หัวข้อ: วิธีทำ แกงส้มผักหวานป่ากับปลาทับทิม เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 24 เมษายน 2557 14:24:18 (http://www.sookjaipic.com/images_upload/63463747253020_1.png) แกงส้มผักหวานป่ากับปลาทับทิม • เครื่องปรุง - ผักหวานป่า 200 กรัม เด็ดแต่ยอดและใบ ล้างใส่ตะแกรงผึ่งให้สะเด็ดน้ำ - ปลาทับทิม 1 ตัว - น้ำพริกแกงส้ม 3 ช้อนโต๊ะ - น้ำมะขามเปียก - น้ำตาลปีบ - น้ำปลาดี • เครื่องปรุงน้ำพริกแกง - พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ด 5 -7 เมล็ด - กระชายหั่นละเอียด 3 - 5 ราก - หอมแดง 5 หัว - กระเทียม ½ หัว - ตะไคร่หั่นละเอียด ½ ช้อนโต๊ะ - เกลือ 1 ช้อนชา - กะปิ 1 ช้อนชา * โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียดตามด้วยกะปิ • วิธีทำ 1. ทำความสะอาดปลา หั่นชิ้นโตตามขวาง ล้างให้สะอาด ใส่ชามพักไว้ 2. ต้มน้ำผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเดือดเต็มที่นำไปราดบนชิ้นปลา ปิดฝาภาชนะ สักครู่เทน้ำทิ้ง ผึ่งชิ้นปลาให้สะเด็ดน้ำ (การดับกลิ่นคาวปลาที่ได้ผลดี) 3. ต้มน้ำสะอาดพอน้ำเริ่มร้อน ใส่น้ำพริกแกงลงไปละลาย ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลปีบ ให้รสเข้มข้น พอน้ำแกงเดือดจึงใส่ปลา ปล่อยทิ้งไว้จนปลาสุก จึงใส่ผักหวานแล้วปิดไฟทันที ตักใส่ชามเสิร์ฟ จะได้ผักหวานสีเขียวสดน่ารับประทาน (http://www.sookjaipic.com/images_upload/60369983812173_2.png) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/54630325155125_3.png) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/25019305033816_1.png) ผักหวานป่า เป็นไม้กินยอดชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมปลูกเพื่อเก็บยอดรับประทานในครัวเรือน หรือเก็บยอดขายอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเมื่อนำไปปรุงเป็นอาหารแล้วจะมีรสชาติหวานกรอบมันอร่อยมาก แต่กิ่งพันธุ์ “ผักหวานป่า” หาซื้อยากมาก ผักหวานป่า หรือ LEPTONYCNIA HE-TEROCLITA KURZ อยู่ในวงศ์ STERCU-LIACEAE เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง 6-10 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปไข่แกมรูปรี ปลายและโคนใบแหลม เนื้อใบหนาคล้ายใบมะนาว หรือใบมะตูม ใบแก่สีเขียวเข้ม ใบอ่อน หรือ ยอดอ่อนจะมีขนาดเล็กเรียว เป็นสีเขียวอ่อน โดยยอดอ่อนนิยมนำไปปรุงเป็นอาหารหลายอย่าง รสชาติหวานมันอร่อยมาก มีราคากิโลกรัมละหลายบาท ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ ช่อยาวประมาณ 3-4 นิ้วฟุต แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กสีเขียวอ่อนเรียงตามแกนช่อดอกจำนวนมาก “ผล” เป็นรูปกลมรี ติดผลเป็นพวง สีเหลืองอมน้ำตาล เมื่อผลแก่หรือสุกจะเป็นสีแดง ภายในมีเมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง หรือเพาะชำราก ตามธรรมชาติของ “ผักหวานป่า” พบขึ้นบริเวณที่เป็นดอยสูง ชอบขึ้นในป่าเต็งรัง ป่าผสมผลัดใบ ดินดาน ดินร่วนปนทราย ดินปนหิน ชอบที่โล่งแจ้ง ไม่ชอบน้ำมากนัก ทนแล้งได้ดี ในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะเป็นช่วงที่ใช้ ประโยชน์เก็บยอดอ่อนและดอกอ่อนของ “ผักหวานป่า” รับประทานหรือขายได้ ในการประกอบอาหารนิยมใช้ยอดอ่อน ใบอ่อน และดอกอ่อน นึ่ง หรือรับประทานสดกับน้ำพริกปลาร้า น้ำพริกตาแดง ใช้แกงใส่ไข่มดแดงแบบแกงลาว ใส่น้ำปลาร้า แกงใส่ปลาแห้ง แกงปลากรอบ ยำกับปลาทูนึ่ง และแกงแค รสชาติหวานมันอร่อยดีมาก ซึ่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคมดังกล่าว จะมียอดอ่อนของ “ผักหวานป่า” วางขายตามแผงขายพืชผักพื้นบ้านทั่วไป ส่วนประโยชน์ทางสมุนไพร ราก ใช้เป็นยาระงับพิษ แก้พิษร้อนกระสับกระส่าย แก้น้ำดีพิการ แก้ร้อนในกระหายน้ำ ...คอลัมน์ เกษตรกรบนแผ่นกระดาษ นสพ.ไทยรัฐ หมายเหตุ ภาพที่โพสท์ครั้งแรก เป็นภาพขนาดใหญ่ มีความแจ่มชัด แต่ปรากฏว่าภาพหายไปจากระบบโดยไม่ทราบสาเหตุ ผู้โพสท์ (เป็นผู้ลงมือทำอาหาร คาว-หวาน) ต้องตามเก็บจาก https://encrypted-tbn2.gstatic.com ได้แต่ภาพขนาดเล็กเป็นบางภาพ และภาพค่อนข้างมัวๆ มาลงซ่อมใหม่ทั้งหมดไปพลางก่อน รวมรายการอาหารที่โพสท์และหายไปกว่า 100 รายการ ต้องใช้เวลาในการทำอาหารคาว/หวาน อีกครั้ง เพื่อซ่อมกระทู้นับร้อยกระทู้ ของเว็บไซต์สุขใจดอทคอม. ค่ะ Kimleng. 2 กันยายน 2558 (http://www.sookjaipic.com/images_upload/54049189057615__3629_.gif) ติดตามสูตรอาหารและเคล็ดลับการประกอบอาหารคาว-หวาน มากมายกว่า 200 สูตร ได้ที่ "สุขใจในครัว" สุขใจดอทคอม www.sookjai.com (http://www.sookjai.com) |