[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ห้องสมุด => ข้อความที่เริ่มโดย: sometime ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 09:46:44



หัวข้อ: ป้าสุชาดา
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 09:46:44
(http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg)


บทความเรื่องนี้ข้าพเจ้า"บางครั้ง"ได้เคย POST ไว้ที่ เขากะลาและมีไฟล์เก็บไว้แนบไฟล์มาด้วยแล้ว


http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/03.%20Track%203.wma


http://www.ufoatkaokala11.com (http://www.ufoatkaokala11.com)


"บางครั้ง"ได้คัดลอกออกมาจากวารสารเล่มหนึ่งเมื่อปี 2528


.....................เรื่องราวเกิดขึ้นนานแสนนานมาแล้ว ณ.สถานที่แห่งหนึ่ง..........


ไฟไหม้.......ไฟไหม้.........!......!...........!เสียงร้องด้วยความตระหนกดังขึ้นในกลางดึกของคืนวันหนึ่ง ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายสับสนของผู้คนในซอยแคบ ๆ ซึ่งพากันขนสิ่งของหนีไฟอย่างชุลมุน ลูก - เด็ก - เล็กแดงร้องไห้จ้าด้วยคามตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว บางคนต้องการเพียงชีวิตรอดออกจากกองเพลิงเท่านั้น ไม่สนใจทรัพย์สิน - เงินทอง แต่บางคนกลับห่วงทรัพย์สินยิ่งกว่าชีวิต
ตนเองซึ่งกำลังถูกเพลิงเผาผลาญ บางคนก็ฉวยโอกาสแย่งชิงทรัพย์สินของผู้อื่น โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผุ้ประสบเคราะห์กรรม บางพวก
พอรู้ข่าวไฟไหม้ก็มายืนมุงดูทำให้การดับเพลิงของพนักงานดับยิ่งไม่สะดวกเข้าไปอีก เสียงผู้คนตะโกนกันอย่างสับสน ไม่รู้ว่าอะไรเป็น - อะไร ผู้คนต่างวิ่งหนีไฟท่ามกลางความชุลมุนที่เกิดขึ้นอยู่ต่อหน้าต่อตา หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งนอนอยู่ในเรือนไม้ทรงไทยหลังหนึ่งใกล้บ้านต้นเพลิง ซึ่งเพลิงกำลังลาม - มาถึงบ้านของเธออย่างรวดเร็ว
แต่เธอยังคงนอนอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้ขยับตัวหนีไฟ เสียงตะโกนโหวกเหวก เสียงผู้คนขนสิ่งของ เสียงของไฟที่ไหม้สิ่งของที่เป็นเชื้อเพลิงหาได้ทำให้ร่างกายของเธอขยับจากที่เดิมไม่...........
มีเพียงแววตาของเธอเท่านั้นที่แสดงอาการตระหนก - หวาดกลัว ลูก - หลาน สามีเธอไปที่ไหนจึงไม่มีผู้ใดมาช่วย หญิง ผู้นี้ เธอเริ่มนึกถึงผู้คนหลาย ๆ คนที่เธอรู้จักโดยไม่คำนึงถึงเปลวไฟอันร้อนแรงอีกแล้ว เหตุการณ์ในอดีตของเธอค่อย ๆ ผ่านเข้ามาทีละฉาก ๆ จนในที่สุดเธอก็ไม่รู้สึกถึงความร้อนใด ๆ อีก.....................................................


หัวข้อ: Re: ป้าสุชาดา
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 09:48:34
(http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg)


ป้า............สุชาดาเป็นคนใจบุญสุนทรทานมักจะเดินทางไปทำบุญอยู่เสมอ ๆ แกเป็นคนโสดอยู่คนเดียวไม่มีลูก - หลาน - ญาติ - พี่ - น้อง เงินทองที่เธอเก็บหอมรอมริบมาตั้งแต่สมัยยังสาว ๆ ซึ่งทำงานรับราชการนั้นก็มีให้จับจ่ายอย่างไม่เดือดร้อน แกซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง ปลุกบ้านไม้ทรงไทยและถือสันโดษอยู่คนเดียวมาตลอด มีที่ดินสร้างบ้านหลังเล็ก ๆ แบ่งให้เช่าเพื่อหารายได้มาเป็นการทำบุญ ชาวบ้านแถบนั้นรู้จัก ป้าสุชาดา เพียงว่าแกเป็นคนใจบุญเท่านั้น เรื่องราวและครอบครัวชีวิตแต่หนหลังของแกไม่มีใครรู้เรื่องราวอย่างแน่ชัด.................................
ทุก ๆ เดือนผู้คนแถวนั้นจะเห็นแกหิ้วกระเป๋าเดินทางและออกจากบ้านไป 2 - 3 วัน จึงจะเห็นแกกลับมา สอบถามมักได้คำตอบว่าเดินทางไปทอดผ้าป่าตามวัดต่าง ๆ ยังจังหวัดแถบ
อิสาน บ้าง ภาคเหนือบ้าง ภาคใต้บ้าง จนคนแถวนั้นเห็นแกหิ้วกระเป๋าเป็นอันรู้กันว่าไปทำบุญ ระหว่างที่แกไม่อยู่แกมักจะฝาก "น้าอ้วน"หญิงที่เช่าบ้านแกอยู่ให้ช่วยดูแลบ้านให้ด้วยบางครั้งก็ชวน น้าอ้วนไปทำบุญด้วยกันโดยให้สามีและลูก ๆ ของน้าอ้วนช่วยดูแลบ้านแทน การดำเนินชีวิตของป้าสุชาดาเป็นเช่นดังกล่าวนี้จาก 1 ปี เป็น 2 ปี เป็น 3 ปี ความสนิทสนมระหว่างน้าอ้วนและป้าสุชาดาก็มีมากขึ้นเป็นลำดับจนกระทั่ง ป้าสุชาดา ให้ น้าอ้วนอยู่บ้านโดยไม่เสียค่าเช่าบ้านเวลาล่วงเลยมาหลายปี
วันหนึ่ง ป้าสุชาดารู้สึกมือชา - เท้าชาและเกิดอาการปวดหัวจึงเรียก น้าอ้วนให้ช่วยพาแกไปหาหมอ หมอได้ตรวจอาการของป้าสุชาดาโดยละเอียดพบว่าเป็นโรคอัมพาตในระยะเริ่มแรกและได้แนะนำให้รีบรักษาโดยต้องมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด น้าอ้วนเป็นคนขันอาสาที่จะคอยดูแล ป้าสุชาดาในระยะแรก ๆ นั้นป้าสุชาดาพอที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ในระยะต่อมาอาการกลับแย่ลงเนื่องจากหกล้มในห้องน้ำ ทำให้ร่างกายไม่สามารถเคลื่นไหวได้ อีกทั้งไม่สามารถพูดจากได้ เงินทองก็เริ่มใช้มากขึ้น เพื่อน ๆ ที่ไปทำบุญด้วยกันก็แวะมาช่วยเหลือค่าใช้จ่าย เงินทองที่แกเก็บไว้ก็นำมารักษาตัวโดยไม่คำนึงว่าจะเสียมาก - เสียน้อยเท่าใด ขอเพียงรักษาให้หายเท่านั้น
น้าอ้วน ในตอนแรกก็อดทนพยาบาลป้าสุชาดาอย่างเต็มความสามารถ แต่ยิ่งนานวันเข้าไม่เห็นว่าจะมีญาติของป้าสุชาดามาใส่ใจต่ออาการป่วยของแก น้าอ้วนก็เริ่มมีมีใจละโมภอยากจะยึดทรัพย์สมบัติของป้าสุชาดามาเป็นของตน...........................................


หัวข้อ: Re: ป้าสุชาดา
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 09:49:58
(http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg)


การดูแลพยาบาลป้าสุชาดาเริ่มมีการต่อรอง อย่างที่ป้าสุชาดาไม่อาจปฏิเสธได้ มีการข่มขู่ว่าจะทิ้งให้ตายโดยไม่เหลียวแลหากไม่ยอมยกบ้านและที่ดินให้ มีการข่มขู่ด่าว่าเสียดสีอยู่ตลอดเวลาหากมีคนมาเยี่ยมก็จะเสแสร้งปรนนิบัติอย่างดี จนผู้มาเยี่ยมตายใจและเข้าใจว่า น้าอ้วน มีคุณธรรมสูง ยอมดูแลป้าสุชาดาโดยไม่รังเกียจทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ญาติของตนเงินทองที่ได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนของป้าสุชาดาก็ถูกยักย้ายถ่ายเทมาอยู่ที่กระเป๋าของ น้าอ้วนในระยะหลัง ๆ น้าอ้วนก็จะบอกกล่าวให้ผุ้มาเยี่ยมให้ช่วยออกค่ารักษาพยาบาลโดยอ้างว่าตนเองได้ออกเงินไปเป็นจำนวนเท่นั้น - เท่านี้ ในขณะที่เงินทองก็ไม่เหลือพอขอให้ช่วยมอบเงินค่ารักษาให้ด้วย ป้าสุชาดาต้องทนกับทุกข์ทางใจที่เกิดขึ้นกับแกอย่างอึดอัดเนื่องจากไม่สามาถบอกความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับผู้ใดได้ ในที่สุดบ้านและที่ดินก็ถูกโอนให้ น้าอ้วนโดยภาวะจำยอม หลังจากนั้นไม่นานนัก ป้าสุชาดาก็ตายจากไปด้วยอาการสงบ น้าอ้วนจัดงานศพให้แกเสมือนญาติผู้ใหญ่โดยมีเจตนาบางสิ่งแอบแฝงอยู่และเพื่อไม่ให้เป็นการครหาของผู้คน งานศพของป้าสุช้าดามีคนมามากพอสมควรแต่ไม่ถึงกับมากนักส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อน ๆ ของแกที่เคยเดินทางไปทำบุญด้วยกัน โดยทั่วไปมักจะได้ยินว่า”คนตายขายคนเป็น”ซึ่งหมายความว่าคนเป็นจัดงานศพอย่างฟุ่มเฟือยโดยหวังเพียงชื่อเสียง ทำให้คนที่ที่จัดงานศพต้องกู้หนี้ – ยืมสินมาจัดงาน หลังงานศพแล้วคนจัดงานมักมีภาระหาเงินมาชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยซึ่งบางครั้งก็หาไม่ได้ ก็เป็นปัญหาต้องสะสางไม่มีที่สิ้นสุด แต่สำหรับกรณี น้าอ้วนแล้วกลับตรงกันข้าม กล่าวคือ น้าอ้วนได้กำไรจากการจัดงานศพให้กับป้าสุชาดามากเป็นเงินจำนวนหนึ่ง โดยได้เอ่ยปากขอค่าใช้จ่ายจากเพื่อน ๆ ของป้าสุชาดามากกว่าความเป็นจริง หลังจากเสร็จงานศพ ป้าสุชาดาแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไป ปล่อยให้ป้าสุชาดาเป็นเพียงอดีตที่ผ่านเข้ามาในชิของแต่ละคนเท่านั้น น้าอ้วนได้บ้านและที่ดินสมความปรารถณาของตน ฐานะก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ สามีและลูก ๆ น้าอ้วนเริ่มเหินห่างเนื่องจากเธอย้ายไปอยู่บ้านป้าสุชาดาแต่สามีกับลูก ๆ ไม่ยอมย้ายมาอยู่ด้วยโดยอ้างว่ากลัวผีป้า สุชาดาจะมาหลอกหลอน แต่น้าอ้วนไม่ใส่ใจและทำตัวให้เป็นที่รังเกียจของคนในระแวกใกล้เคียง เนื่องจากฐานะของตนผิดกับเมื่อก่อนมาก ทำให้น้าอ้วนลืมตัวชาวบ้านใกล้เคียงไม่มีใครคบหาสมาคมด้วย ระยะหลัง ๆ มักมีเรื่องทะเลาะกันในครอบครัวอยู่เป็น................................


หัวข้อ: Re: ป้าสุชาดา
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 09:51:15
(http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg)


ประจำสาเหตุเนื่องจากการใช้เงินของลูกชายและน้าอ้วนก็เริ่มถูกทุบตีจากสามีเป็นประจำหากไม่ยอมให้เงินลูกชายก็มักจะหาเรื่องเดือดร้อนให้ส่วนลุกสาวก็เริ่มกลับบ้านไม่เป็นเวลา ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ น้าอ้วนทุกข์ใจและไม่มีปัญญาที่จะแก้ปัญหานี้ ความกดดันทางจิตใจเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ จนบางครั้งเธอเกิดอาการจิตหลอนเห็น ป้าสุชาดายังคงอยู่ในบ้านหลังนั้น น้าอ้วนเริ่มหาหมอผีมาทำพิธี รดน้ำมนต์ สะเดาะเคราะห์ฯลฯทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น.............การคิดมากของน้าอ้วนทำให้คืนหนึ่งต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลเนื่องจากเส้นโลหิตในสมองแตกร่างกายเป็นอัมพาตสามีและลูก ๆ ก็ไม่ค่อยสนใจ ภายหลังจึงนำ น้าอ้วนมาพักรักษาอยู่ที่บ้านไม้ทรงไทยให้ลูกชายและลูกสาวผลัดกันดูแลพยาบาล ส่วนสามีหลังจาก น้าอ้วนป่วยก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน นาน ๆจะกลับสักครั้งและมอบเงินทองให้ใช้สอยบ้างลูกชายและลูกสาวที่คอยเฝ้าพยาบาลก็ได้แต่เกี่ยงกัน โดยไม่คำนึงถึงว่า น้าอ้วนคือแม่บังเกิดเกล้าของตน น้าอ้วนได้แต่นอนน้ำตาไหลเมื่อเห็นลูก 2 คนทะเลาะกันโดยที่ น้าอ้วนไม่ยอมเอ่ยปากต่อว่าลูก ๆ เลย เนื่องจากกลัวว่าลูก ๆ จะทอดทิ้ง น้าอ้วนต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ 2 ปี จนกระทั่ง.......................................
คืนวันนั้น น้าอ้วนได้ยินเสียอึกทึกนอกบ้าน ลูกสาวที่ดูแลน้าอ้วน ขอไปพบเพื่อนชายที่ปากซอยเป็นเวลานานแล้วไม่เห็นกลับสักที น้าอ้วนตกใจกับเสียงตะโกน ไฟไหม้ ......! ไฟไหม้......! แต่ก็จนใจไม่สามารถขยับตัวได้ ไฟได้ลุกลามใกล้เข้ามาทุกขณะความร้อนแผ่เข้ามาอย่างรวดเร็ว น้าอ้วนเห็นว่าไม่มีทางรอดชีวิตแล้ว ใจเริ่มนึกถึง ป้าสุชาดา จิตใของป้าสุชาดาคงร้อนรุ่มยิ่งกว่าเปลวไฟ ที่น้าอ้วนกำลังเผชิญอยู่ตรงหน้าในอดีต น้าอ้วนข่มขู่ให้ป้าสุชาดามอบที่ดินแปลงนี้ให้ด้วยความจำยอม น้าอ้วนเริ่มสำนึกถึงบาปที่ได้ก่อไว้กับป้าสุชาดา กรรมที่ตนก่อไว้นั้นยังหนักกว่า วิบากกรรมที่ตนต้องรับขณะนี้มากมายยิ่งนัก ความร้อนของเปลวไฟร้อนขึ้นทุกที ๆ จนในที่สุด น้าอ้วนก็ไม่รู้สึกถึงความร้อนใด ๆ อีก.........................................