|
หัวข้อ: กิริยาจิต เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 16 พฤศจิกายน 2553 13:28:45 (http://lh5.ggpht.com/_Sjz6qpNqFUs/TODAGojOxtI/AAAAAAAAAFk/0IPzLyOd5O8/PB14001-5.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/27.mp3 ท่านอาจารย์ ขณะคิดนึกนั้นเป็นจิตหรือเปล่าคะ ? เป็น{จิต} ค่ะ แล้วเป็นจิตในทวารหนึ่ง ทวารใดใน ๕ ทวารหรือเปล่า ? ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นก็คือ{มโนทวารวิถีจิต}นั่นเองที่คิดโดย{มโนทวาราวัชชนจิต}เกิดเป็น ขณะแรก นึกถึงแล้วแต่ว่า เวลาที่คิดจะคิดเป็นคำ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเอ่ยเป็นเสียง ใช่ไหมค่ะ ? เวลาที่เราคิดถึงเรื่องอะไรก็ตามเป็นสัญญาความจำในเสียง ถ้าเป็นเรื่่องราว ต่าง ๆ ถ้าเป็นสีสัน วรรณะ ต่าง ๆ ที่เราคิดนึกไป ขณะนั้นก็เป็นสัญญาความจำ สีสัน วรรณะ ต่าง ๆ ถ้าจะเป็นการคิดเรื่องกลี่น ถ้าเป็นคนที่สนใจในเรื่องกลี่น อาจจะเป็น คนที่ปรุงน้ำหอมหรือว่ามีกิจธุระที่เกี่ยวกับเครื่องหอมต่าง ๆ ความคิดของเขาก็อาจจะ คิดเรื่องกลี่นเพราะฉะนั้นในขณะนั้นก็เป็นการทรงจำเรื่องกลี่น ซึ่งไม่ใช่เป็นคำ ๆ ก็ได้ หรือว่าจะจำเรื่องรสอะไรก็แล้วแต่ แต่ในขณะนั้นที่คิดนึกเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ให้ทราบ ว่าขณะนั้น คือ.....จะนึกด้วยโลภะสนุก อย่างคนที่แต่งหนังสือนวนิยาย เขาก็จะต้องคิดด้วย {โลภะมูลจิต} หรือ {โทสะมูลจิต}แล้วแต่ว่าจะเป็นจะให้เรื่องราวนั้นดำเนินไปอย่างไร นั่นก็แสดงให้เห็นว่า เป็นเรื่่องของความคิดนึก ซึ่งขณะนั้นเป็นโลภะมูลจิตคิด หรือโทสะมูลจิตคิด หรือ โมหะมูลจิตคิด หรือ กุศลจิตคิดให้คิดเรื่องกุศล หลายท่านที่ได้ฟัง{พระธรรม}แล้ว เวลานอนแทนที่จะคิดถึงเรื่องอื่น ก็คิดเรื่อง {ธรรม} ขณะนั้นกำลังพิจารณา กำลังไตร่ตรอง กำลังเข้าใจในเหตุและในผล ของธรรม นั้น ๆ ขณะนั้นก็เป็น{กุศลจิต}ทีคิด เพราะฉะนั้นวิถี{จิต}ซึ่งเป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้าง และ สำหรับพระอรหันต์ท่านก็ยังคิด ก็เป็น {กิริยาจิต} หัวข้อ: Re: กิริยาจิต เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 16 พฤศจิกายน 2553 13:34:35 (http://lh5.ggpht.com/_Sjz6qpNqFUs/TODAGojOxtI/AAAAAAAAAFk/0IPzLyOd5O8/PB14001-5.jpg) ถาม แต่คิดนี้{มโนทวาราวัชชนจิต} ใช่ไหม ค่ะ ท่านอาจารย์ สำหรับมโนทวารวิถีจิต ไม่ใช่ ภวังคจิต และ ไม่ใช่ จักขุทวารวิถี จิต.......กายทวารวิถีจิต แต่เป็น {มโนทวารวิถีจิต} เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจว่า{มโนทวาร}ไม่ใช่ มโนทวารวิถีจิต{มโนทวาร} ได้แก่ {ภวังคุปัจจเฉทะ} ซึ่งถ้า ภวังคุปัจเฉทะไม่เกิดวิถีจิตจะเกิดไม่ได้เลยต่อเมี่อใด ภวังคุปัจเฉทะดับ จิตขณะต่อไปต้องเป็น{วิถีจิต}หมายความว่ารู้อารมณ์ซึ่งไม่ใช่ อารมณ์ของภวังค์ของทางหนึ่งทางใดอาจจะรู้อารมณ์ทางตา........หรือทางกาย ซึ่งถ้าไม่ใช่ ๕ อารมณ์นี้ ก็คือ นึกคิด รู้อารมณ์ทางใจ โดยอาศัย ภวังคุปัจเฉทะ ดับ แล้วมโนทวาราวัชชนจิต เป็นวิถีแรกทางมโนทวาร เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เป็นสภาพธรรม ที่นึกถึงอารมณ์ทางใจเมื่อดับแล้ว โลภะมูลจิต หรือ โทสะมูลจิต หรือ โมหะมูลจิต หรือกุศลจิต หรือสำหรับพระอรหันต์ก็เป็น กิริยาจิต ทำกิจ {ชวนะ 7 ขณะ} นั่นคือ {นึก} ค่ะ ถาม คิดนึกนี้เป็นวาระ ละ 1 คำใช่ไหมค่ะ ท่านอาจารย์ ค่ะ ทสุตตรสูตร ธรรมอย่างหนึ่ง ควรเจริญ เป็นไฉน คือ................. กายคตาสติ สหรคตด้วยความสำราญ นี้ธรรมอย่างหนึ่ง ควรเจริญ พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ หัวข้อ: Re: กิริยาจิต เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 16 พฤศจิกายน 2553 13:43:18 (http://lh5.ggpht.com/_Sjz6qpNqFUs/TODAGojOxtI/AAAAAAAAAFk/0IPzLyOd5O8/PB14001-5.jpg) สิ่งใดสิ่งหนึ่งซึ่งบุคคลปรารถนา{วัฏฏะ} กล่าวคือภพ ๓ ปฏิบัติ โดยที่สุดอภิญญา ๕ หรือสมาบัติ ๘ สิ่งทั้งหมดเป็นไปในฝ่ายวัฏฏะ จัดเป็นมิจฉาปฏิปทาเพราะถือวัฏฏะเป็นสำคัญ จาก....อรรถกถาปฏิปทาสูตรที่ ๓- หน้าที่ 36 In My Forums............http://forums.212cafe.com/boxser/board-1/topic-252.html (http://forums.212cafe.com/boxser/board-1/topic-252.html) (http://lh5.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TN1dX9SUVnI/AAAAAAAAA_U/eu9Wwd7xEAU/487395428-9.jpg) บท{กวีธรรม}นำสำราญในดวงจิต คน{วิปริต}เท่านั้นไม่เข้าใจซึ่งความหมาย เป่าปี่ให้{ควาย}ฟัง{ควาย}......ยังไม่ยอมนิ่ง......ดูดาย น่าเสียดายถ้าคนเข้าไม่ถึง{ธรรม}นั่นแหละจะช้ำใน{อุรา} ร่ำสุราเมรัยถึง 1,000 จอก - ก็หาสำรอกราคะ ออกได้ไม่ ร่ำสุราวันละนิดจิตแจ่มใส ร่ำสุราให้เพลินหนำ{สำราญใจ} อ๋อ......ก็ใช่ต้องเคล้าด้วย{นารี}ชีช้ำเอย....... ใต้ร่มธรรม......http://www.tairomdham.net/index.php/topic,3723.0.html (http://www.tairomdham.net/index.php/topic,3723.0.html) หัวข้อ: Re: กิริยาจิต เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 17 พฤศจิกายน 2553 02:01:55 สาธุ ๆ อนุโมทนาครับ อ.บางครั้ง
|