พิมพ์หน้านี้ - วิธีทำ มะระหวานผัดไข่

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/47039108268088_1_Copy_.jpg)

มะระหวานผัดไข่

• เครื่องปรุง
- มะระหวาน 1 ลูก
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กระเทียมไทยบุบพอแตก สับหยาบ ½ หัว
- น้ำตาลทราย
- ผงปรุงรส
- ซอสหอยนางรม
- ซอสปรุงรส
- น้ำปลาหรือซีอิ๊วขาว

• วิธีทำ
1. ล้างมะระหวานให้สะอาด หั่นพอคำ นำไปล้างด้วยน้ำเกลืออ่อนๆ อีกครั้งหนึ่ง
2. เจียวกระเทียมในน้ำมันให้หอมเหลือง ใส่ซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส ใส่มะระ น้ำตาลทราย ผงปรุงรส เติมน้ำสะอาดเล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน
3. ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป ผัดยีให้ไข่แตกกระจาย ใส่น้ำปลาหรือซีอิ๊วขาว ชิมรสตามชอบ ตักใส่จานเสิร์ฟ รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/30299315849939_2_Copy_.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/32628027680847_3_Copy_.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/19629185770948_5_Copy_.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/47039108268088_1_Copy_.jpg)

มะระแม้ว หรือซาโยเต้
ฟักแม้ว มะระหวาน ชาโยเต้ รู้จักกันทั่วไปในชื่อ ฟักแม้ว ซึ่งเป็นชื่อเรียกตามภาษาพื้นบ้านภาคเหนือ ชื่อจริงคือ ชาโยเต้ (Chayote) และยังมีชื่อเรียกอื่นว่า มะระหวาน หรือ ผักแม้ว

มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเม็กซิโก และแถบอเมริกากลาง แต่ปัจจุบันมีปลูกอยู่ทั่วโลก พบปลูกทั่วไปในพื้นที่สูง 500-1,700 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีดินอุดมสมบูรณ์ แสงสว่างพอเพียง (ช่วงแสง 12 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อชักนำให้เกิดการเจริญของดอก) และใกล้แหล่งน้ำ

สำหรับไทย สันนิษฐานกันว่าพืชชนิดนี้นำเข้ามาโดยหมอสอนศาสนา และให้ชาวบ้านปลูกเป็นครั้งแรกที่จังหวัดแพร่

ฟักแม้วเป็นไม้เถาเลื้อย เจริญเติบโตข้ามปีได้ ลักษณะลำต้น ใบ ยอดและมือจับ คล้ายแตงกวาผสมกับฟักเขียว มีระบบรากสะสมขนาดใหญ่ ลำต้นเป็นเหลี่ยม เจริญเป็นเถา ยาว 15-30 ฟุต มีเถาแขนง 3-5 เถา มือเกาะเจริญที่ข้อ ใบมีขอบใบลักษณะเป็นเหลี่ยม 3-5 เหลี่ยม ยาว 8-15 เซนติเมตร ดอกสีขาวปนเขียว เกิดที่ข้อระหว่างต้นกับก้านใบ เป็นชนิดดอกช่อ แบบไม่สมบูรณ์เพศ คือดอกตัวผู้และดอกตัวเมียเป็นคนละดอก แต่อยู่ในต้นเดียวกัน ผลทรงกลมยาวสีเขียวอ่อน รูปร่างคล้ายแพร์ มีขนาดความยาว 7-20 เซนติเมตร กว้าง 5-15 เซนติเมตร น้ำหนักผล 200-400 กรัม เนื้อมีรสหวาน รสชาติคล้ายมันฝรั่งปนแตงกวา

การนำไปปรุงอาหาร ใช้ ผล ใบ และรากประกอบอาหาร แต่ก็สามารถรับประทานลำต้นและเมล็ดได้ บ้านเรานิยมกินยอดชาโยเต้ผัด ขณะที่ผล กินได้ทั้งเปลือก หรือนำมาตำส้มตำแทนมะละกอ เพราะเนื้อหวานกรอบ หรือหั่นฝอยหรือสไลซ์เป็นแผ่นผัดกับไข่ หรือผัดน้ำมัน ส่วนราก ส่วนใหญ่ประกอบด้วยแป้ง ใช้ต้มหรือผัด และเป็นอาหารสัตว์ได้ ส่วนสรรพคุณทางยา ผลและเมล็ดประกอบด้วยกรด อะมิโนที่สำคัญหลายชนิด และวิตามินซี ใบและผลใช้ดองยา ช่วยขับปัสสาวะ บำรุงหัวใจและหลอดเลือด แก้อักเสบ น้ำต้มใบและผลใช้ในการรักษาอาการเส้นเลือดแข็งตัว ความดันโลหิตสูง และสลายนิ่วในไต

วิธีการปลูก นำผลที่เห็นว่าแก่เต็มที่แล้ว โดยสังเกตได้จากเมล็ดและรากงอกออกมา ไปเพาะลงถุงที่บรรจุแกลบเผา แกลบดิบ ดินร่วน อัตราส่วน 1:1:2 ผสมกับปุ๋ยคอกเล็กน้อย ฝังลึกครึ่งผล จนกระทั่งแตกยอดออกมายาวราว 20-35 เซนติเมตร จึงนำไปปลูกในหลุมที่มีขนาด 50x50x50 ซ.ม. อย่าลืมทำค้างสูงไว้ด้วย ให้น้ำ 2 วัน/ครั้ง สำหรับดินร่วนปนทราย ถ้าเป็นดินเหนียวควรให้น้ำ 4-5 วัน/ครั้ง ให้ปุ๋ยสูตรเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน โดยใส่ปุ๋ยคอกที่มีเปอร์เซ็นต์ของธาตุอาหารสูง เช่น มูลไก่แห้ง และเพิ่มปุ๋ยหมักเพื่อทำให้ดินร่วนขึ้น ทำให้อุ้มน้ำได้ดี โดยเฉพาะในดินทราย

การเก็บยอด ตัดยอดอ่อนได้หลังจากการปลูกประมาณ 2 เดือน เก็บยอดอ่อนยาวประมาณ 40-50 เซนติเมตร ทุกๆ 2-3 วัน ยอดฟักแม้วกินง่าย ไม่เหม็นเขียว ไม่ว่าจะนำมาทำยำ หรือลวกจิ้มน้ำพริก หรือผัด มีรสชาติหวานกรอบ ไม่ต้องใช้เวลาในการปรุงนาน...ข้อมูลจาก นสพ.รายวันข่าวสด

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ในครัว => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 24 มีนาคม 2557 16:20:01