/memberpost/upload/202.jpg) มนุษย์เราถูกหลอกให้หลงติด หลงร้องไห้คร่ำครวญกับสิ่งที่วันหนึ่งต้องทิ้งไป ไม่ว่าจะได้อะไรมาแค่ไหนก็เสียไปแค่นั้น หลงทำบาปทำกรรมติดตัวไปภพหน้ากัน ก็เพียงเพราะยังติด ยังไม่รู้ด้วยกันทั้งสิ้น larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/008619.htm#4 (http://www.giftsforgays.com.au/productphotos/Female_Towel_2.jpg) ตัวผู้รัก ผู้ถูกรัก ผู้สมหวัง ผู้ผิดหวัง ปรากฏมีสาระอยู่แต่ในจิตอันปรุงแต่ง เสกปั้นสรรค์ไป จูงให้เราหลงไป เพ้อไป ปราศจากแก่นสาร (ทางนฤพาน บทที่ ๑๖ ฝันร้าย) ปกติเวลาเราฟุ้งซ่านถึงใคร เราจะรู้สึกว่าเขามารบกวนเรา เราจะมีปฏิกิริยาทางใจกับเขา เป็นชอบ เป็นชังยิ่ง ๆ ขึ้นทุกครั้งที่เขามาอยู่ในหัวของเรา ทั้งที่ตัวจริงของเขาไม่ได้มาอยู่ ตรงนั้นเลย (๗ เดือนบรรลุธรรม สรุปเดือนที่ ๔) (http://blog.eduzones.com/images/blog/friends/2008110874059.jpg) บทสรุปหนึ่งก็คือว่า รักแท้น่ะมีจริง แต่ที่จริงกว่านั้นคือกิเลส หมายความว่าถ้ามองตามสายตาทางโลกก็ต้องว่ามี แต่ถ้ามองตามสายตาทางธรรมก็ต้องว่ารากของรักแท้นั้นมาจากกิเลสนี่เอง ที่รักแท้จะมีอันต้องกลับกลายเป็นรักเก๊ ก็ด้วยกิเลสอันเดียวกันอีกนั่นแหละ โดยมีตัวแปรเช่นบุคคล เวลา และสถานการณ์มาร่วมสมการกิเลส กิเลสมากก็ทุกข์มาก กิเลสน้อยก็ทุกข์น้อย สมดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ (ทางนฤพาน บทที่ ๒๘ วังวน http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/006918.htm#2 (http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/006918.htm#2) ) (http://romphosai.com/forums/attachments/forum11/20540d1234623759t-1358058684_2ebd298921-jpg) “พระพุทธองค์ท่านตรัสว่าคนเรามีรักร้อยก็นับว่าทุกข์ร้อย มีรักสิบก็นับว่าทุกข์สิบ มีรักหนึ่งก็นับว่าทุกข์หนึ่ง หากไม่มีรักเลย ก็แปลว่าไม่ต้องมีทุกข์เพราะรักเลยเช่นกัน… สรุปคือ ความรักเป็นแค่รูปแบบหนึ่งของความทุกข์เท่านั้น ต่อให้รักกันยืดยาวจนแก่เฒ่า วันหนึ่งก็ต้องทุกข์ใหญ่หลวงเพราะความพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รักอยู่ดี” (กรรมพยากรณ์ : ชนะกรรม ตอนที่ ๓๓ คู่มือนักฆ่าตัวตาย) การเกิดใหม่ช่างเป็นอะไรที่ไม่เหมือนเดิม ไม่มีอะไรประกันความแน่ใจ และไม่มีใครจำใครได้ เหมือนเล่นซ่อนหาชนิดปิดทางพบเจอ ทำให้ณชะเลมองความสัมพันธ์ทั้งหลายเป็นเรื่องหลอกลวง ถึงแม้พยายามเป็นที่พึ่งให้กันก็เป็นไปได้แค่เดี๋ยวเดียว แล้วต่างต้องแยกย้ายไปเสวยกรรมตามวิบากแห่งตน ไม่อาจนัดหมายว่าจะไปเจอกันที่ไหน เมื่อไหร่ ในสภาพเช่นใดเลย (กรรมพยากรณ์ : เลือกเกิดใหม่ ตอนที่ ๔๑ คนอยู่ข้างหลัง) (http://www.bloggang.com/data/samrotri/picture/1171775113.jpg) อยู่ในสังสารวัฏ ท่องเที่ยวเกิดตายไปเรื่อย ๆ นั้น แม้สิ่งหนึ่งสิ่งเดียวที่สังสารสัตว์หวังฝากไว้ให้อบอุ่นใจ คือความรัก ความมั่นคงของเนื้อคู่ที่จะติดตามกันไปทุกภพทุกชาติ เอาเข้าจริงก็แค่ความไม่แน่นอนอีกชนิดหนึ่ง ความแปรปรวนเป็นอื่นได้อีกชนิดหนึ่ง larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/001630.htm#27 (http://i232.photobucket.com/albums/ee274/akapong99/album10/valentine02.jpg) ภพชาติ ความสัมพันธ์ และสายใยต่างๆนั้นซับซ้อน มีความไม่แน่นอนเป็นความหวังได้ด้วยเหตุปัจจัยอันลึกลับเกินหยั่ง ทำใจไว้แต่แรกว่าเราทุกคนเป็นนักเดินทางผู้โดดเดี่ยว จะได้สบายใจในระยะยาว larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/007278.htm#24 (http://thummada.com/php_upload3/Jiap.jpg) ความรักชั้นสูงคือความรักพระนิพพานครับ เมื่อรักพระนิพพานอันเป็นธรรมชาติสูงสุดเหนือสมมุติได้ บุคคลย่อมไม่หลงสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ต่ำกว่านั้นแบบยอมตายถวายชีวิตอีก http://larndham.net/index.php?showtopic=11316&st=5 (http://larndham.net/index.php?showtopic=11316&st=5) (http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:MZZiYn4p7XnBpM:http://statics.atcloud.com/files/entries/2/20867/images/1_display.jpg) http://www.vcharkarn.com/varticle/350 (http://www.vcharkarn.com/varticle/350) Pics by : Google ขอบพระคุณที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ หัวข้อ: Re: ความรัก กับ สัจจธรรม เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2553 15:10:00 http://www.slide.com/r/slideshow#id648518346388282812-sitebc-w426-h320 (http://www.slide.com/r/slideshow#id648518346388282812-sitebc-w426-h320)
(:88:)สาธุ.......................สาธุ....................สาธุ น้อง เงาฝัน (:88:) (http://www.buddhayan.com/picboard/1265359342P240034-1.jpg) |