หัวข้อ: ฉากจบ สมิงนครอินทร์ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 26 พฤษภาคม 2557 19:18:23 (http://www.sookjaipic.com/images_upload/64641156213151__3653_.png) ฉากจบ สมิงนครอินทร์ พงศาวดารจีนสมัยสามก๊ก กวนอูเป็นทหารเอกคนหนึ่งของพระเจ้าเล่าปี่ นอกจากฝีมือไร้เทียมทานแล้ว ยังจงรักภักดีต่อเจ้านายอย่างสุดชีวิตจิตใจ ในพงศาวดารมอญพม่า ทหารเอกฝ่ายพระเจ้าราชาธิราช ที่มีทั้งฝีมือและบทบาทประทับใจ ไม่แตกต่างจากกวนอู คือ สมิงนครอินทร์ นามานุกรมวรรณคดีไทย ชุดที่ ๓ (มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จัดพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๔๘) สุวดี ภู่ประดิษฐ์ เรียบเรียงไว้ทั้งในภาคบทละคร และภาคพงศาวดาร ว่า สมิงนครอินทร์ เดิมชื่อ มะสลุม เป็นทหารชำนาญการใช้ดาบ อยู่กับเจ้าเมืองแกร ซึ่งยอมอ่อนน้อมต่อพระเจ้าราชาธิราช สมิงสามผลัด เห็นฝีมือก็เอาตัวมาใช้ครั้งมะกราน เจ้าเมืองกราน ยกทัพบุกมาเผาค่าย ขณะพระเจ้าราชาธิราชประทับอยู่นครเพน มะสลุมได้ยินพระเจ้าราชาธิราช เปรยว่า อยากได้ศีรษะมะกราน มะสลุมก็วิ่งเข้าไปตัดศีรษะ มะกรานมาถวาย พระเจ้าราชาธิราชชอบพระทัย แต่ยังไม่ประทานรางวัล เหตุเพราะมะสลุมกระทำไปโดยพลการ ไม่ได้กราบทูลอาสาก่อน จนต่อมา เมื่อเมืองตึกคล้าว่างเจ้าเมือง จึงแต่งตั้งมะสลุมเป็นสมิงนครอินทร์ กินเมืองตึกคล้า สมิงนครอินทร์มีอุปนิสัยดื้อรั้น ครั้งหนึ่ง ไม่ฟังคำสั่งสมิงพ่อเพชร แม่ทัพใหญ่ จนรบแพ้ ต่อมามีศึกใหญ่ ก็ยังโปรดให้ไปรบแก้ตัว ก่อนเคลื่อนทัพพระเจ้าราชาธิราชประทานพร แล้วก็โปรดให้นางอุตะละ พระสนมนำพระศรี (หมาก) ไปส่งให้ถึงมือ ได้ฤกษ์เคลื่อนทัพเรือ สมิงนครอินทร์ ไม่ยอมออกเรือ...ทำทีเป็นไข้ใจ เพราะหลงรักพระสนมอุตะละเข้าเต็มเปา แม่ทัพใหญ่สมิงพ่อเพชรรู้เชิง ก็รีบไปกราบทูลพระเจ้าราชาธิราช พระเจ้าแผ่นดินมอญ ก็ประทานนางอุตะละให้ ถึงเวลานั้น สมิงนครอินทร์จึงกราบทูลพระเจ้าราชาธิราชว่า แท้จริง ไม่ได้ใฝ่สูง เพราะหลงรักนางอุตะละ แต่ต้องการลองพระทัยเจ้านาย ว่าจะรักใครมากกว่า ระหว่างนางสนมกับขุนทหาร...แล้วก็ขอถวายนางอุตะละคืน มอญพม่าทำสงครามติดพันเนิ่นนาน ครั้งหนึ่งฝ่ายพม่าต้องการหย่าศึก ขอให้นายทหารแต่ละฝ่ายจับคู่ทำสัญญา ฝ่ายมอญคิดซ้อนกล วางแผนฆ่านายทหารพม่า เมื่อมังมหาราชา คู่สัญญา ถามสมิงนครอินทร์ว่า “นี่เป็นการทำสัตย์สัญญาจริงหรือไม่” นิสัยซื่อตรงของสมิงนครอินทร์ก็ปรากฏ ด้วยการบอกความจริงขุนทหารพม่า มีผลให้ฝ่ายพม่ารู้ตัวหนีกลับค่าย พระเจ้าราชาธิราชพิโรธ สั่งประหาร แต่สมิงพ่อเพชรทูลทัดทาน ขอให้ทำงานใหญ่ ไปชนช้างกับพระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง (กษัตริย์พม่า) เป็นการแก้ตัว สงครามมอญพม่าสมัยนั้น ต่างฝ่ายต่างถือศักดิ์ศรี กษัตริย์ต้องรบกับกษัตริย์ พระเจ้าราชาธิราช โปรดให้สมิงนครอินทร์แต่งองค์ทรงเครื่องกษัตริย์ แต่เมื่อจะเข้าชนช้างกับพระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง แต่พระเจ้าฝรั่งมังฆ้องรู้ความจริง จึงไม่ยอมชนช้างด้วย...งานแก้ตัวไถ่ชีวิตของสมิงนครอินทร์ ครั้งนี้จึงถือว่าล้มเหลว สมิงนครอินทร์เริ่มงานใหม่ คราวนี้ลอบเข้าค่ายพม่า ไปจนถึงที่บรรทมพระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง แต่สมิงนครอินทร์คิดว่าตนเป็นเพียงนายทหาร ไม่สมควรลอบสังหารกษัตริย์ จึงทำแค่ขโมยพระแสงดาบ และพานพระศรี แต่ก็ตัดหัวจักกายวัง ขุนทหารใหญ่และนางสนมคนหนึ่ง เป็นหลักฐานมาถวายพระเจ้าราชาธิราช ภารกิจครั้งนี้เป็นที่พอพระทัย สมิงนครอินทร์จึงพ้นผิด ฝ่ายพระเจ้าฝรั่งมังฆ้องเมื่อรู้ความจริง ไม่เพียงไม่ถือโกรธสมิงนครอินทร์ ยังถือเป็นบุญคุณ ขอดูตัว...สมิงนครอินทร์ซ่อนดาบคู่ไว้ในเสื้อ เข้าไปเฝ้าที่ค่ายทหารพม่า...พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง มีพระดำรัสชมเชย แล้วพระราชทานรางวัลให้ สงครามมอญพม่ายังดำเนินต่อไป มังรายกะยอชวายกทัพมาตีเมืองหงษาวดี ในการรบคราวนี้ นับเป็นสงครามครั้งที่ ๑๑ สมิงพ่อเพชร แม่ทัพใหญ่เสียชีวิตไปแล้ว มอญกับพม่าทำสงครามกันที่ปากน้ำอะลอย มังรายกะยอชวาคิดอุบาย จับสมิงนครอินทร์ไว้ได้ สมิงนครอินทร์บอบช้ำจากสงคราม ยอมอดอาหารอยู่ได้ ๓ วัน เมื่อมังรายกะยอชวามาเยี่ยม สมิงนครอินทร์ออกปากขอน้ำ มังรายกะยอชวาประทานน้ำ พร้อมกับหมากเสวยให้ ...กินน้ำกินหมากแล้ว สมิงนครอินทร์ก็ตาย พระเจ้าฝรั่งมังฆ้องจัดการศพสมิงนครอินทร์อย่างดี ด้วยเครื่องประดับที่ถอดจากพระองค์ ส่งศพไปถึงค่ายมอญ พระเจ้าราชาธิราช ทรงให้ทำเมรุประกอบเครื่องประดับอลังการกว่าที่ฝ่ายพม่าทำมาให้ถึงสามเท่า เมื่อพระราชทานเพลิงแล้ว อัฐิสมิงนครอินทร์ถูกเก็บไว้ในผอบทอง นำไปบรรจุไว้ ณ พระธาตุมุเตา ต่อมาพระเจ้าราชาธิราชทรงสุบินเห็นสมิงนครอินทร์แต่งกายเต็มยศเข้าเฝ้า ก็โปรดให้หล่อรูปสมิงนครอินทร์ ด้วยทองสำริด ตั้งไว้บนตำหนัก และให้บวงสรวงทุกวันมิได้ขาด...หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ๒๖ พ.ค. ๕๗ |