หัวข้อ: พบอัฐิปริศนาในอกพระพุทธรูปหินอายุกว่า 600 ปี เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 มิถุนายน 2557 08:51:37 พบอัฐิปริศนาในอกพระพุทธรูปหินอายุกว่า 600 ปี
(http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/716187.jpeg) พบเศษพระอัฐิหรือพระอังคารปริศนา ถูกซุกอยู่กลางพระอุระของพระพุทธรูปหินทรายอายุกว่า 600 ปี ที่ทางวัดพิหารแดงส่งมาให้ทางร้านซ่อมแซม คาดเป็นของบุคคลสำคัญ เร่งตรวจสอบหาที่มาที่ไป วันพุธ 11 มิถุนายน 2557 เวลา 13:00 น. เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 11 มิ.ย.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก ดร.ฉันทัส เพียรธรรม ผู้ช่วยคณะบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ว่า พบอัฐิในพระอุระ(อก)พระพุทธรูปหินทราย อายุกว่า 600 ปี ที่ร้านซ่อมพระเชียงราย อาร์ท ตั้งอยู่ริมถนนสายสุพรรณบุรี-ชัยนาท หมู่ 1 ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบร้านดังดังกล่าวเป็นร้านรับซ่อม-สร้างพระพุทธรูปทั้งเก่าและใหม่ พบพระพุทธรูปหินทรายแดง ปางมารวิชัย สูง 129 ซม. หน้าตักกว้าง 90 ซม. อายุประมาณ 600 ปี โดยที่พระอุระมีรอยถูกเจาะเป็นรูลึกประมาณ 6 ซม. และมีคราบฝุ่นผงอัฐิติดอยู่บางส่วน (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/716188.jpeg) จากการสอบถามนายภูวนารถ แสงมาลัย เจ้าของร้านซ่อมพระเล่าว่า พระพุทธรูปดังกล่าวเป็นของวัดพิหารแดง ตั้งอยู่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นพระเก่าแก่อายุกว่า 600 ปี ชำรุดเหลือเพียงท่อนอก ไม่มีเศียรและหน้าตัก ทางวัดจึงนำมาให้ตนซ่อม ขณะกำลังทำความสะอาดเพื่อเตรียมซ่อมแซม จู่ ๆ ก็พบปูนขาวติดอยู่ที่บริเวณหน้าอกองค์พระ จึงค่อย ๆ แกะออกมาดูพบว่าปูนขาวนั้นเป็นปูนสมัยเก่าอายุหลายร้อยปี แต่ที่น่าตะลึงมากกว่านั้นคือที่หน้าอกพระถูกเจาะเป็นรู ภายในรูมีอัฐิ และผงขี้เถ้าบรรจุอยู่ ทั้งนี้สันนิษฐานว่าน่ามีอายุหลายร้อยปี จึงแจ้งให้ ดร.ฉันทัส ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ ด้าน ดร.ฉันทัส เปิดเผยว่า วัดพิหารแดงมีพระพุทธรูปหินทรายอยู่หลายองค์ที่บูรณะไปแล้วกว่า 10 องค์ และที่มาบูรณะครั้งนี้อีก 9 องค์ สำหรับเศษพระอัฐิหรือพระอังคารที่พบในองค์พระพุทธรูปที่นำมาซ่อมแซมนั้น เมื่อนำกล้องส่องพระมาส่องดู พบว่าบางชิ้นมีสีเขียวฟ้าอย่างน่าประหลาด เมื่อมองด้วยตาเปล่าก็จะเป็นสีขาวธรรมดา ซึ่งคนโบราณเชื่อว่าพระเถระผู้ใหญ่ผู้ปฏิบัติดีเมื่อละสังขารกระดูกที่ถูกเผาก็จะกลายเป็นอัฐิธาตุ ทั้งนี้คาดว่าอัฐิดังกล่าวน่าจะของบุคคลสำคัญพอสมควร ถ้าเป็นพระก็น่าจะเป็นถึงระดับพระสังฆราช จึงได้มีการนำมาเก็บไว้ในพระอุระของพระพุทธเจ้าได้ อย่างไรก็ตามต้องสืบหาข้อมูลให้มากกว่านี้จึงจะทราบว่าพระอัฐิที่พบนั้นเป็นของผู้ใด พร้อมทั้งจะประสานให้ทางกรมศิลปากรช่วยตรวจพิสูจน์หารายละเอียดที่ชัดเจนอีกทางหนึ่งด้วย. ข่าวจากเดลินิวส์ |